ตอน393การลอบฆ่าของกลุ่มวัยรุ่น
ตอนที่ 393 การลอบฆ่าของกลุ่มวัยรุ่น
ธนภาคยังมีสติไม่ตระหนกตกใจและอีกเช่นกันฝ่ายตรง ข้ามมีไม้เบสบอลที่พอเหมาะมือพร้อมที่จะสู้ไม้เบสบอลฟาดไป ที่ประตูรถของธนาค
ถึงแม้ว่าธนภาคจะไม่ได้สนใจกับค่าเสียหายเล็กๆ แต่ ว่าการที่ทุบสะเปะสะปะและอาการก้าวร้าวนี่สิที่ทำให้โมโหและ ยิ้มเยาะเย้ยให้กับคนที่ไม่มีไม้เบสบอลเพราะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ พวกเขาจากนั้นก็ตีฝ่าวงล้อมเข้าไป
วัยรุ่นหลบมองธนภาคที่ดีฝ่าเข้ามาซึ่งไม่มีความกลัว แม้แต่น้อยอีกทั้งใบหน้ายังหัวเราะเยาอย่างคนบ้าดวงตาแดง อัดเต็มไปด้วยแผนการดูจากจากเสียงการหายใจ
ธนภาคสังเกตเห็นว่ามันไม่ใช่แล้วเพราะว่าตอนที่เข้า ประชิดตัววัยรุ่นนั้นพวกเขาหัวเราะออกมาวัยรุ่นได้เผยลูกไม้ ออกมาก็คือแสงแวบมืดแหลมได้เผยออกมา
คือกริช!
ธนภาคก้าวขาออกหลบทันจากนั้นล่าถอยหลายครั้งจากที่ สามารถควบคุมได้กับกลายเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมากขึ้น
ก่อนหน้านั้นธนภาคเพียงแค่หลบหรือไม่ก็ถอยเท่านั้นแต่ตอนนี้วัยรุ่นมีทั้งความโกรธและความเกลียดชังถึงกับต้องการ าธนภาคให้ตาย
ในตอนแรกที่ธนภาคเจอกับวัยรุ่นนี้ก็นึกว่าเป็นแค่การ ปล้นเท่านั้นแต่พอนานเข้าถึงเข้าใจชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้เขาทั้ง โกรธและเกลียดชัง
แต่ทว่าธนภาคจําไม่ได้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้ใครเขาขุ่น
เคือง
พอถึงตอนที่จะถูกฆ่าธนภาคยังคุ้นคิดกับสิ่งที่อธิบายไม่ ได้เหล่านี้ถึงอย่างไรนั้นวัยรุ่นก็คว้ากริชจู่โจมเข้ามาอีกครั้งและ เขายังคงหลบทันเช่นเคย
วัยรุ่นรู้สึกโกรธมากที่ไม่สามารถทำอะไรได้หลังจากที่ชัก กริชกลับครั้งที่สองแทงเข้ามาที่ท้องน้อยของธนภาคอย่าง รวดเร็วเพื่อที่จะฆ่าให้ตาย
ในช่วงเวลานั้นบนท้องถนนก็มีเสียงมอเตอร์ก็ดังขึ้น
มอเตอร์ไซค์ก็วิ่งมาบนถนนก็พุ่งไปจอดที่ทางเท้าแล้วก็ เดินไปรอบๆพร้อมกลับเสียงแตรดังรอบๆธนภาคและวัยรุ่นรีบ หันหลังกลับมาทันทีเสียงของยางที่เกิดแรงเสียดทานจากถนน นั้นดังมากจนแก้วหูแทบจะรับไม่ไหว
ธนภาคและวัยรุ่นต่างก็ตกตะลึงที่เห็นมอเตอร์ไซค์นั้น คล้ายกับเห็นเทพเจ้าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
พบว่าคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์สวมหมวกหนาร่างกายรมชุดนักแข่งรถมองไม่ออกว่ารูปร่างลักษณะเป็นอย่างไร ธนภาครกลับรู้สึกคุ้นมากๆสายตาและรถมอเตอร์ไซค์
ไม่หยุดยังคงขับหมุนรอบๆ
ยัง
ธนภาคและวัยรุ่นก็เหมือนกันสายตาและรถมอเตอร์ไซค์
ยังไม่หยุดยังคงขับหมุนรอบๆแต่สายตาของเขาไม่ใช่ประเด็น สงสัยของธนภาคแต่กลับมีเพียงความกลัวและกังวลเล็กน้อย เท่านั้น
มอเตอร์ไซค์หมดหลายสิบรอบไม่มีการหยุดจอดคนขับก็ ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่ว่าวัยรุ่นนั้นกลับรู้จักคนขับมอเตอร์ไซค์นั้นท้ายที่สุดก็ ทนไม่ไหวแล้วก็โยนกริซในมือทิ้งไป
วัยรุ่นกลืนน้ำลายลูกกระเดือกขยับอย่างแรงเขาเริ่มมอง ไปที่ธนภาคด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังแล้วรับธน ภาคนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไป
เสียงมอเตอร์รถดังอีกครั้งทั้งสองคนก็ขับรถออกไป
ธนภาคไม่พูดอะไรได้แต่มองรถตัวเองที่กระจกถูกทุบแล้ว มองที่มอเตอร์ไซค์ที่ซ้อนกันสองคนขนคิ้วที่หนาจนชิดกัน
แม้ว่าคนสองคนไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขา ตั้งแต่ต้นจนจบแต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นพรรพวกเดียวกันแต่ ว่าเครื่องแต่งกายและขี่มอเตอร์ไซค์แบบนี้นอกจากนักแข่งแล้ว ไม่น่าจะมีคนอื่น
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือพัชรีเป็นหัวหน้าแก๊ง
ธนาครู้สึกไม่ค่อยสบายใจเขากำปั้นของเขาความไม่ พอใจแสดงออกบนใบหน้าของเขา
มอเตอร์ไซค์หยุดจอดในตรอกแคบๆ
หลังจากคนขับมอเตอร์ไซค์ลงจากรถจากนั้นก็ถอกหมวก นิรภัยออกแขวนไว้ด้านข้างของหัวรถหลังจากนั้นก็พิงที่กำแพง มองด้วยสายตาเย็นชาไปที่วัยรุ่นลอบสังหาร
ถ้าเป็นตอนนั้นท่าทางที่แสดงออกที่มีต่อวัยรุ่นคือความ โกรธตอนท่าทางที่แสดงออกต่อวัยรุ่นคือความกลัวแล้ว
รถหยุดจอดหลังจากนั้นคำพูดแม้คำเดียวก็ไม่พูดออกมามี แค่ก้มศีรษะสำรวจดูปลายเท้าของตัวเองเขาไม่กล้าแม้กระทั่ง เงยหน้ามองตัวต่อตัวกับดวงตาเย็นชาของผู้หญิงคนนี้
ผู้หญิงที่ถอดหมวกออกนั่นคือพัชรีหัวหน้าแก๊ง
ในตอนนี้คนขับศีรษะต่ำที่ยืนต่อหน้าเขามีชื่อว่า โยธินก่อน หน้านั้นพัชรีปลื้มมากโยธินเป็นคนที่รักษาเนื้อรักษาตัว
เป็นเพราะวันนี้พัชรีเห็นธนภาคถูกลอบทำร้าย
ถึงแม้ว่าพัชรีจะได้ออกไปแล้วก็ตามแต่ทันใดนั้นนึกได้ ว่าฉันวิภาไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างจึงกลับมาเพื่อจะถามธนภาค ว่าตอนนี้จนวิภาเป็นอย่างไรบ้าง
ถ้าไม่ต้องการพบเจอพวกกากเดนมนุษย์ก็ต้องจำใจใช้วิธีนี้โดยไม่สนว่าในวิภาและธนภาคสุมิตรจะเห็นด้วยกับวิธีแก้ไข ปัญหานี้ของสุมิตรหรือไม่เพราะเธอรู้แล้วว่าเรื่องนี้ยากที่จะ แก้ไข
เพราะว่าเหตุผลบางอย่างกับประจวบเหมาะที่จะช่วยเหลือ ธนภาคพอดี
“อ้อไม่อยากที่จะเริ่มต้นอธิบายอีกครั้งต้องคุยกับฉัน เป็นการส่วนตัว พัชรีมองไปที่แก๊งรถมอเตอร์ไซค์ด้วยสายตาที่ เย็นชาน้ำเสียงที่เย็นชาไม่มีแม้แต่ความรู้สึกใดๆ
“ฉัน…”
เรื่องนี้โยธินก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจ
“ฉันฉันอะไรฉันไม่เคยได้ยินว่าคุณกับธนภาคมีเรื่อง บาดหมางอะไรกันพูดพูดมันเกิดอะไรขึ้นมิฉะนั้นอย่าโทษฉันก็ แล้วกัน”
พัชรีไม่ใช่ทำเพื่อสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญภายในแก๊งขับ รถมอเตอร์ไซค์ทำผิดแล้วต้องได้รับการลงโทษนี่ไม่ใช่กฎที่ เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรแต่ว่าเป็นการแสดงถึงพลังและ ความแข็งแกร่งของพัชรี
โยธินดูเหมือนจะตระหนักดีถึงผลที่ตามมาเนื่องจากความ โกรธของพัชรีพูดแบบพูดซ้ำๆอึ้งๆ ฉันกับผู้ชายคนนั้นไม่มี อะไรบาดหมางกันแต่ว่าพี่พัชรคุณกับเขามีใช่ไหม
ก่อนหน้านั้นที่งานเลี้ยงของตระกูลวีระโชฉันก็ไปจริงๆแล้วฉันไม่ค่อนชอบเข้าร่วมงานแบบนี้แต่เพราะว่าพี่พัชรีไปฉัน ก็เลยไปด้วยแต่ไม่คิดว่าพี่พัชรีจะไปช่วยผู้ชายคนหนึ่งต่อมาก็ ถูกธนภาคทำท่าทางเจ้าชู้ใส่
ตอนที่เดินออกมาทางประตูพี่น้องเห็นแล้วก็สรุปได้ว่าเป็น อย่างนั้นจริงๆ มีทั้งชื่นชมธนภาคและก็เกลียดชังธนภาคด้วย หนึ่งในนั้นก็มีโยธินด้วย
“ความหมายก็คือไม่ได้ให้คุณมาช่วยมันเป็นเรื่องส่วนตัว นะคุณเป็นห่วงมากเกินไปแล้วล่ะไม่ต้องการให้แก๊งของคุณมา ช่วยก็ช่างมันเถอะ”
พัชรีจับแขนไว้ถึงแม้ว่าจะรู้สึกโกรธอยู่บ้าง
โยธินกระตุกร่างสองครั้งหลังจากนั้นถอนหายใจและ ยิ้ม”ใช่จริงๆแล้วมันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันถ้าจะให้พูดจริงๆว่า มีอะไรเกี่ยวข้องกันนั้นน่าจะเป็นเพราะว่าฉันชอบพี่พัชรีฉันไม่ อยากเห็นผู้ชายคนไหนกลั่นแกล้งพี่พัชรี
ได้ยินคำพูดที่แสดงออกถึงความน่าสงสารของโยธินครั้ง ที่หนึ่งพัชรีไม่รู้ว่าจะใช้มาตรการไหนครั้งที่สองที่โกรธตอนนี้ โกรธไม่ลงเธอขมวดคิ้ว โยธินไม่ควรที่จะพูดเพ้อเจ้อ
โยธินกลับมีชีวิตชีวาขึ้นลูบหน้าอกแล้วพูดว่า “พี่พัชรีฉัน พูดความจริงเลื่อมใสศรัทธาคุณบางทีน่าจะเป็นความรัก…
ถ้าจะพูดถึงคำว่ารักแล้วคำคำนี้ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป ต้องใช้จินตนาการและความกล้าหาญ
พัชรีรู้สึกหน้านิ่วคิ้วขมวดคิดในใจว่านี่เป็นครั้งแรกนึกไม่ ถึงว่าจะมีประกาศบอกรักแบบนี้ในใจรู้สึกเสียใจจากนั้นทำได้ เพียงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ฉันไม่อยากได้ยินประโยคนี้แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ