ตอน300ยังไม่ตาย
ตอนที่300ยังไม่ตาย
มือวางอยู่บนแผ่นหลังของเขาตบเบาๆเช่นนี้จะกล่อมให้ นิเวศน์หลับได้
นิเวศน์ถูกตบจันสบายดวงตาหรี่ปิดลงได้เพียงครู่ก็ลืมตา มาพูดกับฉันวิภา” มาถ้าคิดถึงปะป๋าก็กลับไปได้ตลอดเลยนะ
จันวิภาคบหลังให้เขาหลับตาลงได้อย่างยากลำบากลืมตา ขึ้นแล้วก็คุยกับเธออีกครั้งทันใดนั้นโกรธจันวิภาพูดด้วย อารมณ์ที่ไม่ดีพอแล้วเด็กดื้อจะสนใจอะไรนักรีบนอนเร็วๆไม่ งั้นคืนนี้ก็อย่าได้นอนเลย!
เมื่อได้ยินเสียงกึ่งของจันวิภานิเวศน์ก็หลับตาลงอย่างไม่ พอใจเพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่ราบเรียบของเขา
จนกระทั่งนิเวศน์หลับไปในวิภาจึงจะดึงมือกลับมาจ้อง มองเพดานอย่างเหม่อเลยขณะเดียวกันภายในใจก็อดไม่ได้ที่ จะทุกข์ระทม
นิเวศน์ไม่รู้แน่ๆว่าพ่อของเขาตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง ที่โรงพยาบาลจะเป็นหรือตายอย่างไรก็ไม่รู้และตอนนี้ก็คิดไม่ ถึงเลยว่าเขาจะพูดว่าถ้าอยากกลับก็กลับไปอย่างไร้เดียง สา… เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้วจันวิภาก็รู้สึกเจ็บปวดเงียบๆ สุมิตรคงจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ?
วันต่อมาจนวิภาตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่แต่นิเวศน์ยังคงนอน หลับอยู่ในวิภาไม่อาจที่จะปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาได้ทำได้เพียง ลุกขึ้นมาอย่างเบาๆเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าแปลงฟันแล้วลงไป ชั้นล่าง
เห็นสุพจน์กำลังทานอาหารอยู่ที่ชั้นหนึ่งในวิภาสงสัยอยู่ ในใจเดินเข้าไปเพื่อถามอาการของสุมิตร
ราวกับสุพจน์จะคิดไม่ถึงว่าจันวิภาจะตื่นเช้าขนาดนี้ตอนที่ เขาเห็นเธอก็ได้ตกตะลึงจากนั้นจึงยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้ลูก น้องที่ยืนรายงานอยู่ข้างๆแล้วทักทาย
สุพจน์มองจันวิภาเขายิ้มแล้วพูด ทำไมไม่นอนต่ออีก หน่อยล่ะเมื่อคืนทำเสียจนดึกดื่นเธอต้องเหนื่อยมากแน่ๆ
จันวิภาไม่ได้คิดอะไรให้มากมายเธอนั่งลงข้างๆ โต๊ะรับ ประทานอาหารสายหัวให้สุพจน์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ แยแส ฉันไม่เป็นไรพูดไปแล้วเรื่องของสุมิตรเป็นไงบ้าง มันก็ นานแล้วน่าจะมีข่าวคราวบ้าง ?
สุพจน์หยิบแผ่นขนมปังขึ้นมาแม้ว่าในใจจะไม่พอใจอยู่ บ้างเล็กน้อยแต่พูดด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงออก ไม่เป็นไรสุมิตร ผ่าตัดเสร็จแล้วเขาไม่เสียชีวิต
“นี่มันนวิภามองไปทางสุพจน์อย่างไม่เข้าใจเอ่ยปากถาม มีรายละเอียดอื่นๆอีกมั้ยเช่นอาการป่วยของสุมิตรเป็น อย่างไงอาการของครั้งนี้มีผลอะไรต่ออนาคตของเขาไหม?
เมื่อคืนเพราะว่าเรื่องนี้จนวิภาเลยนอนไม่หลับดังนั้นวันนี้ จึงรีบตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่
คำถามของฉันวิภาสุพจน์แสร้งทำเป็นพูดอย่างไม่สำคัญ อะไร ฉันจะไปรู้ได้อย่างไงฉันไม่ใช่คนในครอบครัวของเขาฉัน รู้แค่ว่าเขายังไม่ตายอย่างอื่นไม่รู้
น้ำเสียงที่พูดไม่พอใจอะไรเช่นนี้
จนวิภาถอนหายใจออกมาในใจเธอรู้ว่าระหว่างสุพจน์กับ สุมิตรนั้นมีความบาดหมางกันดังนั้นเธอจึงไม่ได้จริงจังกับท่าที ของสุพจน์
จนวิภาลุกขึ้นยืนอย่างไม่วางใจพูดกับสุพจน์ สุพจน์ฉัน อยากไปดูที่โรงพยาบาลสักหน่อยถ้าฉันไม่เห็นกับตาว่าเขาไม่ เป็นอะไรฉันก็วางใจไม่ลงหรอก!
พูดจบเธอก็ก้าวเท้าเดินออกประตูไป
“เธอรอเดี๋ยว! “เมื่อเห็นการกระทำของจันวิภาสุพจน์ ทานอาหารเช้าไม่ลงแล้วรีบร้อนเอ่ยปากหยุดเธอเอาไว้ เธอ กลับมานี่ฉันจะบอกเธอเรื่องรายละเอียดการรักษาพอหรือยัง?
ได้ยินคำพูดของสุพจน์จันวิภาจึงจะหยุดก้าวขาลงเธอหัน ตัวกลับมาแล้วเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยจะเชื่อใจ นายพูดจริง หรอ?”
“อื้อ สุพจน์แบกความทุกข์ในใจของเขาพูดกับจันวิภา ด้วยสีหน้าแข็งทื่อ กลับมาแล้วทานอาหารเช้าก่อน
เมื่อได้ยินดังนั้นจันวิภาจึงกลับมาที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้ง เธอหยิบขนมปังขึ้นมาแผ่นหนึ่งกินมันจนหมดดื่มนมวัวจากนั้น จึงพูดกับสุพจน์” ฉันกินเสร็จแล้วนายรีบพูดมาเถอะ
ดีที่สุพจน์เองก็ทานหมดแล้วแต่เขาเห็นจนวิภากินไปได้ เพียงนิดเดียวเท่านั้นจึงพูดอย่างไม่พอใจ เธอกินไปนิดเดียว เองเติมอีกหน่อย ในขณะที่ฉันบอกเรื่องจริงให้เธอฟังเธอก็กิน ไปด้วยสี
“…ก็ได้ ฉันวิภาหยิบขนมปังขึ้นมาหนึ่งแผ่นอย่างไม่รู้จะ ทำอย่างไรทาสบนหน้าขนมปังจากนั้นจึงกัดไปคำหนึ่งแล้วพูด กับสุพจน์ด้วยเสียงกระเพื่อม ตอนนี้ฉันกินแล้วนายรีบพูดมา เถอะ”
เมื่อเห็นจันวิภาเป็นห่วงเป็นใยเรื่องของสุมิตรขนาดนี้ ภายในใจของสุพจน์จึงไม่พอใจเป็นที่สุดเขาคิดอย่างไงก็ไม่ เข้าใจทำไมเรื่องในครั้งนี้ถึงไม่อาจเอาชีวิตของสุมิตรไปได้ ไม่ใช่บอกว่าลิ่มเลือดที่อยู่ในสมองจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของ เขางั้นหรือ?
ดูเหมือนว่าความโชคดีของสุมิตรมันไม่ปกติเสียแล้วรถ ชนเมื่อหกปีก่อนก็ไม่ได้ชนถึงตายหกปีต่อมาผลที่ตามมาไม่ สามารถฆ่าเขาได้อีก! เขาควรจะอิจฉาเหรอหรือลืมมันไปซะ สุพจน์เก็บความไม่พอใจเอาไว้ในใจส่งเสียงไอออกมาเบาๆแล้วพูดกับจันวิภาอย่างจริงจัง วันนี้ตอนเช้าตรู่สุมิตร รอดพ้นขีดอันตรายแล้วยืนยันว่ารอดชีวิตมาได้ตอนนี้กำลัง ย้ายไปที่วอร์ตผู้ป่วยพักฟื้นฉันเองก็พึ่งรู้เมื่อกี้นี้มันเป็นอย่างนี้ จริงๆตอนนี้เธอก็วางใจได้แล้วสินะ
เมื่อได้ยินสุพจน์พูดหัวใจของฉันวิภาที่พะว้าพะวงตลอดทั้ง คืนก็ถูกวางลงและมีพลังในการรับประทานอาหาร
จันวิภายิ้มให้สุพจน์แล้วพูดเป็นอย่างนี้ฉันก็วางใจแล้ว ถ้าเขาตายเพราะฉันแม้ว่าเขาจะเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อฉันฉันก็รู้สึกว่า นี่มันไม่ตรงไปตรงมาเลย
เมื่อได้ยินคำพูดของฉันวิภาสุพจน์ก็ยักคิ้วขึ้นแล้วพูด หยอกล้อ ที่แท้เธอก็รู้ว่าเขาเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อเธอฉันยังคิดว่าเธอ ลืมไปแล้วเสียอีก”
น้ำเสียงที่สุพจน์พูดออกมานั้นมีความเยาะเย้ยอยู่เล็กน้อย จันวิภาอึ้งตะลึงแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ฉันไม่มีทางลืมแน่! อย่างน้อยสุมิตรก็ต้องตายส่วนวิธีการตายก็ต้องคุ้มค่ากับพ่อ ของฉันฉันไม่สามารถปล่อยให้เขาตายด้วยวิธีที่น่ารังเกียจ อย่างนี้ได้
เมื่อได้ยินดังนั้นสุพจน์จึงหัวเราะออกมาเขาจ้องมองฉัน วิภาอย่างลึกซึ้งแล้วพูดอย่างจูงใจ เธอจะไม่ร่วมมือกับฉันจริงๆ หรอ?ฉันมีวิธีมากมายที่ทำให้สุมิตรตายทั้งเป็นเจ็บปวดจนไม่ อยากมีชีวิตฉันแน่ใจเขาไม่ได้ตายแบบปกติทั่วไปแน่
คำพูดของสุพจน์นั้นโหดเหี้ยมจันวิภาได้ยินยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบเธอมาตลอดว่าสุมิตรมีความแค้นกับสุมิตรแต่เมื่อ พูดกันตามจริงแล้วเธอยังไม่เคยเห็นสุพจน์ที่ท่าทางโหดเหี้ยม เช่นนี้มาก่อน
โดยปกติที่สุพจน์ถามเธอจะเป็นด้วยท่าทางสุภาพบุรุษ ง่ายๆสบายๆเข้าและออกมีจังหวะแต่มีความคิดเห็นและหลัก การของตนเองบางครั้งก็เห็นท่าทางของสุพจน์ที่ตำหนิลูกน้อง เห็นถึงความเฉยชาเพียงชั่วครู่มีฐานะเป็นบอสใหญ่แต่กลับมา เป็นปกติหลังจากจบเรื่อง
จนวิภาเคยถามสุพจน์ไปแล้วว่าเป็นสังคมสีเทาหรือไม่ พจน์ส่ายหัวและปฏิเสธและไม่พูดว่าเขาทำอะไรอย่างไรก็ตาม มันจะไม่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของจันวิภากับนิเวศน์ อย่างแน่นอนสามารถปกป้องพวกเขาทั้งสองคนได้อย่างไม่มี ช่องโหว่
ตอนแรกจนวิภารู้สึกว่าสุพจน์นั้นเป็นคนที่อยู่ในสังคม เทาๆ ดังนั้นเลยระวังเขาอยู่เสมอถ้าไม่ใช่เพราะสุพจน์ช่วยเธอ สองแม่ลูกไว้มากจริงๆ ทั้งยังปฏิบัติต่อพวกเขาดีอย่างกับคนใน ครอบครัวจันวิภาจึงต้องระวังต่อไป
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ