ตอน267พ่อบุญธรรมของลูกรัก กลับมา
ตอนที่267
พ่อบุญธรรมของลูกรักกลับมา
เมื่อเห็นท่าทีมั่นคงของจันวิภา
สุมิตรก็จำต้องยอม
เขาไปส่งจันวิภากับนิเวศน์ที่หน้าประตู ก่อนที่จะหันกลับไปทางลิฟต์
ยิ้มและโบกมือให้พวกเขา
จันวิภาเองก็ยิ้มและโบกมือให้
รอจนประตูลิฟต์ปิดเธอก็ถอนหายใจอย่ างหนัก ในที่สุดสุมิตรก็ไปสักที แค่ต้องรับมือกับเขาก็เสียพลังงานไปม าก
จันวิภาหยิบกุญแจออกมาไขประตู เปิดประตูและปิดลง เธอก้มลงไปเปลี่ยนรองเท้า แต่กลับไม่พบร่างของนิเวศน์ตรงประตู
รอจนเธอเปลี่ยนรองเท้า
เขาก็รีบวิ่งฉิวออกไปทันที วิ่งไปที่โซฟาพลางตะโกนอย่างมีความ สุข “คุณพ่อบุญธรรม คุณกลับมาได้ยังไง!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า นิเวศน์
ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
เสียงที่น่าดึงดูดหัวเราะดังขึ้นอย่างมีคว
ามสุข
เมื่อได้ยินเสียงนี้
ร่างกายจ้นวิภาถูกแช่แข็ง เธอค่อย ๆ เงยหน้าที่เหมือนขอนไม้ขึ้น จ้องมองนิเวศน์ที่มีความสุขอย่างประห ลาดใจเห็นสพจน์อุ้มนิเวศน์ขึ้น กำลังชูนิเวศน์ขึ้นและหมุนไปรอบๆ
ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันมานาน รอยยิ้มบนใบหน้าผลิบานเหมือนดอกไ ม้ มองจากที่ไกล ๆ มันเหมือนฉากที่งดงาม
จันวิภาอึดอัดใจ เธอไม่รู้ว่าทำไมสุพจน์ถึงเลือกที่จะมา หาเธอในเวลานี้
หลังจากที่สุพจน์เหนื่อยก็วางนิเวศน์ลง เขาย่อตัวลงบีบจมูกของนิเวศน์ พูดกับนิเวศน์ด้วยรอยยิ้ม “นิเวศน์ เธอทําตัวไม่ดีอีกแล้ว กลับมาที่นี่โดยไม่บอกมามีกับพ่อบุญธ รรม ควรตีก้นเธอดีไหม”
มีเพียงต่อหน้าสุพจน์เท่านั้น ที่นิเวศน์เหมือนจะเป็นเด็กจริง ๆ เป็นเพราะสุพจน์มอบความรักที่หาอยา กของความเป็นพ่อในวัยเด็ก
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่
แต่เขาก็ทำให้นิเวศน์มองไปข้างหน้าเพื่
อเป้าหมาย
สำหรับนิเวศน์ สุพจน์เป็นเหมือนพ่อแท้
แน่นอนว่าเพราะก่อนหน้านี้เขายังไม่รู้จั กพ่อที่แท้จริง
ถึงแม่ว่าภายหลังจะได้รู้ว่าสุมิตรเป็นพ่อ
แท้ๆ ของตัวเอง
นิเวศน์ก็ยังคงเคารพต่อสุพจน์ไม่เปลี่ย นแปลง
ตอนนี้สุพจน์กำลังบีบจมูกของเขา เขาใช้มือเล็กผลักมือใหญ่ของสุพจน์อ อก พูดเสียงงอแงเป็นเด็กว่า
“อืม…..พ่อบุญธรรม นิเวศน์รู้แล้วว่าผิด คุณเลิกบีบได้แล้ว ผมหายใจไม่ออก”
“รู้ว่าผิดแล้วไม่ควรถูกลงโทษเหรอ” สุพจน์พูดออกมาด้วยใบหน้าจริงจัง
“พ่อบุญธรรม………
เห็นปฏิกิริยาที่จริงจังของสุพจน์
นิเวศน์ก็มองเขาทั้งน้ำตา พยายามที่จะได้รับร่องรอยของความเ ห็นใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า…..เอาล่ะเอาล่ะ หน้าตารู้สึกผิดของเธอแบบนี้
ไม่บอกก็ไม่รู้
ฉันคิดว่าตัวเองตีเธอไปแล้วเสียอีก” สุพจน์หัวเราะเสียงดัง
เขาปล่อยมือออกจากจมูกของนิเวศน์ แล้วอุ้มเขาเข้ามากอดไว้บนตักตัวเอง สุพจน์ในตอนนี้เป็นเหมือนผู้อาวุโสที่มี อำนาจ เมื่อเขาเผชิญหน้ากับนิเวศน์ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นพ่อ อดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้
จันวิภาตะลึงงันไปเป็นเวลานาน
ก้าวเดินช้าๆ เข้าไปหาพวกเขาทั้งสองและพูดด้วย น้ำเสียงลังเลว่า “สุพจน์…..
เมื่อน้ำเสียงลดลง
สุพจน์ก็มองเธอด้วยรอยยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงกึ่งขอโทษ “จันวิภา ขอโทษจริง ๆ นะ
ผมบุกเข้ามาในบ้านของคุณโดยไม่ได้รั
บอนุญาตอีกแล้ว
คุณจะไม่โกรธใช่ไหม”
คำพูดของสุพจน์ทำให้จันวิภานึกไปถึงเ รื่องน่าอับอายเมื่อตอนพบกันครั้งล่าสุด เธอกำลังจะตอบแต่นิเวศน์ขัดจังหวะขึ้น มาเสียก่อน
“อีกแล้ว?”
นิเวศน์มองไปที่สุพจน์อย่างสงสัย
“พ่อบุญธรรมกลับมาที่นี่นานแล้วเหรอ ครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วทำไมคุณไม่มาหานิ เวศน์ล่ะ”
“เธอยังจะมาพูดดีอีก”
สุพจน์ขยี้ผมของเขาจนยุ่งเหยิง
ในน้ำเสียงมีร่องรอยการตามใจและตำ หนิ
“ก็ไม่ใช่เพราะว่าเธอมาซนที่นี่หรอกเห รอ หนีไปที่บ้านเพื่อนของมามี้ใช่ไหม มามีของเธอและพ่อบุญธรรมตามหาเธ อแต่ก็หาไม่เจอเลย”
“แหะแหะ……ผมรู้ว่าผิดแล้วครับ” นิเวศน์ยิ้มอย่างซุกซน เขาแลบลิ้นออกมาเผยความไร้เดียงสา ของตัวเอง
จันวิภาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี
สุพจน์มองไปที่จันวิภา
มีแสงประหลาดแวบในแววตา ถามด้วยสีหน้านิ่ง “ทานข้าวแล้วเหรอ”
“อืม….. จันวิภาพยักหน้าอย่างอึดอัด
ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเผชิญหน้ากับสุพจน์ เธอมักจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้ รู้สึกว่าตัวเองผิดต่อเขา ถ้าหากเขารู้ว่าพวกเขาเพิ่งออกไปทาน ข้าวกับสุมิตรมาจะรู้สึกอย่างไร
แต่ถึงกระนั้น สีหน้าของสุพจน์ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปล ง เขาพูดด้วยความเสียใจว่า “น่าเสียดาย ผมรอพวกคุณกลับมา ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย ถ้าอย่างนั้นจันวิภาทำอาหารให้ผมทาน ได้ไหม”
“คะ?” จันวิภาตกตะลึง
จันวิภายังไม่ได้พูดอะไร นิเวศน์ก็พูดขึ้นก่อน “พ่อบุญธรรม คุณให้มาทำอาหารให้ คุณรู้ฝีมือมามี้หรือเปล่า”
“อย่าพูดกับมามีของเธอแบบนั้นสิ” สุพจน์น้ำเสียงกึ่งตำหนิ
“มามีของเธอน่ะทำอาหารไม่เลวนะ แต่เธอน่ะจู้จี้จุกจิก”
“อะไรที่เรียกว่าไม่เลว…..ฝีมือของมามี นิเวศน์พึมพำอย่างปรารถนาที่จะคัดค้า
น
แต่ก็สบเข้ากับสายตาของสุพจน์เสียก่อ จะมีใครในโลกนี้ที่สามารถปราบนิเวศน์ ได้ นอกเสียจากสุพจน์
น แล้วเขาก็ปิดปากลงเงียบอย่างเชื่อฟัง
มองดูทั้งสองคนคุยกันไปคุยกันมา จันวิภายืนอยู่ตรงนั้นก็รู้สึกอึดอัด ก่อนหน้านี้สุพจน์กับนิเวศน์ไม่ได้พูดคุย กันแบบนี้ ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองไม่จำเป็นอีกต่อไป
จันวิภาเปิดปากพูดอย่างจนปัญญา “โอเค งั้นฉันจะไปทำอาหารเย็นให้คุณ
แต่รสชาติเป็นยังไงฉันไม่รับประกันนะ” “ไม่เป็นไร ตราบใดที่คุณเป็นคนทำ ผมก็อยากทานทั้งนั้น สุพจน์ยิ้มให้จันวิภาอย่างอ่อนโยน
..งั้นฉันทำบะหมี่ให้คุณเอาไหม” จันวิภาพยายามที่จะฟื้นคืนน้ำเสียงที่เค ยใช้พูดกับเขา
“ผมยังไงก็ได้” สุพจน์พูดด้วยรอยยิ้ม มีความเสน่หาในสายตา
เห็นแบบนี้แล้วจันวิภาก็รู้สึกผิดหวัง วิธีที่ทั้งสองคนพูดคุยกันสามารถย้อนก ลับไปเป็นเหมือนเดิมดังเช่นอดีตได้ แต่มีบางคำพูดได้กล่าวไว้ว่า
ไม่สามารถกลับไปและทำเหมือนไม่มีอ ะไรเกิดขึ้นได้
จันวิภารู้สึกสูญเสียเล็กน้อย แต่จะพูดอะไรมากกว่านี้ก็คงไม่ดี จึงทำแค่หันเดินเข้าไปในครัวเพื่อทำอา หารให้สุพจน์
ดูจากท่าทีของทั้งสองคนที่มีต่อกัน นิเวศน์ค่อนข้างแปลกใจ
มันรู้สึกเหมือนพวกเขาไม่ได้พูดอย่างที่ เคยเป็น ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายมา ทำไมท่าทางถึงดูแข็งเกร็งแบบนั้น
นิเวศน์รู้สึกสงสัย แต่กลับไม่ได้คิดละเอียดถี่ถ้วน เขายังทำตัวเป็นเด็กกับสุพจน์ต่อไป ถามสารทุกข์สุขดิบในตอนที่เขากลับม าที่นี่
สุพจน์หันไปสนใจนิเวศน์
หัวเราะและพูดคุยกันต่อไป เมื่อจันวิภาออกมาจากครัว เป็นอาหารที่ทำจากเนื้อและผัก เมื่อสุพจน์เห็นก็พูดหยอกล้อว่า
“ไม่คิดเลยว่าคุณยังคงเจ็บปวดใจกับผ
มอยู่มาก
ไม่เห็นให้บะหมี่กับผมสักถ้วยเลย”
“ไปตายซะ”
จันวิภาพยายามเรียกคืนเสียงปกติ
ไม่อยากให้บรรยากาศของทั้งสองคนอื่ ดอัดจนเกินไป
และไม่อยากให้นิเวศน์มองเห็นความผิ
ดบาปนี้ เธอกล่าวติดตลกกับสุพจน์ “ถ้าฉันทำอาหารเป็นบะหมี่ออกมาให้คุ ณ แน่ใจว่านิเวศน์คงไม่ไว้ชีวิตฉันแน่ เขาแคร์คุณมากกว่าที่แคร์ฉันเสียอีก”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ