ตอน236ความสัมพันธ์เธอกับเข านี่มันยังไงกันแน่
ตอนที่ 236
ความสัมพันธ์เธอกับเขานี่มันยังไงกันแ
น่
“จันวิภา? ไม่ใช่จันวิภา?” สุมิตรเหลือบมองไปสักพัก และไม่ได้เอามาใส่ใจ เขาเพิ่งจะตื่น ก็ถูกคนชี้จมูกด่าๆ
ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนลง นอกจากจันวิภาแล้ว เขามีแค่ใบหน้าที่เย็นชาแสดงออกมา แล้วเอ่ยพูดอย่างเย็นชาว่า ” คุณเป็นใคร? ฉันรู้จักคุณด้วยเหรอ? ”
“นาย !” พชรีโมโหช์ไปที่เขาแต่พูดอะไรไม่ออก
เธอเพิ่งนึกออกเรื่องที่สุมิตรความจำเสื่
อม
เมื่อกี้ที่เห็นสุมิตรวู่ว่ามเกินไปนึกว่าเขา จะเหมือนเมื่อก่อน ที่ทำไม่ดีต่อจันวิภา
ยังบังคับเธอและทำให้เธออับอายหลา ยเรื่อง!
พชรีนึกว่าตัวเองยังโชคดีที่มาพบโดยบั งเอิญ ไม่งั้นเธอคงไม่รู้ว่า ว่าเพื่อนสนิทเธอกำลังถูกคนอื่นรังแกอ
ยู่!
แต่วันนี้นึกถึงเรื่องที่สุมิตรความจำเสื่อ มมา พชรีถึงปล่อยมันผ่านไป แต่ทว่าพอเห็นความเย็นชาที่สุมิตรแสด
งออกมา ก็ยิ่งทำให้พชรีโมโหขึ้นไปอีก
ในตอนนั้นที่ไม่ได้คิดอะไรมาก
ในใจพชรีที่โมโหตลอดมาพูดไปว่า :
“สุมิตร!
นายนึกว่านายความจำเสื่อมแล้ว….…..
“พชรี! ”
ได้ยินพชรีอยากจะเล่าเรื่องราวทั้งหกปี
ที่ผ่านมาพูดออกมา
จันวิภาจึงได้พูดตัดบทเธอ
หลังจากนั่นสุมิตรก็ใบหน้าที่ทำท่าทาง
ประหลาดใจ
จากนั่นรีบดึงพชรีเข้ามาในห้องเธอทัน
ที
ปิดประตู
จันวิภาได้ว่าคนที่อยู่ต่อหน้าว่า : “ตะกี้เธอวู่ว่ามเกินไปนะ
เธอไม่ควรพูดเรื่องที่เขาความจำเสื่อม ออกมา ถ้าเกิดเธอพูดออกมา
เขาจะสงสัยแกว่าทำไมถึงรู้เรื่องพวกนี้
มาก
ถึงเวลานั่นเราสองคนก็ต้องถูกเปิดเผย ออกมา! แล้วถ้าเป็นแบบนี้ เขาต้องไม่ปล่อยฉันไปแน่!”
“แกไม่มาคุยกับฉันเรื่องนี้! พชรีว่าตัวเองพูดผิดไป แต่ว่าสมองเธอยังมีสติดีอยู่ เธอโมโหจ้องไปที่จันวิภา แล้วก็ถามไปว่า
“แกพูดความจริงกับฉันมาว่าทำไมสุมิต รถึงได้อยู่ในห้องแก
แล้วเขาได้ทำอะไรอย่างงั้นกับแกไหม?
เรื่องควรที่จะมาก็มาแล้ว จันวิภาสูดหายใจลึกๆ พยายามดึงสติให้ตัวเองนิ่ง จากนั่นก็พูดกับพชรี :
“เรื่องมันไม่ใช่อย่างที่แกคิด!
ที่จริงคือเมื่อคืนพวกฉันทำโอจนมันดึก บวกกับสุมิตรที่ช่วงนี้ยุ่งมาก ร่างกายไม่แข็งแรงพอดีคอนโดฉันก็ใก
ล้บริษัท
เพราะฉะนั้นสุมิตรเลยขอมานอนที่นี่คืน หนึ่ง เราทั้งสองคนบริสุทธิ์ทั้งคู่ เขาก็ไม่ได้บังคับฉันทำเรื่องแบบนั้น!”
ได้ยินคำพูดจากปาก จันวิภา พชรีก็เชื่อ แต่ก็อดที่จะพูดต่อไปว่า : “ฉันว่า เขาคิดและตั้งใจที่จะทำแบบนั้น! ไม่งั้นโรงแรมแถวนี้ก็เยอะแยะ แล้วทำไมไม่พักที่โรงแรม ยังจะมานอนห้องหมาของเธอตั้งคืนหนึ่ งละ?” ได้ยินเพื่อนที่สนิทด่าว่าห้องของเธอเป็ นแค่ห้องหมานอน……
จันวิภาไม่อยากเถียงกลับ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่มาทะเลาะกัน เธอจงต้องอดทนไว้ อดกลั้นอารมณ์ไว้แล้วอธิบายให้พชรีเข้ าใจ : “ช่วยไม่ได้นิ ในตอนนั้นก็มีไข้ขึ้นมาหน่อย ฉันกลัวว่าเขานอนโรงแรม ดึกๆมาไข้ขึ้นสูงไม่มีใครรู้ เลยรับปากให้เขามานอนที่นี่คืนหนึ่ง…… ระหว่างเราสองคนไม่มีอะเกิดขึ้น แกเชื่อฉันสิ!
จันวิภารู้สึกว่าตัวเองเพื่อที่จะปรับความเ ข้าใจผิดของพช รวมไปถึงความดีของตัวเองก็ไม่เอาแล้ วหรอก ทั้งที่สุมิตรร่างกายไม่สบาย เรื่องนี่มันก็เกิดจากตัวเธอทั้งนั้น!
ยังไงก็เถอะ
เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นิ
ถ้าเกิดเธอไม่โกหกพชรี
แต่รู้ว่านิสัยของพชรี
สามารถทะเลาะกับสุมิตรให้เป็นเรื่องให
ญ่ได้
เธอไม่อยากเหมือนคลื่นลูกหนึ่งยังไม่ ทันสงบ คลื่นอีกลูกก็ม้วนมาอีก ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงดำรงชีวิตอย่างปว
ดหัวแน่ๆ
เพราะฉะนั้นจันวิภาต้องโกหกพชรี และคงไม่อยากให้เธอโมโหระเบิดแบบ
นี้
ได้ยินคำพูดจันวิภา ครั้งนี้พชรีคงจะเชื่อในคำพูดของเธอ ปากก็พูดแบบยังไม่ยอมคน “แกก็ยังเป็นคนดีเนอะ
ไม่กลัวหมาป่าเข้าห้อง…….คราวหลังไม่
ควรมีเรื่องแบบนี้อีก!
คราวหลังไม่ว่าเขาจะพูดยังไง
แม้ว่าเขาจะป่วยตายก็เหอะ
แกไม่ควรที่จะสนใจเขา
ให้เขาตายข้างถนนสิ
ยังช่วยให้โลกนี้กำจัดคนเลวได้คนหนึ่ง
“จ๊ะจ้ะจ้ะ…….คุณหนูของฉัน ฉันรู้แล้ว ฉันสาบานต่อไปนี้ยังไม่กล้าทำอีกแล้ว! ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่คุณภาวุฒิ
ไม่ต้องโมโหแล้ว?”
จันวิภาอ้อนเขย่าไหล่ของพชรี ด้วยคำพูดที่อ้อน
ได้ยินแบบนั้นแล้ว
พชรีสบายใจก่อนที่จะเปล่งเสียงหึหึ พร้อมคำพูดที่แข็งกระด้านว่า : “ครั้งนี้ก็อภัยให้แกก็ได้ ใครให้แกไม่รู้จักการแบ่งแย่ง ใครก็เข้ามาได้ แต่สุมิตรไม่ได้ และไม่ดูเลยนะเขาเป็นใคร…….
ฟังจากพชรีแล้วเหมือนยังจะสอนตัวเอ
ง จันวิภารีบตัดบทเธอ
เปิดไปด้วยแล้วคุยกับเธอไปด้วย :
“รู้แล้ว คุณนายของฉัน
ครั้งนี้ก็ให้อภัยฉันเถอะนะ
หูฉันจะถูกแกบ่นจนหูชาแล้ว”
พูดจบ
จันวิภาก็พูดเบาๆไปประโยคหนึ่งขึ้นว่า
: “เดี๋ยวถ้าเจอสุมิตร
แกไม่ควรพูดอะไรที่ไปเรื่อยมากกว่านี้ ละนะ แกให้เวลาฉันแปปนะ
ฉันจะไล่เขาออกไป จากนั้นเราสองคนก็ไปหาไรกินมื้อเช้ากั น เป็นไงบ้าง?”
ฟังจันวิภาพูดจบ
พชรีครั้งนี้คงให้อภัยเธอแล้วแหละ เธอหยุดชะงักเท้า
ยืนอยู่หน้าประตูห้องของจันวิภา พูดอย่างไม่สมอารมณ์ว่า “ฉันคงไม่ออกไปกับแกแล้วละ เดี๋ยวเวลาฉันเห็นหน้าสุมิตร ก็อดที่จะพูดอะไรออกไปอีก แกไปเร็วๆเหอะ ฉันจะรออยู่ในห้องแก 11
“ขอบคุณนะสุดที่รัก!”
จันวิภาดีใจจนส่งจูบผ่านอากาศไปให้ แต่ถูกพชรีจับแล้วโยนลงพื้น
จันวิภายิ้มไปด้วยเดินไปยังห้องนั่งเล่น
ด้วย รอจนไปถึงห้องนั่งเล่น จันวิภาถึงกับยิ้มไม่ออก
เพราะเธอเห็นว่าสุมิตรกำลังใส่สูท และยืนอยู่ข้างโซฟากำลังผูกเนคไทให้ ตัวเองอยู่
จันวิภาพิงไปที่กำแพงมองไปที่สุมิตรที่
กำลังผูกเนคไท
ในใจคิดว่านี่มันโลกของการดูหน้าตา
แค่เป็นคนที่หน้าตาหล่อ
ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูดีไปหมด
สุมิตรแต่งตัวเรียบร้อยเสร็จ สายตาก็แวบไปมองที่จันวิภา เขาทำหน้าตาปกติไปยังเธอ และถามไปว่า :
“เธอปลอบใจเพื่อนเธอเสร็จหรือยัง? ”
มองไปที่สุมิตรที่เหมือนจะไม่ได้สนใจอ ะไร
ในใจของจันวิภาเหมือนจะสงบไม่ลง เธอนึกว่าสุมิตรจะถามว่าพชรีเป็นใคร แล้วทำไมถึงพูดแบบนั้นออกมา
เป็นครั้งแรกที่จันวิภารู้สึกขอบใจกับคว ามใจกว้างของสุมิตร แล้วใช้การพูดที่สุภาพอ่อนโยนกับสุมิต
เธอเดินเข้าไปหาสุมิตร
รว่า :
………ท่านประธานไปบริษัทก่อนไหม คะ ฉันกับเพื่อนมีเรื่องนิดหน่อยอะ อาจจะไปบริษัทสายหน่อยนะคะ”
“เธอไม่ไปกินข้าวเช้ากับฉัน?” สุมิตรขมวดคิ้วมองไปที่จันวิภา
“ไม่ละคะ” จันวิภาก็ไม่ได้อยากปฏิเสธ
น้ำเสียงของเธอที่พูดไปอย่างอดไม่ได้ : “ท่านประธาน คุณก็ไม่ใช่เด็กน้อย กินข้าวเช้าต้องมีคนกินด้วย ”
สุมิตรยิ้มอย่างสง่า เขามองไปริมฝีปากสีชมพูของจันวิภา พูดอย่างรู้ซึ่ง : “ฉันไม่ใช่เด็กน้อย . เธอก็รู้ตั้งนานไม่ใช่หรอ? ”
“พอแล้ว ไม่ต้องเถียงแล้ว” พชรียังอยู่ในห้องอยู่
จันวิภาไม่มีอารมณ์ที่จะเล่นกับเขา
รีบดันสุมิตรออกไป
จันวิภาไม่มีอารมณ์บอกไป :
“คุณไปเถอะ
มีเรื่องอะไรค่อยคุยตอนที่ฉันไปทำงาน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ