ตอนที่ 43 ความโกรธและการปฏิเสธของสุมิตร
วันที่ 2 ตอนจันวิภาตื่นขึ้นแล้วให้คนขับรถพาเธอ ไปที่มหาลัยดนตรีA รายงานตัว
มหาลัยดนตรี A มหาลัยชั้นน้ำของเมือง A คณะการดนตรี คือคณะที่มหาลัยA ตั้งขึ้นโดยเฉพาะและคณะย่อยๆ ที่เกี่ยวกับ ดนตรีอีก มหาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในทั้งประเทศ
มหาลัยมีคนอยู่ 3 ประเภทเท่านั้นที่จะมา บ้านมีตระกูล มีชื่อเสียง อย่างน้อยก็ในมีบริษัทหนึ่งแห่งอยู่ในมือ แล้วก็พวก ข้าราชการชั้นสูงแล้วอย่างน้อยก็มีคนหนึ่งคนเป็นตำแหน่งแบบ หัวหน้าเทศบาล
นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือบุคคลที่มีความสามารถ พิเศษพรสวรรค์ในด้านดนตรีให้ถูก โรงเรียนชักชวนเข้ามา แน่นอนบ้านก็ต้องมีเงินส่งเข้าเรียนหรือไม่ก็ได้รับทุนจากมหา ลัย
จันวิภายืนที่หน้าประตู มองประตูที่ตั้งสง่าของมหาลัย
หลังจากนั้นถือเอกสารที่จำเป็นเดินเข้าไปในมหาลัย
หาจุดรายงานตัวเจอ หลังจากเรียบร้อยแล้วก็เดินไปจ่ายเงินด้วย
แต่ยังดี เธอยังมีบัตรธนาคารอยู่ บัตรเธอให้เธอใช้เมื่อเข้ามหาลัย ในนั้นมีเงินพอ
แต่ขณะกำลังรูดบัตรจ่ายเงินอยู่ๆก็เกิดคิดขึ้น
“คุณจันวิภา ขออภัยด้วยบัตรของคุณถูกระงับแล้ว คุณจะ เปลี่ยนบัตรใหม?” พนักงานรับเงินของมหาลัยมองจันวิภา อย่างไม่เรียวแล
จันวิภาตกใจพักใหญ่ บัตรที่พ่อให้ทำไมถึงลูกระงับ!
“เป็นไปไม่ได้….ลองอีกครั้งได้ไหม..ไม่น่าจะโดนระงับ เป็นไปไม่ได้….” จันวิภาคพูดน้ำเสียงงมีความเครียดขึ้น
หลังจากลองใหม่อีกครั้ง พนักงานก็ส่ายหัวพูดกับจันวิภา “ขออภัยอย่างสูง บัตรของคุณถูกระงับแล้วจริงๆ คุณกลับไป เถอะ คนที่จะรายงานตัวมีหลายคน!”
นักเรียนที่ต่อแถวข้างหลังก็ตามน้ำไป นักเรียนพวกนี้ส่วน มากเป็นคุณหนูคุณชายที่เกิดบนกองเงินกองทอง มีเหตุผลต้อง ให้พวกเขารอด้วยเหรอ!
จั่นวิภาไม่มีทางแล้ว เพียงแต่ขอโทษดีๆ แล้วเก็บของเดิน ออกตากประตูโรงเรียนไป
บัตรที่พ่อให้เธอมาใช้ตอนเรียนไม่มีทางที่จะถูกระงับ ถ้า ถูกระงับละก็คงมีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือ มะลิวัลย์เป็นคน ทำ
พอคิดถึงจุดนี้ จันวิภารีบกวักมือเรียกรถแท็กซี่ ดิ่งไปยัง บริษัทของมะลิวัลย์หรือก็คือบริษัทของพ่อเธอนั้นเอง
หลังจากนั้นถึงประตูของบริษัท จันวิภาถูกคนมาขวางไว้ยามหน้าประตูดูเหมือนแปลกหน้า จันวิภาเกิดสงสัย
คนนั้นก็จะไม่รู้จักจันวิภาจริงๆ พูดอย่างมีความรับผิดชอบ ขึ้น”สวัสดีคุณผู้หญิง มาหาใคร? มีนัดหมายหรือไม่?”
“ฉันมาหามะลิวัลย์ แล้วก็ฉันเป็นลูกสาวของประธาน บริษัทนี้? ฉันชื่อจันวิภา!จันวิภาพูด ในใจคิดว่านี้อาจจะเป็น ความคิดของมะลิวัลย์ เธอเปลี่ยนยามประตูใหม่
หลังจากยามได้ยินชื่อจันวิภา ก็หน้าคุณผู้หญิง ประธานมะลิวัลย์ของเราบอกว่า ไม่ต้องนัดก่อนถึงจะเข้าไปได้ เชิญกลับเถอะ
แม้แต่ยามหน้าประตู มะลิวัลย์ก็บอกกล่าวเรียบร้อยแล้ว ได้แต่ อยู่หน้าประตูบริษัท ขบฟันไปมาโทร
โทรศัพท์
รายงานทำไมถึงโทรศัพท์มาล่ะ?” มะลิวัลย์ถามราวกับรู้เรื่องอยู่ แล้วยิ่งทำให้จันวิภาโกรธเข้าไปใหญ่
น้ามะลิ ฉันอยากจะรู้บัตรที่พ่อให้ฉัน ทำไมคุณถึงระงับ มัน? นั้นเป็นเงินที่พ่อให้ฉันใช้เรียนมหาลัยนะวิภาไม่อยาก ต่อต่อมะลิวัลย์ ที่สุด
“หมายถึงบัตรนันนะเหรอ นันนะต้องโทษที่ฉันลืมบอกเธอ ว่ามันถูกระงับแล้ว แต่เธอบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเธอแต่งงาน ออกไปแล้ว ทำไมถึงต้องใช้เงินจากที่บ้านล่ะ หมายความเธอ ไม่มีงานต้องให้คนเลี้ยง น่าจะเป็นสามีของเธอนะสุมิตรนะถูก ไหม?”
มะลิวัลย์หัวเราะอย่างเปิดเผย แต่ไม่ตอบคำถามของจันวิ ภาตรงๆ แต่กลับถามคำถามที่มแทงกลับมาแทน
“แก..” จันวิภาฟังจบ อารมณ์ก็ระงับไม่อยู่ รีบตอบกลับ ไปทันที: “ฉันจะหาเงินจากใครเรื่องของฉัน แต่เงินนั้นคือเงินที่ พ่อเหลือไว้ให้ฉัน คุณระงับบัญชีนั้นคุณต้องมีเหตุผลให้ฉัน?”
พูดจบ เธอก็มองตึกสูงที่อยู่ตรงหน้าอย่างอาฆาต และพูด เสริม: “ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบริษัท คุณเปลี่ยนทั้งยามและให้คน กันไม่เข้าไป พูดในสายไม่ชัดล่ะก็ ฉันขึ้นไปหาคุณตอนนี้”
จันวิภาพูดแล้วจะเดินเข้าไปในบริษัท
แต่ยามตรงหน้ากันเธอไม่ให้เข้าไปอีก
“เธอไม่ต้องขึ้นมาหรอก ฉันกำลังมีประชุมสำคัญอยู่งี้แล้ว กันฉันไว้คุยกับเธอแล้วกัน วันหลังมีเวลาค่อยคุยกัน”
มะลิวัลย์รีบพูดแล้วตัดสายอย่างรวดเร็ว คนชั่วคนหนึ่ง
นั่งอยู่ในห้องทำงาน ในหัวจินตนาการถึงความอับอายและ ความโกรธของจันวิภาในใจก็มีความสุขสุดๆ
จันวิภาได้ยินเสียงเร่งรีบนั้น เท่าก็กระทืบพื้นอย่างแรง โกรธมากแทบจะตาย แต่ว่าไม่มีทางเลือก ได้แต่เรียกรถกลับบ้านไป
เพิ่งถึงบ้าน จันวิภาเห็นสุมิตรนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
รู้สึกว่าวันนี้ไม่ใช่วันพิเศษอะไร สุมิตรไม่อยู่ที่บริษัท กลับ นั่งอยู่บนโซฟามองมาที่เธอ จันวิภารู้สึกกังวลใจแปลกๆ
จริงๆ สุมิตรเห็นจันวิภากลับมาแล้วก็พูดกับ
จันวิภาได้แต่ก้มหน้า เดินจำจำไป ยังยินคำถามของสุมิตรขึ้น: “วันนี้เธอไปไหนได้ยินกับคนขับว่าไปมหาลัยการดนตรีA ใช่ไหม?”
หลังจากจันวิภาสบถอยู่ในใจสักพักก็แต่พูดขึ้น”ฉันไปมหาลัยรายงานตัวแล้ว เดือนที่แล้วฉันได้รับใบตอบรับ”
สุมิตรอดหัวเราะอย่างเย็นช้าขึ้นไม่ได้: เธออยู่บ้านดีๆไม่ ได้เหรอ? อยากจะหนีออกไป ยังจะไปยั่วผู้ชายในมหาลัยอีก หรอ?
จันวิภาได้ยินประโยคนี้ เดิมที่วันนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ แล้ว ตอนนี้ยิ่ง โมโหอยู่อีกเลยพูดอย่างโมโหขึ้น: “ฉันเพิ่งจะ 20 เอง ไม่ไปเรียนแล้วจะทำไรกิน? ฉันชอบไปเรียน แล้วจะทำไม? ดนตรีคือความฝันของฉัน ฉันอยากเรียน ดนตรีมาก!”
ที่จันวิภาสักพักราวกับไม่คิดว่ามันจะเป็น เรื่องสำคัญ: ผู้หญิงของผมสุมิตร ต้องอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น ปรนนิบัตริฉันดีๆก็พอแล้ว!”
“คุณ. จันวิภาราคา ยังไงเธอก็เจรจากับสุมิตรไม่ได้
ตอนแรกจะมายืมเงินเขา แต่ดูเหมือนตอนนี้คงไม่มีทาง
แล้ว จันวิภา กัด ปาก
สุมิตรมองไปที่จันวิภาแล้วพูดอย่างเย็นชาขึ้น: “พยายาม แต่งตัวเองดีๆ วันนี้มีงานเลี้ยงสำคัญอยู่ ฉันจะพาเธอไปร่วม ด้วย เดี๋ยวเธอขึ้นไปเปลี่ยนชุด แล้วก็ไปกับผม”
น้ำเสียงขอสุมิตรเหมือนกับห้ามปฏิเสธ จันวิภาเพิ่งเข้าใจ ว่าทำไมวันนี้สุมิตรถึงอยู่บ้าน
ถอดหายใจหนึ่งที่ จันวิภายังไม่ทันตอบกลับ สุมิตรก็หัน หน้าไปพูดกับสาวใช้ด้านข้างแล้ว: “เธอ 2 คน พาเธอขึ้นไป เปลี่ยนเสื้อผ้า!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ