พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน4ภรรยาใหม่ขององค์ชายที่เลือดเ



ตอน4ภรรยาใหม่ขององค์ชายที่เลือดเ

ย็น

ตอนที่ 4 ภรรยาใหม่ขององค์ชายที่เลือดเย็น เวลาสามวัน จะว่ายาวก็ไม่ยาว จะว่าสั้นก็ไม่สั้น

เมื่อมองไปที่ชุดแต่งงานอันหรูหราที่วางไว้อยู่บนเ

ตียง

จันวิภารู้สึกแต่เพียงว่าหัวใจเสียเหลือเกิน นิ้วมือลูบคลำผิวนอกของชุดแต่งงาน

และมีความเศร้าโสกอยู่ภายในใจ

ชุดแต่งงาน

งานแต่งนี่เป็นผู้หญิงทุกคนต่างก็มีเรื่องที่จิตใจเ

สื่อมใสอย่างไรก็ตาม คนที่เธอจะต้องแต่งงานด้วยนั้น

กลับกลายเป็นคนแปลกหน้าที่ตนเองไม่รู้จัก

“คุณหนู บ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์มาถึงแล้ว”

ด้านนอกประตูได้ยินเสียงที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกใ ดๆของคนใช้ลอยผ่านมา จันวิภาตกใจอยู่ครู่หนึ่ง

จากนั้นบีบมือที่เย็นเฉียบทั้งสองข้างของตนเองจน แน่น พูดอย่างสงบนิ่ง ฉันรู้แล้ว”

ชั้นล่าง

ที่เป็นพ่อบ้านของบ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์เค ลื่อนไหวร่างกายไปมาอย่างไม่ค่อยที่จะอดทนเท่า ไหร่นัก หูฟังเสียงของมะลิวัลย์ที่บ่นไม่หยุด

แล้วยกข้อมือขึ้นมาเพื่อมองดูเวลามะลิวัลย์ดูออกถึงท่าทีที่กระวนกระวายใจของอา ลำจวน จึงรีบยิ้มออกมาพร้อมกับอธิบาย “เป็นเด็กสาว แต่งเนื้อแต่งตัวก็ต้องใช้เวลาหน่อย น้าวาลย์ รีบไปเตือนคุณหนูว่าอย่าให้แขกรอนาน

“อ่าๆ” น้าวาลย์ส่งเสียงตอบรับ

หันตัววิ่งไปยังชั้นบน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น

ก็ได้จังหวะพอดิบพอดีกับที่ได้เห็นจันวิภาที่สวมใส่ ชุดแต่งงานอยู่ ยืนอยู่ด้านบนบันได นัยน์ตาใสสะอาด

กำลังมองดูทุกสิ่งที่อย่างที่อยู่ชั้นล่าง

จันวิภาที่ร่างกายสวมใส่ชุดแต่งงาน ทำให้อาลำจวนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

รู้สึกได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ราวกับดอกบัวที่บริสุทธิ์อ ย่างไรอย่างนั้น ช่างละเอียดอ่อนและสวยงาม

เมื่อคิดถึงชะตากรรมต่อไปของเด็กผู้หญิงคนนี้ อาลาจวนจึงถอนหายใจออกมา

มะลิวัลย์ เดินไปยังจันวิภาอย่างเร่งรีบ อยากจะคุยอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องที่ลึกซึ้ง ของแม่และลูกสาวที่เสแสร้งจอมปลอม

แต่จันวิภากับเลี่ยงผ่านเธอ และมองดูอาลำจวนที่พูดด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัด คำ “ไปกันเถอะ”

เมื่อมองจันวิภาอย่างใกล้ๆแล้ว

อาลาจวนจึงพบว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่บริสุทธิ์ และยังสวยสง่างามอีกด้วย ใจเย็นและสุขุม มันค่อนข้างที่จะเหมาะสมกับสุมิตรถ้าหากว่าสุมิตรสามารถปล่อยวางความแค้นที่อยู่ใ นใจได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ อาล่าจวนก็ส่ายหัวไปมา แล้วยิ้มไปทางจันวิภา

และพาเขาออกจากบ้านวีระนนท์ไป

แสงแดดที่อยู่ด้านนอกของประตูนั้นเจิดจ้าเป็นอยู่ างมาก จันวิภาหรี่ตา ก็พบว่าเป็นไปตามที่เธอคิด ไม่มีขบวนแต่งงาน ไม่มีความคึกคัก มีเพียงแต่รถโรลส์รอยซ์สีดำคันหนึ่ง

จอดอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ

หัวเราะเยาะให้ตนเอง จันวิภาถกกระโปรงขึ้น เดินเข้าไปในรถอย่างเงียบงัน

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา

รถยนต์ก็ได้ขับเข้าไปยังคฤหาสน์อันงดงามที่อยู่ก

ลางภูเขา คฤหาสน์ที่สวยงามนั่น

กว้างใหญ่ไม่มีสิ้นสุด

ทำให้จันวิภากลั้นหายใจเอาไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ

แม้ว่าบ้านวีระนนท์จะเป็นตระกูลที่ร่ำรวย แต่เมื่อนำไปเทียบกับบ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์

ช่างแตกต่างกันจริงๆ

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมะลิวัลย์ถึงได้ประสบส อพลอกับพ่อบ้านของตระกูลวิบูลย์ธนภัณฑ์เช่นนี้

เมื่อรถหยุดลง

อาลำจวนจึงได้พาจันวิภาเดินเข้าไปยังคฤหาสน์

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ

เหล่าบรรดาคนรับใช้ในบ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์ต่างก็เคารพต่ออาล่าจวนเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับเมินเธอซึ่งเป็นคุณหญิง

เดินตามอาลาจวนขึ้นไปชั้นบน

ยืนอยู่ท้ายที่สุดของระเบียงทางเดินชั้นที่สอง อาลาจวนจึงได้เปิดบานประตูออก ยิ้มแล้วพูดว่า “นายหญิง นี่คือห้องของท่าน

เชิญท่านพักผ่อนสักประเดี่ยวหนึ่งที่ห้องนี้”

พยักหน้า แล้วก้าวเท้าเดินเข้าไป

จันวิภามองดูสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในห้อง ก็หันตัวกลับไปแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ

ขอถามหน่อย..”

ปั้มแกร๊ก”

จันวิภายังไม่ทันที่จะพูดจบก็เห็นประตูถูกดึงอย่าง

รุนแรงเสียแล้ว

จากนั้นเป็นเสียงของประตูที่อยู่ด้านนอกถูกคนล็อ

“หมวย เนื่เธอคิดจะทำอะไร”

อาลำจวนเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ

“คุณสุมิตรบอกไว้แล้ว

ว่าให้ขังผู้หญิงคนนี้ไว้ข้างในห้อง ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่ให้เธอไป”

คนรับใช้คนนั้นที่ชื่อหมวยยิ้มแล้วตอบ

ถือกุญแจประตูอย่างมีความสุขแล้วเตรียมที่จะออ กไป

“พวกเธอ….เฮ้อ…”

อาลำจวนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่มันก็จบลงแล้ว

เมื่อได้ยินคำพูดที่ยากลำบากของลุงลำจวน จันวิภาถึงกับตกตะลึง

จากนั้นถึงกับมีการตอบสนองออกมา

เกรงว่าตนเองจะถูกกักบริเวณเอาไว้ในบ้าน จึงใช้แรงตบแผ่นประตูทันที

ตระโกนอย่างโกรธแค้น “รีบปล่อยฉันออกไป พวกนายไม่มีสิทธิ์ขังฉันไว้ที่นี่ นี่มันผิดกฎหมาย”

“หือยู่ทนี่

คุณสุมิตรก็คือกฎหมายเธออย่ามัวเสียแรงเปล่าเล ยหากไม่มีคำสั่งของคุณสุมิตร

ก็จะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะปล่อยเธอออกมา”

ด้านนอกที่ไม่รู้ว่าใครที่พูดจาออกมาอย่างเย้ยหยั

พอสิ้นเสียง

เสียงของฝีเท้าก็ค่อยๆไกลออกไปเรื่อยๆ จันวิภารู้ว่า พวกเธอไปแล้ว และยังเข้าใจแจ่มแจ้ง การมีชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแห่งนี้

มีเพียงแต่ต้องพึ่งตนเองเท่านั้น

ร่างกายไถลล้มลง นั่งลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง มือทั้งสองข้างของจันวิภาโอบกอดหัวเข่าเอาไว้

สุมิตรคนนี้เป็นคนเช่นไรกันแน่พวกเขาพึ่งจะแต่งง านกันครั้งแรก เขาปฏิบัติต่อตนเองเช่นนี้

ไม่ใช่ว่าเป็นพวกวิปริตหรอกหรืออนาคตของตนเอ ง มันช่างโชคร้ายเสียจริง….เมื่อความคิดกระเจิดกระเจิงอยู่แบบนี้ จันวิภานั่งอยู่บนพื้นที่เย็นเฉียบ

หลับไปไม่รู้ตอนไหน Du..

หลังจากฟ้ามืดแล้ว

จันวิภาได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถอยู่นอกหน้าต่าง

ถึงจะค่อยๆตื่นขึ้นมา

ขยดวงตาทั้งสอง

เธอลุกขึ้นและรีบวิ่งไปยังด้านข้างหน้าต่าง

พยายามที่จะดูสถานการณ์ข้างล่าง แต่ภายใต้แสงไฟที่สลัวๆ

เธอจึงมองเห็นแค่เพียงเงาของคนที่รูปร่างกำยำเท่

านั้น

แต่ทำไม

เธอกลับรู้สึกคุ้นเคยกับเงาของคนคนนั้นอย่างน่าแ

ปลูกประหลาด..

นี่คือสุมิตรงั้นหรือ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ