ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 77 เธอเป็นผู้หญิงไม่ดี ( 2 )



ตอนที่ 77 เธอเป็นผู้หญิงไม่ดี ( 2 )

ในทุก ๆ ครั้ง เมื่อถูกบังคับให้ต้องจนมุม เธอจะทำทุก อย่างเพื่อปกป้องตัวเองเหมือนวันนี้ ซึ่งปรากฏว่าเธอชนะ แต่ ใครเล่าจะรู้ว่าความรู้สึกแห่งความกลัวนั้นเป็นเช่นไร

ด้วยความเศร้าโศกที่เกิดขึ้น ทำให้เธอขึ้นรถแท็กซี่กลับ บ้านไป เมื่อถึงบ้านจึงใช้โทรศัพท์พื้นฐานโทรออกหาปยุต ที่ นี่ครอบครัวเป็นกังวลมาก ตามหาเธอไปทุกที่แต่ก็หาไม่เจอ เพราะเธอไม่มีโทรศัพท์มือถือ ในช่วงเวลาของความวิตก กังวล โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขารีบกดตอบรับ “ฮัลโหล”

“ฉันเอง”

เมื่อได้ยินเสียงของผลิน ขาก็ถามด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้าง โมโห “คุณไปอยู่ที่ไหนมา ทุกคนกำลังตามหาคุณอยู่

“ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีก็เลยกลับบ้านก่อน ขอโทษนะ…

“มีอะไรผิดปกติเหรอ ทำไมคุณถึงกลับไปเงียบๆ

“กลัวว่าจะรบกวนพวกคุณ จึงกลับโดยที่ไม่ได้บอกก่อน ฝากขอโทษพ่อแม่ให้ฉันด้วยนะ”

“ไม่สบายเหรอ ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้”

ปยุตได้ยินเสียงเธอผิดปกติ จึงจะรีบวางสายแล้วกลับ

บ้าน “ไม่เป็นไรหรอก คุณทานเสร็จแล้วค่อยกลับมาก็ได้ ฉันดี ขึ้นมากแล้ว”

“ทานเสร็จแล้ว แค่นี้แหละ”

เขาวางสายโทรศัพท์ไปและพูดกับครอบครัวที่อยู่ใกล้ ๆ “ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วครับ เธอรู้สึกไม่ค่อยดีจึงกลับบ้านไป ก่อน”

คุณนายท่านถอนหายใจโล่งอก “คิดว่าถูกลักพาตัว งั้นก็ ไปเถอะ กลับบ้านไป

“ว่าแต่ เกิดอะไรขึ้นกับลูกสะใภ้เหรอ ไม่สบายตรงไหน เป็นหนักหรือเปล่า”

“เธอบอกว่าไม่เป็นอะไร เดี๋ยวผมจะกลับไปดู

ปยุตหยิบกุญแจรถและออกจากโรงแรม ปาณีเกาศีรษะ อย่างงุนงง “พี่สะใภ้ไม่ใช่หลินไต้อวี้ ทำไมอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกไม่ สบายได้”

“อาจจะเพราะเหนื่อยหลังจากบินมาทั้งวัน ที่จริงก็ไม่ควร ออกมาทานข้าวข้างนอก ที่บ้านดีกว่าเยอะ ทานเสร็จแล้วก็ พักผ่อนได้เลย”

คุณท่านเวทนบ่นและมองไปที่ภรรยาของเขา

ปยุตขับรถกลับบ้าน ทันทีที่ลงจากรถก็ตรงไปที่ห้องนั่ง เล่น และขึ้นไปข้างบน เปิดประตูห้องนอน ผลินนอนพักอยู่ บนเตียง เขาเดินเข้าไปเงียบ ๆ เอื้อมมือออกไปยังที่หน้าผาก ของเธอ

ทันใดนั้นผลินก็ลืมตาขึ้น และพยายามที่จะลุกขึ้นนั่ง

“กลับมาแล้วเหรอคะ ”

“อืม รู้สึกดีขึ้นแล้วหรือยัง

“บอกแล้วว่าไม่เป็นไรหรอก พ่อแม่ก็กลับมาเหมือนกันเห

รอ”

“ยัง ผมกลับมาก่อน”

สายตาของปยุตมองตรงไปยังกระดูกไหปลาร้าที่มีผ้าพัน แผลแปะอยู่ก็เกิดความสงสัย “เกิดอะไรขึ้น

“ไม่มีอะไรค่ะ ตอนกลับมาฉันถูกรถชนนิดหน่อยน่ะ

“ถูกรถชน?”

ปยุตตกใจจนเหงื่อแตก แหวกเสื้อของเธอออกอย่าง หงุดหงิด “เจ็บตรงไหนบ้าง ขอผมดูหน่อย”

“ไม่มีแล้ว แค่ตรงนี้ ไม่ได้โดนจุดสำคัญ”

เมื่อเห็นเขาเครียดผลินก็ทั้งรู้สึกซาบซึ้งและรู้สึกผิด รู้สึก ว่าตัวเองนั้นแย่เสียยิ่งกว่าแย่ สามารถหลอกคนที่แคร์ตัวเอง ขนาดนี้ได้อย่างไร

“ไม่ ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบให้ละเอียด”

ปยุตดึงเธอขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ต้องการพาเธอไป โรงพยาบาลให้ได้

ผลินขัดขืน “ไม่ต้องหรอก ไม่ต้องจริง ๆ ฉันไม่เป็นไรเลย

เชื่อสิ”

เธอดันต้านเขาอย่างหนัก “ไม่เป็นไรจริง ๆ นะ โอเคดี”

เขาถอนหายใจและเอ่ยสั่ง “ตั้งแต่วันพรุ่งนี้คุณต้องขับรถ เอง ห้ามขึ้นรถแท็กซี่ออกไปข้างนอก”

ทำไมล่ะ” “

“เพราะถ้าคุณได้รับบาดเจ็บอีก ผมจะเสียใจ”

ตาของเธอเป็นสีแดงก่ำทันที ยื่นมือออกไปคล้องรอบลำ คอของเขา “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริง ๆ สำหรับฉันตอนนี้ คุณ ปยุต ทรัพยสาน สําคัญกว่าอะไรทั้งหมดไม่มีอะไรเทียบ ได้…….

หลังจากที่พ่อแม่สามีกลับมาบ้าน ก็รีบขึ้นไปข้างบนเพื่อดู ลูกสะใภ้ เมื่อเห็นว่าลูกสะไภ้โอเคดี ก็รู้สึกโล่งใจ

และคุณนายท่านก็ยังไม่ลืมที่จะเตือนเธอ ผลินก็ให้ สัญญา “ฉันรู้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว… ” ก่อนที่เธอจะรู้สึกวางใจ

ปยุตอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ผลินคิดทบทวน ตัดสินใจว่าจะ สารภาพทุกอย่างกับเขา แทนที่จะอยู่กับความกลัวไปตลอด ไม่ดีกว่าเหรอที่จะลองเดิมพันสักตั้ง หากวางเดิมพัน โอกาส ชนะอาจจะมีถึงสามทาง แต่ถ้าไม่เดิมพัน คงมีแค่ทางที่สูญ เสีย

เธอไม่กล้ารับประกัน ว่าวันนี้จะเป็นวันที่โชคดี แต่เธอก็ ไม่สามารถทนได้ทุกครั้ง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับการถูกคนอื่น

คุกคาม

สัมผัสไปยังกระเป๋าที่คุณแม่ให้ยาเอาไว้ ลังเลอยู่ว่าจะทำ เช่นนี้ดีหรือไม่ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เชื่อว่าหัวใจของคนเราจะ สามารถตัดสินได้ด้วยยา แต่เมื่อมาจนสุดทาง ก็หวังว่ายานี้ จะมีประสิทธิภาพพอที่จะทำให้มันเป็นจริง เพื่อรักษาความ รักที่เธอนั้นได้มายากยิ่ง

“คิดอะไรอยู่”

ไม่รู้ว่าปยุตออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มายืนอยู่ข้างหลังเธอ โดยไม่ให้ลุ้มให้เสียง ถามคำถามที่ทำให้เธอตกใจ “ทำอะไร ลับ ๆ ล่อ ๆ เนี่ย”

“ผมออกมาตั้งนานแล้ว ตัวคุณเองน่ะคิดหมกมุ่นเกินไปหรือ เปล่า”

เธอกํายาไว้ในมือ แล้วกะพริบตา “คุณจะเข้าไปทำงาน ในห้องหนังสือหรือเปล่า ถ้าไม่ งั้นฉัน…

“คุณจะทำอะไร”

เขาถามคําถามออกมา

“ฉันจะไปอาบน้ำ” ตอบด้วยเสียงกระซิบ แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ

ไป

ผลินปิดประตูและหายใจเข้าลึก โชคดีที่เขาไม่เห็นยาใน มือ มิฉะนั้นคงต้องอับอายตายแน่

ผลินยืนอยู่หน้ากระจก ดูแผลที่ไหปลาร้าของเธอ และ มองดูยาในมืออีกครั้ง ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเดิมพัน แต่แล้ว เธอก็คิดหนัก เพราะว่าแม่สามีไม่ได้บอกเธอว่าใครควรเป็น คนทานยานี้

ตอนที่กำลังวุ่นวายหนักอยู่กับการคิด ก็ตัดสินใจเปิด ฝักบัวเพื่ออาบน้ำ และในขณะที่กำลังอาบก็คิดถึงคนที่ควร ใช้มัน คิดจนสมองจะระเบิดก็ยังคิดไม่ออกว่าควรจะเป็นใคร ดี

ปยุตเห็นว่าเธอยังไม่ออกมาสักทีจึงมาเคาะประตูห้องน้ำ “หลับไปแล้วหรือไง”

“เปล่า”

“แล้วทำไมถึงได้นานขนาดนี้” “จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เธอใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวจนแห้ง ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็กลืน ยาลงท้องตัวเองไป

เมื่อออกไป ปยุตนอนเอกเขนกดูทีวีอยู่บนเตียง เธอเดิน กระมิดกระเมี้ยนเข้าไปหา “ฉันอยากจะอ่านหนังสือ

เขาพนักหน้าอย่างมึนงง “ก็เอาสี

เปลี่ยนจากห้องนอนใหญ่ไปที่ห้องลับ ก่อนหน้านี้มันได้ กลายเป็นห้องหนังสือของเธอ เธอเปิดประตูห้องเข้าไป และ เปิดแล็ปท็อปที่โต๊ะ พิมพ์สามคำลงไปอย่างรวดเร็ว อดไม่ ได้ที่จะรู้สึกโง่เง่า มันเป็นสูตรลับของราชสำนักโบราณ เป็น สิ่งที่ถวายแด่องค์จักรพรรดิเพื่อ…

ผลินอ่านคำพูดที่โหดร้ายเหล่านั้นอย่างละเอียด แล้วก็ เกิดความกลัวอย่างมาก เธอเดินไปดินมารอบห้อง และพูด ขึ้นในความเงียบ “จะทำยังไงเนี่ย จะทำยังไงดี

ยาถอนพิษเหรอ ใช่แล้ว ยาถอนพิษ ในขณะที่ยายังไม่ ทำงาน ก็รีบไปหาแม่สามีเพื่อขอยาถอนพิษ

เธอวิ่งออกไปจากห้อง ตรงไปที่ประตูห้องนอนของแม่ สามีและเคาะเบา ๆ “คุณแม่คะ คุณแม่ ได้โปรดออกมาข้าง นอกสักครู่นะคะ”

คุณนายท่านเปิดประตูออกมาด้วยความสงสัย “เกิดอะไร ขึ้นจ๊ะ”

ดึงแม่สามีออกมาด้านข้าง แล้วจึงรีบถาม “มียาถอนพิษ

ไหมคะ”

“หมายถึงอะไรจ๊ะ

คุณนายท่านค่อนข้างไม่เข้าใจในคำพูดของเธอ

“ฉันทานยานั่นไปแล้วค่ะ….

“อ่อ ทานแล้วก็ทานไปสิ ดีแล้วจ้ะที่ทาน ใครก็ทานกันทั้ง

นั้น”

“แต่ว่า…” เธอค่อนข้างอายที่จะพูดออกมา “แต่ว่า… เสียใจภายหลังแล้วค่ะ สรุปว่ามียาถอนพิษไหมคะ” ฉัน

“มีสิจ๊ะ ลูชายของฉันไง ยาถอนพิษ

คุณนายท่านปิดปากแย้มยิ้ม ผลินอายจนแทบอยากมุด ดินหนี พูดด้วยน้ำเสียงเป็นทุกข์ “ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่ ทานยานั่นไป”

เธอกลับไปที่ห้อง พบว่าปยุตไม่ได้อยู่บนเตียง ก็เกิด ความสงสัย เห็นประตูห้องลับเปิดอยู่ ทันใดนั้นก็หัวใจเต้น แรง ก้าวขาวิ่งไปที่นั่น ตอนนั้นเอง ก็เห็นปยุตนั่งอยู่ที่โต๊ะของ เธอ กำลังดูหน้าเว็บที่เธอลืมปิดอย่างสนใจ มันพังของจริง ตายเสียยังจะดีกว่า เธอรีบวิ่งไป ใช้ ร่างกายขวางปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ “อย่ามองนะ”

ปยุตมองไปที่เธอและพูดอย่างล้อเลียน “ผมไม่เคยคิด เลยว่าคุณจะกลายเป็นคนที่สนใจในยาพวกนี้

“ฉันไม่ได้…

ผลินร้องไห้โดยที่ไม่มีน้ำตา เธอยังไม่รู้เลยว่าจะหาคำใด มาอธิบายตัวเองดี ในเมื่อความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้า มัน เป็นไปไม่ได้ที่จะชะล้างแม้ว่าจะกระโดดลงไปในแม่น้ำ เหลืองก็ตามที

ที่สำคัญกว่านั้น ตอนนี้เธอมีความรู้สึกแปลก ๆ ในตัวเธอ รู้สึกร้อนรุ่ม อยากที่จะถูกรัก

ความร้อนเร่าทวีความรุนแรงมากขึ้น เธอไม่กล้ามองไป ยังผู้ชายตรงหน้าอีกต่อไป จึงดันเขาออกไปข้างนอก “คืนนี้ ฉันจะนอนในห้องของตัวเอง ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

ปยุตถูกเธอผลักออกนอกประตู แต่ก็ดึงแขนของเธอไว้ แล้วออกแรงเพิ่มขึ้น กระชากเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ใช้นิ้วเรียวจับแก้มเธอ “คุณไม่จำเป็นต้องกินอะไรแบบนั้น ไม่ใช่เหรอ” มันเป็นการล้อเล่น แต่ทว่าผลินกลัวมาก ใบหน้า ของเธอซีดสลับแดง แล้วริมฝีปากแห้งก็ค่อย ๆ มีปฏิกิริยา “ไม่..ไม่…ไม่เอา…

“ไม่เอาอะไรทำไมตัวคุณร้อนขนาดนี้ แล้วแถมยังหน้าแดง อีก”

ผลินแข้งขาอ่อนแรงทรุดลงในอ้อมแขนของเขา ไม่ใช่ เพราะฤทธิ์ยาที่มีประสิทธิภาพ แต่มันเป็นเพราะคำพูดของ เขาที่ทําให้อับอาย

ปยุตอุ้มเธออย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน วางลงบนเตียง และก้มลงจูบ

ไม่รู้ว่านานเท่าไร ผลินเหนื่อยจนหมดแรง ทรุดลงไปใน อ้อมแขนของปยุต เมื่อตื่นขึ้นมากลางดึก ได้เห็นความไม่เป็น ระเบียบบนเตียง ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง เท้าเปล่าวิ่งเข้า ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ เหงื่อที่เกิดขึ้นนั้นแห้งแล้ว แต่กลิ่นอาย แห่งกามรสยังคงอยู่

ออกไปในผ้าเช็ดตัว เดินไปที่โซฟาแล้วนอนลงเบา ๆ ไม่ กล้านอนกับปยุต

ต้องยอมรับว่ายาที่คุณแม่ให้มานั้นแรงมาก หลังจากผ่าน มาตั้งนาน จนถึงตอนนี้ตื่นขึ้นมามันก็ยังคงมีฤทธิ์อยู่ เพียงแค่ ว่ามันไม่ถึงขนาดควบคุมไม่ได้เหมือนในตอนแรก ทันทีที่อยู่ ไกลจากปยุต เธอก็คิดว่า เธอควรจะอดทนจนกว่าฤทธิ์ของ ตัวยานั้นจะหายไปจนหมด

ค่ำคืนที่ยาวนาน ผลที่ได้รับคือวันถัดไปนั้นพวกเขานอน ยาวจนตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนเที่ยง ปยุตดูเวลาและพูดออกมา อย่างหงุดหงิด “ตายล่ะ ตอนเช้ามีประชุมสำคัญด้วย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ