ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่2 ภาระหน้าที่อันมีเกียรติ



ตอนที่2 ภาระหน้าที่อันมีเกียรติ

ภายในห้องโถงที่กว้างขวางโอ่อ่า ธินิตานั่งร้องไห้ฟูมฟายน้ำมูกน้ำตาไหลมา เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว โดยมีผลินนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ

“ผลิน เธอรู้ไหมว่าผู้จัดการฝ่ายการเงินยักยอกเงินบริษัทของคุณพ่อของเธอ ทำให้บริษัทตกอยู่ในวิกฤติครั้งใหญ่ ตอนนี้เราต้องจ่ายสินเชื่อธนาคาร ถ้าหาก เราไม่จ่ายหนี้พวกนั้นเราจะล้มละลาย และฟอของเธอจะต้องติดคุกด้วย .

“ฉันต้องทำอะไรเหรอคะ”

คำถามสั้น ๆ ถูกส่งออกมา นั่นเพราะเธอไม่ต้องการที่จะเสียเวลาไปกับการ ฟังเรื่องโกหกพวกนั้นอีก

ธินิดาทำทีขยิบตาส่งไปให้สามีของเธอ ธนวันก็รีบแสดงสีหน้าโศกเศร้าขึ้น มาทันทีแล้วพูดขึ้นว่า “วิธีที่จะช่วยฟอได้ก็คือลูกต้องแต่งงานกับคุณปยุตลูกชาย คนเดียวของตระกูลทรัพยสาน ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองนี้ เพียงแต่..”

เขาหยุดไปชั่วครู่

“เพียงแต่เขามีข่าวลือที่ไม่ค่อยดีนัก แต่มันก็แค่ข่าวลือ พ่อเคยเจอกับเขา เขา ดูเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง และที่สำคัญคือเป็นคนที่เก่งมาก”

แม้ว่าเธอจะชินกับมันแล้ว แต่ใจเธอก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบ ชายผู้ให้กำเนิดเธอ คนนี้นั้นช่างเป็นคนเลือดเย็นและใจร้าย ต่อหน้าเธอดูเหมือนว่าเขาจะเต็มไปด้วย ความรักและความรับผิดชอบ ถึงแม้ว่าเธอกับคนที่ชื่อธนวันคนนี้จะมีสายเลือด เดียวกัน แต่เธอก็ไม่เคยคิดอยากจะเรียกเขาว่าพ่อ

“เขาหย่ามาแล้วหกครั้งใช้ไหมคะ

ความขมขื่นที่ได้รับมาตลอดหลายปีจนชินชาได้กลายเป็นเกราะปกป้องที่ ทำให้เธอเก็บอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ได้

ธินิดาทำที่เป็นสุดน้ำมูกและเข้ามาจับมือเธอ “นี่คือเรื่องที่ฉันรู้สึกผิด ฉันเป็น แม่เลี้ยงที่ไม่ดีเอาเสียเลย ถ้าไม่ใช่เพราะชุดายังเด็กเกินไปฉันก็คงไม่ต้องผิดต่อ เธอแบบนี้” อา…ผลินรู้สึกขบขันอยู่ในใจ เด็กนั่นฮ่อนกว่าเธอแค่สามวัน ในปีนั้นธินิดาตั้ง ครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกันกับแม่ของเธอ กำหนดคลอดของเธอคือเดือนเมษายน แต่เธอกลับคลอดออกมาก่อนกำหนดในเดือนมีนาคม ทั้งที่เธอจะต้องเป็นลูกสาว คนรองก็กลับกลายเป็นว่าเธอต้องเป็นลูกคนโตแทน

ถึงจะบอกว่าเป็นลูกสาวคนโต แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่จะได้รับความสำคัญ และมีความสุขที่ลูกสาวคนโตฟังจะมีเลยสักครั้ง

“ฮีม ค่ะ”

“เธอตกลงเหรอ”

สองสามีภรรยามองหน้ากัน พวกเขาไม่คิดว่าเธอจะตกลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ พวกเขาคิดว่าถ้าเธอไม่ตกลงแล้วล่ะก็ พวกเขาจะแบ่งเงินสินสอดเป็นสักสาม ส่วนเจ็ดส่วน แน่นอนว่าเป็นของพวกเขาเจ็ดส่วนและสามส่วนสำหรับเธอ

“ใช่ค่ะ ก็พวกคุณอุตส่าห์เลี้ยงดูฉันมานี่คะ ฉันก็ควรทำอะไรเพื่อครอบครัว

บ้าง”

“ดูสิดู เธอนี่ช่างเหมาะสมกับการเป็นครูเสียจริง ยิ่งมีความรู้ก็ยิ่งเข้าใจอะไร ง่าย ถ้าชุดามีความฉลาดได้ครึ่งหนึ่งของเธอ ฉันก็คงหัวเราะแม้กระทั่งในฝันแล้ว

ล่ะ”

ไม่ต้องรอให้นอนฝัน ในเมื่อตอนนี้ก็กำลังหัวเราะอยู่

ในตอนเช้า ณ อาคารของตระกูลเจริญมาศ มีผู้คนมากมายยืนอยู่หน้าประตู

รั้ว

วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการคัดเลือกลูกสะไภ้ของตระกูลทรัพยสาน ผลินถูกธิ นิดาจับแต่งตัวอย่างประณีตพิถีพิถัน เธองดงาม เหมือนดั่งดอกโบตั๋น มีสเน่ห์ อย่างหาที่เปรียบมิได้

“เธอยังไม่ลืมที่ฉันแนะนำในห้องนั่นใช่ไหม” “ไม่ลืมค่ะ”

“ดีแล้วจะ เราจะรอฟังข่าวดีจากเธอนะ”

คำแนะนำของธินิดาไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเรื่องที่เธอจะทำอย่างไรให้ได้รับ เลือกจากคุณปยุตและได้แต่งงานเข้าตระกูลทรัพยสาน แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็ มีวิธีของเธอเอง

ในขณะที่รถค่อย ๆ ขับเคลื่อนตัวออกไป ธินิดายังรู้สึกว่าคำแนะนำของเธอ นั้นไม่เพียงพอ กลัวว่าผลินจะทำมันไม่สำเร็จ เธอวิ่งตามรถไปและสำทับอีกว่า “ผลิน เธอจงจำไว้สามข้อ : เอากลอุบายทั้งหมดที่แม่ของเธอใช้ล่อลวงผู้ชายมา ใช้ซะ และจำไว้ว่านี่เป็นเรื่องสำคัญที่จะตัดสินว่าตระกูลเจริญมาศจะเจริญ รุ่งเรืองต่อไปหรือต้องล่มสลายลง สุดท้าย ถ้าไม่บรรลุเป้าหมายจงอย่ายอมแพ้!”

เมื่อประโยคสุดท้ายจบลง เธอก็เกือบที่จะแผดเสียงออกมา

ผสินกำมือจนเล็บจิกเข้าเนื้อบาง แต่สีหน้าของเธอก็ยังคงเรียบเฉยเหมือน อย่างที่เคยเป็นมาตลอด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ