ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 156 ไม่มีคุณไม่ได้(3)



ตอนที่ 156 ไม่มีคุณไม่ได้(3)

ผลินหันไป มองไปที่ไวภพ รู้สึกขอโทษจากใจจริง แต่ก็ไม่ สามารถพูดอะไรออกมาได้

“สำหรับผมแล้ว การได้เห็นความสุขของผลิน คือ เหตุผลเดียวที่จะมีชีวิตอยู่

ทั้งสองจ้องมองกันและกันอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดผลิน ก็จากไปเงียบๆไวภพรู้สึกยังไงกับเธอ เธอก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่ น่าเสียดาย ที่เธอไม่สามารถตอบแทนเขาด้วยหัวใจแบบ เดียวกันกับที่ให้มาได้

ห้องจัดเลี้ยงงานแต่งงานไม่ได้มีแขกมากนัก ไวภพอาจ จะคิดเหมือนกันกับปยุต ไม่อยากให้คนมากมายมาร่วมพิธี แต่งงานที่ไม่มีความรัก

เมื่อผลินพบปยุต เขากำลังดื่มไวน์แดงอยู่คนเดียว

“คิดอะไรอยู่เหรอ”

เธอเอื้อมมือไปแตะไหล่ เขากะพริบตาแล้วส่ายหน้า “ไม่มีอะไร”

“ไม่ถามเหรอว่าฉันไปไหนมา

“คงไปหาเจ้าสาว”
ผลินยิ้ม “รู้ไส้รู้พุงฉันไปหมดเลยนะ”

เธอรินไวน์แดงใส่แก้ว ยกขึ้นไปชนแก้วของปยุต แล้วจิบ น้อย ๆ งานแต่งงานได้เริ่มขึ้นแล้ว มองดูชื่นใจคล้องแขนเจ้า บ่าวและพยายามยิ้มอย่างมีความสุข ผลินพูดความรู้สึกออก มา “ได้เห็นชื่นใจในวันนี้ มันเหมือนกับได้เห็นตัวเองเมื่อปีที่ แล้ว เห็นได้ชัดว่าหัวใจเต็มไปด้วยความว้าวุ่น แต่พยายามที่ จะแสร้งทำเป็นว่ามีความสุข”

เมื่อปยุตได้ยินก็หันเหสายตามาจ้องมองเธอ “ไวภพก็ เหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าไม่มีความสุข แต่แกล้งทำเป็นว่ามี ความสุขใช่ไหม”

ผลินไม่ตอบสนอง ปยุตพูดต่อ “บอกคุณแล้วเหรอ เหตุผลที่เขาแต่งงานกับคุณชื่นใจ”

เพียงเท่านั้นเธอก็หันมาตอบสนอง กะพริบตาสองสาม ครั้ง “คุณเห็นเหรอ ที่พวกเราคุยกัน”

“อืม”

ปยุตมองมาพลางดื่มไวน์ ทำสีหน้าแปลก ๆ “ผมเห็นพวก คุณมองกันและกันอยู่นาน…

ผลินหัวเราะเสียงดัง เอ่ยถามอย่างเหลือเชื่อ “คุณอิจฉา

เหรอ”

พูดอะไร อิจฉาเนี่ยนะ ทำไมผมต้องเป็นแบบนั้น”
“นั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องถามคุณ ว่าทำไมคุณถึงเป็น แบบนั้น อิจฉา ต้องเป็นคนที่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ คุณไม่ เหมาะกับเงื่อนไขนี้ ไม่ใช่เหรอ”

ปยุตชะงักไป ทันใดนั้นจึงยิ้มกว้าง

มันเป็นคืนแรกของการแต่งงาน ชื่นใจนั่งบนโซฟาใน อพาร์ตเมนต์ของไวภพ ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน ใช่ เธอหวาด กลัว เธอกำลังหวาดกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับไวภพ อย่างไร และไม่รู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ และไม่คุ้นเคยนี้

กระเป๋าเดินทางของเธอวางอยู่ที่ปลายเท้าของเธอ มัน ไม่มีอะไรมาก ที่จริงแล้วสิ่งของส่วนใหญ่เธอทิ้งไว้ในบ้าน ตัวเอง เพราะเธอไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วการแต่งงานที่ไม่ได้มี ความรัก จะยืนยาวแค่ไหน ดังนั้น เธอจะไม่ย้ายทุกอย่างที เธอมี เพื่อประหยัดปัญหาในอนาคตตอนย้ายออกไป

“ห้องนอนอยู่ตรงนั้น เอาเสื้อผ้าของคุณเข้าไปไว้สิ

ไวภพถือขวดไวน์แดงมา นั่งลงตรงข้ามกับเธอ สีหน้า เยือกเย็นเทเครื่องดื่มลงในแก้ว

เขาดื่มไวน์ไปหนึ่งแก้ว ชื่นใจยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ เขาเลิกคิ้วขึ้น “มีอะไร”

ชื่นใจส่ายหน้า “ไม่มีค่ะ ก็แค่รู้สึกไม่ชินนิดหน่อย”
“รีบปรับตัวซะ เพราะตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คุณต้องปรับตัว ให้เข้ากับชีวิตคู่ให้เร็วที่สุด”

ได้ยินเขาพูดอย่างนั้น ชื่นใจก็รวบรวมความกล้า ถือ กระเป๋าเดินทางของเธอเข้าไปในห้องนอน ห้องนอนนั้น ทั้งกว้างขวางและสะอาดสะอ้าน เต็มไปด้วยกลิ่นอายของ ผู้ชาย เธอวางมันลงกลางห้องนอน หัวใจกระโดดโลดเต้น เหมือนกวาง เธอมีความคาดหวังเล็ก ๆ สำหรับคืนแต่งงาน ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ ว่ามันเป็นไปไม่ได้

หลังจากจัดเรียงแล้ว เธอก็ออกไปจากห้องนอน เดินไป หาไวภพ ถามอย่างเขินอาย “จะดื่มอีกนานแค่ไหน ไม่ไปพัก ผ่อนเหรอ”

ไวภพเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดูเหมือนว่าจะเมาแล้ว กวักมือ เรียก “มาดื่มกับผม

ชื่นใจลังเลเล็กน้อย แต่ก็ก้าวเข้าไปหาเขาและนั่งลง หยิบไวน์ที่เขารินให้ กัดฟันและดื่มมันลงไป เธอไม่ถูกกับ ไวน์ เพียงแก้วเดียวก็รู้สึกมึนศีรษะ มองไวภพอย่างไม่มีสติ ทันใดนั้นด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ดึงลำคอของเขาเข้ามา และจูบ ริมฝีปากของเขา

ไวภพดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ วินาทีต่อมา ก็ ผลักเธอออก

ชื่นใจตกลงไปบนพื้น หัวใจถูกทำร้ายรุนแรง เธอกัดริม ฝีปากของเธอ ลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ และเข้าไปในห้องนอน
เธอไม่ได้พูดอะไร ไวภพไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าความผิด หวังในศักดิ์ศรีของเธอนั้นมีมากเพียงได้ ตลอดเวลาที่ผ่าน มา คำว่าฉันรักคุณคำนี้ไม่กล้าพูดมันออกมา การจูบผู้ชาย ที่ชอบนั้นต้องใช้ความกล้ามากมายขนาดไหน มีเพียงเธอ เท่านั้นที่รู้

นั่งข้างเตียงเหมือนคนโง่เง่า ไม่รู้ว่านานเท่าไร ทันใด นั้นประตูห้องนอนก็ถูกผลักเปิด ไวภพก้าวเข้ามา

ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไร ร่างทั้งร่างก็ถูกผลักลงบน เตียง จากนั้นเขาก็ทาบทับลงมาจูบ มันไม่มีความอ่อนโยน และอาจจะเรียกได้ว่าหยาบคายมาก

เขาจูบที่ซอกคอเธอ จูบเธอที่คางของเธอ จูบที่แก้มของ เธอ จูบที่หน้าผากของเธอ เว้นที่เดียวเท่านั้น ไม่จูบที่ริม ฝีปากของเธอ

ทำไมชื่นใจจะไม่เข้าใจ มีแค่คนสองคนที่รักกันเท่านั้น ถึงจะปล่อยอารมณ์จูบกันบนริมฝีปาก ขณะที่เธอและไวภพ ดูเหมือนจะเป็นความสัมพันธ์ที่ห่างไกลต่อการแลกน้ำลาย

“คุณเมาแล้ว”

เธอเอื้อมมือออกไปผลักเขา แต่เขาหยุดมือไว้ “ผมไม่ได้ เมา อย่าพูดอีกเลย นี่เป็นคืนแต่งงานของเรานะ

รู้ว่ามันเป็นคืนแต่งงาน แต่ทำไมถึงพูดแบบนั้น ที่ลึก ๆ แล้วมันช่างเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
ไวภพเริ่มถอดเสื้อผ้าของ นใจ ชื่นใจดิ้นรน แต่เพียง ไม่นาน เธอก็ไม่ได้ดิ้นรนอีกต่อไป ค่อย ๆ หลับตาลงและ ยอมรับความเป็นจริง ใช่ มันเป็นคืนแต่งงานของพวกเขา ไม่ ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่ ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้

เธอค่อย ๆ ลืมตา เห็นหน้าผากของชายหนุ่มมีเหงื่อ ผุดออกมา ร่างกายเป็นสีแดงเรื่อจากการถูกกระตุ้นความ ต้องการทางเพศ แต่ในสายตาของเขา กลับไม่มีความ ต้องการทางเพศอยู่เลย มันเป็นความไม่แยแสที่เกือบจะเย็น ชา เหมือนกับว่ากำลังทำในสิ่งที่ต้องทํา

ชื่นใจหลับตาลงไปอีกครั้ง และหลังจากนั้น ก็ไม่กล้า ลืมตาขึ้นมาอีก

อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่เธอสามารถสัมผัสได้คือความสุข

ของร่างกายไม่ใช่ความเจ็บปวดของหัวใจ

คืนวันแต่งงานที่ปราศจากความเสียดาย พวกเขาได้เป็น คู่สมรสโดยพฤตินัยแล้ว

ถึงแม้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดจะหายไปก็ตาม ผลินและปยุต ไม่ได้กลับบ้านหลังจากงานแต่งงานเลิก แต่ไปที่ภูเขาหลวง วันที่สิบห้าของแต่ละเดือน ภูเขาหลวงจะจัดงานเชิดสิงโต ขึ้นในเมือง ทั้งสองดูจนถึงสี่ทุ่มจึงค่อยลงจากภูเขา

เมื่อขับรถไปได้ครึ่งทางก็หยุดกะทันหัน ผลินเอ่ยถาม อย่างสงสัย “มีอะไรเหรอ”
“เหมือนเครื่องยนต์จะเสีย เดี๋ยวผมลงไปดูหน่อย”

ปยุตลงจากรถ ผลินนั่งอยู่ในรถ

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็มาเคาะที่หน้าต่างรถ “ลงมา เถอะ ดูเหมือนว่าเราจะต้องเดินกลับ”

ผลินลงจากรถและพูดว่า “ไม่จริงนะ เพิ่งเดินลงมาจาก ภูเขาเอง ถ้าต้องเดินกลับอีกมันเหนื่อยเกินไป”

“มีผมอยู่ด้วย ทำไมคุณต้องเหนื่อย”

ปยุตยิ้มเอ็นดู ปิดประตูหลังรถ และก้มตัวลง “ขึ้นมาสิ” ผลินมองเขาอย่างงุนงง “คุณจะแบกฉันไปเหรอ” “ถ้าไม่ใช่แบบนั้นแล้วคุณคิดว่าผมก้มลงมาทำอะไรล่ะ เธอเกาศีรษะ “ลืมมันไปเถอะ คุณก็คงจะเหนื่อยเหมือน

กัน”

“ขึ้นมาเถอะ ผมเป็นผู้ชาย เหนื่อยก็ไม่เป็นไร

ปยุตจับแขนของเธอ ดึงเธอขึ้นมาบนหลัง แล้วก็ตะโกน “ตือโป๊ยก่ายแบกภรรยา ไปกันเถอะ”

ผลินนอนซบหลังเขาพลางหัวเราะชอบใจ ที่เขาบอกว่า

ตัวเองเป็นหมู
ปยุตแบกผลินมาตลอดทางจนถึงบ้าน เธอเสนอให้ขึ้น แท็กซี่แต่เขาไม่เห็นด้วย เมื่อไปถึงประตูของคฤหาสน์นภา ผลินก็พูดขึ้น “วางฉันลงสิ ถึงบ้านแล้ว ถ้าคุณพ่อคุณแม่เห็น เดี๋ยวเขิน”

“ไม่เป็นไรหรอก พวกท่านเข้านอนไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว”

“คุณไม่เหนื่อยเหรอ ติดใจแล้วใช่ไหม”

ปยุตส่ายหน้า “ไม่เหนื่อยหรอก ผมจะแบกคุณไปตลอด ชีวิต”

ผลินอบอุ่นหัวใจ มือทั้งสองข้างโอบรัดพันรอบคอปยุต สองตาของเขาหันมองกลับมา “โอ้ย หายใจไม่ออก คุณ อยากจะฆ่าสามีของคุณหรือไง”

“ใครจะฆ่าคุณ ฉันเห็นคณโซซัดโซเซ กลัวว่าคณจะทิ้ง ฉันลงน่ะสิ”

เธอออกแรงรัดเขาอย่างแรง และคนทั้งสองก็เดินเข้าไป ในห้องนั่งเล่นอย่างมีความสุข

รถของธามันตามหลังพวกเขามา คืนนี้เขากลับบ้านดึก จึงได้เห็นภาพความรักระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้

นั่งอยู่ในรถ สีหน้าของเขาหนักกว่าปกติ จมอยู่กับความ คิดเป็นเวลานาน
บ่ายวันต่อมา ได้รับโทรศัพท์จากพ่อสามี นัดเธอให้ไป พบที่ร้านน้ำชาถนนนำโชค

ถ้าให้พูดตามตรง ผลินสับสนมาก เธอไม่เข้าใจ ว่า ทําไมพ่อสามีถึงชวนเธอไปพบข้างนอก ยังไงก็ตาม เธอก็ ยังไปตามนัดหมายตรงเวลา

นั่งอยู่ในมุมหนึ่งของร้านน้ำชา เธอเอ่ยถามว่า “คุณพ่อ คะ คุณเรียกฉันออกมามีอะไรหรือเปล่าคะ”

ธามันถอนใจ “หนูลิน เธอไม่ต้องเครียด สิ่งที่เกิดขึ้นกับ จันทรเมื่อสามปีก่อนจะไม่เกิดขึ้นกับเธอแน่นอน”

โดยความหมายนั้น ที่เขาชวนเธอออกมา ไม่ได้ต้องการ ไล่เธอไป

“แล้วมีอะไรเหรอคะ”

หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ

“มันเกี่ยวกับเด็ก”

ผลินมือสั่น ถ้วยชาที่เพิ่งใช้มือถือขึ้นมาหล่นลงกับพื้น เพล้ง! ถ้วยนั้นตกแตก

“เธอใจเย็นก่อน ฟังฉันนะ ฉันรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี แม่ สามีของเธอและฉันชอบเธอ ลูกชายของฉันยิ่งไม่ต้องพูด ถึง แต่สำหรับครอบครัวเช่นเราเรื่องการสืบสกุลนั้น มันสําคัญจริง ๆ”

ผลินหัวใจเต้นแรง ภายนอกพยายามรักษาความสงบนิ่ง “แล้วคุณพ่อหมายถึงอะไรคะ”

“เธอไม่ต้องถามฉัน เธอบอกฉันก่อน ว่าเธอคิดว่ายังไง

“ฉัน…ฉัน…ฉันกับคุณยุต…

เธอแค่อยากจะบอกว่าเธอกับปยุตตัดสินใจที่จะอุปการะ เด็ก แต่พ่อสามีก็ขัดจังหวะเสียก่อน “ถ้าเธออยากจะพูดว่า เธอตัดสินใจที่จะอุปการะเด็ก ก็ไม่ต้องพูด ฉันไม่เห็นด้วย”

หัวใจของผลินเย็นเฉียบ เธอเอ่ยถามด้วยตัวอันสั่นเทา “ทําไมเหรอคะ”

“เพราะว่าฉันไม่ต้องการให้ธุรกิจที่สร้างขึ้นมากว่าหนึ่ง ศตวรรษตกไปอยู่ในมือของคนนอก ฉันต้องการเด็กที่มี เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลทรัพยสานของเรา หนูลิน เธอ เข้าใจไหม ฉันต้องการสายเลือดที่แท้จริงของตระกูลทัพย สานของเรา”

คำพูดของพ่อสามีที่เข้ามาในโสตประสาทของผลิน เหมือนการลงทัณฑ์หัวใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา “ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อหมายความว่า จะให้ฉันจากไปเหรอคะ”

“ไม่ใช่ ฉันพูดตั้งแต่แรกแล้ว ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับจันทรเมื่อ สามปีก่อนจะไม่เกิดขึ้นกับเธอ ฉันแค่…
ธามันค่อนข้างทนไม่ไหว

ผลินสูดจมูก “ไม่เป็นไรค่ะ คุณพ่อพูดมาตรง ๆ ได้เลย”

“ฉันแค่อยากให้เธอได้รับความไม่เป็นธรรมนิดหน่อย ให้ เจ้ายุตออกไปมีลูกข้างนอก ในอนาคตเธอสามารถเลี้ยงเด็ก คนนั้นเป็นลูกของตัวเอง เราจะไม่บอกใครว่าเด็กไม่ใช่ลูก ของเธอ และสถานะของเธอในครอบครัวของเราจะไม่มีการ เปลี่ยนแปลง”

ในคืนนั้น เธออยู่หน้าประตูห้องนอนของพ่อแม่ ได้ยินคำ พูดเดียวกันนี้แล้ว คิดว่าวันนี้ยังคงห่างไกลจากตัวเอง แต่ไม่ คิดว่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึง และมาเร็วมาก

ในการเผชิญกับความจริงที่โหดร้าย ไม่ใช่ว่าเธอจะหนี ได้ถ้าเธอต้องการ ผลินรู้ดี เธอต้องเผชิญกับความจริง มีทาง เลือกอยู่สองทาง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ