ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 135 ใบตรวจภาวะการเจริญพันธุ์(3)



ตอนที่ 135 ใบตรวจภาวะการเจริญพันธุ์(3)

“คนที่ดีที่สุดสำหรับผม ก็คือคนที่มาเป็นภรรยาของผม ตอนนี้ ความรักก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตา โชคชะตาเป็น แค่ ส่วนหนึ่งเท่านั้น

“แต่มันจะไม่น่าเบื่อเหรอ ผู้ชายทุกคนคิดว่าการแต่งงาน เป็นเหมือนหลุมฝังศพ ไม่มีทางที่ความรักจะสดใหม่อยู่ ตลอดเวลา”

“ผมไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไง แต่อย่างน้อย ผมจะไม่

“ทําไมล่ะ”

“มันง่ายมาก เมื่อความรักครั้งแรกอยู่ในจุดที่เรียกว่าจบลง ความรักนั้นก็จะตายลงไป ไม่มีการกลับมาเกิดใหม่ เมื่อ ความรักครั้งต่อไปเข้ามา มันก็จะกลายเป็นเพียงแค่เงาของ ความรักเท่านั้น รักแรกจึงไม่มีค่าอีกต่อไป มันคือ ความรัก เมื่อเงาของความรักเข้าใจความรัก การแต่งงานจึงไม่ใช่ หลุมฝังศพอีกต่อไป

ความจริงเรื่องรักที่เรียบง่ายของปยุตนั้นทำให้หัวใจของ ผลินอบอุ่นอย่างลึกซึ้ง ที่จริงแล้วเธอไม่เคยมีความมั่นใจ มากมายนักในเรื่องของการแต่งงาน เพราะว่าเธอเห็นการ แต่งงานที่ไม่มีความสุขมากกว่าการแต่งงานที่มีความสุข

เย็นวันถัดไป เธอโทรหาปยุต“ฮัลโหล เลิกงานแล้วหรือ ยัง”
“เลิกแล้ว มีอะไรเหรอ”

“กลับบ้านไง คุณลืมไปแล้วเหรอ”

“อ๋อ ไม่ลืมหรอก”

ปยุตตอบอย่างตกลงปลงใจ”ไม่ต้องเป็นห่วง ตั้งแต่ผม สัญญากับคุณไปแล้ว ผมก็จะไม่กลับคำ”

“งั้นฉันจะรอคุณที่โรงเรียนนะ คุณมารับฉัน แล้วพวกเราจะ กลับบ้านด้วยกัน

“ได้”

หลังจากที่ผลินวางสายไป ก็มาอยู่ตรงประตูโรงเรียน รอคอยปยุตอย่างอดทน ในทุกวันไวภพจะเป็นคนสุดท้าย ที่ ออกจากโรงเรียน เขาบีบแตรรถขึ้น เรียกความสนใจให้ ผลินหันไปมอง ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาช้า ๆ”มีอะไรเห รอ”

“คุณรออะไรอยู่”

“รอสามีของฉันน่ะ

ไวภพแววตาหม่นหมองลง“อยากติดรถไปด้วยกันไหม”

“ไม่ล่ะ เดี๋ยวเขาก็มาแล้ว”

“อืม แล้วเจอกันนะ”
“เฮ้ เดียวก่อน”

ผลินตะโกนเรียกเขาไว้”ถ้าหากสะดวก ได้โปรดไปดู ชื่นใจหน่อยนะ ครอบครัวของเธออยู่ต่างประเทศ ในวันนี้ฉัน เองก็มีบางอย่างที่สำคัญไม่สามารถไปดูเธอที่โรงพยาบาล ได้”

“ผมกำลังจะไปเยี่ยมเธอ

“ขอบคุณมาก”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก”

ไวภพเหลือบมองเธออย่างมีความหมาย ก่อนที่จะ เหยียบคันเร่งออกไป

ไม่นานหลังจากที่เขาไป ปยุตก็รถขับมาถึงที่โรงเรียน หลังจากที่ผลินเข้าไปนั่งในรถก็ตบมือแล้วพูดขึ้นว่า “ไป กันเลย”

“ขออะไรคุณอย่างได้ไหม”

“คุณพูดมาสิ”

“เมื่อกลับไปถึงแล้วอย่าบังคับให้ผมทำในสิ่งที่ผมไม่อยาก

“ตัวอย่างเช่น?”
“ตัวอย่างเช่นถ้าผมไม่อยากกินก็อย่าบังคับให้ผมต้องกิน หรือถ้าผมไม่อยากอยู่ในห้องนั่งเล่น คุณก็อย่าดึงดันให้ ผม ต้องอยู่”

“อ๋อได้สิ ไม่มีปัญหา”

เมื่อคนสองคนตกลงกันเสร็จ รถก็ขับมาถึงคฤหาสน์นภา ทันทีที่คุณชายกลับมา ยามก็รีบวิ่งเข้าไปรายงาน คุณนาย ท่าน เมื่อคุณนายท่านได้ยินว่าลูกชายของเธอกลับมาแล้ว ก็ตื่นเต้นจนเกือบจะเป็นลม ตลอดทั้งเดือนที่ ผ่าน เธอรอ เพียงแค่วันนี้วันเดียวที่มาถึงซึ่งมันยาวนานเหมือนเป็นปี ไม่มีเวลาไหนเลยที่จะไม่คิดถึงลูกชาย

ปนฺตสีหน้าบึ้งตึงเดินตามผลินเข้าบ้าน ทั้งครอบครัว พร้อมที่จะต้อนรับเขา ช่วงเวลาที่สายตาสบกัน ความรู้สึก คิดถึงที่หายไปนั้นปรากฏชัด คุณนายท่านเป็นผู้นำในการ เปิดบทสนทานา กลับมาแล้วเหรอ”

“อืม”

ปยุตพยักหน้าอย่างไร้อารมณ์ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะ ปล่อยเรื่องราวในสิ่งที่พ่อแม่ทำ

“ไม่รู้ว่าพวกเธอจะกลับมา ตอนนี้จึงยังไม่ได้เตรียมอะไร เลย แต่ของในครัวพร้อมแล้ว พวกเธอพักผ่อนสักครู่นะ เดี๋ยวก็ได้ทานแล้ว

“ไม่ต้องเตรียมอะไรหรอก ผมไม่หิว”
เมื่อปยุดพูดอย่างนั้นจบก าลังจะขึ้นไปชนบน หลายคน มองหน้ากัน คุณนายท่านหยิกมือสามีของเธอ คุณท่าน เวท นพูดด้วยเสียงเย็นว่า “แกมาที่ห้องหนังสือของผมหน่อย ผม มีเรื่องอยากคุยกับแก”

คุณนายท่านมองไปที่ลูกสะใภ้อีกครั้ง ผลินรีบไปขวางป ยุตทันที ไปเถอะค่ะ คุณพ่ออยากคุยกับคุณนะ

“ไม่มีอะไรจะคุย”

“อย่าทำแบบนี้สิ ฟังที่คุณพ่อพูดก่อน คุณจะหักหน้าท่าน เหรอ”

ปยุตจ้องเธอ ขอเธอไประหว่างทางแล้วไม่ใช่หรือไง

แล้วจึงเดินตามพ่อเข้าไปยังห้องหนังสืออย่างไม่เต็มใจ รอจนประตูปิด คุณนายท่านนั่งลงบนโซฟากับลูกสะใภ้ แล้วพูดด้วยความตื่นเต้น “หนูลิน แม่ไม่รู้จะขอบคุณเธอยัง ไงดี เธอช่างน่ารักรู้ใจแม่และพึ่งพาได้จริง ๆ

ผลินยิ้มเขิน“คุณพูดหนักไปแล้วค่ะ นั่นคือสิ่งที่ฉัน สัญญาไว้ ตอนนี้มันก็เป็นเพียงแค่การทำตามสัญญาเท่านั้น เองค่ะ”

“มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องสัญญากับเรา พูดไปพูดมา นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวตระกูลทรัพยสาน ของเรา ที่ได้ลูกสะใภ้ที่ดีอย่างเธอมาแต่งงานด้วย
“เอาล่ะค่ะคุณแม่ เลิกยอฉันได้แล้วค่ะ ฉันถือว่าได้รับความ เมตตาปราณีมากแล้ว”

คุณนายท่านตบไหล่เธอ คำพูดในความกตัญญูทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเอ่ยอีก

“จริงสิ เธอไม่มีปัญหากับการตรวจร่างกายครั้งล่าสุดใช่

ไหม”

“อุ๊ย”ไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย เมื่อผลินนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ก็นึกขึ้นมาได้ว่า เธอยังไม่ได้รับใบตรวจสุขภาพจากโรง พยาบาลเลย

“เป็นอะไรไปจ๊ะ”

“ฉันลืมไปเอามาเลยค่ะ”

“ดูเด็กคนนี้สิ ปกติก็ไม่ใช่คนที่ลืมง่าย แล้วมาลืมใบตรวจ สุขภาพร่างกายได้ยังไง”

ผลินนวดหน้าผาก ช่วงนี้มีหลายอย่างเกิดขึ้นน่ะค่ะ สมองจึงค่อนข้างมีปัญหานิดหน่อย”

“ไม่เป็นไรหรอก เธอก็ค่อยไปเอาวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าเธอไม่มี เวลาก็ให้แม่ไปเอามาให้เธอก็ได้”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ พรุ่งนี้บ่ายฉันไม่มีสอน ไปเอาเองก็ได้
“โอเคจ้ะ”

ประตูห้องสมุดถูกปิดมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่ ไม่มีสัญญาณใด ๆ เล็ดลอดออกมาเลย ผลินมีความกังวล บางอย่าง คุณแม่คะ คุณพ่อพูดอะไรกับคุณยุตคะ ทำไมถึง นานจัง”

“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าอะไร มันคงเป็นเรื่องของผู้ชายน่ะ”

“หวังว่าเมื่อออกมาแล้ว บรรยากาศตึงเครียดระหว่างเขา และพวกคุณจะบรรเทาลงนะคะ”

“ฉันหวังยิ่งกว่าเธอเสียอีกจ้ะ”

คุณนายท่านถอนหายใจ”นี่ ไม่ต้องรอแล้วดีกว่าจ้ะ อาหารเย็นเสร็จแล้ว มาทานกันก่อนเถอะ”

ผู้หญิงสามคนทานกันไปครึ่งหนึ่ง ในที่สุดประตูห้อง หนังสือก็เปิดออก ปยุตเดินตรงขึ้นบันไดไปยังชั้นบนด้วย ใบหน้าที่อึมครึม ผลินคุณทานไม่ลงอีก วางตะเกียบและ กล่าวว่า“ฉันขอตัวไปหาเขานะคะ”

เธอวิ่งตามปยุตมาที่ห้องนอน เห็นเขายืนอยู่ที่หน้าต่าง จึงรีบหยิบบุหรี่ส่งให้“เอาสักมวนนะ”

ปยุตรับไป กำลังจะจุดไฟ เธอก็คว้าไว้เสียก่อน“ฉันเอง”

จุดบุหรี่ให้เขาแล้วพูดล้อเล่น“ไม่เลวใช่ไหม มีภรรยาที่น่ารักอย่างฉันเนีย

ปยุตไม่พูดอะไร บรรยากาศยังคงแข็งตึงเช่นเดิม เธอจึง จําต้องหุบปาก นั่งบนเตียงข้างเขาที่จมอยู่ในความคิด

ผ่านไปนาน เธออดที่จะพูดขึ้นไม่ได้”คุณยืนอยู่ที่นี่มา นานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วนะ จะยืนอีกนานแค่ไหนกันเหรอ”

ปยุตยังคงเงียบ เธอจึงต้องเดินไปหาเขา ดึงแขนของ เขาแล้วกล่าวว่า“ฉันกำลังพูดกับคุณอยู่นะ คุณจะไม่พูดกับ ฉันเหรอ”

จู่ ๆ เขาก็โอบกอดเธอมาไว้ในอ้อมแขน กอดเธอเอาไว้ แน่น ผลินนิ่งไปไม่กี่วินาที ก็ถามขึ้น“คุณพ่อพูดอะไรกับ คุณ ทำไมดูเหมือนอารมณ์ไม่ดีแบบนี้”

“ไม่ว่าผมจะรู้สึกแย่แค่ไหน แค่ได้เห็นลินยังอยู่ข้างๆผม ผมก็รู้สึกใจสงบ”

เมื่อพูดจบ เขาก็ก้มลง กดจูบริมฝีปากสีแดงระเรื่อของ เธอด้วยความรัก…

เที่ยงวันถัดไป หลังจากที่ผลินออกจากโรงเรียน ก็รีบไป โรงพยาบาลสตรีที่แม่สามีของเธอพาเธอไปเมื่อครั้งก่อน

ไปพบหมอที่เข้ารับการตรวจครั้งล่าสุด เธอไม่ได้มีเวลา ที่จะอธิบายสิ่งที่เธอมา หมอก็บอกว่า “คิดว่าคุณจะไม่มา เสียแล้ว หมอว่ากำลังจะโทรหาคุณที่บ้านอยู่พอดี
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ผลตรวจออกมาไม่ดีเหรอ

ภายในหัวใจของเธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ

สีหน้าของหมอค่อนข้างหนัก ดึงสำเนาผลตรวจของ ผลินจากกองรายงานการตรวจมาสองแผ่น ยีนส่งมันให้กับ เธอพลางพูดอย่างจริงจัง คุณเตรียมใจก่อน แต่ไม่ต้องคิด จนเป็นภาระทางจิตใจมากเกินไป”

คำพูดของหมอเหมือนระเบิด ที่ทุ่มใส่ศีรษะของผลิน เธอคว้าผลตรวจมา ทันใดนั้นก็เหมือนเสียงลูกระเบิดได้ ระเบิดออก…

“ภาวะมีบุตรยากแบบปฐมภูมิ”เธอถามด้วยอาการตัว สั่น มันหมายถึงอะไรคะ”

“พูดแบบธรรมดา มันก็คือความสามารถในการมีบุตรของ คุณ”

“เป็นไปไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ฉันจะเป็น หมันได้ยังไงคะ ฉันแข็งแรงดี ทำไมฉันถึงไม่มีความ อุดม สมบูรณ์ไปได้!!

ผลินตกตะลึงอย่างหนัก เธอกำลังจะสติแตก เธอไม่ สามารถยอมรับผลการตรวจดังกล่าวได้

“คุณผลิน คุณใจเย็นก่อนนะ ในทางการแพทย์ ภาวะมีบุตร ยากแบบปฐมภูมินั้นไม่มีสาเหตุ แต่ตอนนี้การแพทย์ กำลังพัฒนา แม้แต่โรคร้ายแรงก็สามารถรักษาให้หายขาดได ไม่ต้องพูดถึงความอุดมสมบูรณ์เลย สิ่งที่คุณต้องทำ ตอน นี้คือต้องใจเย็น ๆ ก่อน แล้วจากนั้นก็เข้ารับการรักษาด้วย เทคโนโลยีขั้นสูงต่อไป”

“พวกคุณตรวจผิดหรือเปล่าคะ”

ผลินกําแผ่นตรวจสอบในมือ และตบลงบนโต๊ะ ผลตรวจ นี้มันต้องผิดพลาดแน่!”

“หากคุณสงสัยในผลการตรวจของเรา คุณสามารถไปที่ อื่นเพื่อรับการตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตามในเมือง B นี้ไม่ ได้มีแค่โรงพยาบาลของเราที่เดียว”

“ฉันจะไปตรวจอีกครั้ง ถ้าผลการตรวจของคุณไม่ถูกต้อง ฉันจะไม่มีวันยอมแน่”

ผลินกลับออกไปด้วยความโกรธ ท้องฟ้าข้างนอกเป็น สีเทา แต่อารมณ์ความรู้สึกนั้นเศร้ายิ่งกว่าท้องฟ้า ให้เธอ ใจเย็น เธอจะใจเย็นลงได้ยังไง เธอกำลังรอคอยที่จะมีลูก กับปยุต แต่ตอนนี้อยู่ดี ๆ ก็บอกกับเธอว่าเธอไม่สามารถ มี บุตรได้ มันเหมือนถือมีดเข้ามาแทงในหัวใจของเธอโดยที่ ไม่มีการเตือนมาก่อน ทำให้เธอมีชีวิตอยู่อย่างตายทั้ง เป็น

“ไม่ ไม่เด็ดขาด ฉันร้องไห้ไม่ได้ พวกเขาต้องตรวจผิด ฉัน จะไปที่อื่นเพื่อตรวจใหม่อีกครั้ง…

ผลินเดินบนถนนด้วยความรู้สึกที่ดำดิ่ง เตือนตัวเองอีกครั้งและอีกครั้งว่าจะไม่ร้องไห้ แต่นตากยงคงไม่หยุดไหล เธอไม่กล้าคิดเลย ถ้าผลตรวจไม่ผิด แล้วเธอจะทำอย่างไรดี

ความเชื่อเดียวที่เธอมีได้ในตอนนี้ ก็คือผลลัพธ์นั้นไม่ ถูกต้อง หัวใจของปยุตเพิ่งย้ายมาอยู่ที่เธอ ในเวลานี้ จึงไม่ ควรมีเรื่องใด ๆ เกิดขึ้น

เธอมายังโรงพยาบาลอันดับสามของเมือง สอบถาม เรื่องการตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหาภาวะการเจริญพันธุ์ โรง พยาบาลอันดับสามแห่งนี้มีเครื่องมือตรวจสอบขั้นสูงมาก เธอไม่ต้องรอถึงสามวัน เธอรอเพียงแค่สามชั่วโมง มัน อาจ จะสามารถคว่ำผลลัพธ์ของโรงพยาบาลสตรีได้

การรอผลตรวจสามชั่วโมงของผลิน ยาวนานเหมือน สามสิบปี มันเลวร้ายยิ่งกว่าการทารุณกรรมในบ้านตระกูล เจริญมาศในช่วงสิบปีระหว่างอายุสิบสองถึงยี่สิบสองปี เสียอีก เธอนั่งอยู่คนเดียวในส่วนของแผนกสูติศาสตร์และ นรีเวชวิทยา มองดูคุณแม่ที่กำลังท้องมารอการตรวจ หัวใจก็ พลันฉีกขาดอีกครั้ง ไม่มีใครรู้หรอก ว่าเธอปรารถนาที่จะมี วันของเธอเองมากแค่ไหน และไม่มีใครรู้เลย ว่าเธออิจฉาผู้ หญิงที่กำลังจะเป็นแม่มากเพียงใด

ไม่อยากทนทุกข์ทรมานเช่นนี้อีกแล้ว เธอออกมา จากห้องโถงของสติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ไปยังสนาม หญ้า ด้านนอกของโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า กลิ่นหอมของธรรมชาติลอยวนอยู่ในอากาศ แต่ทำไมมัน กลับ ผสมกับกลิ่นของความเศร้า เธอก้าวเดินไปนั่งลงบน ม้านั่ง เวลาที่ผู้ป่วยเดินผ่าน สีหน้าคนไข้พวกนั้นมีร่องรอยของ ความเจ็บป่วย เธอเห็นใจพวกเขา แต่เธอเห็นใจตัวเอง มากกว่า โชคชะตาและชีวิตนี้ช่างเหมือนหนามแหลมคม ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่ต้องผ่านนี้ จะได้กลับ ไปสู่ความสุขของคนปกติได้เมื่อใดกัน ก่อนอายุยี่สิบสี่ ปี การแก้แค้นเป็นเป้าหมายเดียวของเธอ หลังจากอายุยี่สิบ สี่ปี ได้พบกับชีวิตที่เป็นสุขกับปยุต การให้กำเนิดบุตร ชาย และบุตรสาวที่น่ารัก คือเป้าหมายสูงสุดของเธอ แต่ในตอน นี้ ผลตรวจที่ไร้ความปราณี มันกำลังทำลาย จินตนาการที สวยงามทั้งหมดของเธอ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่า ชีวิตที่น่าเศร้าของ ตัวเองนั้นช่างไม่มีคุณค่าพอที่จะมีชีวิต อยู่

“คุณคะ คุณสามารถช่วยฉันอุ้มเด็กหน่อยได้ไหมคะ”

ผู้หญิงอายุประมาณสามสิบนั่งลงข้าง ๆ เธอกับเด็กสอง คนในอ้อมแขน เด็กสองคนนี้เหมือนกันมาก เธอรับเด็ก หนึ่ง ในนั้นที่ส่งมาให้ แล้วเอ่ยถามขึ้น“ฝาแฝดเหรอคะ”

“อึมค่ะ มันเหนื่อยมากจริง ๆ อยู่ดี ๆ ก็มีลูกถึงสองคน และ เด็กทั้งสองก็เป็นเนื้องอกในหลอดเลือดด้วย ต้อง ผ่าตัด พรุ่งนี้แล้ว ดังนั้นวันนี้ฉันจึงต้องมาที่โรงพยาบาลก่อนน่ะค่ะ”

ผู้หญิงคนนี้กำลังป้อนนมลูก และบอกเธอเกี่ยวกับความ ยากลำบากในการดูแลเด็ก

ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เลย ว่าสิ่งที่เธอพูดว่าเหนื่อยมากนั้นใน สายตาของผลินมันคือความสุขที่ไม่สามารถสัมผัสได้

เธอจ้องมองใบหน้าที่บอบบางของเด็กในอ้อมแขน นิ้วที่สั่นเทาต้องการสัมผัส มือเรียวสวยสั่นอย่างหนัก พลัน น่าตา ร่วงหล่นลงมาหยดบนใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเด็ก เด็ก ตกใจและร้องไห้ ผู้หญิงคนนั้นจึงรีบถามเกิด อะไรขึ้นคะ”

ผลินเผชิญหน้ากับคำถามของผู้หญิง แต่น้ำตาที่ไหล ลงอาบแก้มนั้นทำให้ไม่สามารถพูดออกไปได้ เหมือนกับว่า มีบางอย่างเกิดขึ้น ผู้หญิงรับเด็กไป และจ้องมองเธอ จาก นั้นจึงถอนหายใจและเดินออกไปพร้อมกับเด็ก

มองผู้หญิงคนนั้นเดินจากไป เธอกัดริมฝีปากของเธอ อย่างแรงเพื่ออดกลั้นไม่ให้ตัวเองต้องร้องไห้ ปลอบใจตัว เองอีกครั้งและอีกครั้ง ว่าไม่ต้องอิจฉาคนอื่น ไม่ต้องคิดลบ มากเกินไป ผลยังไม่ออกมา ยังคงมีความหวังอีกอย่าง น้อย ตั้งครึ่งหนึ่ง

เพราะครึ่งหนึ่งของความหวังนั้นยังคงมีอยู่ ในที่สุดเธอก็ ผ่านช่วงเวลาสามชั่วโมงของความเจ็บปวดไปได้ เมื่อ ได้ยิน ผลการตรวจ ความรู้สึกของความกลัวและความตึงเครียดนี้ บางทีเธออาจจะไม่มีวันลืม

“เสียใจด้วยนะครับ คุณอาจจะมีปัญหาเรื่องการเจริญพันธุ์ ผลการวินิจฉัยเบื้องต้นคือภาวะการมีบุตรยากแบบปฐม ภูมิ ครับ”

ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นสีหม่น โลกของเธอตกอยู่ ในความมืดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในที่สุดพระเจ้าก็โหดร้ายปิด ทั้งหน้าต่างและประตูของเธอ โยนเธอลงไปสู่ขุมนรกที่มืด มิดและสิ้นหวัง
น้ำตาของเธอเอ่อล้นเหมือนน้ำท่วมจากเขื่อนแตก ที่ ด้านล่างของขุมนรก เวลาผ่านไปต่อหน้าต่อตา ดูเหมือนว่า เธอจะกลับไปในคืนฤดูร้อนเมื่อสิบเก้าปีก่อน ต้นไม้พริ้วไหว เอนตามลมอย่างมีความสุข ดาวกะพริบระยิบระยับอยู่ บน ท้องฟ้า เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ เพลิดเพลินกับลม เย็นจากพัดลมเก่าของแม่ ฟังแม่พูดที่ข้างหู สิ่งที่มี ความสุข ที่สุดในชีวิตก็คือการได้มีลูกสาวที่ฉลาดและเชื่อฟังเหมือน น้องลินของแม่ ชีวิตนี้จึงไม่อ้างว้างและโดด เดี่ยว เมื่อน้องลิ นของแม่เติบโตขึ้น ต้องมีลูกสาวแบบนี้ด้วยนะ ถ้าเป็นอย่าง นั้น น้องลินของแม่ก็จะได้ไม่เหงา…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ