ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 222 การต่อสู้ครั้งถัดมา



ตอนที่ 222 การต่อสู้ครั้งถัดมา

“มีอะไรหรือเปล่า?”

ผลินถามด้วยความเป็นห่วง

“พวกเราเจอกันแล้วค่อยเล่าดีกว่า เธอจะออกมาได้กี่ โมงล่ะ?”

“ห้าโมงเย็นละกัน เป็นเวลาฉันเลิกงานพอดี เธอก็ด้วย เจอกันที่ร้านกาแฟตรงข้ามโรงเรียนเธอแล้วกันนะ

“ได้จ้ะ”

หลังจากวางสาย ผลินไม่ได้คิดเรื่องอื่นนอกจากความ ขัดแย้งระหว่างไวภพและชื่นใจ เมื่อทำงานเสร็จช่วง บ่ายเธอจัดเก็บของใช้ส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ไม่บอกกล่า วปยุตสักคำ ขับรถตรงไปที่ร้านกาแฟตรงข้ามโรงเรียน มัธยมปรานต์ทันที

ตอนที่เธอไปถึงร้าน ชื่นใจยังมาไม่ถึง เธอจึงนั่งรอชื่น ใจที่โต๊ะที่อยู่มุมของร้าน รออยู่ประมาณสิบกว่านาที ชื่น ใจก็ถือกระเป๋าเข้ามาอย่างรีบร้อน

พอนั่งลง ผลินมองเห็นสองตาของเธอแดงก่ำ“ชื่นใจ เธอทะเลาะกับไวภพมาหรือ?”
ชื่นใจ ายหน้า เปล่าหรอก”

“แล้วเธอเป็นอะไรล่ะ?”

ชื่นใจหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูด ไม่จา ผ่านไปสักพัก เธอจึงเงยหน้าขึ้น กล่าวอย่างหนัก แน่น“ผลิน ฉันขอร้องเธอเรื่องหนึ่งได้ไหม”

“เรื่องอะไรล่ะ?”

“ปยุตกำลังรวบรวมหลักฐานเรื่องการติดสินบนเจ้า หน้าที่และหลบเลี่ยงภาษีของแม่สามีฉันอยู่ใช่หรือ เปล่า”

ผลินถอนหายใจอย่างเยือกเย็น”เธอรู้เรื่องนี้ได้ อย่างไรกัน?”

“ไวภพเป็นคนบอกฉัน สองสามวันมานี้เขาอารมณ์ไม่ ค่อยดีเลย มัวแต่กังวลเรื่องแม่ของเขา นอนไม่หลับ ติดต่อกันมาหลายคืนแล้วล่ะ”

“แล้วเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรล่ะ?”

ผลินรู้สึกอึดอัดใจนิดหน่อยกับสถานการณ์ตรงหน้า

เธอ

“สองวันก่อนแม่สามีมาหาพวกเรา พูดจาแปลกๆ บอกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหล่อน กิจการทั้งหมดจะให้ลูกชาย หล่อนรับช่วงต่อ เธอไม่อยากให้ธุรกิจที่เธอสร้างขึ้นมา ต้องล้มเหลวหลังจากที่เธอกลับประเทศไปแล้ว”

“ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณแม่สามีดีไหม? ”

“หล่อนก็ไม่ค่อยชอบฉันเท่าไหร่หรอก แต่ก็ไม่ได้ คัดค้านอะไร ฉันแต่งงานกับลูกชายหล่อนมาก็สองปี แล้ว เขาคงไม่มีเหตุผลอะไรจะมาคัดค้านละมั้ง”

“แล้วที่วันนี้เธอต้องการพบฉัน?”

ชื่นใจจับมือผลินเอาไว้”ผลิน เธอช่วยเกลี้ยกล่อมปยุต ให้ปล่อยแม่สามีฉันไปได้ไหม หล่อนก็อายุอานามมาก แล้ว จะให้ไปติดคุกคงจะไม่ไหวแล้วล่ะ……….

ผลินได้แต่ส่ายหน้า “เรื่องนี้ฉันจนปัญญาจริงๆ แม่สามี ของเธอทำแต่เรื่องไม่ดีมามากมาย หล่อนสมควรจะได้ รับผลจากการกระทำของหล่อนแล้วล่ะ”

“ผลิน แม่สามีของฉันบางทีก็ทำเกินไปหน่อย แต่นั่น เป็นเพราะหล่อนกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก หล่อนไม่ได้ทำ เรื่องเลวร้ายจนถึงชีวิต ถ้าปยุตส่งมอบหลักฐานเหล่านั้น ไปละก็ ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเราสองคนรู้ดีอยู่แก่ใจ ที่ ฉันมาหาเธอในวันนี้ไม่ใช่เพื่อเข้าข้างแม่สามี ทั้งหมด ก็เพื่อไวภพ ฉันแต่งงานกับเขามาสองปีแล้ว ไม่เคยทำ อะไรให้เขาเลย ฉันแค่ไม่อยากเห็นเขาวิตกกังวลไปทุกวันแบบนี้ ที่จริงเขาก็อยากมาหาเธอด้วยตัวเองนะ แต่ว่า เขาเป็นผู้ชายไม่กล้ามาพบหน้าเธอ ที่สำคัญคือ ถ้าเขา มาพบเธอเพื่อขอร้องให้ช่วย ปยุตอาจจะเข้าใจผิดได้ คิดทบทวนดูดีดีแล้วฉันว่าฉันมาปรึกษากับเธอจะดีกว่า”

“นใจ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยเธอหรอกนะ แต่ว่า เธอไม่เข้าใจแม่สามีตัวเองเอาเสียเลย ถ้าวันนี้ปยุต ปล่อยหล่อนไป พรุ่งนี้หล่อนจะต้องกลับมาเอาคืนปยุต อย่างแน่นอน”

“ไม่หรอก ผลิน ฉันขอรับประกันกับเธอเลยว่าเป็นไป ไม่ได้ สองวันก่อนที่แม่สามีฉันมาหา ไวภพก็ทะเลาะกับ หล่อนไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็เรื่องทำผิดกฎหมายนั่นแหละ หล่อนยอมรับว่าทำผิดไปแล้ว ทั้งยังรับปากว่าจะกลับตัว กลับใจเสียใหม่ จะกลับไปใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศส นี่คือสิ่งที่ หล่อนให้คำมั่นสัญญาไว้กับลูกชาย ฉันเชื่อว่าหล่อนคง ไม่กลืนน้ำลายตัวเอง”

ผลินไม่ได้พูดอะไร ชื่นใจคิดถึงไวภพที่กำลังโศก เศร้า น้ำตาไหลออกมา “ฉันรู้ว่าเธอลำบากใจ โดยเฉพาะ ความสัมพันธ์ระหว่างเรา พวกเราก็ลำบากใจกันทั้งคู่ นี่ เป็นครั้งแรกที่ฉันเอ่ยปากขอร้องเธอ ผลิน หวังว่าเธอจะ รับปากฉัน ฉันจะจดจำความมีน้ำใจของเธอในครั้งนี้ไป ตลอดกาล”

“ก็ได้ ฉันจะพยายามนะ”
เธอทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนสนิทลำบากใจ ผลินจึงตอบ รับไปอย่างเสียมิได้

เมื่อกลับถึงบ้านในตอนเย็น ปยุตถามด้วยความเป็น ห่วงคุณไปไหนมา? ทําไมเลิกงานแล้วไม่บอกผมสัก นํา ก็รีบร้อนไปไหนกัน?”

“มีธุระส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ ไม่ทันได้บอก

“โทรศัพท์เป็นอะไร ทำไมโทรไม่ติด?”

เธอหยิบโทรศัพท์จากในกระเป๋าออกมาดู แบมือออก ทั้งสองข้าง แบตหมด……

ทานอาหารเย็นเสร็จแล้วปยุตเข้าห้องหนังสือไป ทำงานต่อ ผลินกระวนกระวายใจอยู่เป็นเวลานานใน ห้องนอน สุดท้ายเธอจึงรวบรวมสติมาหาเขาที่ห้อง หนังสือ เคาะประตูเบาๆ ปยุตคะ ฉันขอเข้าไปหน่อยได้ ไหม?”

“เข้ามาสิ”

ปยุตบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เธอเปิดประตูเดินเข้าไป ค่อยๆเข้าไปยืนข้างๆเขา มอง เขาแล้วมองเขาอีก“หลักฐานเรื่องทัตดา คุณรวบรวม ครบหรือยังคะ?”
“เกือบครบแล้วครับ”

“ถ้าคุณส่งหลักฐานทั้งหมดขึ้นไปแล้ว ผลจะเป็น อย่างไรคะ?”

“ถ้าไม่ตัดสินประหารชีวิต ก็น่าจะเป็นจําคุกตลอดชีวิต เลยล่ะ เพราะทั้งหลีกเลี่ยงภาษีและติดสินบนเจ้าหน้าที่ จํานวนเงินมากมายมหาศาลขนาดนั้น”

ผลินเงียบไปครู่หนึ่ง ปยุตจึงเอ่ยถามอย่าง สงสัย ทําไมหรือ?”

“ถ้าคุณเอาหลักฐานยื่นไปไม่ครบจะได้ไหมคะ? ฉัน หมายความว่าส่งไปแค่ครึ่งเดียวได้ไหม เช่นเรื่องที่ หล่อนติดสินบนแค่บางส่วน หล่อนจะได้ไม่ต้องรับโทษ หนักถึงขนาดนั้นน่ะคะ?”

“ปยุตแปลกใจมาก”ทำไมคุณถึงอยากช่วยทัตดาขึ้น มากะทันหันซะล่ะ?”

“ชื่นใจมาหาฉันเมื่อตอนเย็น

ปยุตมีสีหน้าสงสัย “คุณบอกเธอไปอย่างนั้นหรือ?”

“เปล่าคะ ฉันไม่ได้บอกอะไรเธอ เป็นทัตดาเองที่ จับผิดลูกน้องของเธอได้ เธอเล่าให้ลูกชายกับลูกสะใภ้ ฟังเอง”
“ดังนั้นคุณจึงมาพูดแทนชื่นใจ?”

“ยังไงซะหล่อนก็คือแม่สามีของชื่นใจ เป็นแม่ของ ผู้ชายที่ชื่นใจรัก ไม่มีใครขอให้เธอทำแบบนี้หรอก ทัต ดาก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้ชายที่ชื่นใจรัก เธอถึงได้มา ขอร้องกับฉันแบบนี้น่ะ

อ่อ ปยุตเสียดสีอย่างเย็นชา “ช่างเป็นความรักที่ยิ่ง ใหญ่เหลือเกิน แต่ว่าคงเป็นไปไม่ได้

“ทำไมถึงไม่ได้คะ?”

“ผมยังต้องอธิบายเหตุผลให้คุณฟังอีกหรือ? ทัตดา เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของผม คนอื่นไม่รู้ไม่เป็นไร แต่ คุณก็ไม่รู้ด้วยอย่างนั้นหรือ?”

“ผลินกัดริมฝีปากตัวเอง”ฉันรู้แล้วคะว่าคุณเกลียดเธอ แต่เรื่องมันผ่านไปแล้ว คุณจะจองเวรจองกรรมกันไปถึง ไหนกัน? ตอนนี้ฉันก็กำลังตั้งท้องอยู่ พวกเรามีความสุข ดีอยู่แล้ว ฉันไม่หวังให้คุณใช้ชีวิตอยู่ด้วยความเกลียด ชัง พวกเราอยู่ด้วยกันแบบมีความสุขไม่ดีกว่าหรือคะ?”

“คุณคิดว่าคิดแบบนี้แล้วคนอื่นเขาคิดแบบคุณด้วย ไหมล่ะ? คนอย่างทัตดาไม่มีทางมานั่งขอบอกขอบใจ คุณหรอกนะ หล่อนจะหัวเราะเยาะคุณด้วยซ้ำว่าโง่สิไม่ ว่า”
“นั่นคุณก็คิดมากเกินไป หากคุณเอาหลักฐานทั้งหมด ส่งไป ทัตดาตายแน่ๆ แต่ถ้าคุณส่งเพียงแค่บางส่วนก็ เพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอไม่มีที่ยืนในเมือง B ได้ ทำ แค่นี้ก็มากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องบีบคั้นให้ใครหมด หนทางถึงขนาดนั้น”

“ตอนนี้หล่อนไม่มีที่ยืนในเมือง B แล้วต่อไปล่ะ? หากว่าหล่อนกลับมาแก้แค้นในภายหลัง จะทำอย่างไร กัน? สารพิษบางอย่างไม่จําเป็นต้องเก็บไว้หรอกนะ”

“หล่อนก็อายุมากขนาดนั้นแล้ว อีกหน่อยจะมีปัญญา อะไรมาสู้กับคุณ? ชื่นใจก็บอกแล้วว่า ขอเพียงคุณ ปล่อยหล่อนไปในครั้งนี้ เธอกับไวภพจะส่งหล่อนกลับ ไปอยู่ที่ฝรั่งเศสเป็นการถาวร ไม่ให้กลับมาที่นี่อีก”

“คุณก็ไปเชื่อคำพูดของพวกเขาอย่างนั้น? ตกลงคุณ อยู่ข้างใครกันแน่? ไม่แสดงจุดยืนที่ชัดเจนของตัวเอง เลยหรือยังไง?”

ปยุตชักไม่ค่อยพอใจขึ้นมาบ้าง

“ฉันเป็นคนของคุณฉันรู้ตัวเองดี แต่ก็เพราะฉันรู้จุดยืน ของฉันนะสิ ฉันถึงเกลี้ยกล่อมคุณไม่ให้ทำเรื่องเลวร้าย แบบนั้น คุณลองคิดดูสิว่า สมมติว่าคุณส่งทัตดาเข้าคุก ไปได้แล้ว ไวภพก็จะจงเกลียดจงชังคุณไปตลอด ชื่นใจ ซึ่งเป็นภรรยาของเขา อีกหน่อยจะไปมาหาสู่กับฉันได้ อย่างไร? เห็นทีมิตรภาพหลายปีของพวกเราคงต้องพังทลายลงเพราะการสู้รบด้านมืดของพวกคุณละมัง?”

“ตกลงคุณลงทุนต่อรองผมขนาดนี้เพื่อช่วยทัตดา เป็นเพราะชื่นใจ หรือว่าเพราะไวภพกันแน่?”

ผลินอึ้งไป ทันใดนั้นเธอโมโหผลักเขาทีหนึ่ง คุณ หมายความว่ายังไงจ๊ะ? ไม่รับปากก็ไม่รับปากสิ อย่า เฉไฉไปเรื่องอื่นได้ไหม!

เธออารมณ์เสียออกมาจากห้องหนังสือของเขา รู้อยู่ แล้วว่าเขาจะต้องเข้าใจผิดคิดว่าเธอมาขอให้ปล่อยทัต ดาไป เพราะไวภพเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลในการช่วย เหลือครั้งนี้

วันที่สอง ผลินนัดชื่นใจออกมา รู้สึกอึดอัดใจที่จะบอก เธอ ตัวเองพยายามเต็มที่แล้ว แต่ผลสุดท้ายน่าเสียใจ อย่างมาก

ชื่นใจสงบนิ่งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายจึงลุกขึ้นยืน กล่าวว่า “เอาละ ฉันรู้แล้ว ขอบคุณนะ

ตั้งแต่ต้นจนจบเธอพูดเพียงประโยคนี้ประโยคเดียว เท่านั้น พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเดินจากไป

ผลินจ้องมองเบื้องหลังของเธอผ่านกระจกใสทาง หน้าต่างของร้านกาแฟจนเธอเดินลับตาไป ในใจเต็มไป ด้วยอารมณ์หลายอย่างปะปนกัน จนไร้ซึ่งรสชาติ
เธอเดินอย่างเหม่อลอยไปตามถนน ทันใดนั้นใครคน หนึ่งปรากฏตัวตรงหน้าเธอ ถามคำถามที่ไม่คาดคิดมา ก่อน “กําลังคิดอะไรอยู่ล่ะ?”

เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอมองเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แล้ว อุทานออกมาด้วยความตกใจ ธรรศ?”

“ช่างโชคดีจริงๆ ที่คุณยังจำผมได้”

ผลินคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะได้เจอเขาที่นี่ ความขุ่นข้อง หมองใจที่มีอยู่ก็พลันสลายไป กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ที่ คุณพูดเมื่อกี้นี้หมายความว่าอย่างไร ทำไมฉันจะนําคุณ ไม่ได้ เราเป็นเพื่อนรักกันมานาน สนิทสนมกันดั่งญาติ ลืมใครก็ลืมได้แต่ไม่ใช่คุณแน่นอน

“ไปเถอะ ผมเลี้ยงข้าวคุณเอง”

ธรรศยังคงเหมือนเดิมเมื่อสองปีก่อน หล่อเหลา เอาการ ด้านหลังแบกกีต้าร์ตัวหนึ่งไว้ ผมยาวมากกว่า เดิมหน่อย แต่ยังคงเสน่ห์ของความงามตามธรรมชาติ

“คุณหายไปไหนมาตั้งสองปีล่ะ?”

ผลินอดไม่ได้ที่จะถาม

“ไปทั่วทุกที่แหละ เกือบจะรอบโลก”
“ร้องเพลงตลอดเลยหรือ?

“ใช่”

“มีครอบครัวหรือยังล่ะ?”

“ยังครับ”

“งั้นมีแฟนหรือยัง?”

“ก็ยังอีกนั่นแหละ

ผลินรู้สึกว่ามีอีกหลายอย่างที่ต้องการพูดกับเขา ทั้ง วันทั้งคืนก็ไม่มีวันจบ

“คุณกลับมาครั้งนี้คงไม่ไปไหนอีกใช่ไหม? คุณก็อายุ ไม่น้อยแล้วนะ ได้ยินลูกพี่ลูกน้องคุณบอกว่าพ่อของ คุณโกรธแทบตาย คุณเป็นเมล็ดพันธุ์เดียวในบ้าน แต่ พวกเขากลับไม่รู้ว่าคุณไปอยู่ที่ไหน”

“ขอคิดดูก่อนแล้วกัน อยู่ข้างนอกจนชินแล้ว กลับบ้าน ไปก็คงอยู่ได้ไม่นาน

ผลินแอบถามประเด็นส่วนตัวกับเขา“คุณกับ จันทร………งเกี่ยวข้องกันไหม?”

ดวงตาของธรรศฉายแววแห่งความเศร้าออกมา ส่ายหน้าเปล่าครับ”

“งั้นคุณรู้ไหมว่าเธออยู่ที่ไหน?”

“ไม่ทราบครับ” เขาพูดเสริมไม่ได้ติดต่อกันนานมาก แล้ว”

“ยังชอบเธออยู่ไหม?”

เขาหัวเราะเยาะตัวเอง ชอบตอนแรกพบเขา หลังจาก นั้นไม่ชอบแล้วครับ”

ผลินถอนหายใจด้วยความอึดอัด”เมื่อก่อนจันทรเป็น คนยังไงนะ ทำไมทั้งคุณและปยุตผู้ชายที่โดดเด่นทั้ง สองคนถึงได้หลงเสน่ห์เธอได้?”

“คำสองคำทั่วๆไป”

“สองคำไหนล่ะ?”

“ทีแรกเป็นเทวดา ต่อมาเป็นปิศาจ”

“สามารถเปลี่ยนจากเทวดากลายเป็นปิศาจได้ไม่ใช่ เรื่องง่ายเลยนะ ไม่รู้ว่าเธอจะกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ ไหม”

“คงไม่ได้แล้วล่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ