ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

บทที่ 107 การต่อสู้กับจันทร



บทที่ 107 การต่อสู้กับจันทร

บรรยากาศในร้านน้ำชานั้นช่างมืดมน ทัตดาคิดถึงอดีต ที่แย่ของเธอ ความโกรธเป็นเหมือนไฟป่าที่ไม่สามารถ ควบคุมได้

ดนชายกถ้วยเซรามิคขึ้นก่อนที่จะจิบเบา ๆ”ฉันไม่รู้ว่าเธอ ตั้งใจจะเข้ามาใกล้ชิดลูกสะใภ้ของฉันด้วยจุดประสงค์อะไร แต่ฉันต้องเตือนเธอ ว่าอย่าได้มีความคิดที่จะทำให้แตกแยก เพราะความสัมพันธ์ของลูกชายกับลูกสะไภ้ของฉันนั้นดีพอ สมควร ไม่ใช่ว่าใครอยากจะทําลายก็สามารถจะทำลายได้

“ดี? ฮ่า ๆ ช่างน่าขำเสียจริง แล้วมันยังไง ฉันกับธามันก็ มีความสัมพันธ์ที่ดีพอสมควรไม่ต่าง แล้วผลเป็นยังไง มัน ไม่ได้ถูกทําลายโดยบางคนที่มีเจตนาร้ายหรอกเหรอ”

“เธอยังคิดว่าธามันชอบเธออยู่อีกเหรอ คําพูดคงทำให้ เธอเสียใจ แต่เขาไม่เคยรักเธอเลย ไม่แม้แต่วินาทีเดียว ฉันต้องต่อสู้อย่างเจ็บปวดกับการยอมรับความรักของเขา จนท้ายที่สุดก็ไม่อาจหลีกหนีจากความรักไปได้ ในขณะที่ เธอก็เป็นพี่สาวที่ดีของฉัน”

“เธอหมายถึงว่าเธอเคยรู้สึกผิดเหมือนกันงั้นเหรอ ถ้ามี จิตสำนึกอย่างที่เธอพูดจริง แล้วเธอเปิดบังฉันเรื่องที่แอบ ไปมีอะไรกับคู่หมั้นของฉันได้ยังไง ตอนเธอแต่งงานเธอตั้ง ครรภ์มาตั้งห้าเดือนแล้ว เธอถูกอะไรกระตุ้นล่ะ”

ดนชาวางถ้วยชาลง ถอนหายใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเราคงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ฉันจะไม่นัดเธอออกมาอีก เชื่อว่า เธอ เองก็ไม่ต้องการที่จะเจอฉัน งั้นก็แค่นี้ละกัน เราก็ใช้ชีวิตใคร ชีวิตมันไป แล้วพบกันใหม่”

“ฉันเกรงว่าจะไม่เป็นอย่างที่เธอต้องการนะ ฉันมีลาง สังหรณ์ ว่าต่อจากนี้ชีวิตของเธอน่ะจะยอดเยี่ยมมาก

ทัตดาวาดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย ก่อนจะหยิบ กระเป๋าและก้าวออกไป

เมื่อดนุชากลับมาบ้านก็รู้สึกเศร้ามาก กลับไปที่ห้องเพื่อ พักผ่อน ไม่ได้ลงมาทานอาหารข้างล่าง ผลินมาที่ห้อง ของ แม่สามี เคาะประตูห้อง เมื่อได้รับอนุญาตจากแม่สามีก็ผลัก ประตูเข้าไปข้างใน

“คุณแม่คะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า ทำไมคุณแม่ถึงได้ พักผ่อนเร็วจังล่ะคะ”

เธอนั่งอยู่ข้างเตียงของแม่สามี และสอบถามราย ละเอียด

คุณนายท่านส่ายหน้า ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ บางทีมันอาจ เป็นเพราะปัญหาเก่าน่ะ ฉันคงจะดีขึ้นถ้าได้นอนสักพัก”

“แล้วคุณแม่อยากทานอะไรไหมคะ เดี๋ยวฉันไปเอามาให้ คุณแม่นะคะ”

“ไม่อยากทานอะไรหรอกจ้ะ เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกตัวเองน่ะทานเยอะ ๆ เถอะ ช่วงนี้น่ะเธอดูไม่ค่อยดีเลยนะ”

“ค่ะ ฉันไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”

“แล้วคุณพ่อล่ะจ๊ะ”

“คุณพ่อออกไปข้างนอกตั้งแต่ช่วงบ่ายยังไม่กลับค่ะ คุณ แม่ต้องการให้ฉันโทรหาคุณพ่อให้ไหมคะ”

“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ถ้าเขากลับมาบอกให้เขาขึ้นมาข้างบน หน่อยก็แล้วกันจ้ะ”

“ได้สิคะ”

ผลินพยักหน้าเบา ๆ คลุมผ้าห่มให้แม่สามี แล้วจึงออก ไปเงียบ ๆ เดินไปยังประตู

เมื่อลงไปข้างล่าง น้องสะใภ้ก็ถามว่า “พี่สะใภ้คะ คุณ แม่เป็นอะไรเหรอคะ”

“บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรน่ะค่ะ”

“ฉันไปดูหน่อยดีกว่า”

“อ้อ อย่าไปเลย คุณแม่เพิ่งหลับไปน่ะค่ะ”

เธอจับแขนของน้องสามีเอาไว้และกังวลเล็กน้อย แต่ว่า ยังไม่ได้ทานอะไรเลย ไม่รู้ว่าคืนนี้จะหิวหรือเปล่า”
“แน่นอนว่าต้องหิว พีสะใภ้คะคุณทำอาหารเป็น ทำโจ๊กถ้ว แดงสิคะ คุณแม่ของฉันท่านชอบโจ๊กถั่วแดงที่สุด”

“แต่ท่านบอกว่าท่านไม่อยากทาน

“ไม่อยากทานตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากทาน ตลอดไปนี่คะ ทันทีที่คุณพ่อกลับมาเล่าเรื่องตลกให้ท่าน ฟัง นวดขานวดเอว เดี๋ยวก็อยากทานค่ะ”

ผลินครุ่นคิด”ได้ค่ะ”

เธอเดินเข้าไปในห้องครัว ผูกผ้ากันเปื้อนและเริ่มต้น โจ๊กถั่วแดง น้องสามีมองด้วยความอิจฉา“พี่สะใภ้คะ ไม่ แปลกใจเลยที่คุณแม่ฉันชอบคุณมาก คุณเก่งจังค่ะ เข้าห้อง ประชุมได้ แล้วก็มาเข้าห้องครัวได้ โชคดีที่ฉันไม่ ต้องการ ที่จะเป็นคนโปรดของคุณแม่สามีนะ ไม่งั้นวันนี้ต้องเศร้ามาก แน่เลย”

“ไม่มีอะไรที่ผู้หญิงไม่สามารถทำได้หรอกค่ะ การมีทักษะ การทำอาหารที่ดีอย่าคิดว่ามันเป็นเพียงแค่เพื่อเอาใจ พ่อ แม่สามีนะคะ ในความเป็นจริงการเรียนรู้ทักษะการทำอาหาร ที่ดีหมายถึงการมัดใจผู้ชายที่ดีด้วย มีคำพูดหนึ่ง ได้กล่าไว้ อยากจะมัดใจชายก็ต้องมัดกระเพาะอาหารก่อนจริง”

ปาณีคิ้วขมวด“มันก็มีเหตุผลค่ะ แต่แล้วยังไงล่ะ ก็ฉัน ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการทำอาหารเลย แล้วจะมีวิธีอะไรที่จะ ให้ ฉันไปมัดใจชนัยของฉันได้กันล่ะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดียวเอาไว้วันหน้าฉันว่างๆจะสอนคุณ

เอง”

“ได้เลยค่ะได้เลย”เธอกระโดดดีใจอย่างปีติยินดียิ่ง

“อย่าดีใจเร็วเกินไปค่ะ ทำอาหารก็เหมือนการเรียน มหาวิทยาลัย ถ้าไม่มีใจและไม่มีความอดทนก็เป็นเรื่องยาก ที่จะเรียนรู้นะคะ”

“ไม่ต้องห่วงค่ะพี่สะไภ้ เพื่อชนัยของฉัน ถึงจะต้องไปบุก น้ำลุยไฟฉันก็จะไม่ลังเลเลย”

“โอเคค่ะ ถ้าตั้งใจก็ดีแล้ว”

ผลินตบไหล่น้องสามีและหันกลับไปทำต่อ

โจ๊กยังไม่ทันสุก พ่อสามีก็กลับมา เธอรีบวิ่งไปที่ห้องนั่ง เล่น และพูดอย่างรีบร้อน“คุณพ่อกลับมาแล้วเหรอคะ”

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

ธามันเลิกคิ้วอย่างสงสัย

“คุณแม่รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะค่ะ ไม่ได้ทานข้าวเย็นด้วย ตอนนี้ นอนอยู่ข้างบนค่ะ”

“นึกถึงปัญหาเก่า ๆ อีกแล้วเหรอ”
“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นค่ะ คุณพ่อรีบไปดูเถอะคะ ฉันทา โจ๊กให้ท่านแล้ว เดี๋ยวก็เสร็จค่ะ”

“โอเค”

ธามันพยักหน้าแล้วรีบขึ้นไปข้างบน

สิบนาทีต่อมา ผลินก็ทำโจ๊กเสร็จ เธอตักใส่ชามใหญ่ และนำอีกสองถ้วยเล็กใส่ไว้ในถาด เตรียมที่จะขึ้นไปข้างบน

ปาณีได้กลิ่นข้าวต้มก็สูดดมกลิ่น“ว้าว พี่สะใภ้คะคุณ ทำได้อย่างที่ฉันคิดเลย มันทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น จริง ๆ”

เธอเอื้อมมือไปหยิบผักเครื่องเคียงเข้าปาก”อร่อยจังเลย ค่ะ”

ผลินถลึงตาใส่เธอที่ทำตามใจ “ถ้าอยากทานในหม้อมี อีกนะคะ อย่าทำแบบนี้สิ

“จริงเหรอคะ คุณทำเผื่อฉันด้วยเหรอ”

“แน่นอนค่ะ น้องแมวตะกละ”

“เย้ พี่สะไภ้ ฉันรักคุณที่สุดเลย

เธอรีบวิ่งเข้าไปในครัว ผลินแย้มยิ้ม แล้วถือถาดขึ้นไป

ข้างบน
ก้าวเดินไปหยุดที่หน้าประตูห้องนอนของแม่สามี กำลัง ยกมือขึ้นเคาะประตู ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันออกมาจาก ข้าง ใน

“ทำไมคุณถึงต้องไปพบเธอ คุณคิดว่าเธอกลับมาเพราะ ผมงั้นเหรอ”

นั่นเป็นเสียงของพ่อสามี

“ไม่ใช่เพราะคุณแล้วมันเป็นเพราะฉันหรือไง คุณกล้าดียัง ไง ถึงได้บอกว่าคุณไม่รู้ว่าทัตดากลับมาเพราะอะไร

“แล้วคุณไม่รู้หรือไง ผมอยู่กับคุณมาความรู้สึกทั้งหมดคุณ ก็รู้ดีกว่าใคร ผมไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากคุณ”

“คุณเลิกโกหกได้แล้ว มีบางอย่างที่ฉันไม่ได้พูดก็ไม่ได้ หมายความว่าฉันไม่รู้ ว่าคุณได้เคยทำอะไรเอาไว้เมื่อครั้ง เป็นหนุ่มคณรู้ดีอยู่แก่ใจตัวเอง!”

“ผมทําอะไร”

“คุณอยากให้ฉันพูดออกมานักใช่ไหม ได้ งั้นฉันจะพูดตรง ๆ เลยแล้วกัน เรื่องอังคณาคุณจะอธิบายกับฉันว่ายัง ไง!!”

ผลินที่กำลังตั้งใจฟัง ทันใดนั้นก็ถูกแตะที่ไหล่ มือของ เธอสั่นอย่างตกใจจนโจ๊กที่กำลังร้อนเกือบตกลงสู่พื้น

หันกลับไปอย่างนึกอาย เห็นว่าคนที่แตะไหล่เธอคือปยุต สีหน้าก็แย่ขึ้นทันที”คุณทําอะไรเนีย มาลับ ๆ ล่อ ๆ อะไร!”

ปยุตพูดอย่างไร้อารมณ์ “ผมทำลับ ๆ ล่อ ๆ หรือว่าคุณ กันแน่ที่ทำลับ ๆ ล่อ ๆ คุณมาทำอะไรที่หน้าประตูของพ่อ แม่ ผม”

เธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากแล้วยกถาดในมือขึ้น “ฉันเอามาให้คุณแม่ทาน

“แล้วทำไมไม่เอาเข้าไปให้ทานอย่างเปิดเผย มาแอบฟัง คนอื่นพูดเหมือนแมวขโมย นี่คือสิ่งที่ครูควรทำหรือ ไง”

“พวกเขากำลังทะเลาะกัน”

“ไม่ว่าจะพูดคุยธรรมดาหรือว่าทะเลาะกัน คุณก็ไม่ควรทำ พฤติกรรมที่ไม่ดีใช่ไหม”

ผลินกลอกตา รู้ว่าตัวเองผิดจึงไม่เถียงกับเขา ยกมือ ขึ้นและเคาะที่ประตู ร้องถามออกมา “คุณพ่อคุณแม่คะ ฉัน เข้าไปได้ไหม”

“เข้ามาสิ”

เสียงของพ่อสามีตอบรับกลับมา

“คุณแม่คะ ฉันทำโจ๊กถั่วแดงมาให้คุณแม่ค่ะ คุณแม่รีบ ทานในขณะที่มันยังร้อนสิคะ”
เมื่อไปที่เตียงก็ตกใจมาก แม่สามีนั่งอยู่ตรงนั้นพร้อม กับมีนําตาในดวงตาของเธอ เธอรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา เช็ด“คุณแม่คะ อย่าร้องไห้นะคะอย่าร้อง มีอะไรก็พูดกันดี ๆ เถอะนะคะ”

ปยุตตามเข้ามาแล้วกระซิบถามพ่อ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ ครับ”

“ไม่มีอะไร

คุณท่านเวทนส่ายหน้ากับน้ำเสียงหงุดหงิด

ปยุตเดินไปที่เตียง“คุณแม่ครับ เกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ถามเขาสิ ที่หลายวันมานี้กลับบ้านดึกน่ะเพราะอะไร คิด ว่าฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น แต่จริง ๆ แล้วฉันรู้อยู่เต็มอก!”

ผลินหัวใจเต้นแรง คิดกับตัวเองว่า คุณพ่อสามีที่อยู่ใน วัยนี้แล้วก็ยังมีชู้อย่างนั้นเหรอ

“ผมพูดยังไงคุณก็ไม่เข้าใจเหรอ ผมมีเพื่อนเก่าที่กลับมา จากต่างประเทศและไปดื่มด้วยกันก็เท่านั้น”

“ดื่มเหรอ คุณไม่ดื่มมาตั้งนานแล้ว อยู่ดี ๆ มาดื่ม เพิ่งอยาก ดื่มหรือไง คุณคิดว่าฉัน ดนุชาคนนี้มันโง่มากใช่ ไหม”

คุณนายท่านโกรธจนหยิบหมอนขึ้นมาปาใส่ โดนเข้าที่ ใบหน้าซีกขวาของธามัน แว่นตาของเขาพลันตกลงพื้น
ผลินทีได้เห็นก็ตกตะลึงด้วยความกลัว จนพูดอะไรไม่ ออกไปนาน

“คุณนี่มันไม่มีเหตุผลเลยนะ!”

ธามันเต็มไปด้วยความโกรธ หยิบหมอนบนพื้นขึ้นมา และเดินออกจากห้องพร้อมกับเสียงพูดไปด้วย คืนนี้ผมจะ นอนในห้องพักแขก คุณอยากจะสร้างปัญหาอะไรก็เชิญ!

เมื่อเขาไปแล้ว ดนุชาก็เริ่มร้องไห้ ผลินรีบปลอบใจ”คุณ แม่อย่าร้องนะคะ คู่รักทะเลาะกันมันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่ เหรอ คุณพ่อรักคุณแม่มากนะคะ จะไม่มีทางทำสิ่งที่ทำให้ คุณแม่เสียใจแน่นอนค่ะ”

“หนูลิน เธอรู้อะไรไหม ผู้ชายที่ดูเหมือนจะดูแลเธอดีน่ะ ในความเป็นจริงเพียงเพราะรู้สึกว่าตัวเองทำไปเพื่อ ชดเชย ความผิดพลาดก็เท่านั้น แม้แต่ผู้ชายที่ซื่อสัตย์ก็มีช่วงเวลาที่ น่าสงสัย พ่อสามีของเธอเป็นตัวอย่างที่ดี ที่สุด

ผลินค่อนข้างตกใจ คุณพ่อคงไม่ทำแบบนั้น…

“ทำไมจะไม่ ฉันรู้จักเขาดีกว่าเธอนะ ผู้ชายคนนั้นไม่ ได้เป็นคนดีอย่างที่คิดหรอก ลูกชายของฉันเองฉันก็จะ ไม่ ช่วยเขาพูด หนูลินเธอต้องจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิดนะ หากว่าชะล่าใจ ถึงเวลานั้นมันก็สายเกินไปแล้ว”

ด้านปยุตที่เงียบอยู่นั้นไม่สามารถยืนนิ่งได้อีกต่อไป เขา ถลึงตาจ้องมอง”คุณแม่ คุณแม่จะพูดเรื่องตัวเองกับคุณพ่อก็พูดไปสิครับ คุณแม่อิจฉาหรือไงทีผมกับลูกสะใภมิ ความสัมพันธ์ที่ดีกันเกินไปน่ะ”

“ฉันช่วยฝ่ายที่มีเหตุผลไม่ช่วยญาติ”

คุณนายท่านเช็ดน้ำตาของเธอ พูดกับลูกสะใภ้อีกครั้ง ว่า“เชื่อในสิ่งที่แม่พูดนะ ผู้ชายน่ะไม่จริงจังหรอก ปีแรกที่ ตา ยุดเข้ามหาวิทยาลัย เขาตามพ่อไปงานเลี้ยง คืนนั้นพอดื่ม แล้วก็ไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงขี้เมา”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ