ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 158 ต้งครรภ์แทน(2)



ตอนที่ 158 ต้งครรภ์แทน(2)

ชื่นใจจ้องมองพื้นอย่างปากแข็ง ไม่มีการแก้ตัว แม้ว่าจะ หัวใจจะรู้สึกคับข้องใจ เธอจะไม่บอกไวภพ เพราะพวกเขา ดูถูกความสัมพันธ์ของเธอกับเขา

“ครูชื่น เข้ามาที่ห้องของผม!

ไวภพ วาดด้วยสีหน้าหมองคล้ำ หันหลังแล้วเดินออก

ไป

ผู้หญิงคนนั้นที่กองอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นมา ชื่นใจมอง เธอด้วยความโกรธ จากนั้นจึงยกเท้าและเดินออกไป

ยืนอยู่ในห้องทำงานของครูใหญ่ ชื่นใจก้มหน้าลงและ

ไม่พูดไม่จา นั่นทำให้ไวภพจ้องมองเธอเหมือนปีศาจ

“ไม่มีอะไรจะอธิบายให้ผมฟังเหรอ”

“ฉันพูดอะไรไปคุณคงไม่เชื่อหรอกค่ะ”

ไวภพเลิกคิ้ว “คุณยังไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วคุณรู้ได้ยัง ไงว่าผมจะไม่เชื่อ

“ท่าทีของคุณบอกทุกอย่างแล้ว”

หึ เขายิ้มอย่างไร้อารมณ์ ลุกขึ้นและเดินไปหาเธอ “คุณ คิดว่าผมไม่รู้เหรอว่าทำไมคุณถึงทะเลาะกับพวกเขา ไม่ใช่ว่ามันเกียว กับการแต่งงานกับผมหรือไง”

ชื่นใจเงยหน้าขึ้น พูดอย่างตัดพ้อ “ถ้าคุณรู้อยู่แล้ว แล้ว ทำไมยังใจร้ายกับฉัน”

“ถ้าผมช่วยพูดให้คุณในอนาคตคุณจะลำบากกว่านี้นะยัย

โง!”

เขาจิ้มไปที่หน้าผากของเธออย่างแรง แล้วชี้ไปที่โซฟา “ไปนั่งตรงนั้น”

ชื่นใจหันเดินไปนั่งลงบนโซฟา ทำตัวเหมือนมัมมี่ ไม่มี

การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวใด ๆ

ไวภพนำกล่องยาขนาดเล็กมา แล้วนั่งลงข้างเธอ ค่อย ๆ เช็ดฆ่าเชื้อรอยขีดข่วนที่เธอได้รับอย่างอ่อนโยน แล้วเพิ่ม น้ำยาอีกเล็ก น้อย

“ไม่คิดเลยว่าคุณจะทำแบบนั้น จนครูจรรยาตาเขียวไป

ข้าง”

ชื่นใจเงียบ

“เธอเป็นแค่ครูฝึกหัด คุณไม่ต้องเอาความรู้และ ประสบการณ์ไปแลกกับเธอ ผมจะจัดการเธอเอง”

ชื่นใจยังคงไม่พูด
“อย่าหุนหันพลันแล่นอีก ผลกระทบที่ตามมามันไม่เป็น ผลดี”

ไวภพเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรจึงก้มหน้าลง เห็นดวงตา ของ นใจเต็มไปด้วยน้ำตา ทันใดนั้นหัวใจก็พลันอ่อนยวบ เขาถอนหายใจ และไม่พูดอะไรอีก ยื่นมือออกไปดึงเธอเข้า มาโอบกอดเพื่อให้เธอคลายใจลง นี่เป็นครั้งแรกที่ไวภพมี ความคิดอยากจะโอบกอด ชื่นใจ ทันทีที่ได้พักพิงไหล่เขา น้ำตาของชื่นใจก็หลั่งรินออกมาจากดวงตา

ผลินใช้เวลาทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดก็ยอมรับกับตัวเองใน ข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถยอมรับได้ เธอตัดสินใจ เปิดใจพูดคุ ยกับปยุต

ตกค่ำ ปยุตอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา ผลินนั่งอยู่บน โซฟาและกวักมือเรียกเขา “คุณยุต คุณมาตรงนี้หน่อยค่ะ ฉันมีบางอย่าง จะบอกกับคุณ”

ปยุตเช็ดคราบนําบนเส้นผมด้วยผ้าขนหนู และเดินไปหา เธอ “บอกอะไร

“มาฉันเอง”

เธอเอาผ้าขนหนูจากเขา กดเขาลงบนโซฟา จากนั้นก็ แทนที่ด้วยการเคลื่อนไหวที่อ่อนโยน

“คุณยุต ที่จริงแล้วคุณอยากเป็นพ่อคนใช่ไหม”
ปยุตชะงักไป ถามขืนเงียบ ๆ อยู่ดี ๆ พูดเรื่องนี้ขึ้นมา

ทำไม”

“ก็แค่คิด ว่าถ้าคุณต้องการที่จะเป็นพ่อ ฉันก็จะช่วยคุณ

ปยุตดูเหมือนจะมีลางสังหรณ์บางอย่าง หันกลับไปหา และจับแขนเธอไว้ “คุณหมายถึงอะไร

“คุณพ่อคุณแม่บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขากำลังมอง หาคนตั้งครรภ์แทนเพื่อให้คุณมีลูก”

“ไร้สาระ!”

ปยุตสะบัดมือเธอทิ้งด้วยความโกรธ “นี่มันเป็นเรื่องไร้ สาระ อย่าบอกนะ ว่าคุณไม่มีปัญหากับมัน

ผลินอดกลั้นความเจ็บปวดในหัวใจ พูดออกมาอย่างยาก ลำบาก “ฉันสัญญาไปแล้ว”

ปยุตดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ ตวาดออกมาฉับ พลัน “สมองคุณมีปีศาจอยู่เหรอ ทำไมคุณถึงสัญญาไปแบบ นั้น เราไม่ ได้ตกลงกันแล้วเหรอ ว่าจะอุปการะเด็กน่ะ!”

“ใช่ที่ตกลงกันแล้ว แต่พ่อแม่ไม่เห็นด้วย แล้วฉันจะทำ ยังไงได้”

“พวกเขาไม่เห็นด้วยก็เรื่องของพวกเขา ตราบใดที่ผม เห็นด้วยก็ไม่มีปัญหา คุณอยู่กับผมนะ ไม่ได้อยู่กับพวกเขา!”
“แต่ฉันไม่สามารถทำมันได้ ฉันไม่สามารถคิดแค่ความ สุขของตัวเองโดยที่ไม่กังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้อื่นได้”

“ดังนั้นก็เลยจะยอมทิ้งความภาคภูมิใจในตัวเองงั้นเห รอ”

ผลินปิดหน้าร้องไห้ “มันเป็นวิธีเดียวที่ฉันสามารถรักษา ชีวิตคู่เอาไว้ได้ ตราบใดที่ได้อยู่กับคุณปยุต ไม่ว่าจะรู้สึกผิด หรือเจ็บ ปวดมากแค่ไหน อะไรคือความภาคภูมิใจในตัวเอง ฉันบอกคุณไปแล้ว ในชีวิตของผลิน เจริญมาศ ความภาค ภูมิใจในตัวเองเป็น สิ่งที่ไร้ค่าที่สุด”

ปยุตเห็นเธอร้องไห้อย่างขมขื่น แต่ก็ไม่ได้ใจอ่อน แถม บอกเธออย่างชัดเจนว่า “ผมไม่สามารถจะยอมรับมันได้ แน่นอน”

“งั้นก็หย่ากัน”

ผลินเงยใบหน้าที่ร่ำไห้น้ำตาร่วงหล่นดั่งเม็ดฝนดอก สาลี่ “ฉันไม่สามารถแบกรับการสืบทอดตระกูลทรัพยสานได้ เมื่อตายไป แล้วก็ไม่มีหน้าจะไปพบบรรพบุรุษตระกูลทรัพย สานได้หรอก”

ปยุตมองเธอด้วยความตกใจ พูดด้วยเสียงสั่นเทา “คำว่า หย่าที่คุณพูดออกมา มันออกจากปากได้ง่ายขนาดนี้เลยเห รอ”

“คำพูดพวกนี้ไม่มีคำไหนเลยที่พูดไปแล้วจะไม่เหยียบยำหัวใจตัวเอง แต่เมื่อคุณมาอยู่ในตำแหน่งอย่างฉัน คุณจะ รู้ว่าฉันไม่ สามารถทำอะไรได้เลย”

ดวงตาของผลินเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ตอนนี้ชีวิต เธอในทุก ๆ นา และทุกๆ วินาทีคือความเจ็บปวดและความ ทุกข์ทรมาน เธอกำลังจะถูกความเป็นจริงอันโหดร้ายกลืน กิน

ปยุตเข้าใจความเจ็บปวดของหัวใจเธอ และเข้าใจแรง กดดันของเธอ เขาโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน “ลิน เราไม่ ต้องเดินบนเส้น ทางที่เลวร้ายแบบนั้น ตอนนี้การแพทย์ กำลังพัฒนา เราสามารถใช้ไข่และสเปิร์มของเราเองให้ผู้ อื่นให้กำเนิดลูกของเราแทน ได้

ผลินร้องไห้และส่ายหน้า “มันไม่มีประโยชน์หรอก ฉันก็ เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ความเป็นจริงก็ทำลายความคิด นั้น”

“ทําไมถึงไม่มีประโยชน์”

“คุณแม่สอบถามคำแนะนำจากหมอ Adiana เพื่อนสนิท ชาวอเมริกันมาแล้ว ยาที่ฉันทานไม่เหมาะสำหรับการสกัด ไข่นอกมดลูก เพื่อการปฏิสนธิ มันสำหรับเฉพาะการตั้ง ครรภ์ในมดลูกของตัวฉันเองเท่านั้น”

คิดถึงในวันนั้น ที่แม่สามีบอกข่าวร้ายกับเธอ หัวใจของ เธอเจ็บปวดเกินกว่าจะบรรยายได้ ยาทุกชิดมีผลข้างเคียง ขณะที่เธอกิน ยาตะวันตก ไข่ที่ถูกฉีดเข้าไปจะเปราะบางมาก เหมือนเด็กที่อาศัยอยู่กับแม่มาเป็นระยะเวลานานกว่า สิบปี เมื่อจู่ ๆ ต้องเปลี่ยน สภาวะแวดล้อม ก็จะไม่สามารถ ปรับตัวได้

“งั้นเรารออีกหน่อย เมื่อคุณได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถมีเด็กได้

“แล้วถ้ามันรักษาไม่ได้ล่ะ”

ปยุตชะงักไป “ถ้ารักษาไม่ได้เราก็ค่อยใช้วิธีนั้น”

“พูดไปพูดมาก็ต้องยอมรับอยู่ดี คุณพ่อบอกว่าคุณอายุ สามสิบปีแล้ว ผู้ชายอายุขนาดนี้หากยังไม่มีลูกจะถูกดูถูก ฉันรอได้ แต่ ฉันไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นดูถูกคุณได้ ฉัน ไม่ต้องการให้คนอื่นนินทาลับหลังคุณ ว่าคุณแต่งงานมา นานแล้วแต่ก็ยังไม่มีลูก เสียที”

“ผมไม่สนใจหรอก ผมไม่สนใจว่าใครพูดยังไง!”

“แต่ฉันสนใจ ฉันแคร์สิ่งที่คนอื่นพูดเกี่ยวกับคุณ

ผลินสะอึกสะอื้น “คุณยุต ฉันอยากจะขอร้องให้คุณ ยอมรับ ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับฉัน แต่มันไม่เป็นที่รู้กันว่า ฉันจะสามารถ รักษาอาการนี้ได้ วันคืนผ่านไปวันแล้ววันเล่า ความเครียดของฉันก็หนักขึ้นทุกวัน บางทีการมีเด็กมากมาย ในบ้านหลังนี้อาจจะ เป็นสิ่งเดียว เด็กที่มีเลือดเนื้อเชื้อไข ของคุณปยุต ทรัพยสาน ฉันจึงจะสามารถหายใจได้ ฉันจะ ไม่ต้องมีความรู้สึกผิดในหัวใจ…
หน้าผากของปยุตเกิดเส้นเลือดสีเขียวปูดโปน และจู่ ๆ เขาก็ไม่พูดอะไร หันหลังแล้วเดินออกไปจากห้องนอน ก้าว ลงชั้นล่าง

“พวกคุณต้องบังคับจนลินตายก่อนใช่ไหมพวกคุณถึงจะ พอใจ!”

ยืนอยู่ข้างล่างในห้องนั่งเล่น ปยุตโวยวายถามพ่อแม่ อย่างเดือดดาล คุณนายท่านหน้าซีดเผือดรีบอธิบาย ตายต ใจเย็นหน่อย พวกเรา

“ให้ภรรยาของผมมาพยายามที่จะโน้มน้าวให้ผมไปมีลูก กับผู้หญิงอื่น คุณจะให้ผมใจเย็นได้ยังไง คุณรู้ว่าเธอไม่มี ทางเลือก ยัง บังคับให้เธอตกลง คุณไม่มีจิตสำนึกเลยเหรอ ตอนที่ผมเกลียดสิ่งที่น่ารังเกียจที่คุณทำกับพ่อแม่ของจันทร คนที่ทำทุกอย่าง เพื่อพาผมกลับบ้าน ให้ผมเลิกเกลียดพวก คุณ จนตอนนี้คุณได้ลูกชายของคุณกลับมาอีกครั้ง แต่กลับ ไม่กังวลกับความรู้สึกของ ลูกสะใภ้ นี่คือหลักการความเป็น มนุษย์งั้นเหรอ!”

“พวกท่านไม่ได้บังคับฉัน”

ผลินไล่ตามลงมาข้างล่าง ยืนอยู่ข้างหลังปยุต ร้องไห้ สะอึกสะอื้น

“ฉันเต็มใจที่จะยอมรับมันเอง อย่าโทษใครอีกเลยนะ”

“คุณไม่ต้องพูด!”
ปยุตตวาดด้วยความโกรธ ยังคงถามพ่อแม่ “มันสำคัญ มากนักเหรอที่ต้องสืบทอดวงศ์ตระกูล มันเป็นสิ่งสำคัญจน สามารถ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของผู้อื่นด้วยเท้าได้เลยงั้นเหรอ เป็นเด็กอุปการะแล้วยังไง ใครเป็นคนกำหนดว่าเด็กต้อง เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข

“ถ้าไม่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ก็ไม่ใช่ครอบครัว เมื่อไม่ใช่ ครอบครัว มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่กับเรา

ธามันโต้แย้งเสียงดัง

“อยากให้ผมออกจากบ้านอีกครั้งงั้นเหรอ”

“แม้ว่าแกจะออกจากบ้านหลังนี้ไป จุดยืนของฉันก็จะไม่ เปลี่ยน ฉันยอมยกอะไรให้ก็ได้ แต่แค่เรื่องนี้เท่านั้น ไม่มี ทางที่ฉันจะ เปลี่ยนจุดยืน

“ไม่มีลูกชายแล้ว คุณจะใช้จุดยืนอะไรของคุณได้อีก”

“ถ้าไม่มีลูกชายให้สืบสกุลก็ไม่ต้องสืบ แต่ตราบใดที่ยังมี ลูกชาย ฉันก็จะไม่อนุญาตให้รับอุปการะเด็กที่ไม่มีเลือดเนื้อ เชื้อไข!”

ธามันเคร่งขรึม เป็นครั้งแรกที่ต่อสู้กับลูกชาย

“งั้นจากนี้ไป คุณก็ไม่ต้องมีลูกชาย!”

ปยุตหันเดินจากไป ธามันแผดเสียง “ถ้าแกกล้าที่จะก้าวออกไปจากบ้านหลังนี้ ฉันก็จะตัดแกออกจากธุรกิจของ ครอบครัว!”

เมื่อผลินได้ยินคำพูดของพ่อสามี หัวใจก็เต้นแรง เธอวิ่ง เข้าไปขวางหน้าของปยุต และเอ่ยคำขอร้อง “คุณยุต อย่า ไปเลย ความ โชคร้ายทั้งหมดของคุณเกิดขึ้นเพราะฉัน ถ้า ต้องสูญเสียทุกอย่างเพราะฉันอีก ชีวิตนี้ฉันก็คงจะไม่มีวัน ได้สบายใจอีกแล้ว…”

“ทรัพย์สินครอบครัวสำหรับผมน่ะ มันไม่ได้หายากเลย”

ปยุตสะบัดมือเธอออกแล้วก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ ทันใด น้นคุณ ยท่านก็ล้มลงกับพื้น “คุณแม่!…”

“ดนุชา!…”

เสียงร้องของความตื่นตระหนกทำให้ปยุตทนไม่ไหว หัน หลังเดินกลับไป ทุกคนล้อมรอบบีบนวดคุณนายท่าน จาก นั้นจึงกรอก ยาเข้าไปในปากของเธอ หลังจากที่บีบนวดไม่ นาน ในที่สุดคุณนายท่านก็ตื่นขึ้นมาจ้องมองลูกชายด้วย ความอ่อนแรง และกล่าว ว่า “ถ้าแกออกไปจากบ้านหลังนี้ อีกครั้ง ฉันก็จะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป…”

ปยุตกำมือแน่น ทันใดนั้นก็ตะเบ็งเสียงคำรามดั่งสัตว์ร้าย “ได้ ผมตกลง ถ้านั่นคือสิ่งที่พวกคุณต้องการ งั้นก็ตกลงทำ แบบนั้นไป เลย!”

เขาจ้องมองผลินอย่างเชือดเฉือน หันหลังและเดินออกจากบ้านไปด้วยความโกรธ

ผลินหมอบลงกับพื้นและร้องไห้อย่างขมขื่น เห็นปยุต เศร้าโศกเสียใจ แล้วหัวใจของเธอจะรู้สึกดีขึ้นงั้นเหรอ เธอ ในตอนนี้ เป็น คนที่เศร้าโศกเสียยิ่งกว่าใครทั้งหมด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ