ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่87 ร่างกายใกล้ แต่หัวใจไกล (2)



ตอนที่87 ร่างกายใกล้ แต่หัวใจไกล (2)

ผลินหันหลังกลับไปดูช้าๆ ดวงตาฝ้ามัวที่ปะปนไปทั้ง น้ำตาและน้ำทะเลมองเห็นร่างคนหนึ่งริมชายหาดไม่ค่อย ชัดเจน คนนั้นพุ่งมา ขว้าตัวเธอไว้ เธอตกตะลึงชั่วขณะ มุ่ง หน้าเดินต่อไป เสียงจากด้านหลังก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ น้องสาว ถ้าต้องการคิดสั้นแล้วพาผมไปด้วยได้หรือไม่”

ผลินตกตะลึงขึ้นอีกครั้ง มองเห็นร่างคนเมื่อครู่นี้โดด มาถึงตัวเธอแล้ว เธอหันหลังกลับมาและเช็ดคราบ น้ำตาบริเวณหางตา ในที่สุดก็มองเห็นคนที่ร้องเรียกเธอ ก็คือ ชายขอทานคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าขาดวิ่น อายุราว 60ปี บางทีคงเป็นเพราะสาเหตุของความอดอยาก เขาจึงผอมโซ จนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก

“ท่านลุง คุณคิดจะทำอะไร”

เธอสอบถามด้วยน้ำเสียงก้าวร้าว

“คิดสั้น คุณคิดสั้นไม่ใช่เหรอ ช่วยพาผมไปด้วยซิ ผมอยากตายหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ว่าทุกครั้งผมไม่มี ความกล้าเอาเสียเลย วันนี้เห็นน้องสาวโดดลงน้ำอย่าง กล้าหาญ คิดที่จะอาศัยความกล้าหาญของน้องสาวทำให้ ความคิดที่อยากตายของผมได้สำเร็จเสียที”

“ทําไมคุณถึงอยากตายล่ะคะ”

“เพราะว่าผมอดอยากหิวมาก ขอทานคนนั้นชี้ไปที่ร่างกายและพูดอีกว่า “คุณเห็นผมใส่เสื้อผ้าขาดวิ่นอย่างนี้ ก็เป็นขอทานนี่เอง วันอากาศไม่ดีก็หาของกินไม่ได้ หิวจน แทบทนไม่ไหว สู้ตายไปซะจะดีกว่า”

ผลินคลากระเป๋าเสื้อ นึกได้ว่าไม่ได้นำเงินออกมาด้วย ด้วยความตื่นตระหนก ดึงตุ้มหูที่มารดามอบให้เธอไว้ “ชิ้น นี้คุณเอาไปเถอะ สมควรจะขายได้ราคาพอควร อย่ามา กับฉันเลย”

ขอทานพยักหน้าและรับตุ้มหูลองชั่งน้ำหนักในมือ พูด อีกว่า “ไม่ได้หรอก ตุ้มหูชิ้นนี้เพียงให้ผมมีชีวิตได้อีก แค่10กว่าวันเท่านั้น หลังจากสิบวันผ่านไปผมจะทำยังไง อีกล่ะ ผมยังคงฆ่าตัวตายดีกว่า”

ผลินเริ่มที่จะหงุดหงิด “คุณคิดที่จะตายใช่มั้ย หรือว่า

เมื่อก่อนคุณมีชีวิตที่ดีกว่านี้”

“ชีวิตเมื่อก่อนอัปยศมากกว่าวันนี้เสียอีก เพียงแต่ว่า เมื่อก่อนไม่เคยคิดสั้นเพื่อหนีปัญหา แต่ว่าวันนี้อยาก ตาย”

“ในเมื่อเมื่อก่อนไม่มีความคิดแบบนี้ แต่เพราะอะไร วันนี้กลับคิดจะตายซะล่ะ นับได้ว่าสามารถประคองชีวิต ให้รอดไปวันๆได้ ก็จงใช้ชีวิตต่อไปให้ดี คนที่ไร้ทางออก หลังจากสิบวันไปแล้วไม่แน่ว่าจะต้องอดยากซะมื่อไหร่ คุณสามารถนำตุ้มหูไปขายเพื่อซื้อลอตเตอรี่ บางทีอาจถูก รางวัลหลายสิบล้าน ตั้งแต่นี้ต่อไปก็สามารถมีชีวิตที่ดี ขึ้น สามารถมีชีวิตอยู่ถึงอายุร้อยปี ท่านลุงโปรดอย่าให้ชีวิตของตนเองต้องมาหยุดอยู่แค่หกสิบปีเลย

ขนทานคนนั้นได้ยินก็หัวเราะเสียงดังพูดว่า “คำพูด เตือนสติของน้องสาวกลับพูดได้ดีมาก อย่างนั้นตนเอง เหตุใดถึงยังจะฆ่าตัวตายอีกล่ะ ผมสามารถประคองวิตมา ได้ดีจนถึงอายุหกสิบปีแล้ว น้องสาวปัจจุบันอายุเท่าไหร่ เรื่องอะไรถึงต้องสิ้นหวังจนมาถึงจุดที่จะต้องคิดสั้นอย่างนั้น

“ผลินได้ยินคำถามถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก นิ่งอยู่ครู่ หนึ่ง เธอจึงทิ้งความคิดที่จะฆ่าตัวตาย พูดกับขอทานคน นั้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า “ขอบคุณลุงมาก คุณเป็นคนดีคน หนึ่ง”

“ฮ่าฮ่า ผมไม่อยากเป็นคนดีอะไรหรอก แก่ปูนนี้แล้ว เป็นคนดีมันกินไม่อิ่มท้อง คนบาปกลับมีชีวิตได้อย่าง อิสระ”

“จากนี้ต่อไปหากคุณลุงหิวเมื่อไหร่ ไปที่คฤหาสห์นภา ตามหาฉันได้ เพียงลุงบอกชื่อของฉันก็พอ ฉันชื่อผลิน นะคะ”

ขอทานยิ้มเล็กน้อยพยักหน้ารับคำได้ครับ น้องก็ เป็นคนดีเหมือนกัน”

ผลินถึงกับสะอึกจนพูดไม่ออก เธอเป็นคนดี แต่ อย่างไรก็ตามเป็นคนดีก็มีบางครั้งที่จะเป็นคนเลวได้เช่นกัน
“อย่างนั้นฉันไปก่อนล่ะ รักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ”

“ครับ คุณก็เช่นกันรักษาสุขภาพด้วย”

ผลินเดินมาไม่กี่ก้าวก็หันหลังกลับทันที พูดกล่าว คำขอโทษว่า ท่านลุง กรุณาคืนตุ้มหูอันนั้นคืนให้ฉันได้ หรือไม่คะ”

“อ่า

ทำไมล่ะ

ผมหิวจะตายอยู่แล้ว”

“นั้นเป็นของล้ำค่าสิ่งเดียวที่แม่ของฉันมอบให้ เมื่อครู่ใน ใจทั้งหมดคิดแต่อยากตาย คิดว่าจะมีหรือไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ว่าเวลานี้…

“ฮ่าฮ่า คืนให้คุณ”

ผมเข้าใจ

ผมเข้าใจแล้ว เอาตุ้มหูนี้ผม

ชายขอทานนําตุ้มหูคืนให้เธอถึงมือ ผลินเห็นร่างกาย ผอมโซของเขา ในใจก็นึกสงสารจึงพูดขึ้นว่า “ลุงกลับไป พร้อมฉันดีกว่า ฉันจะกลับไปหยิบเงินให้ลุง

“ไม่ต้องครับ เวลานี้จิตใจของน้องสาวใช่ว่าจะดีซักเท่า ไหร่ ผมค่อยไปหาคุณที่บ้านวันอื่นดีกว่าครับ”

“อย่างนั้นก็ดีคะ”

หลังจากผลินได้เอ่ยคำบอกลา ตัวของเธอก็เดินหาย ไปในความมืด และหลังจากที่ชายขอทานยิ้มที่มุมปากอย่างโล่งใจก็มุ่งหน้าเดินลับหายไปอีกทางทันที

กลับมาถึงบ้าน พ่อแม่สามีตกใจอย่างมาก มองเห็น สะใภ้เนื้อตัวเปียกโชกยังกับลูกหมาตกน้ำ นายท่าน เวทนถึงกับประหลาดใจ แต่ว่านายหญิงใหญ่กลับพอจะรู้ สาเหตุที่เกิดขึ้นพอเลาๆ

เธอเดินขึ้นห้องไปอย่างร่างไร้วิญญาณ ขังตัวเอง ไว้ในห้อง แม่สามีเดินตามเธอขึ้นมา ยื่นมือไปลูบที่ ใบหน้าของเธออย่างเอ็นดูแล้วพูดว่า “เขารู้เรื่องแล้วใช่

มั้ย”

“อืม”

ผลินน้ำตาไหลมาเสียก่อนจะพูด

“เธอคิดจะทำอย่างไรต่อไป

“หนูไม่รู้คะคุณแม่ หนูไม่รู้ว่าเวลาควรจะทำเช่นไร

“รับปากกับฉัน จะต้องหนักแน่นมั่นคง ถ้าเวลานี้ล้ม เลิกเสียแล้ว ก็จะต้องเลิกล้มไปโดยสิ้นเชิง “

“หนูจะหนักแน่นคะ แต่เขาไม่แน่ว่าจะยกโทษให้หนู

เขาเกลียดหนูเข้ากระดูกดำซะแล้ว”

“เธอต้องยิ่งรักเขาให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร

ขึ้นก็ตาม ความรักนั้นเองเป็นวิธีบรรเทาความโกรธที่ดีที่สุด”

ความรักเป็นวิธีบรรเทาความโกรธที่ดีที่สุด คำพูด ประโยคนี้ ผลินเห็นด้วยและปฏิบัติตามคำพูดที่มีชื่อคำนี้ ที่สุด เธอสามารถใช้ความรักบรรเทาความโกรธของคนอื่น แต่ว่าความโกรธแค้นที่สุมอยู่เต็มอกของเธอ ใครบ้างที่จะ ช่วยเอบรรเทาลงได้”

เหมือนที่เธอคาดเดาไว้ไม่ผิด คืนนี้ปยุตไม่กลับมาที่

บ้าน เธอนั่งรอทั้งวันทั้งคืนคนเดียว ครุ่นคิดมากมาย จาก นั้นในที่สุดตัดสินใจเหมือนกับที่แม่สามีพูดไว้ ใช้ความ รักช่วยบรรเทาความโกรธเคืองในใจของปยุต

เธอโทรศัพท์ไปหาเขา โทรศัพท์ปิดเครื่อง เธอจึง ได้เดินทางมาพบเขาที่บริษัท กลับได้รับการแจ้งว่า หาก ไม่ได้รับการอนุญาตจากท่านประธานแล้ว เธอไม่สามารถ เข้าไปได้

ปยุตใช้พฤติกรรมของเขาประกาศกร้าวถึงความคิดของ เขาในตอนนี้ ผลินกลับไปอย่างสิ้นหวัง ช่วงเย็นหลังจาก เลิกงาน

เธอมาที่ประตูบริษัทอีกครั้ง คิดที่จะดักรอเขา แต่ว่ารอ จนเวลาผ่านไปสองโมงเต็ม ไม่เห็นปยุตออกจากบริษัท

โชคยังเข้าข้างเธอ เธอพบชนัยกำลังเดินออกมา

“นายหญิง กำลังรอท่านปยุตหรือครับ”

ชนัยสอบถามเธอ

“อืม เขาเลิกงานแล้วหรือยัง”

“คุณไม่ต้องรอแล้วครับ ท่านปยุตออกจากบริษัทไป ตั้งแต่ บ่ายสามโมงแล้วครับ

“ไปที่ไหนเหรอ”

“นี้ผมไม่รู้ครับ อย่างไรก็ตามเวลานี้เป็นวันที่เขาเสียใจ มากที่สุดวันหนึ่ง ” ชนัยมองดูผลินด้วยสายตาบอกความ นัย “ บางทีคุณสมควรให้เวลาเขาอยู่เงียบๆสักช่วงหนึ่ง เถอะ”

ผลินพยักหน้ารับคำอย่างหมดหวัง หันหลังกลับเดิน จากไปด้วยความเสียใจ แต่ด้านหลังของเธอ กลับมี ดวงตาคู่หนึ่งเฝ้ามองดูเธอจากที่สูงอย่างเย็นชา

ภายใน Royal Roseไนท์คลับที่เต็มไปด้วยความสนุก ครื้นเครง ปยุตกับครัณและอีกหลายคน นั่งอยู่ในห้องวีไอ พีเล่นเกมส์ทายมือดื่มสุรา (เกมมือMorra) เพื่อนๆแต่ละ คนไม่พบความผิดปกติในแววตาที่เย็นชาของเขาแม้แต่น้อย ณัฏฐ์ยังร้องเรียกเสียงดังออกมาว่า “เรียกสาวๆ เรียกสาวๆ ออกมาดูตัวหน่อยซิ ได้ยินมาว่าเร็วนี้มีสาวสวยชุดใหม่เข้า มาหลายคน

บริภุตพูดสําทับอีก อารมณ์ดีจริงๆ ไม่มีเด็กใหม่แล้ว

ล่ะก็ พวกเราเตรียมย้ายไปที่อื่นแน่ๆ
ผู้จัดการดูแลห้องวีไอพีไม่นานนักก็เรียกหญิงสาว หน้าตาสะสวยงดงามเข้ามาห้าคน พูดอย่างนอบน้อมว่า “นายท่านทุกคน ผมนำหญิงสาวมาเป็นที่เรียบร้อย หญิง สาวทุกคนล้วนเป็นสาวหน้าใหม่เพิ่งเรียนรู้งาน ทุกท่านถน ถนอมพวกเธอด้วยนะครับ”

ดรัณขบเขี้ยวฟันพูดว่า “วางใจเถอะ

น้องๆทั้งหลายต้องตกใจหรอก”

ผู้จัดการเดินออกไป ชายสี่คนก็เดินไปเลือกหญิงสาว ที่ตนเองพอใจ เหลือหญิงสาวอีกหนึ่งนางยืนบิดไปบิดมา ยุตตรงนี้”

บริภุตจึงบอกเธอด้วยสายตาว่า “รีบไปนั่งกับนายท่านป

หญิงสาวนางนั้นไม่รู้จักปยุตคือใคร มองเห็นแต่ละ คนมีหญิงสาวคอยบริการอยู่แล้ว จึงเดินไปนั่งกับชายท่าน หนึ่งที่ไม่มีใครคอยดูแล

ปยุตเอาแต่ดื่มสุราฝ่ายเดียว ไม่แยแสสนใจหญิงสาวที่ นั่งอยู่ข้างๆ เด็กสาวคนนั้นบางทีเป็นหญิงสาวที่มาใหม่ จริงๆ ไม่รู้วิธีเข้ามาตีสนิทบริการให้กับเขา ผ่านไปพัก ใหญ่ เขาจึงเหลือบตาไปมองเธอแล้วพูดว่า “ทำอะไรถึง จ้องมองผมตลอดเวลา”

หญิงสาวคนนั้นตกใจจึงรีบก้มหน้าทันที กุมสองมือไว้ ตอบกลับด้วยท่าทางอึดอัดว่า “ผู้จัดการพูดว่า นั่งข้างๆ แขกแล้วต้องเฝ้ามองแขกตลอดเวลา”

จะไม่ทําให้
ปิดดดด…….

ณัฏฐ์ถึงกับสำลักเหล้าพ่นออกจากปาก “ไอ้ตัวดูด คนนี้มาได้ยังไง”

เลือดนั้นมันมีความสามารถมาก ไปหาหญิงสาวที่ใสซื่อ

ไอ้ดูดเลือดก็คือเจ้าของ Royal Rose ไนท์คลับ เขาอย่างติดตลกว่าไอ้ดูดเลือด

เพราะว่าเงินทองที่ได้มาล้วนเป็นเงินไม่ดี พวกเขาจึงเรียก

“ผู้จัดการของพวกเธอมีบอกพวกเธอหรือไม่ ทำอย่างไร ถึงจะเป็นที่พอใจของแขก”

หญิงสาวคนนั้นส่ายหน้าพูดว่า

“อย่างนั้นต้องการรู้เคล็ดลับมั้ย”

ปยุตใช้มือโอบไปที่เอวของเธอ ขยับตัวเธอจนเข้ามา แนบชิดติดตัว ใช้สายตามองเธอด้วยท่าทีลึกลับพูดว่า เป็น ยังไง ผมรูปหล่อหรือไม่”

“อืม”

“อย่างนั้นเธอชอบฉันมั้ย”

“ชอบคะ…..”

“ถ้าผมช่วยเหลือเธอให้ออกไปจากที่นี่ เธอจะดูแลฉันอย่างสุดจิตสุดใจตลอดไปได้มั้ย”

“ได้คะ”

“ฝีมือการแสดงไม่เลวทีเดียว”

ปยุตหัวเราะเยาะมือที่โอบเอวเธอไว้ทันใดนั้นเลื่อน ไปบีบคอของเธอแล้วพูดว่า “ฉันเคยเจอหญิงสาวที่หลอก ลวงมากกว่าเธอหลายเท่า ดังนั้น อย่าได้มาแสร้งทำ เป็นใสซื่อ”

หญิงสาวตกใจถึงกับร้องไห้หลังจากถูกท่าทีคุกคามเอา แน่เอานอนไม่ได้ ดรัณรีบเข้าดึงมือของเขาออกจากคอ ด่าเขาอย่างโกรธเคืองว่า “ทำอะไรลงไป เมื่อครู่ผม ได้รับปากกับผู้จัดการว่าจะไม่ทำให้สาวๆเหล่านี้ต้องตกใจ คุณจะทำให้ผมต้องมองหน้าเขาไม่ติดอย่างนั้นเหรอ”

ปยุตทำเสียงฮึๆอย่างเย็นชาว่า “ไม่สมควรเมตตากับผู้ หญิงที่หน้าซื่อใจคด มิฉะนั้นแล้ว พวกเธอจะถือโอกาสใน เวลาที่คุณไม่ทันระวัง ผลักคุณตกลงไปในเหวลึกอย่างไม่ ลังเล

แต่ละคนต่างมองหน้ากัน สงสัยและไม่เข้าใจในคำพูด และการกระทำของเขา แต่ว่าไม่มีแม้สักคนเดียวคิดจะซัก ถามให้เข้าใจในคำพูดของเขา

ผลินยืนอยู่ข้างหน้าต่างห้องนอนด้วยใจห่อเหี่ยว ปาณี

เคาะประตูและเดินเข้ามาหา
“พี่สะใภ้ ยังติดต่อพี่ชายของฉันไม่ได้ใช่มั้ย

“อืม” เธอพยักหน้าอย่างหมดหวัง

“ฉันมีเบอร์โทรศัพท์เครื่องใหม่ของพี่ปยุต คุณลอง โทรศัพท์ติดต่อดูซิคะ”

ผลินจ้องมองดูน้องสะใภ้อย่างประหลาดใจ “เธอเพราะ อะไรถึงได้….

“ฉันไปขอมาจากชนัยคะ ชนัยดีต่อฉัน นอกจากฉันแล้ว ไม่มีใครจะสามารถให้เขาหักหลังพี่ชายของฉันได้”

เมื่อปาณีพูดถึงชนัยก็แสดงสีหน้าหญิงสาวที่มีความสุข ผลินเองก็คิดว่าตนเองนั้นก็เคยมีความสุขเช่นนี้มาก่อน ถึง อย่างไรก็ตามความสุขนั้นก็เพียงแค่ชั่วคราว พลันจิตใจของ เธอเศร้าหมองขึ้นทันที เธอบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของป ยตแล้ว รอจนกว่าน้องสะใภ้ออกจากห้อง โทรศัพท์ไปหา ด้วยใจเป็นกังวล

ใช้เวลาพักใหญ่ถึงจะต่อสายติด เสียงดังอึกทึกในสาย มีเสียงตอบรับว่า “ฮัลโหล

เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอดจึงพูดว่า “ฉันเอง ผลิน พวกเรา…” พูดออกมาแค่สองคำ ยังไม่ทันได้พูดอะไร ออกมา ถูกตัดสายทิ้งทันที ดูไปแล้วปยุตยังคงเย็นชา ห่างเหิน เธอคุกเข่าล้มลงกับพื้นอย่างเสียใจ
ครูใหญ่ เธอลุกขึ้นสวมเสื้อนอกวิ่งออกไปข้างนอกใน ทันที ในใจคาดเดาว่าปยุตคงจะสังสรรค์อยู่ที่ Royal Rose ไนท์คลับเพราะว่าเมื่อครู่ในสายโทรศัพท์เธอแอบได้ยิน เสียงเอะอะโวยวายของดรัณ

มาถึง Royal Rose ไนท์คลับ สอบถามเล็กน้อยกับผู้ ดูแล ถึงได้รู้ว่าปยุตอยู่ที่แห่งนี้จริงๆ เธอสงบสติอารมณ์ เตรียมตัวเตรียมใจที่จะถูกเขาตัดสัมพันธ์ ผลักประตูเข้าไป แต่ละคนที่เห็นเธอเดินเข้ามาถึงกับตกตะลึง ยกเว้นปยุต เท่านั้น

“คุณผลิน คุณมาได้อย่างไร คงไม่ใช่มาตรวจงาน หรอกนะครับ”

บริภุตพูดหยอกเย้า

เธอไม่ตอบคำถามใดๆ เดินไปยืนต่อหน้าปยุต พูด

อย่างหนักแน่นว่า “พวกเราคุยกันได้มั้ย

“ออกไปให้พ้น

ปยุตไล่ตะเพิดเธออย่างไร้เยื่อใย แต่เธอก็ได้เตรียมตัว

เตรียมใจแต่เนิ่นๆแล้ว ก็ไม่ยอมลดละไปง่ายๆ พูดต่ออีกว่า “นั้นก็คุยกันที่นี่เถอะ

เธอชำเลืองตาไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายปยุตพูด

ว่า “เชิญเธอออกไปได้มั้ยคะ”
เด็กสาวคนนั้นตกใจกลัวในท่าที่ดุดันของเธอ กำลังจะ ลุกขึ้น ปยุตกลับดึงตัวเธอไว้แล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้อนุญาต ใครก็ไม่มีสิทธิที่จะไล่เธอไปไหน” จากนั้นก็หันไปทาง ผลินพูดต่ออีกว่า “คนที่สมควรจะออกไปคือเธอ”

ถึงเวลานี้ ดรัณและคนอื่นๆก็คงคาดเดาสถานการณ์ได้ ในทันที พวกเขาล้วนได้กลิ่นระเบิดกำลังคุกรุ่น ลุกขึ้น พูดเกือบจะพร้อมกันว่า “พวกเรายังมีธุระจะต้องทำ ขอตัว ก่อนครับ ทั้งสองมีเรื่องอะไรก็ค่อยๆคุยกันนะครับ”

ณัฏฐ์ ใช้สายตาสะกิดสั่งเด็กสาวคนนั้น หญิงสาวคน นั้นก็เดินตามพวกเขาออกไปอย่างหวาดกลัวลนลาน

ภายในห้องวีไอพี เหลือเพียงพวกเขาสองคน ผลิน กำลังคิดจะนั่งลงเพื่อพูดคุยกับปยุตอย่างเปิดอก เขากลับ ลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน ออกไปจากห้องวีไอพีโดยไม่หัน หลังกลับ

น้ำตาของผลินครู่เดียวก็ไหลออกมา โกรธเกลียดเธอ มากขนาดไหนกันแน่ แค่วินาทีเดียวก็ให้เธอไม่ได้

เธอสูดหายใจลึกๆวิ่งออกไป ด้านหน้าประตูไนท์คลับ ปยุตกับดรัณและอีกหลายคนไม่รู้ว่ากำลังพูดคุยอะไรกัน ผลินจึงเดินตามหารถของปยุต ยืนรอข้างรถของปยุต ผ่าน ไปครู่หนึ่ง เขาพูดคุยเสร็จก็เดินมาข้างรถ เปิดประตูรถยนต์ เข้าไปโดยไม่มีแม้แต่ชำเลืองตามองเธอ สตาร์ทเครื่องขับ รถยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว
ผลินเห็นดังนั้นก็รีบรุดโบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง คนขับรถว่า “รีบตามรถคันนั้นไป เร็วๆ”

พูดขับ

รถยนต์ติดไฟแดง รถยนต์ทุกคันหยุดนิ่งสนิท ผลิน

มองเห็นไฟแดงราวกับสีเลือดแทงเข้ามาในตาของเธอ ใน ความทรงจำพลันคิดถึงวันนั้น ปยุตคิดว่าเธอถูกรถชนจริงๆ ออกคำสั่งเธออย่างโกรธเคืองว่าจากนี้ต่อไปไม่อนุญาตให้ ขึ้นแท็กซี่ฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็เปิดประตูลงจากรถยนต์

“เว้ย

น้องสาว

คุณทำอะไร

คนขับรถแท็กซี่ร้องเรียกอย่างตกตะลึง แต่เธอกลับทำ

เป็นไม่ได้เสียงและเดินต่อไปข้างหน้า เร่งฝีเท้าจนผ่าน

ข้างรถยนต์ของปยุต และไปหยุดยืนกลางถนน

รอจนเมื่อสัญญาณไฟเขียว เธอยืนหลับตาก้าวไป

ขวางทางรถยนต์โดยไม่กลัวความตายอย่างเด็ดเดี่ยว เธอ เดิมพันอีกครั้ง มอบชีวิตของตนเองเดิมพันกับความรัก

เพียงเพื่อคำพูดคำนั้นของปยุต “ คิดว่าผมจะเสียใจ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ