ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 193 ลึกล้าดั่งมหาสมุทร



ตอนที่ 193 ลึกล้าดั่งมหาสมุทร

หลังจากที่ผลินกับนานต์กลับไปที่โรงแรม เธอพูดด้วย ใบหน้าเศร้าหมองว่า “ฉันจะไม่อยู่ที่นี่ คุณให้คนอื่นมา จัดการแทนแล้วกัน”

ให้เหตุผลกับผมที่ไม่อยากอยู่หน่อยได้ไหม นอกจากการ ดูแลป้าของคุณ”

“ทําไมคุณต้องให้ฉันอยู่ มีชาวต่างชาติที่เหมาะสมตั้ง หลายพันคนในบริษัทจินเยวไม่ใช่หรือไง”

“เวทิดา ความร่วมมือครั้งนี้สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นผมหรือ คุณปยุต ถ้ามันสำเร็จ เราจะสามารถเจาะตลาดต่างประเทศ ได้ ในช่วงแรกของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทุกขั้นตอนจะ ถูกเก็บไว้เป็นความลับ ถ้าให้คนอื่นมาจัดการ แล้วความ ลับของบริษัทถูกเปิดเผยจากถูกซื้อโดยบริษัทอื่น ความ พยายามทั้งหมดจะสูญเปล่า และอีกอย่างที่ผมพูด คุณเป็น คนเดียวที่สามารถเป็นตัวแทนของผมได้ ไม่มีใครที่ดีกว่า คุณในการให้คำแนะนำเสนอแนะ

“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันจะไม่ถูกซื้อ บางทีอาจมีใครมายื่น เสนอเงื่อนไขที่ทำให้หัวใจของฉันเต้น ไม่มีใครไม่ชอบ เงิน!

ฮ่า ฮ่า นภนต์หัวเราะออกมาอย่างไม่คาดคิด “ถูกต้อง ไม่มี ใครไม่ชอบเงิน งั้นคุณจะแต่งงานกับผมไหม มันดีกว่านะ ที่จะแต่งงานกับผมมากกว่าที่จะขายความลับของบริษัทขายความลับได้แค่เช็คหนึ่งใบจํากัดจํานวนเงิน แต่ถ้าคุณ แต่งงานกับผม คุณจะได้รับเช็คไม่ระบุจํานวนเงิน และเป็น เช็คที่เบิกเงินเกินบัญชีได้ไม่จํากัด เป็นไง คิดได้แล้วหรือ ยัง”

ผลินวิงเวียนศีรษะ เรื่องความรู้สึกถูกดึงขึ้นมาอีกครั้งได้ยัง ไง ดวงตาทั้งสองข้างของเธอกลอกไปมา “ฉันไม่คิด! แล้ว ถ้าฉันลาออกล่ะ

“เอาสิ ถ้าคุณลาออกผมก็จะติดตามคุณทั้งวันเหมือนเงา คุณไปทํางานที่ไหนผมก็จะบอกคนอื่นว่าคุณเป็นคนของผม เพื่อให้พวกเขาไม่จ้างคุณ หากว่าคุณใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ได้คุณยังจะลาออกอีกไหม”

“คุณมันตาทราม!

แต่เดิมผลินก็มีไฟสุมอยู่แล้ว ยิ่งมาถูกนภนต์คุกคามก็ยิ่ง คลั่ง

“คุณด่าผมว่าต่ำทรามเหรอ คุณต้องการให้ผมแสดงให้ เห็นใช่ไหมว่าอะไรคือความหมายที่แท้จริงของคำว่าต่ำ ทราม”

เมื่อนภนต์พูดจบก็ก้มลงมาจะจูบเธอ เธอถอยหลังด้วย ความรู้สึกสับสน พูดด้วยความหดหู่ใจว่า “เอาล่ะ หยุดกวน ได้แล้ว คุณป้าของฉันต้องการคนดูแลจริง ๆ”

เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “คุณใช้เวลาทั้งวันเพื่อเหตุผลเดียวไม่มีอย่างอื่นเลย คุณไม่สามารถหาเหตุผลอื่นได้แล้ว เหรอ”

“นั่นไม่ใช่เหตุผล มันเป็นความจริง”

ทันทีที่คำพูดจบลง โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น เมื่อ เห็นว่าเป็นป้าโทรมา เธอกดรับทันที “ฮัลโหล คุณป้าคะ?”

“ยัยลิน ไปทริปธุรกิจสองวันเป็นยังไงบ้าง”

“อืม ฉันสบายดีค่ะ แล้วคุณล่ะ

“ป้าก็สบายดีเหมือนกัน ประธานนภนต์จัดคนดูแลให้ป้า มา ดูแลป้าอย่างดี เธอไม่ต้องเป็นห่วงป้านะ ทำงานที่นั่นให้ดี มันเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะตอบแทนความเมตตาทั้งหมดของ ประธานนภนต์”

“คุณป้า!!”

ผลินดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่เคยคาดคิดว่า นภนต์จะชิงลงมือก่อนเป็นต่อ จัดการกับป้าของเธอ!

“เอาล่ะ งั้นแค่นี้นะ เธอดูแลตัวเองด้วย ฉันวางสายแล้ว”

“ฮัลโหล คุณป้าคะ ฮัลโหล ๆ รอเดี๋ยวสิคะ” ๆ

ทีปินาวางสายโทรศัพท์ก่อนที่หลานจะพูดจบ นภนต์เดิน อย่างภาคภูมิใจมาตรงหน้าผลิน “เป็นไง เหตุผลเดียวไม่มีแล้ว ยอมจำนนเถอะ”

ผลินสูดลมหายใจลึก ๆ สามครั้งเพื่อระงับความโกรธ “คุณ มันเหี้ยมโหด”

เธอเดินไปที่ห้องของเธอด้วยความโกรธ นภนต์ตามเธอ ไป “โธ่ แค่สองสัปดาห์ ไม่ได้จะให้คุณอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต ถ้ามันทำให้คุณต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต ผมก็คงไม่ยอม หรอก”

“ไม่แน่ว่าฉันอาจจะอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต!

ผลินเข้ามาในห้อง กระแทกประตูปิด นมนต์ถูกปฏิเสธไว้ หน้าประตู

เช้าวันรุ่งขึ้น นภนต์กำลังจะกลับไปเมือง F ก่อนที่จะไป เขามาส่งผลินไปให้บริษัทรักผลิน พูดกับปยุตว่า “ประธาน ปยุตครับ ผมทิ้งผู้ช่วยของผมไว้ให้ คุณต้องดูแลเธออย่างดี นะครับ”

ปยุตพยักหน้าแผ่วเบา “ได้ครับ ผมจะดูแลให้

“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ มีหลายสิ่งที่รอให้ผมกลับ ไปแก้ไข ถ้าว่างเมื่อไหร่แล้วผมจะกลับมา

“ผมจะไปส่งคณ

นภนต์หันมาหาผลิน กระซิบว่า “อย่าโกรธเลยนะ เมื่อความร่วมมือนี้ประสบความสำเร็จ ผมจะให้เครดิตกับคุณ คุณ จะได้รับการชดเชยอย่างดี”

“หายากจริง ๆ สําหรับการชดเชยของคุณ”

ผลินยังโกรธมาก

“เอาล่ะ ผมต้องไปแล้ว ยิ้มให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ คุณเป็น แบบนี้ผมก็ไม่สบายใจนะ

นภนต์เล่นโกง “ยิ้มหน่อยไม่ได้เหรอ เร็ว ยิ้มหน่อยครับ พวกท่านประธานปยุตกำลังมองอยู่นะ

ผลินมองขึ้นไปยังปยุต จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่ามันมาจากจิตวิทยาหรือ อย่างไร มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนให้นกนต์ “โอเคหรือยัง”นภนต์ ภูมิใจ พยักหน้าถี่ “โอเค ๆ รอยยิ้มทำกระดูกผมกรอบหมด แล้ว”

“รีบไปเถอะ”

“อืมผมไปแล้ว ดูแลตัวเองด้วย”

ปยุตยืนอยู่ที่ประตู มองดูพวกเขากระซิบกันเงียบ ๆ ไม่ ปรากฏอะไรบนใบหน้า แต่ในใจเต็มไปด้วยระลอกคลื่น

เมื่อส่งนภนต์กลับไปแล้ว ปยุตกลับไปที่ออฟฟิศ เห็นผลิน นั่งอยู่บนโซฟา ภายในใจมีร่องรอยของอารมณ์ที่ซับซ้อน ตรงไปข้างหน้า “ตามผมมา
ผลินตามเขาไปที่สำนักงาน ซึ่งอยู่บนพื้นที่เดียวกัน ทันที ที่ประตูเปิดออก มีสิบคนนั่งอยู่ข้างใน ปยุตแนะนำ “นี่คือ ตัวแทนของคู่ค้าคุณเวทิดา เธอจะร่วมมือกับพวกคุณในการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในอีกสองสัปดาห์ หวังว่าทุกคนจะ เข้ากันได้ดี มุ่งมั่นสามัคคีในการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิด ผลลัพธ์ที่ดี”

ปยุตชำเลืองมองเธอ “พูดสั้น ๆ สักสองประโยคสิครับ”

ผลินคำนับอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะทุกคน ดีใจที่ได้เป็นหุ้น ส่วนกับพวกคุณค่ะ มีอะไรที่ไม่เข้าใจกรุณาแสดงความคิด เห็นเพิ่มเติมได้เลยนะคะ”

แปะ ๆ ๆ เสียงปรบมือดังขึ้นภายในห้องประชุม ปยุตกล่าว ต่อว่า “นี่เป็นทีมวิจัยและพัฒนาพิเศษทีมใหม่ของเราก่อน ที่จะประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ แผนกจะถูกกันไว้ต่างหากดังนั้นนอกจากคุณและเพื่อนร่วม งานที่นี่ คนอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสำนักงานของ คุณ และเช่นกัน คุณไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับ การพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้แม้เพียงครึ่งประโยค

“เข้าใจแล้วค่ะ”

ผลินแสร้งทำเป็นพยักหน้าอย่างใจเย็น

“งั้นก็เริ่มงานได้ ผมจะมาคุยกับพวกคุณเป็นครั้งคราว

หลังจากที่ปยุตไปแล้ว ผลินมองไปยังเพื่อนร่วมงาน ไม่มีใครที่เธอรู้จัก และไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ มันเป็น ปรากฏการณ์ที่ดีสําหรับเธออย่างไม่ต้องสงสัย อย่างน้อย เธอก็สามารถทํางานที่นยนต์มอบหมายให้สําเร็จลุล่วงใน ฐานะเวทิตา

ผลินย่งทั้งวัน ในตอนเย็นหลังเลิกงาน วารีมาที่สํานักงาน วิจัยและพัฒนา “คุณเวทิดาคะ ประธานปยุตของพวกเราให้ มาเชิญคุณค่ะ”

เมื่อผลินเผชิญหน้ากับวารี ที่จริงแล้วมันค่อนข้างรู้สึก สับสนวุ่นวาย เพราะผู้หญิงคนนี้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ

“ได้ค่ะ”

เธอเก็บของ แล้วถือกระเป๋าไปที่ห้องทํางานของประธาน บริษัท ยืนอยู่ที่โต๊ะของปยุต เธอถามอย่างไร้อารมณ์ “คุณ ให้ฉันมาที่นี่ทําไม

“คุณพักอยู่ที่โรงแรมใช่ไหม

“ใช่”

“งั้นคุณก็ย้ายออกมา มีอพาร์ตเมนต์ใกล้ ๆ บริษัทของเรา มันมีไว้สำหรับตัวแทนของลูกค้า”

“ไม่เป็นไร ฉันอยู่โรงแรมน่ะดีแล้ว”

“ตอนนี้การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นเพียงการวางรูปแบบ ประมาณอีกสามวันคุณต้องทํางาน กทุกคืน คุณอยู่ใน โรงแรมมันไม่สะดวกสําหรับคุณหรอก”

ผลินครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วจึงยอมรับข้อเสนอของเขา

อพาร์ตเมนต์ของลูกค้าหางเพียงห้านาทีหากเดินจาก บริษัท สภาพไม่ได้แย่ไปกว่าโรงแรม หลังจากที่ผลินย้าย เข้ามา ก็ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้เคียงเพื่อซื้อเสบียงมา เตรียมพร้อมไว้สำหรับการใช้ชีวิตในสองสัปดาห์นี้ เหตุผล ที่ตอบตกลงกับปยุตว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ที่อพาร์ตเมนต์นั้น ที่ จริงแล้วก็ไม่อยากอยู่ข้างนอกตลอดเวลาเพราะอาจจะไป บังเอิญเจอคนที่คุ้นเคยเข้า ในเมื่องนี้มีหลายคนที่รู้จักเธอ

อย่างทีปยุตคาดการณ์ไว้ หลังจากวันที่สามของการ ทํางานก็เข้าสู่สถานะการทำงานอย่างเป็นทางการ การวิจัย และพัฒนาเริ่มยุ่งและทำงานล่วงเวลาจนถึงสี่ทุ่มทุกคืน ทุก คนรู้สึกวิงเวียนศีรษะกับความเหนื่อยล้า แต่ไม่มีใครกล้าที่ จะผ่อนคลาย เพราะปยุตเองก็ยังทำงานล่วงเวลาไปพร้อม กับทีมงานด้วย ในเมื่อเจ้านายไม่เหนื่อย แล้วพนักงานคน ไหนจะกล้าโวยวาย

“ไปพักผ่อนเถอะ”

ปกติแล้วถึงแม้ว่าปยุตจะดูเหมือนไม่แยแส แต่มีความ เมตตาต่อพนักงาน จะไม่บังคับพวกเขาทำงานให้กับเขา เหมือนม้า

ทุกคนฟังแล้วก็ผ่อนคลาย ยืดตัวบิดขี้เกียจ บ้างลุกขึ้นไปเข้าห้องนํา บ้างลุกขึ้นไปดื่มน้ำ ไม่ถึงหนึ่งนาที ทุกคนใน สํานักงานก็หายไป เหลือเพียงสองคนคือผลินและปยุต

ผลินอึดอัดที่ปยุตเข้ามาร่วมทำงานด้วย จึงฝังตัวเองอยู่กับ การทํางาน หลังจากที่ทุกอย่างเงียบลง ก็ตระหนักว่าเหลือ เพียงพวกเขาสองคนในสำนักงาน เธอลุกขึ้นยืนจนเกิด เสียง และเตรียมก้าวออกไป

“ขอกาแฟให้ผมหน่อย

เมื่อเดินไปที่ประตู ทันใดนั้นก็มีเสียงแหบแห้งของปยุต เธอจ้องเล็กน้อย เห็นเขายังก้มหน้าอยู่ในงาน แล้วจึงเดิน ออกไปโดยไม่พูดอะไร

หลังจากพักประมาณสิบนาที ทุกคนเดินเข้าไปใน สํานักงาน ผลินถือถ้วยกาแฟไปวางให้ปยุตก่อนกลับไปที่ คําแหน่งของตัวเอง

เข้าสู่สถานการณ์ต่อสู้ที่ตึงเครียดอีกครั้ง จนถึงเวลาเที่ยง คืน ปยุตก็ประกาศว่า “เลิกงานได้”

“เฮ!!”

ผู้คนยืนขึ้นและส่งเสียงเฮ หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนากล่าว ติดตลกว่า “ท่านประธานยุต จะทำยังไงเหรอครับหากว่าทุก คนต่างหิว”

มุมปากของปยุตยกขึ้นเล็กน้อย “ไปเถอะ ผมเลี้ยงเอง”
“เฮ!!”

มีเสียงเฮดังขึ้นอีกครั้ง ยกเว้นผลิน ทุกคนต่างมีความสุข มาก

เพราะมันดึกแล้ว ร้านอาหารหลายร้านปิดหมดแล้ว มี เพียงร้านอาหารตงเป่ยซึ่งเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากเวลา ผ่านไปนานหัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาพูดขึ้นว่า “ไปทานอา หารตงเป่ยกันเถอะครับ ในวันที่อากาศหนาวแบบนี้ มันดีที่ จะทานหม้อไฟเนื้อแกะ

“ใช่ ไปเถอะ”

กลุ่มคนเดินเข้าไปในร้านอาหาร เจ้าของร้านทักทาย อย่างอบอุ่น แนะนำจานพิเศษของร้าน หัวหน้าฝ่ายวิจัยและ พัฒนาถามปยุตขึ้นว่า “ประธานยุตครับ คุณทานอะไรดีครับ

“พวกคุณสั่งเลย สั่งอะไรก็ได้ที่ชอบ ไม่ต้องเกรงใจ”

ผลินก็หิวนิดหน่อย เนื่องจากทานข้าวเช้ามานิดเดียว แต่ เมื่อเห็นพนักงานเสิร์ฟนำอาหารมาเสิร์ฟ ความอยากอาหาร ของเธอก็ลดลงครึ่งหนึ่ง มันเป็นอาหารที่เธอไม่ทาน เนื้อ สุนัข เนื้อแกะ…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ