ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 47 ให้ตายเถอะ



ตอนที่ 47 ให้ตายเถอะ

มันไม่สําคัญว่าคุณจะชนะหรือไม่ แต่ว่า มันจะดีกว่าที่จะ ไม่สูญเสียความตั้งใจ

ผลินดึงนิตยสารจากชั้นหนังสือ นั่งบนโซฟามุมห้องและ เปิดดูเงียบ ๆ

ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังเช่นนี้ เมื่อต้องอยู่ ท่ามกลางกลุ่มชายและหญิงที่น่ารังเกียจ ยังสามารถเป็นคน เดียวที่มีเอกลักษณ์ เป็นดอกไม้ที่โดดเด่น บางทีมันอาจเป็น นิสัยที่ไม่เหมือนใครของเธอ ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ชาย แม้ว่าข้างกายจะมีสาวสวย แต่สายตาของผู้ชายพวกนั้นก็ยัง คงหลงใหลในตัวเธอ

ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ กินในถ้วยแต่มองในหม้อ คนอื่นมักจะ

ดีที่สุด

“คุณชายปยุต คืนนี้โชคไม่ดีนิดหน่อยนะ…

“คุณชายปยุต นายแพ้อีกแล้ว”

“ดูเหมือนว่าคืนนี้คุณหนูผลินจะถูกทิ้ง”

ผลินที่ไม่เคยละสายตาจากนิตยสาร แต่หูก็ได้ยินอย่าง ชัดเจน หัวเราะกับตัวเอง มันช่างเป็นชีวิตที่สิ้นหวัง ผลลัพธ์ มักจะไปในทิศทางที่คุณไม่ต้องการ
มันชัดเจนมาก ปยุตไม่ได้ตั้งใจเล่นและตั้งใจแพ้ ตั้งใจจะ ทิ้งเธอไว้ให้ผู้ชายที่ไม่ดีเหล่านี้

หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า พิมพ์ข้อความและส่ง มันให้เขา “คุณชอบความรู้สึกของความพ่ายแพ้งั้นเหรอ”

ผมไม่ได้ชอบความรู้สึกของความพ่ายแพ้ แต่ความพ่าย แพ้ทําให้คุณไม่มีความสุข นั่นทำให้ผมพอใจมาก”

“อะไรคือจุดประสงค์ที่ตั้งใจแพ้ แค่ทำให้ฉันขายหน้าน่ะเห

รอ”

“มันไม่ใช่แค่ทำให้คุณขายหน้า แต่ต้องการทิ่มแทงจิต วิญญาณของคุณ ทำลายความภาคภูมิใจของคุณ ท้าทาย บรรทัดฐานของคุณ”

เป็นผู้ชายที่อันตรายจริง ๆ ผลินกวาดตามองเขาอย่าง รวดเร็ว ดวงตาเหมือนสองคมมีด ปรารถนาที่จะขุดหลุมสอง หลุมในตัวเขา

“คุณไม่ได้เคยบอกอย่างจริงจังเหรอว่าผู้หญิงไม่สามารถ สวมหมวกสีเขียวได้ แล้วตอนนี้มันคืออะไร พูดกับตัวเองเห

รอ”

“ดังนั้นเพื่อชื่อเสียงของผมและความบริสุทธิ์ของคุณ คุณ ควรจะไป แทนที่จะนั่งรอความตาย”

เธอส่งข้อความไป เขาก็ส่งกลับมา ไม่ยอมแพ้แม้แต่ก้าวการต่อสู้ที่รุนแรงนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่ได้ประโยชน์ อย่าง น้อย สําหรับผลิน มันมีความหมายน้อยมาก

เธอหยิบนิตยสารขึ้นมาอีกครั้ง และตั้งใจอ่านมันอย่าง เอาจริงเอาจัง

เมื่อเห็นเธอหยุดส่งข้อความ ปยุตก็ส่งข้อความกลับมา

“บางที ผมคงทำให้คุณเหงาเกินไป คุณหวังว่าจะได้รับ โอกาสแบบนี้ เพื่อตอบสนองร่างกายที่ว่างเปล่าของคุณ”

เมื่อผลินเห็นข้อความนี้ ใบหน้าก็กลายเป็นสีเขียวด้วย ความโกรธ นี่มันลิ้นพิษ เมื่อไม่ได้ประโยชน์ก็ทำเหมือนกับ ว่ากำลังจะสูญเสียชิ้นเนื้อ หวังว่าสักวันลิ้นของเขาจะเน่า

“เก็บปากไปซะ ไอ้เลว!

เธอกัดฟันแล้วส่งข้อความกลับไป

ณัฏฐ์เห็นปยุตส่งข้อความตลอดเวลา จึงพูดขึ้นมาด้วย ความไม่พอใจ “ถ้ามีอะไรก็โทรไปสิ ผู้ชายตัวใหญ่มาส่ง ข้อความอะไร นี่มันบ้าชัดๆ

ตฤณก็สำทับอีก “โอ้ใช่ คุณชายปยุตไม่เคยเป็นแบบนี้มา ก่อนเลยนี่นา ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมีคนรักลับ ๆ หรอกนะ ต่อหน้าป้าเจ็ด เลยไม่กล้าเกเรใช่ไหม”

“พวกนายสองคนเลิกล้อเล่นได้แล้ว สีหน้าป้าเจ็ดดูไม่ ค่อยดีเลยนะ”

ไม่ใช่แค่ปยุคที่เป็นคนเลว เพื่อน ๆ เหล่านี้ก็เลวไม่ต่าง เธอบอกแล้วว่าอย่าเรียกเธอว่าป้าเจ็ด คำก็ป้าเจ็ดสองคำก็ ป้าเจ็ดไม่หยุด

การพนันจบลงด้วยเสียงโห่ร้อง ผลลัพธ์ก็เป็นไปตาม คาด ปยุตเป็นผู้แพ้

“คุณชายปยุต ตอนนี้แน่นอนแล้วว่าคุณชนะหรือแพ้ ไม่รู้

บริภุตสอบถามเพิ่มเติม มีหลายคนที่ยังไม่แน่ใจว่าเขา พูดจริงหรือเปล่า

“ฉันพูดคำไหนคำนั้น เธออยู่นี้ จะเป็นของใคร พวกนายก็ ปรึกษากันเอาเอง ฉันไปล่ะ”

ปยุตหยิบเสื้อบนโซฟา และเดินออกไปจากห้อง

“เช็กบิลด้วยล่ะ”

ณัฏฐ์ดะไกนไล่หลังไป

สูญเสียทั้งฮูหยินและไพร่พล แต่เขาก็ยังร่าเริงทำท่าโอเค ไม่มีปัญหา ขอให้สนุกนะ

ก่อนที่จะก้าวออกจากประตูไป ในที่สุดก็แสดงความ เมตตาด้วยการเหลือบมองผลินที่อยู่มุมห้อง เว้นเสียแต่ว่ามี ความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น จึงไม่มีความเมตตาสงสาร แม้แต่น้อย

ไฟนีออนข้างนอกส่องแสงอย่างซุกซน เขาเดินมาที่รถ ของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะกำจัดคนที่ต้องการกำจัดไปได้ แต่มัน ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีเลยสักนิด ที่ไหนสักแห่งในร่างกาย กลับรู้สึกเจ็บปวด เช่นเดียวกับบาดแผลเก่าได้ถูกเปิดเผย

สามปีมาแล้ว สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังมากที่สุด ไม่ใช่การ ทรยศของผู้หญิงคนนั้น แต่เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นในหัวใจ ของเขายังคงมีน้ำหนักจนไม่สามารถแบกเอาไว้ได้

เปิดประตูและเข้าไปนั่ง จับหัวคิ้วด้วยความเหนื่อยอ่อน เครื่องยนต์กำลังจะเริ่มขึ้น แต่โดยบังเอิญ กลับมีภาพที่น่า ซึ่งเกิดขึ้นในกระจกหน้าต่าง

ผู้หญิงที่เพิ่งถูกทิ้ง เดินท่ามกลางสีสันของแสงไฟ ก้าว ต่อก้าวมาที่รถของเขา การแสดงออกบนใบหน้าที่สงบนั้น เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดสำหรับเขา ดังนั้น เขาจึงออกจาก รถด้วยความหงุดหงิด

“คุณออกมาได้ยังไง”

“ก็เดินออกมาสิ”
“ผมถามว่า ทําไมพวกเขาถึงปล่อยคุณ

“ฉันพูดกับพวกเขาว่า เพื่อนและภรรยาจะไม่หลอกลวง มันเป็นความตั้งใจของคุณที่จะทดสอบว่าพวกเขาคิดว่าคุณ เป็นเพื่อนหรือเปล่า ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยฉันออกมา”

หึ ปยุตยิ้มอย่างเย็นชา เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออก มาไม่พอใจ “ผลิน คุณฉลาดมากนะ!

มันยากที่จะกำจัดเธอ แค่กระพริบตาเขาก็ถูกจับอีกครั้ง เป็นระดับของความผิดหวังที่สามารถจินตนาการได้ เขา คำรามด้วยความโกรธ “ขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย อย่า ตามผมมาอีก”

ปยุตไม่คิดว่าตัวเองจะตะคอกออกมาเสียงดังแบบนี้ จน มันอาจสามารถยับยั้งผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าได้ แต่ถ้าเธอ สามารถกำจัดได้อย่างง่ายดาย เธอก็คงไม่ใช่ผลิน

ที่จริงแล้ว ในความเป็นจริง เขาเดินนำหน้าไปขึ้นรถ ผลินก้าวตามหลังมา

“ไม่เคยมีใครบอกคุณเหรอ ว่าคุณมันน่ารำคาญ”

“เคยสิ คุณไม่ได้บอกฉันอยู่ตอนนี้เหรอ”

“ผู้หญิงอย่างคุณ ผมว่า คงไม่มีใครมารักจริงหรอก”

“ไม่สำคัญหรอก ฉันไม่ได้คาดหวังที่จะได้พบความรักเสียงดังกระทุ่ม รถวิ่งเข้าไปในการจราจรที่คับคั่ง จะพูด อะไรได้ ไม่มีอะไรจะพูดแล้วจริง ๆ คนที่ไม่กลัวที่จะถูก เกลียด และยังเป็นผู้หญิงที่ไม่มีใครรัก ยังมีอะไรจะพูดกับ เมือกไหม

ในเวลาห้าทุ่ม ยืนอยู่ในพื้นที่ทองคำของคฤหาสน์นภา ที่เงียบสงบ ไม่มีแสงลอดออกมาบ้านหลังใหญ่ ทุกคนหลับ ไปแล้ว มีเพียงสองฝั่งของถนนที่ยังให้แสงนุ่มนวลจุดความ งามในยามค่ำคืน

จอดรถ ก็มองไปที่ผู้หญิงข้าง ๆ ตัว และกล่าวว่า รอจนกว่าผมจะลงไปแล้วคุณค่อยลง

น้ำเสียงฟังดูอ่อนโยน แต่มันกลับทำให้สั่นสะท้าน ผลิน มึนงงไปชั่วครู่ กระแทกประตูปิดดังปัง เธอตกใจเมื่อพบว่า เธอออกไปไม่ได้ ถูกเขาล็อกรถขังเอาไว้

ความกลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้แพร่กระจายไปทั่ว หัวใจเธอทุบหน้าต่างอย่างบ้าคลั่ง แต่กระจกเป็นฉนวนกัน เสียงอย่างดี ไม่ว่าเธอจะตะโกนเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีใคร ข้างนอกที่ได้ยิน

ฟังไม่ได้ยินก็ไม่ได้หมายความว่าจะมองไม่เห็น ปยุต มองเห็นได้ชัดว่าเธอตกใจ และหันมองรอบกายโดยที่ไม่ ได้ยินเสียงใด สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินจากไป…
ผลินมองดูจนเงาของปยุตหายไปจากสายตา ความรู้สึก ของความอ่อนแอทำให้เธอสิ้นหวัง จนถึงวินาทีสุดท้าย แม้แต่ความสงสารเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาก็ยังปฏิเสธที่จะให้มัน กับเธอ

การหายใจเริ่มยากลำบากขึ้น เหงื่อเย็นไหลซึมลงบน แก้มของเธอ ความทรงจำที่เลวร้ายเข้าครอบงำ น้ำท่วม หลายประตูเข้ามา เธอถูกขังอยู่ในบ้าน เรียกก็ไม่มีใครตอบ กรีดร้องก็ไม่เป็นผล ถูกตรึงอยู่กับความมืดไร้ขอบเขต ฉีก ทั้งหัวใจของเธอ ร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง ตะโกนอย่างหมดท่า จนในที่สุดก็สูญเสียคนที่อยากปกป้องที่สุดไป

ปยุคอาบน้ำและนอนลงบนเตียง พลิกตัวไปมาอย่างคน นอนไม่หลับ ด้วยความหงุดหงิดจึงเปิดลิ้นชักของโต๊ะข้าง เตียง ค้นหากล่องยานอนหลับ เทออกมาไม่กี่เม็ดก็กรอก เข้าไปในปาก

เขาไม่เคยกังวลว่าปริมาณที่มากเกินไปจะคุกคามชีวิต เพราะยานอนหลับสําหรับเขาแล้ว มันคุ้นเคยเหมือนกับการ เป็นเพื่อนสนิท ตั้งแต่ปีนั้นที่จันทรจากไป มันเป็นเพื่อนที่ สนิทที่สุด ผ่านคืนวันที่ยาวนานร่วมกันมากับเขา

เวลาผ่านไปหลายนาที เขายังนอนไม่หลับ อาจจะเพราะ ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนคนนี้มานานเกินไป จึงทำให้กลายเป็น คนแปลกหน้า ผ่านไปชั่วขณะหนึ่งฤทธิ์ของยาก็ยังคงไม่ ทํางาน

ปยุคหลังคาลงสนิท บังคับตัวเองว่าอย่าคิดถึงเรื่องอะไรอีก อย่าคิดถึงจันทร อย่าคิดถึงการทรยศหักหลังของเธอ อย่าคิดทุกอย่างเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้

แต่เมื่อยังคงตื่นตัว มันเป็นไปไม่ได้ที่สมองจะว่างเปล่า เมื่อคุณไม่คิดถึงใครบางคน คุณก็จะคิดถึงคนอื่น สมมติว่า คน ๆ นั้นอยู่ในหัวใจคุณ จะปริมาณมากหรือน้อยก็ยังคงมีน้ำ หนัก

ตอนนี้ สิ่งที่อยู่ในหัวของปยุตก็คือเงาของผลิน ถ้า หากว่าเขาไม่อยากคิดถึงจันทร เขาก็ไม่ได้ต้องการที่จะคิด เกี่ยวกับผลิน เพราะเมื่อเทียบกับความเกลียดชัง อย่างน้อย อดีตก็ยังมีสิ่งที่เขาชอบ

อะไรที่น่าเบื่อกว่านั้น คนที่คุณชอบ คนที่น่ารังเกียจ กลับ มีภาพปรากฏขึ้นในใจของคุณ คุณต้องการให้ทุกอย่างหาย ไป แต่มันก็ไม่หายไป

ในขณะที่อยู่ในช่วงของการรอที่น่าเบื่อ ยาก็เริ่มออก ฤทธิ์ เขารู้สึกง่วงนอนมาก จิตใต้สำนึกที่เพิ่มขึ้นคือความ ง่วงอย่างต่อเนื่อง มันยิ่งเลือนรางมากขึ้น จนในที่สุดก็เข้าสู่ สภาวะของการนอนหลับโดยสมบูรณ์

“อย่ามาทำเป็นสงสารเห็นอกเห็นใจผม ผมไม่ต้องการ มัน! ”

“ค่ะ ฉันสงสารคุณมาก แต่เพราะฉันรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิด ขึ้นกับคุณ ไม่ใช่เพราะสงสารตัวคุณหรอกนะคะ
จะกลางวันหรือกลางคืนก็คิด คิดว่าจะกําจัดผู้หญิงคน นั้นอย่างไรดีตลอดทั้งคืน นี่อาจจะเป็นความฝัน ในความฝัน เขาทะเลาะกับผู้หญิงคนนั้น

“ผมไม่อยากคุยกับคนที่รู้ว่าผมถูกผู้หญิงทิ้ง และคิดว่าผม น่าสงสารก็เลยต้องอยู่ด้วย

“บางทีคุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ แต่เมื่อเทียบกับคน ที่เป็น PTSD แล้ว คนที่เป็นโรคกลัวที่แคบอย่างฉันก็ไม่ได้ดี ไปกว่ากันเลย

โรคกลัวที่แคบ? กลัวที่แคบ!

ตื่นขึ้นมาจากความฝัน เขาลืมไปว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นโรค กลัวที่แคบ ให้ตายเถอะ!

กระโดดลงจากเตียงอย่างหงุดหงิด แม้แต่เสื้อคลุมก็ไม่ ได้ใส่ก่อนออกจากห้อง…

ดอกไม้ดอกเล็กลอยตามลมขึ้นไปบนก้อนเมฆสีขาว นางฟ้านับไม่ถ้วนล้อมรอบกายเธอ ที่นี่ไม่มีความหนาวเย็น มีเพียงแค่อากาศอบอุ่นเท่านั้น บางที่นี่อาจจะเป็นสรวง สวรรค์แห่งความฝันในตำนาน ถ้าอย่างนั้น ที่นี่ ก็ต้องมีแม่ ของเธอใช่ไหม

ผลินคิดว่าตัวเองตายไปแล้ว จนกระทั่งได้ยินเสียงคนแปลกหน้าเรียกจากที่ไกล ๆ เปิดดวงตาที่อ่อนแอขึ้น เห็น ใบหน้าที่โหดร้าย ตระหนักได้ว่า เธอกำลังจะตาย แต่ก็ยังไม่ ตายจริง ๆ

ใช่ คนอย่างเธอ ผลิน เจริญมาศ ต้องมีชีวิตอยู่ จะเป็นไป ได้ยังไงที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ