ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่15 ความอับอาย



ตอนที่15 ความอับอาย

ปยุตเฉยชาอย่างมากต่อความกระตือรือร้นของฟอตา ในทางกลับ กัน ผลินก็พลันรู้สึกว่าแบบนี้มันดีแล้ว

เขาหันมาหาเธอ เอื้อมมือคว้าเอวของเธอแล้วพูดขึ้นแผ่วบา”เข้าไป ข้างในกันเถอะ”

“ค่ะ”

ผลินยิ้มแข็งด้วยไม่ชินกับความอ่อนโยนอย่างฉับพลันของเขา

มือที่อยู่ตรงช่วงเอวของเธอบีบกระชับแน่นจนทำให้เธอตัวแข็งที่อ อย่างไม่เป็นธรรมชาติ ปยุตยิ้มแล้วเปลี่ยนมาเป็นการสอดประสานนิ้ว มือเข้ากับเธอแทน ผลินได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นแรงอย่างบ้า คลั่ง

ในตอนแรกเธอกังวลว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่ดู เหมือนว่าเธอจะกังวลมากเกินไป

น้ำเสียงอ่อนโยน ดวงตาอันร้อนแรง รอยยิ้มจาง สิ่งเหล่านี้มันเพียง พอที่จะทำให้ธนวันและภรรยาของเขาต้องถึงกับมองลอดแว่น

ดังนั้นเธอจึงจับมือเขาแล้วพาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น จนกระทั่ง เขาปล่อยมือของเธอ เธอก็ได้รู้ว่ามือของตัวเองนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ

ไม่ใช่เพราะกลัวว่าธินิดาจะรู้เห็นอะไรบางอย่าง แต่เป็นเพราะทักษะ การแสดงที่ไม่คาดคิดของปยุตนั้นช่างน่ากลัวเกินไป

“ลูกเขย ดื่มน้ำชาสิ”

ถึงแม้ว่าธนวันจะเป็นนักธุรกิจ แต่มันก็แค่ธุรกิจขนาดเล็ก เมื่อเทียบ กับสินทรัพย์มาหาศาลของตระกูลทรัพยสานแล้วนั้น ความสำเร็จของ เขาก็อธิบายได้เพียงสี่คำ เทียบชั้นมิได้

ในขณะนี้ ท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตนของเขาในการยื่นถ้วยซาด้วย มือทั้งสองข้าง มันยากที่จะเชื่อที่เขามายกน้ำชาให้กับลูกเขย

“พี่คะ ยินดีต้อนรับคุณกับพี่เขยกลับบ้านนะคะ”

วันนี้ช่างเป็นวันที่พิเศษเสียจริง ตั้งแต่เล็กจนโต ชุดาที่เรียกเธอด้วย ชื่ออย่างเดียวมาตลอด กลับมาเรียกเธอว่าพี่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าประหลาดใจ

ผลินยกยิ้มเล็กน้อย”จ้ะ เป็นยังไงบ้าง”

“พอแต่งงานไปแล้วมีเรื่องดี ๆ ยังไงบ้าง ตอนนี้ฉันเบื่อมาก ไปคุยกันที่ อื่นกันดีกว่าค่ะ”

ชุตาจับแขนเธออย่างอ่อนโยนแล้วส่งสายตาอย่างมีความหมายไป ให้ปยุต ก้าวออกมาจากห้องนั่งเล่นและเดินมาถึงที่สวนหลังบ้านของ ตระกูลเจริญมาศ

เมื่อไม่ต้องแสดงต่อหน้าใคร แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องทนเสแสร้งอีก ต่อไป เธอกลับมาอวดดีเช่นเดิมดังที่เคยเป็นมาและตั้งคำถามขึ้นมา อย่างหยาบคาย “คิดว่าตัวเองมีความสามารถมากนักเหรอที่สามารถ จัดการกับปีศาจที่เขาลือกันว่าเลือดเย็นและโหดเหี้ยมได้ ดูเหมือนว่า เธอจะได้เชื้อจากแม่ของเธอมามากนะ น่าอิจฉาจัง”

ชุดาพูดใส่หน้าอย่างแดกดัน ผลินไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไร แต่ กลับยิ้มกว้างและอธิบายอย่างอดทน”ไม่ใช่ว่าฉันมีความสามารถ แต่ ข่าวลือนั้นเป็นเท็จ คุณปยุตไม่ได้เลือดเย็น เขาปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างที่ เธอเห็น เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ เป็นยังไง เธอเสียใจที่ไม่ควรยก โอกาสนี้ให้ฉันอย่างนั้นเหรอ”

ปากของเธอไม่ยอมรับ แต่ดวงตานั้นแสดงออกชัดว่าเสียใจ”เธอ โกหก ถ้าเขาดีจริง แล้วทำไมเขาถึงต้องหย่าปอยขนาดนั้น”

“การหย่าร้างไม่ได้หมายความว่ามันเป็นความผิดของผู้ชาย มีผู้หญิง กี่คนที่ต้องการแต่งงานกับเขาเพราะเงิน เมื่อเขารู้จุดประสงค์ของผู้ หญิง การหย่าร้างก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

“ถ้าอย่างที่เธอพูดว่าเขารู้ถึงจุดประสงค์ของผู้หญิงในการแต่งงานกับ เขาก็เพื่อเงิน งั้นการแต่งงานของเธอก็คงจะต้องจบลงเช่นกันจริงไหม”

“เธอต้องการที่จะเห็นฉันถูกทอดทิ้งโดยเร็วที่สุด หรือว่าเธออยากจะ เป็นเจ้าสาวคนที่แปดของเขากันแน่ล่ะ”

ผลินถามอย่างเย้ยหยัน ปกติแล้วเธอไม่เคยตีโพยตีพาย แต่ทุกคำที่ เธอพูดนั้นเฉียบคมดั่งมีดที่ทิ่มแทงคนอื่นโดยไม่คาดคิด

“ฉัน…ฉันไม่ได้อยากเป็น”

ชุตาได้แสดงความคิดภายในใจออกมาหมดแล้ว แต่ก็ยังคงปากแข็ง

“ไม่มีอะไรดีที่สุด อย่าบอกว่าฉันไม่ได้เตือนเธอ สินค้าเช่นเธอ คุณป ยุตเขาไม่ชายตาแลหรอก”

เมื่อพูดจบก็เดินจากออกมา คนที่ไม่เคยถูกทำให้อับอาย แต่กลับ ต้องมาถูกทำให้อับอาย ขณะนั้นจึงรู้สึกเหมือนว่าท้องฟ้ากำลังถล่มลง มาสู้พื้นดิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ