ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 180 จากไปอย่างสิ้นหวัง



ตอนที่ 180 จากไปอย่างสิ้นหวัง

รุ่งเช้า ปยุตและหญิงสาวเมื่อคืนก็เดินออกมาจากห้อง จันทรมายืนรออยู่ที่หน้าประตูตั้งแต่เช้าตรู่ ดวงตาทั้งคู่จ้อง มองไปที่ปยุตอย่างเคียดแค้น “พี่ทำเกินไปแล้วนะ ! ”

ปยุคจับข้อมือของเธอลอยอยู่กลางอากาศ กล่าวอย่าง เฉยเมย “ถ้าทนไม่ได้ก็ออกไป ถ้าแค่นี้ยังทนไม่ได้ อีก หน่อยจะยิ่งทนไม่ได้เข้าไปอีก

“พี่จะบีบบังคับให้ฉันไปด้วยวิธีนี้น่ะหรือ ฉันไม่ไปหรอก ฉันบอกพี่ไว้เลย จะพาผู้หญิงมานอนอีกสิบคนฉันก็ไม่ไป ! ”

ปยุตหัวเราะเยาะเย้ย “รู้ว่าเธอไม่ไปหรอก ไม่อย่างนั้นจะ ทนคำพูดพวกนั้นได้อย่างไร หน้าไม่ด้านทนไม่ได้หรอก”

ผู้หญิงข้างกายของปยุดหัวเราะกระซิก พูดอย่างเริงร่า “ประธานปยุตคะ คุณนี่ร้ายจริงๆนะ”

ทั้งสองคนเดินลงบันใดไปพร้อมกัน มองจากทางด้าน หลังเห็นพวกเขาใกล้ชิดสนิทสนม จันทรก็ร้องตีโพยตีพาย อีกครั้ง แผนการณ์อันสวยหรูที่เคยวาดไว้ตอนนี้ค่อยๆแตก สลาย

หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์โทรศัพท์ของผลินก็ติดต่อไม่ ได้ ชื่นใจรู้สึกแปลกๆ วันนี้เธอรู้สึกไม่สบายใจ หลังเลิกงาน เธอจึงไปที่คฤหาสน์นภา
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพาเธอเข้าไปที่บริเวณห้อง รับรองแขก ในห้องรับแขกนายหญิงทรัพยสานที่กำลังนั่ง อยู่ที่โซฟารีบร้อนลุกขึ้นต้อนรับเธอ “หนูชื่นใจ เชิญนั่งก่อน ค่ะ”

ชื่นใจนั่งที่โซฟา คนรับใช้ก็ยกน้ำชาร้อนเข้ามาเสิร์ฟ เธอ รับ “ขอบคุณค่ะ”

เธอมองไปรอบๆบริเวณและเอ่ยถาม “คุณน้า ผลินไม่อยู่

สีหน้าแววตาของคุณนายดูไม่เป็นธรรมชาติ ใช้เวลาสักครู่ จึงจะตอบคำถาม “ผลินเธอไปแล้วล่ะ เธอออกไปจากบ้าน เราแล้วค่ะ”

ชื่นใจมือสั่น ชาร้อนที่อยู่ในมือกระเด็นลวกที่ต้นขา แต่ เธอก็ไม่ได้สนใจถึงความเจ็บปวดนั้น กลับถามออกไปอย่าง ตกใจ “ไปแล้ว ไปไหนคะ”

“เธอหย่ากับลูกชายน้าแล้ว ไปไหนน้าก็ไม่ทราบค่ะ

หย่าแล้ว ชื่นใจรู้สึกเวียนศีรษะ “คุณน้า อย่าล้อเล่นอย่างนี้ สิคะ”

“น้าไม่ได้ล้อเล่นค่ะ”

หญิงชราลดสายตาต่ำลงเสียงพูดตะกุกตะกัก “บ้านทรัพย สานเราทำผิดต่อเธอ เธอจากไปด้วยความเจ็บปวดค่ะ”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ”

ในใจของชื่นใจเหมือนถูกของบางอย่างกดทับเอาไว้ อึดอัดจนแทบอยากตาย

“เรื่องราวเป็นอย่างนี้ค่ะ…

หญิงชราเริ่มเล่าถึงเรื่องราวความทุกข์ที่ผ่านมา

หลังออกจากคฤหาสน์นภา ชื่นใจรู้สึกเหมือนจิตวิญญาณ ของตัวเองหลุดลอยไป ไม่อยากเชื่อเลยว่าจันทรตั้งท้องลูก ของปยุต และไม่อยากเชื่อเข้าไปอีกว่าผลินหย่าขาดจากป ยุตไปแล้ว

เธอเดินกลับบ้านอย่างมึนงง อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออก มา ผลินช่างน่าสงสารนัก เธอผ่านเรื่องราวความเจ็บปวด มากมายเหลือเกิน

ทำไม ทำไมตั้งนานแล้ว เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำไมเธอ ไม่ยอมเล่าให้เธอฟังแต่กลับอดทนเก็บเรื่องราวนี้ไว้อย่าง เงียบๆ

ชื่นใจคิดถึงวันที่ผลินเสียใจสิ้นหวังจนต้องเดินจากไป น้ำตาก็หยุดไหลไม่ได้เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ แต่เธอกลับไม่รู้เลยว่าเธอต้องเผชิญกับเรื่องราวทุกข์ใจ ต่างๆมากมาย เธอรู้สึกผิด รู้สึกผิดมาก

ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดมาก พ่อแม่ของเธออยู่ไกลถึงต่างประเทศมีแค่เพียงผลินเท่านั้นที่เป็นเพื่อนที่ดีของเธอ วันนี้ไม่รู้ว่า เพื่อนที่ดีของเธอเพียงคนเดียวคนนี้ตอนนี้อยู่ที่ไหน เธอ รู้สึกโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก

ความรู้สึกนั้นเหมือนกับว่าหัวใจถูกขุดเป็นโพรง

เมื่อไวภพกลับมาถึงบ้าน เขาเห็น นใจร้องห่มร้องไห้ เขา จึงตกใจและรีบเดินเข้าไปถาม เกิดอะไรขึ้น”

ชื่นใจเงยหน้าที่ตาทั้งสองข้างเอ่อนองไปด้วยน้ำตาขึ้นมา มองเขาด้วยความอดกลั้น ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

“นี่มันเรื่องอะไรกัน

ไวภพรู้สึกร้อนใจ ทำคิ้วขมวดเหมือนกำลังคาดเดาอะไร บางอย่าง “แม่ของเธอมาหาเรื่องอีกแล้วใช่ไหม”

ชื่นใจสูดหายใจเข้าแล้วส่ายหัว “ไม่ใช่”

“ถ้าอย่างนั้นอะไรล่ะ

“ผลิน ผลินไปแล้ว หนีปยุตไปแล้ว ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน

สีหน้าของไวภพแข็งกร้าวขึ้นทันที แม้ว่าจะแต่งงานกับ ชื่นใจมาหลายเดือนแล้วก็ตาม แต่เมื่อได้ยินชื่อผลินขึ้นมา หัวใจของเขาก็แอบสั่นไหวเล็กน้อย

“จันทรท้องลูกของปยุต ผลินเสียใจ ตัดสินใจเดินจากไปแล้ว…”

ชื่นใจร้องไห้โฮออกมาอีกรอบ

ไวภพกลับลุกขึ้น หันหลังเดินออกจากบ้านไป เขาออกไป ไหนตอนดึกดื่น

ชื่นใจตกใจ วิ่งออกตามไป

เธอหยุดรถแท๊กซี่ ให้ออกตามคันของไวภพไปติดๆ รถ จอดที่หน้าคฤหาสน์นภา หัวใจของชื่นใจเจ็บปวดอยู่ลึกๆ

ไวภพพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “ไปบอกให้ป ยุตออกมา รีบไปบอกให้มันออกมาหาฉัน”

หลังจากนั้นไม่นาน ปยุตก็ออกมา ใบหน้าที่เห็นภายใต้ แสงจันทร์อันมืดมิดนั้นช่างคมชัดและเย็นชา ชวนให้คนที่ มองเห็นรู้สึกถึงความหนาวเหน็บ

“มีเรื่องอะไร”

ไวภพไม่พูดไม่จาชกเข้าที่ใบหน้าของปยุตเข้าอย่างจัง

“ผมเคยบอกคุณไว้แล้ว ถ้าหากไม่สามารถทำให้ผลิน มีความสุขได้ ก็ให้ถอนตัวไปซะ คุณยังดิ้นรนพยายามจะ เอาชนะใจเธอให้ได้ สุดท้ายก็ทำให้เธอเจ็บและจากไป อย่างสิ้นหวัง คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย !!
ผัวะ โดนเข้าไปอีกหมัด ปยุตกองอยู่บนพื้น ยามรักษา ความปลอดภัยรีบตรงเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่เขากลับ โบกมือห้ามไว้ “เรื่องของเราอย่าเพิ่งยุ่ง

เขาเช็ดคราบเลือดออกจากมุมปากของเขา ถอนหายใจ ด้วยความโล่งอกและชกกลับหมัดหนึ่ง และพูดอย่างใจเย็น ว่า “ถึงตอนนี้ คุณก็ยังคงรักผลินอยู่อีก ถ้าอย่างนั้นคุณ เป็นผู้ชายแบบไหนกัน ปากกินอีกอย่าง แต่ใจกลับคิดถึงอีก อย่าง”

ชื่นใจเจ็บปวดหัวใจอีกครั้ง ไวภพหุนหันพลันแล่นเช่น นี้ เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นเช่นนี้มาก่อน เพราะเป็นเรื่องของ ผลินเท่านั้นถึงทำให้เธอได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของไวภพ

ชายสองคนชกต่อยกันเอาเป็นเอาตาย ทั้งคู่ถูกคุณท่าน เวทนที่เพิ่งจะกลับถึงบ้านห้ามทัพเอาไว้

ไวภพกลับบ้านอย่างหมดสภาพ มีชื่นใจเดินตามอยู่ข้าง หลังเขา เธอไม่ได้ถามอะไรเขาเมื่อกลับถึงบ้าน เพียงถือ กล่องยามานั่งข้างๆและทำแผลให้

หลังจากที่ทำแผลให้เสร็จเรียบร้อยเธอก็กลับเข้าไปนอน ในห้องนอน ไวภพนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเป็นเวลานาน กลับ มาถึงบ้านก็เป็นเวลามืดค่ำมากแล้ว ชื่นใจหลับตาลง แต่เธอ กลับไม่ได้หลับ แค่เพียงแกล้งทำเป็นหลับเท่านั้น

กลางดึกคืนนั้น จู่ๆไวภพก็ตะโกนเรียกชื่อผลินออกมาขณะ ตื่นขึ้นจากความฝัน เขาลุกขึ้นนั่ง มีเหงื่อเย็นอยู่เต็มหน้าผาก เขาฝันว่าผลินตกอยู่ในอันตราย หัวใจของเขาเกือบ หยุดเต้น เปิดโคมไฟสว่างที่ข้างเตียง เตรียมที่จะเดินออก ไปสูบบุหรี่ ทันใดเขาก็สะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อเห็น นมจ กําลังจ้องมองอยู่

“ผมปลกคุณ ”

เขาถามอย่างงุ่นง่าน

ใบหน้าของชื่นใจไม่แสดงความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น “เปล่า”

“แล้วตื่นมาทําไม

“ยังไม่หลับเลยค่ะ”

นัยน์ตาของไวภพถลึงขึ้นมาเล็กน้อย “ดื่มน้ำไหม ผมไป รินให้

“ไม่เป็นไรค่ะ”หัวใจของชื่นใจรู้สึกหดหู่ต่อความรู้สึกหึง หวง เธอถามออกไปอย่างน้อยใจ “คุณฝันถึงผลินหรอคะ”

ไวภพไม่ตอบ เธอจึงพูดต่อไปว่า “ความจริงแล้วฉันไม่ใช่ เพิ่งเคยได้ยินคุณละเมอเรียกชื่อเธอในวันนี้ แต่ฉันได้ยินมา หลายครั้งแล้ว เพียงแต่ไม่ได้พูดอะไรเท่านั้น”

เธอผลักผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้นจากเตียง เดินมาที่เบื้องหน้า ของเขา ถอดแหวนที่สวมอยู่ออก ยัดไว้ในมือของเขา “ฉัน รู้ว่าคุณไม่ได้รู้สึกในความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับฉัน ฉันรู้ว่าคุณยังไม่ลืมผลิน ที่จริงฉันคิดว่าเมื่อเราแต่งงานกันแล้วฝืน ไปสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะฝืนไม่ได้ อีกต่อไปแล้ว ถ้าคุณเป็นห่วงคิดอยากไปตามหาผลินล่ะ ก็ ตอนนี้เธอก็หย่าแล้ว บางทีเรื่องนี้อาจจะทําให้พวกคุณ สามารถเดินร่วมกันต่อไปได้ เธอเป็นเพื่อนรักของฉัน ฉันไม่ โกรธพวกคุณหรอกค่ะ ฉันมีแต่อยากจะอวยพรให้พวกคณ ให้คุณทั้งคู่มีความสุข

พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไป

หลังจากที่ไวภพตกตะลึงอยู่นาน เขาก็ก้าวเท้าเดินตาม ออกไป ที่ถนนที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน เขาดึงชื่นใจที่กำลังเดิน ก้มหน้าร้องไห้ให้หยุดก้าว “เธอกินยาผิดรึไง ถึงพูดเรื่อง อะไรที่ไม่ควรพูด

ชื่นใจดึงมือของเขาออก เสียงดังอู้อี้ในจมูก “ฉันพูด แทงใจดำคุณใช่ไหมล่ะ ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ควรพูดสักหน่อย”

“ผมกับคุณแต่งงานกันแล้ว คุณคือภรรยาของผม ผมต้อง รับผิดชอบคณ

“แต่ฉันไม่ต้องการสามีที่นอนหลับอยู่ข้างฉัน แต่ตะโกน เรียกชื่อผู้หญิงคนอื่น !

ชื่นใจเหลือบสายตาไปที่เขา แล้วเดินต่อไป นี่เป็นครั้งแรก ที่ไวภพรู้สึกถึงความดื้อรั้นของเธอ เขาไม่รู้จะทำอย่างไรจึง ตะโกนออกไปเสียงดัง “คุณจะเดินกลับไปเองดีๆหรือว่าจะ ให้ผมล้มกลับไป
ชื่นใจไม่สนใจเขา เขาขวางและอุ้มเธอพาดไว้ที่บ่า หัน หลังและเดินกลับไป ชื่นใจตกใจตะโกนร้องลั่น “ปล่อยฉัน นะ ! คุณปล่อยฉันลงนะ ! ”

เธอดิ้นรน ร่างกายแกว่งไปมาบนไหล่ของไวภพ

“ดึกดื่นอย่างนี้ คุณคิดว่าผมจะปล่อยให้คุณเดินไปทั่วหรือ ไง ถ้าไม่อยากให้คนมองก็เงียบซะ”

“อ๊ะ…

ไวภพพูดยังไม่ทันขาดคำ ก็ถูกชื่นใจกัดไปที่ไหล่ซ้าย ของเขา ไวภพวางเธอลง ชื่นใจรีบวิ่งไปที่ริมฟุตบาทโบกมือ เรียกแท๊กซี่ ไม่มีหนทางใดแล้ว ไวภพรีบไปที่ข้างกายเธอ ช้อนหลังศีรษะของเธอไว้และประทับจูบลงบนริมฝีปากเธอ อย่างดุเดือด ดวงตาของชื่นใจเบิกกว้าง ใหญ่กว่าเมืองถง หลิงอีกหลายเท่า นี่เป็นครั้งแรกที่ไวภพจูบเธอเช่นนี้ เธอ รู้สึกราวกับหายใจไม่ออก

ชื่นใจจากที่ตกใจในตอนแรกสักพักเธอก็เริ่มรู้สึกเคลิ้ม อด ไม่ได้ที่จะได้ไปที่ซอกคอของไวภพ เธอตอบสนองต่อการ จูบของไวภพ สมองของไวภพตอนนี้สับสนวุ่นวายมาก เขา ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆก็อยากจูบชื่นใจขึ้นมาอย่างนั้น เท่าที่เขารู้คือ เขาไม่ต้องการปล่อยเธอไป…

จูบที่เร่าร้อนยังคงดำเนินต่อไปจากถนนไปยังคอนโด ที่ จริงนอกจากคืนวันแต่งงานแล้วคนทั้งสองก็ไม่เคยได้สัมผัส ทางกายกันอีกเลย ครั้งเดียวและไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย
หลังจากนั้นอีกนาน ผ้าห่มก็ยังคงกระเพื่อมขึ้นลง เตียงยัง คงสั่นอยู่ แต่เสียงของ นใจกลับเบาลง เพราะชายคนนั้นได้ จูบเธอ จับมือเธอวางแน่นเอาไว้บนร่างกายอันกำยำของเขา

ช่วงเวลานี้ ชื่นใจรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอและไวภพเชื่อม โยงถึงกัน และนี่ก็เป็นครั้งแรก ที่เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ ระหว่างเธอและไวภพนั้นแนบแน่นขึ้นไปอีกขั้น

ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน บางคนหัวใจใกล้ชิดกันขึ้น แต่บาง คนกลับยิ่งห่างไกลออกไป

ปยุตนั่งอยู่ในห้องหนังสือ เขากำลังมึนเมากับไวน์แดงที่ วางอยู่บนโต๊ะ ในมือของเขามีรูปถ่ายระหว่างเขากับผลินอยู่ นี่คือรูปคู่รูปแรกของพวกเขา และยังเป็นรูปสุดท้ายอีกด้วย

รอยยิ้มในรูป เป็นเหมือนนา ใสๆคอยหล่อเลี้ยงหัวใจของ เขาอยู่ เธอจากเขาไปแล้ว แต่ว่าความทรงจําของเธอจะอยู่ กับเขาตลอดไป

เขาเทไวน์แดงลงในแก้วอีก ดื่มอย่างโศกเศร้า วาง ภาพถ่ายใบเดียวที่อยู่ในมือลง ดึงลิ้นชักออกมา ในนั้นมีรูป ถ่ายของผลินทั้งหมดที่เขารวบรวมมาได้

ล้วนเป็นรูปเดี่ยวทั้งสิ้น มีภาพจำนวนมากที่ได้มาจาก ห้องลับของเธอ มีสองสามภาพที่เธอถ่ายตั้งแต่สมัยเรียน มหาวิทยาลัย ความสดใสในวัยเยาว์ของเธอทำให้ผู้คนไม่ สามารถละสายตาไปได้ ปยุตได้แต่มองรูปภาพของผลินอยู่ อย่างนั้น อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าขึ้นมา ตั้งแต่เธอแต่งงานกับเขา เขาไม่ค่อยเห็นรอยยิ้มเช่นนี้ปรากฏบนใบหน้าของเธอ เลย ที่สุดแล้วความรักของเขาที่มีต่อเธอ มันเป็นความสุข หรือความเจ็บปวดกันแน่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ