ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 201 ความลับที่ซ่อนไว้



ตอนที่ 201 ความลับที่ซ่อนไว้

“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ปล่อย!”

ปยุตเห็นว่าต้องใช้ไม้แข็งจะดีกว่า พลางดึงแขนของเธอ ออกไป อีกมือหนึ่งบิดลูกบิดประตูเปิดออก เดินก้าวเท้า อาดๆออกไป

ผลินไม่อาจทนดูเขาเดินจากไปอย่างนั้นได้ รีบอ้าวเดิน มาตรงหน้าเขา ทันใดนั้นเธอก็ยื่นทั้งมือและขาขวางเขาเอา ไว้ดังปลาหมึก 8 ขา ปยุตไม่อาจหนีไปได้

“ผลิน ตกลงคุณจะเอายังไงกันแน่ ?

“ก็ยั่วคุณไงล่ะ คุณดูไม่ออกหรือ?”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูด เธอก็รุกฆาตจูบปยุตที่ริมฝีปาก ปยุต ถลึงตามองทันที ตะลึงไปชั่วขณะ แต่กลับไม่ได้ปฏิเสธอะไร

ในสมองของเขาสับสนวุ่นวายไปหมด มือที่จับผลินไว้แน่น เริ่มคลายลง เปลี่ยนเป็นโอบเข้าที่เอวของเธอ เขาไม่ได้จูบ เธออย่างบ้าคลั่งเหมือนแต่ก่อน แต่กลับกระชับเอวเข้ามา แนบชิดใกล้กัน

สองมือของผลินกอดเข้าที่คอของปยุต ร่างกายของเธอ ร้อนแรงดั่งไฟแผดเผา หลายครั้งที่เขาเร่งเร้าอยากจะมี อะไรกับเธอ แต่เธอก็หาข้อแก้ตัวได้ตลอด จนกระทั่งวันนี้ต่อ หน้าปยุต ความกระตือรือล้นของเธอกลับครุกรุ่นขึ้นมาอย่างเรียบง่ายและนุ่มนวล เห็นได้ชัดว่าเวลาสองปีที่ผ่านมานี้เขา อยู่ในใจของเธอมาตลอดไม่มีเปลี่ยนแปลง

ทั้งสองเคลื่อนตัวไปจนถึงข้างกำแพง ร่างของเธอถูกดัน ไปจนอยู่ระหว่างกำแพงและปยุต เขาใช้มือทั้งสองประคอง ใบหน้าของเธอแล้วประทับจูบลงที่ริมฝีปากเธอเบาๆ บรรเลงเพลงรักกันอย่างดูดดื่ม ดังเช่นขนมแป้งทอดเกลียว ที่ไม่อาจแยกจากกันได้ ยิ่งพันยิ่งแน่น

ผลินหายใจหอบเหนื่อย อารมณ์ของเธอถูกปลุกขึ้นมาแล้ว จูบอันอบอุ่นนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเธอ มือ ยื่นไปอย่าง

ไม่รู้ทิศทางไปที่เข็มขัดของเขา ขณะที่กำลังปลดออก ทัน ใดนั้นปยุตตัวแข็งทื่อ สีหน้าที่เคลิ้มอยู่กลับตั้งสติขึ้นมาได้ ความรู้สึกเย็นเฉียบดั่งศูนย์องศาเข้ามาแทนที่ เขาผลักผลิน ออกไป เธอล้มลงไปที่พื้น สายตาเขาเป็นประกายแฝงความ เจ็บปวดเอาไว้ แต่กลับไม่พูดอะไรสักคำหันหลังแล้ววิ่งหนี ไป

ในใจของผลินเจ็บปวดอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะว่าปยตทิ้งเธอ ไป แต่เป็นเพราะว่าบทเรียนของปยุต ทำให้เขาหวาดกลัว การมีเพศสัมพันธ์

ผลินลุกขึ้นยืนเดินไปที่หน้าต่าง เห็นปยุตนั่งอยู่ในรถ ทิ้งผมตัวเอง น้ำตาของเธอไหลซึมออกมา เธอกำลังคิด ทบทวนว่าเธอควรจะจดจำคนรักของเธออย่างไรดี
หลังเหตุการณ์นั้นผ่านไปแล้ว ปยุตเริ่มที่จะหลบหน้าผลิ อย่างเห็นได้ชัด เขาไม่อยู่ทำงานล่วงเวลากับฝ่ายวิจัยและ พัฒนากลุ่มเล็กๆ ในใจผลินรู้แน่ชัด ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากยุ่ง เรื่องงาน แต่เพราะเขาไม่อยากจะไปส่งเธอที่บ้านอีก

แม้ว่าเธอเคยตั้งใจไปที่บาร์นั่งถึงดึกดื่นสองครั้ง แล้ว โทรศัพท์ไปหาเขา ให้เขาออกมารับเธอ เขากลับปฏิเสธ อย่างชัดเจนแล้วเรียกแท๊กซี่ให้แทน

ผลินหมดหนทางแล้ว จึงตัดสินใจไปหาแม่สามีที่คฤหาสน์ ของนภา

เธอหยุดยืนอยู่ที่หน้าคฤหาสน์ที่คุ้นเคย ในใจรู้สึกสับสน อย่างมาก ค่ำคืนนั้นเมื่อสองปีก่อนเธอจากไปอย่างสิ้นหวัง เธอสาบานว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก แต่ว่าวันนี้เธอก็ กลับมาแล้ว หากไม่ใช่เพราะปยุตที่รักของเธอละก็ เธอไม่มี ทางก้าวเท้าเข้ามายังประตูนี้อีก

ความรักไม่ได้อยู่ที่ใครก้มหัวให้ใคร ความรักที่แท้จริงคือ หวังให้คนที่เธอรักนั้นจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้มากกว่า เธอ

หญิงชราแห่งบ้านทรัพยสานหลังจากที่คู่ชีวิตตายจากไป ก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้น้ำตานองหน้าทั้งวัน การปรากฏตัว ขึ้นอย่างกระทันหันของผลิน ทำให้เธอยากที่จะเผยรอยยิ้ม ออกมาได้

“หนูผลินจ๊ะ ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าหนูจะกลับมาที่นี่อีก ยิ่งไปกว่านั้น คุณพ่อสิ้นไปแล้ว หนูยังอุตส่าห์กลับมาเยี่ยมอีก กตัญญูจริงๆ”

ผลินจ้องมองคุณแม่สามีที่ดูห่อเหี่ยวอยู่ตรงหน้า รู้สึก กระอักกระอ่วนใจ : “คุณแม่คะ อย่าเสียใจไปเลยนะคะ คน เราตายได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ปล่อยให้คุณพ่อจากไป อย่างสงบสุขจะดีกว่านะคะ คุณแม่ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความ สุขจะดีกว่าค่ะ”

“ฉันไม่ได้กลัวว่าว่าคุณพ่อจะจากไปอย่างไม่สงบสุขหรอก แต่ฉันอยากจะตายตามเขาไปเลย”..

หญิงชราพูดแล้วยิ่งร้องไห้เสียใจหนักขึ้นไปอีก

“หนูขอร้องละค่ะ คุณแม่อย่าคิดแบบนี้เลยนะคะ คุณสูญ เสียคุณพ่อไปแล้ว แต่คุณยังมีลูกชายและลูกสาวอีกนะคะ พวกเขายังต้องการคุณ ขึ้นคุณมัวแต่พูดจาอัปมงคลแบบนี้ ปยุตและชิงชิงจะทำยังไงคะ? ชิงชิงตอนนี้ยังไม่ทราบข่าว เรื่องคุณพ่อเสียชีวิตแล้ว ถึงวันนั้นที่เธอกลับมา เห็นคุณทั้ง สองอันเป็นที่รักได้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว เธอจะรู้สึกเสียใจ มากแค่ไหนคะ”

หญิงชราที่ร้องไห้ฟูมฟายพยักหน้า : “ตอนนี้ฉันก็มีชีวิต อยู่เพื่อลูกทั้งสองคนนั่นแหละ เพียงแต่ทุกวันนี้เวลาอยู่คน เดียวในบ้าน มักจะคิดถึงความสนุกสนานของครอบครัวของ เราในอดีตจึงรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายและเศร้าเสียใจขึ้นมาน่
“คุณแม่คะ จริงๆแล้วที่หนูมาในวันนี้มีเรื่องหนึ่งอยากจะ เล่าให้ฟังค่ะ”

“เรื่องอะไรจ๊ะ?”

“หนูจะขอย้ายกลับเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ไหมคะ?”

หญิงชราตกใจถลึงตามอง จับมือของหญิงสาวแน่นไม่ อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน : “หนูพูดจริงๆหรือจ๊ะ?”

“ค่ะ พูดจริงค่ะ”

“ดีจริงๆเลย เยี่ยมไปเลย ฉันจะไม่อนุญาตได้อย่างไร ล่ะ”

จุดประสงค์ที่ผลินต้องการจะย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์ ของนภามีสองอย่างคือ หนึ่ง เพื่อคอยดูแลคุณแม่สามีที่น่า สงสาร สองคือเพื่อจะได้พบกับปยุตอีกครั้ง

หลังจากวันนั้นตั้งแต่เขาทิ้งเธอไป ผ่านมาแล้ว 2-3 วัน จนถึงวันนี้ เธอแทบไม่ได้เจอหน้าเขาอีกเลย

ตอนเย็นเธอแอบเข้าไปในครัว ลงมือทำกับข้าวเอาไว้ให้ เต็มโต๊ะ จากนั้นแม่ผัวลูกสะใภ้สองคนนั่งรอปยุตกลับมา ป ยุตยังไม่รู้เรื่องที่ผลินย้ายกลับเข้ามาในบ้านของเขา หกโมง ตรงกลับถึงบ้าน เพิ่งเปลี่ยนเป็นรองเท้าเดินในบ้าน

ทันใดนั้นผลินกระโดดออกมาจากด้านหลัง : “คุณกลับมาแล้ว”

เขาตะลึงอึ้งไป ถามอย่างแปลกใจ “ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ ล่ะ?”

“ฉันเห็นคุณแม่ท่านเหงาๆน่ะ เลยกลับมาอยู่เป็นเพื่อน สัก2-3วัน”

“คุณได้รับอนุญาตจากผมหรือยัง? ย้ายเข้ามาในบ้านผม แบบนี้?”

“นี่ก็เป็นบ้านของผมเหมือนกัน..

ผลินบ่นอย่างรู้สึกไม่เป็นธรรม

“ที่จริงพวกเราหย่ากันแล้วค่ะ”

“แต่คุณฉีกสัญญาฉบับนั้นทิ้งเองนะ”

คุณ”……

ปยุตถูกเธอต้อนด้วยประโยคนี้เข้าถึงกับจนมุมพูดไม่ออก หน้าเสีย “แม่ของผมมีผมอยู่เป็นเพื่อนแล้ว เชิญคุณไป นอนที่ห้องรับแขกแล้วกัน”

“ทั้งวันคุณก็ต้องไปทำงานหรือไม่ก็ต้องไปงานเลี้ยง สังสรรค์พบปะลูกค้า คุณจะอยู่เป็นเพื่อนเธอได้กี่ชั่วโมงกัน เชียว?”
“ไม่ว่าผมจะอยู่เป็นเพื่อนได้สักกี่ชั่วโมง ยังไงๆก็แม่ของ ผม!”

“แม่ของคุณก็คือแม่ของฉันเหมือนกัน”

“ตกลง คุณจะไม่ไปใช่ไหม

ผลินพยักหน้า “ใช่”

“ได้ คุณไม่ไปงั้นผมไปเอง”

ปยุตสวมรองเท้าเตรียมตัวจะออกไป หญิงชราเดินลงมา จากชั้นบน “หยุดนะ” เธอออกคำสั่งกับลูกชาย

“แม่”

ปยุตหันหลัง หยุดยืนนิ่งถอนหายใจ

“ลูกจะไปไหน?”

“ผมจะออกไปเดินเล่นครับ”

“ถ้าหนูผลินไม่ไป ลูกก็จะไม่กลับมาใช่หรือไม่?”

ปยุตไม่ได้ตอบอะไร

น้ำตาของหญิงชราเริ่มไหลล้นออกมาจากสองตา : “บ้าน หลังนี้เงียบเหงามากพอแล้ว ลูกไปแล้วก็คงไม่กลับมาอีก2-3ปี ถ้าเป็นเมื่อก่อนไปแล้วก็ไปเถอะ แต่ว่าตอนนี้พ่อ ของลูกตายยังไม่ทันอะไร ลูกก็จะไปอีกแล้วหรือ ลูกอยาก ให้แม่ไปอยู่กับพ่อเร็วๆใช่ไหมล่ะ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แม่อย่าพูดเหลวไหลสิครับ”

“ถ้าไม่ใช่งั้นลูกก็อยู่ที่บ้านนี้แหละไม่ต้องออกไปไหนทั้ง นั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถ้าลกก้าวเท้าออกจากบ้านหลังนี้ แม้เพียงก้าวเดียว แม่จะตายตามพ่อไปสวรรค์ทันที”

ปยุตได้แต่เอามือก่ายหน้าผาก หมดหนทางยอมแพ้ต่อแม่ ของเขา

หลังทานอาหารค่ำเสร็จ ปยุตขึ้นไปที่ชั้นบน ผลินอยู่เป็น เพื่อนแม่สามีพูดคุยกันที่ห้องรับแขก แม่สามีจับมือเธอกล่าว ว่า “หนูผลิน ขอโทษด้วยนะจ้ะ ที่ลูกชายของฉันมีท่าทีแบ บนั้นน่ะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ได้ถือสาอะไรค่ะ”

ถ้าหากไม่รู้มาก่อนว่าปยุตซ่อนเร้นอะไรไว้ในใจละก็ เธอจะ ไม่ถือสาไม่ได้หรอก เธอจะต้องเอาเรื่องแน่

“ถ้างั้นหนูรับปากฉันได้ไหมละจ๊ะ ไม่ว่าลูกชายของฉันจะ มีท่าทีเมินเฉยไม่แยแสต่อหนูเพียงใด หนูก็จะไม่ไปจากเขา อีก?”

“ค่ะ หนูรับปาก แม้ว่าคุณแม่จะไล่หนูอีก หนูก็จะไม่ไปค่ะ”
หญิงชราก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด “แม่ขอโทษ ครั้งนั้นแม่ ตัดสินใจผิดไปเอง”

“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว”

แม่ผัวลูกสะใภ้สองคนคุณกันอยู่สักพัก ผลินจึงค่อยๆเดิน ขึ้นชั้นบนไป มาถึงยังห้องนอนของเธอและปยุตที่จากไป กว่า2ปี

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เธออกแรงเคาะประตู ปยุตเปิดประตูออก อย่างไม่รีรอ : “มีอะไร?”

“นอน”

เธอไม่รอให้เขาเชิญเข้าห้องไป กวาดตามองการตกแต่ง ภายในห้อง : “ในนี้ยังเหมือนเดิมทุกอย่างเลย ไม่มีเปลี่ยน สักนิด มีแต่คนเท่านั้นแหละที่เปลี่ยน”

ปยุตพูดด้วยสีหน้าเย็นซาว่า “นี่เป็นห้องของผม ถ้าคุณ อยากนอนก็ไปที่ห้องข้างๆสิ

“นี่ก็เป็นห้องของฉันเหมือนกัน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแยกกับ คุณ”

ผลินนั่งลงที่ริมเตียง ยังไงซะฉันก็เป็นคู่ชีวิตของคุณ

ปยุตถอนหายใจอย่างอดทน หันหลังเดินออกไปจากห้อง ปิดประตูดังปัง
ผลินเปิดดูตู้เสื้อผ้า ได้กลิ่นเหม็นอับหน่อยๆ ในตู้เสื้อผ้า นั้นยังคงจัดวางเสื้อผ้าของเธออย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือนเดิม ผู้ชายคนนี้ช่างปากไม่ตรงกับใจเอาเสียเลย เห็น ได้ชัดว่าในใจเขายังมีเธออยู่เสมอ กลับทําเป็นผู้ร้ายปาก แข็งไม่ยอมรับไปไ

ไม่เป็นไร ก็แค่คนปากแข็ง เธอจะทำให้เขายอมรับให้ได้ ผู้ร้ายปากแข็ง

เธออาบน้ำเสร็จแล้ว เดินมาที่ห้องข้างๆ เคาะประตูอีก ครั้ง เคาะอยู่สักพักปยุตจึงออกมาเปิดประตู “คุณจะเอาอะไร อีก?”

เขาตะโกนด้วยความโกรธ

“ทําไมคุณมาอยู่ห้องนี้ล่ะ? ห้องนี้เมื่อก่อนไม่ใช่จันทรเคย อยู่หรือ? หรือว่าคุณยังคิดถึงเธออยู่ไม่เคยลืม?

เธอกุมมือทั้งสองข้างแนบอกยืนอยู่ข้างประตู มองเขา อย่างรอคอย

ปยุตยังคงกัดฟันคำรามอีกหนึ่งประโยค “มันเรื่องของคุณ! คุณคิดว่าคฤหาสน์ใหญ่โตขนาดนี้มีห้องอยู่ไม่กี่ห้องหรือยัง ไง?”

เขาออกจากห้องไปอีกครั้ง เลี้ยวหายไปจากสายตา ผลิต รีบเดินตามไป แล้วพบว่าเขาเดินเข้าไปยังห้องรับแขกอีก ห้องหนึ่ง
เธอค่อยๆย่อง หันหลังวิ่งลงบันไดมาชั้นล่าง

ค่ำคืนอันมืดมิด มีเงาร่างหนึ่งหลบๆซ่อนๆอยู่ที่หน้าประ ตูห้องปยุต หลังจากเปิดประตูแล้วตะแคงตัวเข้าไปในห้อง อย่างเงียบๆ เปิดผ้าห่มออกนอนลงไปโดยอาศัยแสงจันทร์ อันบางเบา

ผลินไม่กล้าเข้าใกล้ตัวปยุต อาศัยช่องว่างระหว่าง หมอนข้างจ้องมองดูเขาอย่างเงียบๆ เขาหลับสนิทมาก ไม่รู้ ตัวเลยว่าขณะนี้บนเตียงของเขามีเธออยู่

เธอควรทําอย่างไรดีนะถึงจะทำให้ปยุตกลับมาเป็นเหมือน ตั้งแต่ก่อนได้?

ตอนนี้แม้แต่แตะต้องเธอสักนิดเขาก็ยังไม่กล้าเลย เธอมี ใจอยากที่ช่วยดูแลเขา แต่ว่าพลังใจอย่างเดียวอาจไม่เพียง พอ

และปัญหาที่สำคัญตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เขากลับมา เข้มแข็งอีกครั้ง แต่ว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เขากล้าที่จะเผชิญ หน้ากับชีวิตที่มีอยู่สองเพศ

ใช้เหล้าแรงๆให้เขาดื่มแล้วเมา?

ไม่ได้สิ ถ้าเขาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองเสียความบริสุทธิ์ อีกครั้ง เขาจะต้องฆ่าเธอแน่ๆ

หรือว่าให้เขากินยาปลุกเซ็กส์ดี?
ก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ เป็นเพราะนังจันทรให้เขากินของพวก นี้นะสิ เขาถึงได้สูญเสียความรู้สึกทางเพศไป

ใช้วิธีไหนดีนะ? ผลินครุ่นคิดอย่างหนักจนผมแทบขาวทั้ง หัว

ขณะที่เธอกำลังจะหดมือกลับ ทันใดนั้นคนที่อยู่ข้างๆพลิก ตัวกลับมา จับแขนของเธอแล้ว ซุกไว้ใต้ตัวของเขา

ผลินถลึงตาตกใจสุดขีด ในเวลานั้นตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก พูดตะกุกตะกักออกมา “คุณ…คุณตื่นแล้วหรือ?”

คลิก โคมไฟที่หัวเตียงสว่างขึ้น ปยุตตาแดงก่ำจ้องมอง เธอ : “คุณขึ้นมาอยู่บนตียงผมได้ยังไง?”

“ฉันนอนคนเดียวหนาวจะแย่ ก็เลย… ทำความร้อนที่นี่หน่อยน่ะ ก็เลยมาขอยืมเครื่อง

“ผมถามว่าคุณเข้ามาได้ยังไง?”

ปยุตกัดฟันถามต่อ

สายตาของเธอมองไปที่กุญแจห้องที่วางอยู่บนหัวเตียง : “คุณแม่ให้มาน่ะ”

“คุณทำไมถึงได้เปลี่ยนเป็นคนแบบนี้เนี่ย?” เขาคาดเดา อะไรบางอย่างจากเธอ “คุณรู้อะไรมาใช่ไหม?”
ผลินส่ายหน้าด้วยแววตาใสซื่อ เพื่อที่จะปกป้องศักดิ์ศรี ของปยุต จําต้องโกหกออกไป “ฉันไม่รู้อะไรเลย แต่ว่าฉัน ควรจะรู้อะไรหรือ?”

ปยุตหันหลังกลับ พูดอย่างเสียมิได้ “ไม่มีอะไร คุณออก

ไปเถอะ”

เธอไม่ยอมแพ้ ยื่นมือออกไปโอบที่เอวเขา “ฉันไม่ไป เรา แยกจากกันนานแล้ว คุณไม่คิดถึงกันบ้างเลยหรือไงคะ?”

อุตส่าห์เปิดทางให้ซะขนาดนี้แล้ว ผลินหวังว่าจะกดดันให้ ปยุตสารภาพความจริงของเขาออกมาให้เธอฟัง เธอจึงจะ สามารถช่วยเหลือเขาได้อย่างเปิดเผย

ปล่อยให้เขาพูดออกมาด้วยตัวเอง ดีกว่าให้เธอถามฝ่าย เดียวเป็นไหนๆ

เธอเขยิบเข้าใกล้เขามากขึ้นอีก เริ่มจบลงที่แก้มของเขา ไล่ไปจนถึงคาง ริมฝีปากอันเซ็กซี่ ไล่ไปจนถึงจมูก และไป ถึงดวงตาทั้งสองข้าง แล้วบังเอิญไปโดนหยดน้ำตาแห่งต วามขมขื่นเข้า

“ผลิน คณพอเถอะ ผมไม่ใช่ปยุตคนเดิมอีกแล้ว ผมไม่ใช่ ผู้ชายปกติแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว ไม่สามารถตอบสนองความ ต้องการของคุณได้อีก”….

ร่างของเธอหยุดนิ่งชะงักไป
ต้องมีความกล้าหาญแค่ไหนกันถึงจะสามารถบอกความ บกพร่องของตัวเองออกมาได้ ในที่สุดเขาได้ก้าวข้าม ศักดิ์ศรีออกมาด้วยประโยคนั้น ประโยคที่ทำให้ผลินปวด ใจถึงที่สุด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ