ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 53 ขดลัยความลับ



ตอนที่ 53 ขดลัยความลับ

ยืนอยู่ในล็อบบี้สนามบิน เธอรู้สึกว่ามันช่างยุ่งเหยิง แต่ มันก็แค่นั้น ไม่มีประโยชน์กับการต้องรู้สึกยุ่งเหยิงแบบนี้ อย่างไรเสียก็ต้องรอจนกว่าจะเช้า

ท้องฟ้าเดียวกัน แต่เมื่อต่างเมืองสภาพอากาศก็แตก ต่าง เมือง T ฝนตกหนัก ต่างจากท้องฟ้าในเมือง B ที่เต็มไป ด้วยดวงดาว

ชุดาคุยกับเพื่อนอย่างมีความสุขและกลับบ้านมาเมื่อ เวลาดึกมากแล้ว ประมาณสองร้อยเมตรจากประตูบ้าน เธอ เห็นคนกำลังลับ ๆ ล่อ ๆ ก้าวเดินอย่างคนเมา จึงตะโกนออก ไป “ใครน่ะ”

คนที่ถูกเธอตะโกนใส่ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว ฟัง เสียงดูก็ได้รู้ว่าเป็นเสียงของผู้ชาย อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า เธอเก่งขนาดนั้นเลยหรือ แค่ตะโกนใส่ก็ทำให้ผู้ชายตัวใหญ่

ร้องไห้ได้

“เฮ้ นายเป็นใครน่ะ มาทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ที่หน้าประตูบ้าน

ฉัน”

เธอผลักเขาอย่างหยาบคาย

ชายที่กำลังกุมศีรษะตัวเองหยุดร้องไห้ แอบเหลือบมอง เธอแล้วกล่าวว่า “ผม…ผมมาตามหาภรรยาของผม
“ภรรยาของนาย ใครเป็นภรรยาของนายกัน บ้านเราไม่มี ภรรยาของนายหรอกนะ”

“แต่พี่ชายคนขับรถพาผมมาที่นี่ ตามที่อยู่

ชายหนุ่มรีบหยิบแผ่นกระดาษสีขาวยับยู่ยี่ออกมาจาก กระเป๋าเสื้อของเขา มันมีข้อความรายละเอียดของที่อยู่ เป็น ที่อยู่ของตระกูลเจริญมาศ

แปลก ใครให้มันกับนาย

“ผมขโมยมาจากห้องหนังสือของคุณพ่อ”

“พ่อของนายเป็นใคร

“พ่อผมเป็นเศรษฐีใหม่

อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เสียเวลาไปตั้งนานกลับกลายเป็น ว่าเขาเป็นคนปัญญาอ่อน

“น้องชายคนนี้ นายมาผิดที่แล้ว บ้านเราไม่มีภรรยาของ นายหรอก นายไปหาที่อื่นเถอะ”

ชุดาหันหลังแล้วเดินจากไป แต่ผู้ชายเอื้อมมือของเขา มาดึงมือเธอไว้ “คุณโกหก ภรรยาของผมอาศัยอยู่ที่นี่”
เธอสะบัดเขาออกไปอย่างหงุดหงิด พูดอย่างนึกรังเกียจ “พวกโรคจิต บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ ถ้ายังไม่ไปฉันจะเรียก ตำรวจนะ”

ชายหนุ่มเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด หยิบรูปขนาดหกนิ้วออก มาจากกระเป๋าของเขาพลางพึมพำ “ลินลิน ลินลิน เธออยู่ ไหน เธอไม่ต้องการธาตรีแล้วเหรอ…

เมื่อชุดาได้ยินเขาพูดว่าลินลิน ก็เอื้อมมือไปคว้ารูปในมือ ของเขามาดู เมื่อได้เห็นก็ตาแทบถลน “เธอเป็นภรรยานาย เหรอ”

ธาตรีร้องไห้พลางพลักหน้า “อืม”

“นายบอกว่าเธอเป็นภรรยาของนาย

ชุดาไม่อยากจะเชื่อจึงถามออกไปอีกครั้ง

“ใช่ เธอเป็นภรรยาที่พ่อซื้อให้ผม

นานนับนาทีที่ชุดาเงียบเป็นเป่าสาก ทำเพียงจ้อง ไปที่รูป เธอไม่รู้ว่าควรจะเชื่อดีหรือไม่กับคำพูดของคน ปัญญาอ่อน แต่ถ้าไม่เชื่อแล้วรูปนี้คืออะไร ในเมื่อคนในรูป คือผลินที่เป็นหนามในดวงตาของเธอจริง ๆ

“นายอยากเจอภรรยาของนายใช่ไหม

“…อืม”
แววตาของชุดาเกิดความเจ้าเล่ห์ “งั้นก็ดี ฉันจะพานาย

ไปเจอ”

เธอพาธาตรีไปพักยังโรงแรมที่ใกล้ที่สุด แล้วเริ่ม สอบถามถึงเหตุและผล ถึงแม้ว่าจะเป็นคนปัญญาอ่อน และ คำพูดก็จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่หลังจากการวิเคราะห์ ข้อมูลโดยทั่วไปแล้ว ก็สามารถจะเข้าใจได้เจ็ดถึงแปดส่วน

ถ้างั้นจะบอกว่า ลินลินเป็นคนที่พ่อนายใช้เงินซื้อมาให้ นายเพื่อเป็นลูกสะใภ้ และแค่รอให้พวกนายโตขึ้น เธอก็จะ ต้องเป็นคนในครอบครัวของนายน่ะเหรอ”

ธาตรีพยักหน้าอย่างคนโง่เง่า “ใช่ ๆ

ชุดากระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น หัวใจก็พลันเต้น แรง “น้องชาย นายมาได้เวลาพอดีเลย ร้อะไรไหม นายกับ ลินลินเข้ากันดีนะ ไม่มีใครอีกแล้วที่จะเหมาะสมกับเธอไป มากกว่านาย”

เกิดความคิดที่จะขุดคุ้ยความลับของผลิน เธอตื่นเต้น ดีใจจนอยากจะร้องเพลง ต้องการที่จะลบความอัปยศอดสูที่ เคยได้รับก่อนหน้านี้

“แล้วภรรยาของผมล่ะ คุณไม่ได้จะพาผมมาหาเธอเหรอ”

ชุดาเก็บซ่อนรอยยิ้มของตัวเอง “นายไม่ต้องรีบ เธอจะ กลับมาจากการเดินทางไปดูงานในวันพรุ่งนี้ นายพักที่นี่ ก่อน พรุ่งนี้พี่สาวจะพานายไปหาเธอเองนะ”
แววตาของชุดาเกิดความเจ้าเล่ห์ “งั้นก็ดี ฉันจะพานาย

ไปเจอ”

เธอพาธาตรีไปพักยังโรงแรมที่ใกล้ที่สุด แล้วเริ่ม สอบถามถึงเหตุและผล ถึงแม้ว่าจะเป็นคนปัญญาอ่อน และ คำพูดก็จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่หลังจากการวิเคราะห์ ข้อมูลโดยทั่วไปแล้ว ก็สามารถจะเข้าใจได้เจ็ดถึงแปดส่วน

ถ้างั้นจะบอกว่า ลินลินเป็นคนที่พ่อนายใช้เงินซื้อมาให้ นายเพื่อเป็นลูกสะใภ้ และแค่รอให้พวกนายโตขึ้น เธอก็จะ ต้องเป็นคนในครอบครัวของนายน่ะเหรอ”

ธาตรีพยักหน้าอย่างคนโง่เง่า “ใช่ ๆ

ชุดากระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น หัวใจก็พลันเต้น แรง “น้องชาย นายมาได้เวลาพอดีเลย ร้อะไรไหม นายกับ ลินลินเข้ากันดีนะ ไม่มีใครอีกแล้วที่จะเหมาะสมกับเธอไป มากกว่านาย”

เกิดความคิดที่จะขุดคุ้ยความลับของผลิน เธอตื่นเต้น ดีใจจนอยากจะร้องเพลง ต้องการที่จะลบความอัปยศอดสูที่ เคยได้รับก่อนหน้านี้

“แล้วภรรยาของผมล่ะ คุณไม่ได้จะพาผมมาหาเธอเหรอ”

ชุดาเก็บซ่อนรอยยิ้มของตัวเอง “นายไม่ต้องรีบ เธอจะ กลับมาจากการเดินทางไปดูงานในวันพรุ่งนี้ นายพักที่นี่ ก่อน พรุ่งนี้พี่สาวจะพานายไปหาเธอเองนะ”
“เมื่อผลินแต่งงานกับคุณปยุตแล้วน่ะ ทั้งฉันและพ่อของ แกก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ได้ ถ้าแกเปิดเผย ยากที่จะรับประกันว่าคุณปยุตจะไม่ระบายความไม่พอใจใส่ เรา ดังนั้นเรื่องนี้ต้องคิดอีกนาน

ชุดารู้สึกว่าแม่พูดถูก ดังนั้นหลังจากที่แม่กับลูกสาว อภิปรายกันอยู่สามชั่วโมง ก็ตัดสินใจขั้นสุดท้าย เรียกเธอ ออกมา ให้เธอออกมาจากที่นั่นด้วยตัวเอง

ผลินเพิ่งบินกลับมาจากเมือง T มายังเมือง B ทันทีที่ เครื่องลงก็มีสายโทรเข้ามา “ฮัลโหล?”

“อยู่ที่ไหน ออกมาเจอกันหน่อย”

“ไม่ว่าง” เธอปฏิเสธอย่างเย็นชา

ดูเหมือนชุดาจะคิดไว้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องปฏิเสธ จึงไม่ โกรธและพูดอย่างมั่นใจว่า “เธอต้องมา ไม่อย่างนั้นเธอจะ

ต้องเสียใจ”

“หึ มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องไปตามนัด

“ยังไม่บอกเหตุผลกับเธอหรอก ถ้ามาก็จะรู้เอง”

“แล้วถ้าฉันบอกว่ายังไงก็ไม่ไปล่ะ”

“ก็อย่างที่บอกไปว่าเธอจะต้องเสียใจ ฉันจะรอเธอครึ่ง ชั่วโมง หวังว่าภายในครึ่งชั่วโมงนี้เธอจะเลือกทางที่ฉลาดนะ”

ชุดาวางสายไป ผลินเป็นคนฉลาด คิดได้ทันทีว่าเป็นไป ได้ที่ธาตรีจะต้องอยู่ที่ตระกูลเจริญมาศ เธอจึงโทรกลับไป ทันที “ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ไปตามนัด แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ใน เมือง B ถ้าอย่างนั้น เราเจอกันตอนสี่โมงเย็นก็แล้วกัน”

“เธอคิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ”

“ถ้าสงสัยเธอก็สามารถโทรไปที่บ้านของแม่สามีฉันได้ ฉัน มาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนร่วมชั้นในเมือง T

ชุดาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ก็ดี ฉันจะไปถาม”

เธอโทรไปที่คฤหาสน์นภาจริง ๆ คนที่รับโทรศัพท์คือแม่ บ้าน เมื่อได้ยินว่าเธอกำลังตามหาคุณนายน้อย ก็บอกตาม ตรงว่าคุณนายน้อยไม่ได้อยู่ที่นี่ คำตอบเหมือนกันกับผลิน

ทางผลินเมื่อวางสายแล้วก็ติดต่อไปที่ทาตฤทันที ทั้ง สองฝ่ายตกลงกัน เธอหาโรงแรมที่พักใกล้สนามบิน อดทน รอคู่สามีภรรยาที่กำลังเดินทางมา แล้วจะไปพร้อมพวกเขา

บ่ายสามโมงครึ่ง ผลินได้รับสายจากชุดาอีกครั้ง “กลับ มาหรือยัง”

“กลับมาแล้ว อยู่ระหว่างทางไปตามนัด

แท็กซี่จอดที่ร้านกาแฟในเมือง เธอเดินเข้าไปอย่างใจเย็น เห็นธาตรีเพียงชั่วครู่ก็เข้าใจทุกอย่าง

“ลินลิน ลินลินในที่สุดฉันก็ได้เจอเธอ ฉันคิดถึงเธอมาก

เมื่อธาตรีเห็นเธอก็ลุกขึ้นวิ่งมาหาแล้วเริ่มร้องไห้เหมือน

เด็ก

เธอผลักเขาออกช้า ๆ แล้วพูดอย่างใจเย็น “ธาตรี เธอ ซนอีกแล้วนะ ไม่รู้เหรอว่าคุณพ่อกับคุณแม่เป็นห่วงเธอ”

เมื่อชุดาเห็นฉากนี้ ริมฝีปากก็ยิ้มอย่างเสียดสี จากนั้น เธอก็กระแอมไอเบา ๆ “เรามาคุยธุระกันก่อนแล้วค่อยไป คร่ำครวญถึงเรื่องราวของความรักดีไหม”

“ธุระอะไร”

“เธอยังจะไขสือ ผู้ชายคนนั้นเป็นสามีของเธอ ตอนนี้ฉันรู้ เรื่องทั้งหมดแล้ว”

หึ ผลินหัวเราะเยาะ “เธอนี่จินตนาการได้ล้ำเลิศจริงนะ

ใครบอกเธอว่าเขาเป็นสามีฉัน”

“เขาเป็นคนพูดเอง”

อยากให้ฉันหาผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบไหมว่าเขาเป็น คนปกติหรือเปล่า” ชุดาใบหน้างอ “บางทีเขาอาจจะมี ความผิดปกติทางด้านไอคิว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคำพูดของเขาจะมีปัญหา”

“ไอคิวผิดปกติ แล้วคำพูดจะไม่มีปัญหาได้ยังไง หาเรื่อง ไม่ได้ก็มาจับผิดแบบนี้น่ะเหรอ”

“เธอกำลังพยายามที่จะปฏิเสธงั้นเหรอ ถ้ามันไม่ใช่อย่าง นั้น แล้วเขารู้จักเธอได้ยังไง ทำไมเขาถึงเรียกเธอว่าภรรยา ของเขา”

“ฉันไม่ได้บอกว่าฉันไม่รู้จักเขา แค่ไม่ยอมรับว่าเธอพูดถูก เขาเป็นแค่เด็กที่ฉันรู้จักจากพ่อของเขา และเขาอายุน้อย กว่าฉันหนึ่งปี ตามหลักแล้วเป็นน้องของฉัน”

“น้องชายเหรอ เธอคิดว่าฉันชุดาคนนี้จะถูกเธอหลอกได้ หรือไง ฉันขอเตือนเธอนะ ถ้าเธอยังดื้อด้านเธอไม่ได้ตายดี แน่ ถึงตอนนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน

“แล้วเธอต้องการอะไร

ผลินมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า ชุดาเคลียร์คอแล้วพูด อย่างจริงจัง “การถอนตัวเป็นวิธีเดียวที่ร่างกายเธอจะครบ

สามสิบสอง”

“ทําไมฉันต้องฟังเธอ”

เธอยิ้มเยาะ “เพราะความลับของเธออยู่ในกำมือของฉัน ถึงเธอจะไม่เต็มใจ ก็ต้องทำตามที่ฉันบอกอยู่ดี”
“แล้วถ้าฉันไม่ทําตามที่เธอบอกล่ะ ทำไม จะไปที่บ้านของ สามีฉันแล้วเปิดเผยฉันงั้นเหรอ”

“ใช่”

ผลินพูดอย่างไร้อารมณ์ “ฉันไม่เคยบอกเธอเหรอ ว่าเธอ มันเป็นคนไม่มีความกล้าและไม่มีหัวคิด เธอคิดว่าจะทำให้ ฉันออกไปจากที่นั่นได้งั้นเหรอ คุณปยุตจะอยากเจอเธอหรือ ไง”

“ถึงจะไม่อยากเจอฉัน ฉันก็มีวิธีของตัวเอง แต่ตราบใดที่ เธอยังยุ่งอยู่กับเรื่องนี้ สิ่งที่เธอได้รับมาก็จะหายไป

แล้วเธอไม่คิดว่าเขาจะโกรธตระกูลเจริญมาศงั้นเหรอ “ เขาเป็นคนยังไง ฉันคิดว่าเธอไม่น่าจะไม่รู้นะ

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับครอบครัวของเรา เราไม่ได้ให้เธอ ไปแต่งงานกับคนปัญญาอ่อนนะ”

ถึงแม้ว่าธาตรีจะเป็นคนปัญญาอ่อน แต่เมื่อถูกเรียกว่า เป็นคนปัญญาอ่อนเขาก็จะไม่พอใจ เขาคำรามใส่ชุดาอย่าง ฉุนเฉียว “เธอสิปัญญาอ่อน ยายผู้หญิงน่าเกลียด!

ผลินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ บางคนก็มีข้อห้ามไม่ให้คนอื่น พูดว่าเธอน่าเกลียด และตอนนี้ใบหน้าก็ได้กลายเป็นสีเขียว

ไปแล้ว
“สรุปว่าเธอจะรับปากหรือไม่รับปาก ฉันไม่มีเวลามาอยู่กับ พวกเธอที่นี่ทั้งวันหรอกนะ!”

“รับปากอะไร ทำไมฉันต้องรับปากในเรื่องที่ไม่มีเหตุผลนี่ ด้วยไม่ทราบ”

ชุดาลุกขึ้นยืนอย่างเกรี้ยวกราด “ได้ เธอรอฉันได้เลย”

เมื่อเธอเตรียมตัวที่จะออกไป ชายวัยกลางคนอายุสี่หรือ ห้าสิบปีก็มาถึง ไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว ผู้ชายคนนั้นก็ยกมือขึ้น และตบไปที่ธาตรี พูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “ไอ้เด็กเหลือ ของ มีสักวันไหมที่จะไม่ทำให้ฉันต้องกังวล”

ชุดารู้สึกเหมือนว่าถูกตบเสียเอง เกิดความมึนงงไปชั่ว

ครู่

“พ่อบุญธรรม คุณตีเขาทำไม”

ผลินก้าวเข้าไปปกป้องธาตรี ดวงตาทั้งดูเศร้าและตำหนิ

“เธอจะไม่ให้ตีเขาได้ยังไง วันทั้งวันเห็นผู้หญิงคนไหน ก็เรียกแต่ว่าเขาเป็นภรรยา ตอนนี้แม้แต่เธอก็ยังเป็นภรรยา ของเขา นับวันก็ยิ่งแย่ลง!”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไร

ผลินหันมองผู้หญิงอีกด้านด้วยสายตาเศร้าหมอง “พ่อ บุญธรรมฉันจะแนะนำให้คุณรู้จัก นี่ชุดาน้องสาวของฉัน”
“โอ้ เป็นน้องสาวของยายลินเหรอ ยินดีที่ได้พบนะ”

หัวใจที่เต็มไปด้วยความพยาบาท ถามคำถามอย่าง เหยียดหยาม “โอ้ พี่สาว เธอมีพ่อบุญธรรมตั้งแต่เมื่อไหร่ ทําไมน้องสาวอย่างฉันถึงไม่เคยรู้เลย

“นานแล้ว ฉันคิดว่าเธออาจไม่สนใจที่จะรู้ ฉันจึงไม่ได้บอก

” เธอ

เมื่อผลินพูดจบ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น หมายเลขที่ปรากฏเป็นเบอร์ของปยุต ขนตาของเธอสั่นเล็ก น้อย “ฉันขอตัวไปรับโทรศัพท์นะคะ พวกคุณคุยกันไปก่อน

ปยุตเป็นฝ่ายติดต่อมาหาก่อน การมีสายโทรเข้ามาตอน นี้ ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกตระหนก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ