ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 137 สัตว์ในร่างมนุษย์(2)



ตอนที่ 137 สัตว์ในร่างมนุษย์(2)

ผลินร้องไห้เสียงดัง เมื่อคืนที่ผ่านมาเธอซ่อนตัวอยู่ใน ที่ที่ไม่มีใครรู้จัก จนน้ำตานั้นได้เหือดแห้งไป แต่วันนี้น้ำตา ก็เหมือนสายน้า เมื่อมีการสะสมมากเข้า ก็กลายเป็นกระแส เชี่ยวกรากไม่มีที่สิ้นสุด

หญิงชราเองก็ร้องไห้เหมือนกัน ผลลัพธ์ในเรื่องที่เธอ ปรารถนา นั้นช่างโหดร้ายอะไรอย่างนี้…แม่สามีและลูก สะใภ้ กอดกันและร้องไห้ด้วยกันเป็นเวลานาน เธอเงย หน้าขึ้นและกล่าวว่า มันไม่ใช่ความผิดของเธอ มันเป็นแค่ เรื่อง ตลกที่โหดร้ายของพระผู้เป็นเจ้า”

คุณนายท่านสูดจมูก”เธอเอาใบตรวจมาให้ฉันดูหน่อย

จ๊ะ”

ผลินมือสั่นหยิบเอาผลตรวจจากกระเป๋าที่มันถูกขยำจน ยับยู่ เมื่อคืนเธอถือใบตรวจร่างกายเอาไว้ ร้องไห้ไปพลาง ดูไปพลาง และเมื่อดูก็ขยำไปพลาง ไม่ว่าจะดูกี่ครั้ง และไม่ ว่าเธอจะหวังว่าหมอจะอ่านผลตรวจผิดอีกกี่หน ผลลัพธ์ สุดท้ายก็ยังคงเป็นเช่นเดิม

เมื่อหญิงชราเห็นคำว่ามีบุตรยาก ก็น้ำตาไหลผ่าน ดวงตา แต่คราวนี้เธอไม่ร้องไห้กับลูกสะใภ้ในอ้อมแขน อีกต่อไป แต่เธอพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่เป็นไร ปัจจุบัน วิวัฒนาการทางการแพทย์ได้รับการพัฒนาไปได้ไกลแล้ว มันจะ ต้องรักษาหายได้ พรุ่งนี้ฉันจะติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้าน สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาในสหรัฐอเมริกา เธอเป็นคนรู้จักของฉันมานาน เธอเคยรักษาผู้ป่วยที่มีบุตรยากมาแล้วนับไม่ ถ้วน พวกเราอย่าเพิ่งเสียใจ เชื่อว่าเธอจะทำสิ่งมหัศจรรย์ ให้เราได้”

เมื่อผลินได้ยินคำพูดของแม่สามีก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุข ขึ้นมาสักนิด เธอรู้ว่าการรักษาภาวะมีบุตรยากแบบปฐมภูมิ นั้นเป็นความหวังที่น้อยมาก และสำหรับตอนนี้สิ่งที่เผชิญ อยู่ตรงหน้าคือถ้าเธอไม่สามารถรักษาให้หายขาด ได้แล้ว ตระกูลทรัพยสานจะยังคงยอมรับเธออยู่อีกหรือไม่

“คุณแม่คะ แล้วถ้าฉันไม่สามารถรักษามันได้ล่ะคะ…

ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เวลาที่จะพูดออกมา แต่ผลินก็ อดที่จะถามออกมาไม่ได้ หลังจากระเบิดฉับพลันอีกครั้งและ อีกครั้ง เธอจึงต้องเริ่มที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้ล่วง หน้า

คุณนายท่านถอนหายใจหนัก มองเธอและกล่าวว่า “หนู ลิน เธอวางใจได้ ไม่ว่าเธอจะเป็นหมันหรือไม่ เธอก็ยัง เป็น ลูกสะใภ้ของตระกลูทรัพยสานของพวกเราทั้งหมด พวกเรา ยืนยันต่อเธอ ดังนั้นตอนนี้อย่าให้จิตใจมีภาระหนัก เกินไป นัก มันจะง่ายต่อการรักษาของเธอ ไม่ต้องคิดเรื่องอะไรอื่น อีกแล้วนะ”

ผลินยังคงน้ำตาไหลไม่หยุด แม้ว่าแม่สามีจะให้คำตอบ ที่อบอุ่นแก่เธอ แต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเธอเองล่ะ

“หยุดร้องไห้เถอะเด็กน้อย เชื่อใจแม่นะ ไม่ว่ามันจะราคาเท่าไร และไม่ว่าจะต้องเสียต้นทุนเท่าใด ฉันก็จะหาวิธ มา รักษาเธอให้ได้”

มองไปที่ความมั่นคงในแววตาของแม่สามี หัวใจที่ เย็นชาของผลินในที่สุดก็ซึมเข้าไปในกระแสน้ำอุ่น ใน สถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ เธอยินดีที่จะเชื่อในแม่สามีที่รักเธอ

“ค่ะ ขอบคุณคุณมากนะคะคุณแม่”

คุณนายท่านตบไหล่ของลูกสะใภ้ ตกลงตามนี้แหละจะ ยังไม่ต้องบอกคนในบ้าน ส่วนตายุต ตัวเธอก็ลองคิดดู ว่า อยากจะบอกเขาหรือไม่ แล้วค่อยให้คำตอบฉันพรุ่งนี้”

ตกเย็น ปยุตกลับมาบ้าน สิ่งแรกที่ทำคือการวิ่งขึ้นไป ข้างบน เพื่อดูว่าภรรยาของเขาอยู่ที่บ้านหรือไม่ เมื่อเห็นว่า เธออยู่ในห้อง เขาก็รู้สึกวางใจ

“ดูอะไรอยู่เหรอ”

ผลินนั่งอยู่หน้าแล็ปท็อป ปยุตเดินเข้ามาทางด้านหลัง เธอยิ้มอย่างขมขื่นไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ดูไปเรื่อย เปื่อย”

“ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว ลงไปด้วยกันกับผมไหม

“อึมค่ะ”
เธอปิดแล็ปท็อป แล้วตามหลังปลงไปข้างล่าง

ข้างล่างในห้องนั่งเล่น คุณนายท่านเห็นลูกชายจูงมือลูก สะใภ้อย่างใกล้ชิด หัวใจก็เศร้าโศกจนไม่สามารถอธิบาย ได้ เธอรู้ว่า ผลการตรวจร่างกายที่โหดร้ายนั้น มันคือบททดสอบ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความรู้สึกระหว่างลูกชายและ ลูกสะใภ้

หลังจากอาหารเย็น ผลินต้องการที่จะพูดคุยกับแม่สามี แต่ปยุตลากเธอขึ้นไปข้างบนเสียก่อน

“วันนี้ไม่ทํางานเหรอ”

เธอนั่งอยู่บนโซฟา ปยุตนอนข้าง ๆ ศีรษะวางอยู่บนตัก หลับตาและพูดว่า”ไม่ได้นอนทั้งคืน วันนี้ที่บริษัทก็ย่ง ทั้งวัน ตอนนี้ถ้ายังต้องกลับมาทำงานที่บ้านอีก คุณคิดว่าสามีของ คุณทําจากเหล็กเหรอ”

“ฉันก็แค่ถามดู ถึงแม้ว่าคุณจะบอกว่าต้องการทำงาน ฉันก็ จะไม่ปล่อยให้คุณทํางานหรอก”

ผลินจ้องมองเขาอย่างอ่อนโยน มือนุ่มลูบผมสีดำที่หน้า ผากของเขา จากนิ้วทีละนิ้ว เหมือนการสัมผัสด้วยหัวใจ

“ผมหวังว่าเวลาจะหยุดเอาไว้ที่ตรงนี้ ความอ่อนโยนจาก มือของคุณทำให้ผมมีความสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมา ก่อน

เมื่อปยุตพูดจบ ก็จับมือเธอมาที่ริมฝีปากและกดจูบ
“คุณยุต ฉันมีบางอย่างจะบอกคุณ”

“อืม อะไรเหรอ”

เขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาเบ่งบานไปด้วยความสุข แต่ไม่รู้ ว่าทำไม เมื่อเห็นแววตาแบบนี้ ผลินก็ไม่สามารถพูดมัน ออกมาได้

ปยุตในตอนนี้ หัวใจของเขาสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมา ก่อน ถ้าจู่ ๆ เธอบอกเขาว่าตัวเองเป็นหมัน แล้วหัวใจของ เขาที่สงบอยู่ล่ะ เขาจะต้องเจ็บปวดมากขนาดไหน…

“ทำไมไม่พูดล่ะ”

เมื่อปยุตเห็นเธอเงียบ เขาก็จ้องมองอย่างหนัก อดไม่ ได้ที่จะสับสนเล็กน้อย

“ไม่มีอะไร”

ผลินจมอยู่ในความเศร้าโศก หัวใจอึดอัดจนอธิบายไม่ ได้ ในคราก่อน เธอคิดว่าหลังจากเหตุการณ์ของธาตรี ไม่มี อะไรที่เป็นไปไม่ได้ที่จะซื่อสัตย์กับปยุต แต่ตอนนี้ จู่ ๆ เธอก็ รู้ว่าเมื่อเทียบกับจุดประสงค์แรกของการแต่งงาน การ เป็น หมันทำให้เธอพูดไม่ออกเสียยิ่งกว่า

“มันไม่มีอะไรจริง ๆ น่ะเหรอ ผมคิดว่าคุณมีบางอย่างที่ สำคัญมากที่จะพูดกับผมนะใช่ไหม”
“ไม่มีอะไรจริง ๆ”ผลินผลักเขาให้ลก น ไปอาบนําเถอะ ไม่ได้นอนมาทั้งคืน มันถึงเวลาที่จะต้องพักผ่อน แล้ว

“โอเค”

อาจจะเพราะว่าเหนื่อยจริง ๆ ปยุตจึงไม่ได้ถามมากอีก หลังจากอาบน้ำแล้วก็หลับไปในทันที ผลินจ้องใบหน้า ตอน หลับของเขา น้ำตาไหลลงมาเงียบ ๆ ก่อนหน้านี้ หวังว่าจะมี ลูกที่มีหน้าตาเหมือนกันกับเขา แต่มาตอนนี้ ขอ แค่ได้มีลูก ที่เป็นของพวกเขาเองเท่านั้น แม้ว่าคิ้วจะไม่เหมือนเขา เธอ ก็จะรู้สึกพอใจและมีความสุขมากแล้ว

ผลินพลิกตัวเงียบเชียบ หันหลังให้เขาเพื่อแอบร้องไห้ ไม่รู้ว่าร้องไห้นานแค่ไหน ทันใดนั้นแขนสองข้างที่อบอุ่น ก็ โอบล้อมรอบเธอจากด้านหลัง แล้วเสียงทุ้มของปยุตก็ดัง ขึ้นในหูของเธอ”ลิน คุณมีเรื่องอะไรที่รู้สึกไม่ดีอยู่ใช่ไหม ทําไมคุณถึงได้ร้องไห้ออกมาแบบนี้”

เธอรีบเช็ดน้ำตาของเธอ แล้วหันไปเผชิญหน้าและเอ่ย ถามเขา“ทำไมคุณถึงตื่นล่ะ”

“เพราะถูกปลุกด้วยเสียงร้องไห้ของคุณ”

ความรู้สึกผิดแวบเข้ามาในดวงตาของเธอ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

“แล้วทำไมต้องร้องไห้ มันเป็นเพราะผมทำให้คุณโกรธ หรือเปล่า”
“เปล่า”

“แล้วสาเหตุคืออะไร”

ลมหายใจของปยุตใกล้เข้ามา แล้วริมฝีปากก็ค่อย ๆ กด ลงบนริมฝีปากของเธอ ละเลียดลิ้มชิมรสริมฝีปากของเธอ “หรือเพราะช่วงนี้ผมเพิกเฉยต่อคุณ”

“ไม่ใช่” ผลินส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง สัมผัสอ่อนโยนของ ริมฝีปากทำให้หัวใจเธออ่อนแอ เธอเริ่มตอบสนองเขา โอบ รอบ ลำคอของเขา”คุณไม่ได้ทำให้ฉันไม่มีความสุข และ ไม่ได้เพิกเฉยต่อฉัน มันเป็นปัญหาของตัวฉันเอง ช่วงนี้ฉัน แค่คิดถึงแม่นิดหน่อยน่ะ”

เมื่อได้ยินเธอบอกว่าคิดถึงแม่ ปยุตก็รู้สึกเจ็บปวดมาก ปรับน้ำหนักจูบให้อ่อนโยนมากขึ้น แล้วพูดขึ้นว่า“ต่อไปนี้ ผมจะรักลินให้เหมือนกับที่คุณแม่ของลินรักลิน”

หัวใจของเธอเหมือนเป็นตะคริว

มันเจ็บมาก รู้สึกเหมือนมีเลือดซึมไหลออกมาจากหัวใจ

มันเจ็บมาก เธอได้แต่มองเขา มองเขาเงียบเชียบอยู่ อย่างนั้น

เขาโอบกอดเธอไว้ หลับลึกลงไป รู้สึกพึงพอใจในชีวิต จนทำให้มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
อาจเพราะเขาเหนื่อย จึงไม่ได้สังเกตว่าคนในอ้อมแขน ยังคงลืมตาอยู่ พยายามบังคับตัวเองให้เป็นเหมือนเขา ที่นอนหลับสบาย

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากปยุตไปบริษัทแล้ว คุณนายท่าน ก็มาที่ห้องลูกสะใภ้ เปิดประตูและถามเธอ “เป็นยังไงบ้าง บอกเขาแล้วหรือยัง”

ผลินตกอยู่ในความเงียบ มือทั้งสองข้างกำบีบเข้าหากัน

แน่น

เห็นเธอเป็นแบบนี้ คุณนายท่านก็รู้ได้ทันทีว่าเธอบังไม่ ได้บอก จึงปลอบใจว่า “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเธอยังไม่มี ความ กล้าที่จะพูดมันในตอนนี้ รอให้ไปอเมริกาแล้วหลังจากที่ได้ รับการยืนยันก็ยังไม่สาย

ในเวลานี้ มันเป็นทางเดียวของผลินเท่านั้น ไม่มีทางอื่น

“เมื่อคืนฉันได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าไปแล้ว เธออยากให้เรา ไปที่นั่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เธอคิดว่าจะไป เมื่อ ไหร่กันดี”

“วันไหนก็ได้ค่ะแล้วแต่คุณแม่”

“พรุ่งนี้ดีไหม จะได้ไม่ล่าช้าไปกว่านี้ ยิ่งเข้ารับการรักษา เร็วเท่าไรก็ยิ่งดีกว่า”

“อืมค่ะ”
ผลินพยักหน้าแล้วตอบเสียงเบา “พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ”

“แล้วเธอจะบอกกับตายุตว่าจะไปจากเมือง B ด้วยเหตุผล อะไรดี”

“ก็บอกว่าไปเที่ยวกับคุณแม่ค่ะ”

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน งั้นก็เอาตามนี้ พวกเราจะบอก กับพวกเขาแบบนั้น

ตกค่ำ เมื่อครอบครัวรวมตัวกันเพื่อทานอาหารเย็น คุณนายท่านก็เป็นคนแรกที่พูดขึ้น“ฉันมีบางอย่างจะบอกทุก คน พรุ่งนี้ฉันจะพาลูกสะใภ้ไปเที่ยวสักพักนะ

“ฮะ? ไปเที่ยวเหรอคะ”

ปาณีเป็นคนแรกที่ร้องขึ้น“ไปไหนคะ”

“อเมริกา”

“อเมริกา? ทำไมต้องไปไกลขนาดนั้น ในจีนไม่มีสถานที่ ท่องเที่ยวให้เที่ยวเหรอ”

คุณท่านเวทนดูแปลกใจ

ปยุตแปลกใจยิ่งกว่าใคร ก้มลงไปกระซิบถามผลินที่อยู่ ข้าง ๆ ทำไมกระทันหันจังล่ะ คุณเป็นคนชวนเอง หรือว่า เป็นคนชวน”
“ฉันชวนเอง”

ถึงแม้ว่าเขาจะถามด้วยเสียงต่ำ แต่คุณนายท่านที่หูยังดี ก็ได้ยิน และตอบคำถามของลูกชายให้แทนลูกสะใภ้

“ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงจะไปอเมริกาครับ”

“ตอนนี้เป็นเดือนมีนาคม มันเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการ เดินทางท่องเที่ยว ทำไม ทุกคนมีปัญหาเหรอที่ฉันพาลูก สะใภ้ไปเที่ยว”

ปาณียิ้มอย่างไร้อารมณ์“ทุกคนมีปัญหาเหรอ? ถึงจะมี ปัญหาก็ไม่กล้าแสดงออกมาหรอกค่ะ”

“งั้นก็ดี เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า จะกลับมาอีกประมาณ

หนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า”

“นานขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

ปยุตเลิกคิ้วอย่างขุ่นเคือง หนึ่งสัปดาห์เนี่ยนะ ไม่ได้เจอ ผลินแค่คืนเดียวก็เหมือนว่าวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง แล้ว นี่ต้องไม่ได้เจอกันเป็นสัปดาห์ เขาไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าตัว เองจะผ่านมันไปได้ยังไง

“ไปอเมริกานะ ไม่ใช่ว่าไปเมือง A เมือง C หนึ่งสัปดาห์ มากไปเหรอ ฉันยังรู้สึกว่าน้อยไปเลย

คุณนายท่านมองลูกชายของเธอ แล้วยิ้มให้ลูกสะใภ้”ท่านเยอะ ๆ นะจ๊ะ

ตั้งแต่ต้นจนจบ เกี่ยวกับเรื่องการเดินทางไปอเมริกา ผลินไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้สักคำ

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วเธอก็ขึ้นไปชั้นบน ขณะ นั้น ปยุตที่ไม่พอใจกำลังนั่งบนโซฟาจ้องเธอด้วยสายตาที่ รุนแรง ตัดสินใจตั้งแต่เมื่อไหร่”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ