ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 184 ปล่อยความรักให้เป็นอิสระ



ตอนที่ 184 ปล่อยความรักให้เป็นอิสระ

ผลินมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ปากเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ใช่ค่ะ ชะตากรรมนี้ดูเหมือนจะยาวนานด้วย

อยู่ในแผนกเดียวกัน จะเงยหน้าหรือก้มหน้าลงก็ต้องเจอ กันทุกวันอยู่ดี

“คุณควรขอบคุณผมที่ช่วยชีวิตคุณไว้”

นภนต์เอ่ยบอกความลับ ซึ่งเธออาจจะไม่เข้าใจ “คุณหมาย ถึงอะไร”

“ถ้าผมไม่จัดให้คุณมาอยู่แผนกการตลาด ไม่น่าแปลกใจ เลยหากคุณจะต้องไปอยู่แผนกธุรกิจหรือแผนกวิจัยและ พัฒนา”

“ทั้งสองแผนกไม่ดีเหรอคะ”

“แผนกดี แต่สำคัญที่ผู้นำนั้นไม่ดี หนึ่งคือชายบ้ากามอายุ 50 ปี ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาสาวที่สวยงามไม่สามารถหลบหนี เงื้อมมือของเขาได้ อีกคนเป็นหญิงพรหมจรรย์วัย 35 ปีที่ ยังไม่ได้แต่งงาน ตลอดทั้งวันโวยวายบ้าคลั่ง คุณต้องการ ไปที่แผนกดังกล่าวไหมล่ะ ไม่มีใครคิดไม่ได้ มีบุคคล ประเภทเดียวเท่านั้นที่จะอยากไป…

“ประเภทไหนคะ”
“ประเภทชอบแสวงหาความซาดิสต์”

ผลินยิ้มอย่างไร้อารมณ์ ผู้ช่วยเข้ามารายงาน “ท่านผอ.คะ โต๊ะเรียบร้อยแล้วค่ะ”

“อืม พาคุณเวทิดาไปหาหัวหน้านิเมษให้จัดการงานให้

เธอ”

นภนต์ตบไหล่ของผลิน “การทำงานหนักเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะตอบแทนผมที่ช่วยชีวิตคุณ

“เข้าใจแล้วค่ะ ท่านผู้อำนวยการ

ถึงแม้ว่าผลินจะเป็นพนักงานใหม่ แต่เธอมีสมองที่ชาญ ฉลาดมาก ดังนั้น เพียงแค่ช่วงเช้าก็สามารถคุ้นเคยกับ เนื้อหาของงาน

ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว เห็นเธอยังฝังตัวอยู่ในงาน หัวหน้านิเมษจึงมาเตือนเธอ “คุณเวทิดา ไปทานข้าวได้ แล้ว”

“อึมได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

ร้านอาหารอยู่บนชั้นสาม เมื่อเธอไปถึงที่นั่นก็ไม่มีใครรอ ต่อคิวซื้ออาหารแล้ว เธอจัดการและไปนั่งหลบมุม ทานคำ ใหญ่ เพื่อต้องการให้เสร็จโดยเร็วและกลับไปทำความคุ้นเคยกับงานต่อ เป้าหมายของเธอคือ เป็นพนักงานดีเด่นใน อีกสามเดือนข้างหน้า

“ไม่มีใครขโมยคุณหรอก ทำไมรีบทานแบบนั้นล่ะ

ผลินเงยหน้าขึ้นทันที ยังคงเป็นผีตามหลอกหลอน อีกครั้ง ที่ต้องเจอนภนต์

เธอหันมองไปรอบ ๆ อย่างอึดอัด ผู้คนรอบข้างต่างมองมา ที่เธอ ดูเหมือนจะกลายเป็นจุดสนใจ เธอก้มหัวลงและถาม เบา ๆ “ท่านผอ.คะ คุณมาที่นี่ได้ยังไง”

“ผอ.ไม่ต้องทานข้าวเหรอครับ”

“ก็ไม่จําเป็นต้องทานที่นี่นี่คะ”

“แล้วคุณจะให้ผมไปทานที่ไหน”

ผลินพูดไม่ออก หลังจากทานอย่างรวดเร็วไปไม่กี่คำ เขาก็ ยกถาดมาและพูดว่า “ผมทานด้วยครับ คุณทานช้า ๆ หน่อย”

ตอนบ่ายสามโมง ขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่ นภนต์มา ที่โต๊ะของเธอ จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอและถามว่า “เป็นยังไงบ้างครับ คุ้นเคยกับมันหรือยัง”

เธอพยักหน้า “อืม เกือบแล้วค่ะ”

“ถ้าคุณไม่เข้าใจอะไรก็ถามหัวหน้านิเมษ หรือถามผมก็ได้นะครับ”

“ฉันจะถามหัวหน้านิเมษก็แล้วกันค่ะ”

ผลินตอบอย่างสุภาพ

“คุณอาศัยอยู่ที่ไหนครับ

“ถนนไมตรีค่ะ”

“หลังเลิกงานคุณกลับบ้านยังไงครับ

“ขึ้นรถเมล์ค่ะ”

ผลินเกิดความกังวล เพราะนานต์มายืนอยู่ข้างหลังเธอ เป็นเวลานาน ทำให้เพื่อนร่วมงานเอาแต่จ้องมองเธอ

“ท่านผอ.คะ ฉันต้องทำงาน…

นภนต์เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด พยักหน้า “คุณคงยุ่ง” หันไป และเดินกลับไปที่ห้องทำงาน

หลังจากที่เขาจากไปไม่นาน หัวหน้านิเมษก็เข้ามาหาเธอ และกระซิบว่า “คุณเวทิดา คุณคุ้นเคยกับผู้อำนวยการด้วย เหรอ”

“ไม่นะคะ ไม่ได้คุ้นเคย มีอะไรเหรอคะ”
“ไม่จริงน่า ผมคิดว่าเขารู้จักคุณดี ท่านผอ.ไม่เคยออกมา จากห้องทํางานในชั่วโมงทำงานเพื่อพูดคุยกับพนักงานเลย และดูเหมือนเขาจะไปนั่งทานข้าวกับคุณเมื่อตอนเที่ยงด้วย ถ้ามันไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่คุ้นเคยกันแล้วผู้ชาย ที่มีฐานะอย่างนั้นจะไปทานข้าวกับคุณได้ยังไง มันยากที่จะ พูด”

ผลินเช็ดเหงื่อเย็น “หัวหน้านิเมษคะ คุณพูดหนักไปแล้ว ค่ะ บางทีฉันอาจจะดูโง่ จนท่านผอ.ต้องเข้ามาแนะนํฉัน ตอนเที่ยงก็แค่บังเอิญ อืม ก็แค่โดยบังเอิญเท่านั้นค่ะ

“คุณโง่เหรอ คุณเป็นเด็กใหม่ที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ผมเคย เจอ ประเด็นนี้คุณยังไม่เข้าใจ ด้วยฐานะอย่างท่านผอ.มักจะ ไม่ทานในโรงอาหาร

“อ่า แล้วต้องไปทานที่ไหนเหรอคะ” ผลินคิดว่าเขาจุกจิก อดไม่ได้ที่จะบ่น “มีฐานะอะไรกัน ก็แค่ผู้อ่านวยการ…

แม้ว่าเสียงจะเบา แต่หัวหน้านิเมษก็ยังได้ยิน ดวงตาเบิก กว้างด้วยความตกใจ “แค่ผู้อำนวยการเหรอ คุณคิดว่าท่านผู้ จํานวยการนมนต์เป็นแค่ผู้อำนวยการเหรอ”

“แล้วตัวตนเป็นใครล่ะคะ”

หัวหน้านิเมษลดเสียงลง “ความลับนี้ทุกคนรู้ยกเว้นคุณ ผู้อำนวยการนภนต์เป็นลูกชายท่านประธาน เพิ่งกลับมาจาก อเมริกาเมื่อปีที่แล้ว เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดชั่วคราว ที่คุ้นเคยกับกระบวนการทางธุรกิจ ไม่ช้าก็เร็วบริษัทนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

ผลินลมหายใจตีกลับ “ลูก…ลูกชายของท่านประธาน?

เธอมองยังไง ถึงได้คิดว่าลูกชายท่านประธานเป็นผู้มา สัมภาษณ์งาน แล้วแถมยังเชิญลูกชายท่านประธานไปทาน ข้าวอีก ถ้าเพื่อนร่วมงานรู้เรื่องนี้เข้า เธอต้องไม่มีลอดพ้น จากข้อหาจากการติดสินบนเป็นแน่

บางทีนภนต์อาจคิดว่าเธอยั่วยวนหรือเปล่า ยั่วยวน…พระเจ้า เธอกำลังจะสติแตก

โดยไม่รู้ตัวก็ถึงเวลาเลิกงาน ผลินจงใจอ้อยอิ่ง เมื่อทุก คนในสำนักงานออกไปหมดแล้ว เธอมาที่ห้องของผู้อำนวย การ พูดตรง ๆ ว่า “ผู้อำนวยการนภนต์คะ ฉันมีบางอย่างจะ บอกคุณค่ะ”

“บอกมาสิครับ”

“อย่าไปคุยกับฉันในเวลางาน และอย่าไปนั่งกับฉันในเวลา ทานข้าวได้ไหมคะ

“ทำไมเหรอครับ”

“ฉันรู้แล้ว ว่าคุณเป็นลูกชายของประธาน

“แล้วยังไงล่ะครับ”
“ฉันไม่อยากให้ใครพูดว่าฉันเข้ามาทางประตูหลังค่ะ”

นภนต์ยิ้มอย่างไม่เห็นด้วย “คุณก็เข้ามาทางประตูหลังจริง นี่ครับ”

จู่ ๆ ผลินก็เงยหน้าขึ้น ถามด้วยสายตาที่น่ากลัว “คุณหมาย ถึงอะไร

“คุณบอกว่าถ้าคุณประสบความสำเร็จในการสัมภาษณ์คุณ จะเลี้ยงข้าวผม ดังนั้นเพื่ออาหารแล้ว ผมก็เลยรับคุณ”

“คุณสงสัยความสามาถในการทำงานของฉันงั้นเหรอ!”

ผลินทั้งตกใจและโกรธ

เธอคิดว่าแม้ว่านภนต์จะไม่เปิดประตูหลังให้ ก็จะได้รับการ ยอมรับโดยความสามารถของตัวเอง แต่ผู้ชายคนนี้ทำลาย สติปัญญาของเธอ

“ผมไม่สงสัยในความสามารถของคุณ กุญแจสำคัญคือ คุณไม่สามารถเข้าบริษัทของเราได้ด้วยคุณสมบัติทางการ ศึกษาของคุณ การสรรหาบุคลากรครั้งนี้ให้ความสำคัญกับ นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา หกคนที่มาสัมภาษณ์นอกจาก คุณเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี อีกห้าคนเป็นนักศึกษา ระดับบัณฑิตศึกษา และทั้งสามคนถูกคัดออก คุณคิดว่าคุณ เข้ามาทางประตูหลังหรือเปล่าล่ะ”

ผลินเบิกตากว้างและพูดไม่ออก
มันเป็นเวลาสองวันติดต่อกันแล้วที่จันทรกินไม่ได้นอนไม่ หลับเกี่ยวกับการตายของทารกในครรภ์ ของเธอ ที่ปิดบัง แอบซ่อนความลับจากทุกคน จึงต้องหาทางออกให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกเปิดเผยในสักวัน

วันนั้น ในที่สุดเธอก็คิดได้ ถึงวิธีหนึ่งที่จะปกป้องตัวเอง

ในตอนที่คุณนายท่านขึ้นมางีบหลับและเตรียมที่จะลงไป ข้างล่าง จันทรเรียกเธอจากด้านหลัง “แม่ รอเดี๋ยว”

“อะไร”คุณนายท่านหันไปถามอย่างสงสัย

“คุณรู้ไหมว่าไม่นานมานี้ลูกชายของคุณไปใกล้ชิดกับผู้ หญิงที่ชื่อวารี”

“ฉันไม่ค่อยแน่ใจ

“งั้นฉันจะบอกคุณไว้ตอนนี้เลย ว่านังวารีเป็นคู่ควง คุณ ต้องห้ามลูกชายของคุณเข้าใกล้เธออีก

“ฉันควบคุมเขาไม่ได้

“อะไรคือการที่คุณควบคุมไม่ได้ ลูกชายคุณเองยังไม่ สามารถควบคุมลูกชายของคุณได้แล้วจะมาให้ฉันควบคุม หรือไง”

“ตั้งแต่เกิดมาชีวิตฉันก็ไม่เคยต้องไปควบคุมเขา การ ควบคุมเขามันเคยเป็นหน้าที่ของผลิน”
“คุณหมายความว่ายังไง ด่าทางอ้อมว่าฉันด้อยกว่านัง ผลินงั้นเหรอ”

“ฉันแค่พูดความจริง

“ฉันไม่ได้อยากให้คุณพูดความจริง แค่ถามว่าคุณจะ ควบคุมหรือไม่ควบคุม

คุณนายท่านหงุดหงิดกับเธอ “ฉันบอกว่าฉันควบคุมไม่ได้ ถ้าเธออยากควบคุมเธอก็ไปควบคุมเอาสิ

เธอหันเดินลงไปข้างล่างด้วยความโกรธ จันทรจับมือเธอ ไว้ “ถ้าคุณไม่ตกลงวันนี้พวกเราก็ไม่ต้องไปไหน!!”’ปล่อย ฉัน”

“ฉันไม่ปล่อย ถ้าคุณตกลงว่าจะให้ลูกชายของคุณอยู่ห่าง จากนังวารี ฉันก็จะปล่อยคุณไป”

“ฉันบอกไปแล้วไงว่าฉันควบคุมไม่ได้ เธอนี่มันน่ารำคาญ

จริง”

คุณนายท่านดึงมือกลับ ในตอนนั้นเองจันทรก็ก้าวเหยียบ ลงกับอากาศ และกลิ้งตกลงมาจากบันได

กรี๊ดดด!

ด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความเศร้า คุณนายท่านตื่นตระหนก จนไม่มีสติ เลือดสีแดงซึมผ่านกระโปรงสีขาวที่จันทรใส่อยู่ เลือดไหลลงจากขาไปสู่พื้น กลายเป็นสีแดงสดน่ากลัว กระจายเป็นวงกว้าง

ตึง! จิตใจของคุณนายท่านว่างเปล่าหมดสติไป

เมื่อเธอตื่นขึ้นก็อยู่บนเตียงในโรงพยาบาลแล้ว ธามันนั่ง ข้างเตียงเธอ มองเธอด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“ธามัน จันทรล่ะ หลานชายของฉันล่ะ”

คุณนายท่านลุกขึ้นนั่งและถามด้วยเสียงสั่น

“เด็กแท้งแล้ว”

ได้ยินว่าเด็กแท้ง เธอร้องไห้ออกมาด้วยเสียงคร่ำครวญ เหลือคณานับ มันเป็นโชคชะตาที่ชั่วร้ายเธอฝ่าฝืนหลักการ พื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ก็เพราะอยากอุ้มหลานชาย วัน นี้หลานไม่ได้อยู่ในอ้อมแขนแล้ว เธอถูกกรรมตามสนอง ด้วยการฆ่าหลานชายของตัวเอง

ธามันเจ็บปวดมาก กอดภรรยาและพูดว่า “หยุดร้องไห้ได้ แล้ว มันไม่ใช่ความผิดของคุณ มันเป็นเพราะเราไม่มีโชค เรื่องเด็ก”

“มันเป็นเวลามากกว่าสี่เดือนแล้ว มากกว่าสี่เดือนแล้ว ฉัน กลับดึงเธอตกลงไปข้างล่าง ฉันนี่มันบ้า บ้าจริง ๆ!!”

คุณนายท่านทําร้ายตัวเองด้วยความสำนึกผิด หวังว่าจะสามารถฆ่าตัวตายไปพร้อมกับความผิดหวัง

“ใครคือครอบครัวของคุณจันทรคะ”

พยาบาลวิ่งเข้ามาถามด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

“พวกเราค่ะ มีอะไรเหรอคะ”

“พอเธอรู้ว่าเด็กแท้งแล้ว จึงทำลายขวดนําเกลือและกรีด หลอดเลือดแดงเพื่อฆ่าตัวตายค่ะ”

“ฆ่าตัวตาย…”

หญิงชราหน้ามืด เกือบจะเป็นลมไปอีกรอบ ทั้งสองรีบวิ่ง ไปที่ห้องฉุกเฉิน และตอนนี้ปยุตก็มาถึงแล้ว

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่

เขามองพ่อแม่ของเขาด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“ตายต ขอโทษนะ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ฉัน เป็นคนที่ทําร้ายลูกของแก…

เมื่อดนุชาเห็นลูกชายก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ ธามันบอกเล่า สั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

ปยุตใบหน้าหมองลง เขาเดินไปที่หน้าต่างเงียบๆ ดวงตา ว่างเปล่าจ้องไปที่อาคารสูงในระยะไกล หัวใจดวงหนึ่งเป็นเหมือนขวดที่แตก หลังจากที่เด็กคนนั้นหายไป ถึงแม้ว่าเขา จะไม่ได้ต้องการให้มา แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นหนึ่งชีวิต ป ยุตเกลียดจันทร แต่เขาไม่เคยเกลียดเด็ก เขาหลับตาลง ภาวนาในใจเงียบ ๆ เด็กน้อย ไปดีนะ

เนื่องจากจันทรถูกพบทันเวลา จึงไม่มีอันตรายถึงชีวิต ตอนที่ถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน ใบหน้าของเธอซีด เหมือนกระดาษ

ความจริงแล้ว ไม่ใช่เพราะไปพบทันเวลา เพียงแต่เธอไม่ ได้กรีดลงไปลึกเท่านั้นเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ