ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 181 จากไปอย่างสิ้นหวัง (2)



ตอนที่ 181 จากไปอย่างสิ้นหวัง (2)

เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด นั่งพิงเก้าอี้สำนักงาน ด้วยความเหนื่อยล้า ความคิดตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ดังนั้นเมื่อจันทร เข้ามาในห้องหนังสือ จึงไม่ได้ทันสังเกต เห็น

“จะเอาแต่คิดถึงเธอตลอดขนาดนี้เลยเหรอ แทนที่จะดู รูปถ่ายของเธอ ทําไมถึงไม่มองมาที่ฉันที่เป็นคนเป็น ๆ มีตัว ตนอยู่ตรงนี้ล่ะ

ปยุตลืมตาขึ้นช้า ๆ และพูดด้วยท่าทีเย็นชา “ออกไป”

“ฉันไม่ไป ฉันเหลืออดเหลือทนกับคุณแล้ว ถึงแม้ว่าคุณ จะไม่สนใจฉัน แต่อย่างน้อยก็ต้องดูแลเด็กในท้องของฉัน บ้างสิ เขาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณนะ!”

ห์ ปยุตลุกขึ้นเยาะเย้ย บอกเธออย่างชัดเจน “ในโลกใบ นี้คนที่ฉันแคร์ก็คือผลิน เธอเท่านั้นที่มีสิทธิ์ให้กำเนิดลูกของ ฉัน”

จันทรเสียงสั่นด้วยความโกรธ แต่พยายามระงับอาการ เอาไว้ แดกดันโต้แย้งกลับไป “นั่นก็ต้องให้กำเนิดได้ด้วย เช่นกัน”

“ฉันก็ไม่ได้ต้องการเด็ก ถ้าเป็นเด็กที่ได้มาด้วยวิธี สกปรก เป็นเด็กแบบไหนก็เป็นคนแบบนั้น เด็กที่เกิดมาด้วย วิธีสกปรกก็จะเติบโตขึ้นมาอย่างน่ารังเกียจ และมันจะทำให้สายเลือดตระกูลทรัพยสานของเราเสื่อมเสีย!”

จันทรโกรธมาก เธอวิ่งเข้าไปถึงตัวของปยุตเหมือนผู้ หญิงที่น่ารังเกียจและตบตีฉีกทิ้ง เขานิ่งเฉยและปล่อยให้ เธอเป็นบ้าอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือในกระเป๋า ของเขาดังขึ้น เขากดปุ่มรับสาย…

“ฮัลโหล วารี…เธอต้องการฉันเหรอ ได้ งั้นฉันจะไปอยู่ เป็นเพื่อนเธอ…”

เขาแค่พูดสั้น ๆ แล้ววางสายโทรศัพท์ไป จากนั้นจึงผลัก จันทรออกไปจากตัวด้วยความรังเกียจ แล้วเดินออกไป

จันทรล้มลงกับพื้น ร้องไห้กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง มันไม่ ได้อยู่ในจินตนาการเดิมของเธอเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่ชีวิต ทั้งหมดที่เธอต้องการ มันเหมือนตกอยู่ในนรก ชีวิตแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย แต่มันเป็นสิ่งที่ปยุตต้องการ เขา อยากให้เธอตกอยู่ในนรก!

ใจเธอโกรธมาก ลุกขึ้นและวิ่งลงไปข้างล่าง หยิบขวด เหล้าดีกรีแรงออกมาจากตู้หนึ่งขวด เงยหน้าขึ้นและดื่มมัน เข้าไปในปาก สะใจ สะใจจริง ๆ!

เมื่อคุณนายท่านลงไปข้างล่าง เพียงแค่เห็นเธอดื่ม เหล้าอย่างปล่อยเนื้อปล่อยตัวพลันหัวใจจะวาย รีบเข้าไป กระชากเอาขวดเหล้าออกจากมือทันทีทันใด “เธอเป็นบ้าเห รอ ท้องอยู่ยังจะดื่มเหล้าอีก เธออยากตายและไม่ต้องการ ชีวิตของเด็กแล้วใช่ไหม!!”
“คุณอย่ามายุ่งกับฉัน ลูกชายของคุณไม่สนใจฉันเลย แล้วคุณมายุ่งอะไร!” “ถ้าฉันไม่เห็นแก่หลานชายของฉัน ฉันก็ไม่สนใจเธอหรอก!!

หี จันทรยิ้มเยาะเย้ย “คุณพูดความจริงออกมาแล้วใช่ ไหม ฉันก็รู้ว่า คุณทําดีกับฉันให้เข้ามาอยู่ที่นี่ ดูเหมือนจะ รักฉันมาก ในความเป็นจริงในใจไม่เคยหยุดด่าฉัน!”

“เธอมันสมควรถูกด่าแล้ว เธอเห็นว่าตัวเธอสมควรได้รับ ความรักงั้นเหรอ วันๆ เอาแต่ทำตัวเหมือนผู้หญิงเลวอยู่ใน บ้าน นอกเหนือจากนั้นเธอทำอะไรได้อีกงั้นเหรอ!”

“ถ้าลูกชายคุณดีกับฉันมากกว่านี้หน่อยและมีใจให้ฉัน มากกว่านี้ ฉันจะเป็นแบบนี้หรือไง อย่ามาทำเป็นยืนพูดโดย ไม่ปวดเอวน่ะ ยายแก่

คุณนายท่านจ้องด้วยความตกใจ วินาทีต่อมาใบหน้าก็ กลายเป็นสีดับหมู “เธอ…เธอเรียกฉันว่ายายแก่…เธอมัน เป็นผู้หญิงที่ไร้คุณสมบัติ สมควรแล้วที่จะถูกผู้ชายทิ้ง อย่า มาพูดนะว่าลูกชายฉันเกลียดจนไม่อยากเจอเธอ ถ้าฉันเป็น ผู้ชาย ก็จะซ่อนตัวจากเธอเหมือนกัน เธอมันไม่สามารถ เปรียบเทียบกับผลินได้เลย!”

ไม่เอ่ยถึงผลินจันทรก็ยังใจเย็นอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อ เปรียบเทียบกับผลินเธอโกรธมาก ผลักจนคุณนายท่านล้ม ลงกับพื้น ดวงตาเบิกกว้าง “ถ้าเธอดีงั้นทำไมคุณถึงให้เธอ หย่ากับลูกชายของคุณล่ะ คุณก็ปล่อยให้ไม่มีผู้สืบสกุลแล้ว ให้ทุกคนไม่มีความสุขเอาไหมล่ะ และคุณก็กลายเป็นรุ่นสุดท้าย!”

เธอตบขวดจนมันหล่นลงกระแทกพื้น แล้วหมุนตัวเดิน ขึ้นไปชั้นบนด้วยความโกรธ คุณนายท่านมองขวดที่แตกบน พื้นด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาทั้งสองดวงพลิกกลับและ เป็นลมหมดสติไป

จันทรรู้สึกว่าตัวเองเป็นบ้าไปแล้ว เธอควบคุมอารมณ์ตัว เองไม่ได้ เธอรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่ามันเริ่ม ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่หัวใจเธอบิดเบี้ยว กลายเป็นว่าเธอไม่รู้จัก ตัวเองเลย

ในคืนนั้น เธอหยิบเอารูปของผลินในลิ้นชักโต๊ะทำงานข องปยุตรวมทั้งเสื้อผ้าของเธอในห้องนอน ทุกอย่างที่เกี่ยว กับเธอ ถูกเผาทิ้งทั้งหมด…

ในขณะที่มองดูเปลวไฟที่กำลังพวยพุ่ง เธอมีรอยยิ้มที่ แสนน่ากลัว ลมหายใจชั่วร้ายที่อัดแน่นอยู่ถูกระบายออกสู่ อากาศ

เย็นวันรุ่งขึ้น ปยุตกลับมาจากบริษัท ตรงขึ้นไปข้างบน และเข้าไปในห้องหนังสือ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ออกมา อีก ลงมาข้างล่างและตะคอกถามจันทร “เธอมายุ่งกับลิ้นชัก ของฉันใช่ไหม”

จันทรถามอย่างใจเย็น “คุณหมายถึงอะไรเหรอคะ”

“รูป แล้วรูปของผลินล่ะ”
ปยุตบีบข้อมือเธอด้วยใบหน้าที่มืดมน แสงเย็นเยือกที่ สะท้อนจากดวงตาเปรียบเสมือนมีดคมที่มันสามารถพุ่งเจาะ ทะลุหัวใจของคนได้

“เผาแล้ว”

เธอตอบเสียงแผ่วเบา “รวมถึงเสื้อผ้าของเธอด้วย ฉัน เผามันทั้งหมด ในเมื่อคนไม่อยู่แล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะ เก็บของพวกนั้นไว้ ถ้ายังมีของพวกนั้นพวกเราก็ไม่สามารถ เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้

เพียะ!

ปยุตตบหนักลงบนใบหน้าของเธอ จันทรล้มลงกับพื้น เธอยิ้มเยาะเย้ย “อย่าตบหน้าสิคะ อยากตบก็ตบที่ท้องฉันนี่ มาสิ ตบที่ท้องของฉันเลย

รู้ว่าปยุตโกรธ เธอยังจงใจท้าทายความอดทนของเขา

“เธอคิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ”

ปยุตค้อมตัวลงพูด มือข้างหนึ่งค่อย ๆ กำหมัด แต่ถูก หยุดโดยแม่ที่ปรากฏตัวขึ้นทันเวลา “อย่า…

คุณนายท่านมายืนขวางหน้าจันทร ธามันบังคับลูกชาย ให้เข้าไปในห้องหนังสือของเขา “ไป มาคุยกับฉันหน่อย”

เมื่อปิดประตูห้องหนังสือ ธามันคุกเข่าลงต่อหน้าลูกชาย“พ่อขอร้องแก เห็นแก่เด็กคนนั้นเถอะ อย่าทำแบบนั้นกับ เธออีก…ถึงจันทรจะเลวแค่ไหนแต่เด็กคนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แกไม่สามารถยอมรับเขาได้แต่มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนความ จริงที่ว่าเขาเป็นลูกของแกได้ อดทนหน่อยได้ไหม อดทน จนกว่าลูกจะเกิด ถึงตอนนั้นอะไรก็ตามที่แกต้องการ แม่และ ฉันจะไม่ขออะไรจากแกอีก”

ปยุตจ้องมองพ่อของเขาอย่างเย็นชา และถามอย่างไม่ แยแส “ตอนนั้นใช้วิธีนี้บีบบังคับให้ผลินหย่ากับผมด้วยใช่ ไหม”

ธามันดวงตามืดมัว ไม่มีการยอมรับหรือปฏิเสธ ปยุต หัวเราะเยาะ “วิธีแบบนี้มันปกติสําหรับพ่อแม่ที่จะจับต้อนลูก สินะ พวกคุณ ช่างยอดเยี่ยม

“ฉันและแม่ของแกก็ไม่ชอบจันทรเหมือนกัน แต่พวกเรา เสียสละอย่างมากนะ แค่อยากให้เด็กเกิดมาอย่างปลอดภัย พวกเราไม่ได้คาดหวังว่าแกจะทำดีกับเธอ อย่างน้อยก็อย่า ไปยั่วโมโหเธออีก…”

ปยุตเงียบไปนาน พูดกับพ่ออย่างไม่แยแส “ถ้าเป็นคุณ จะยอมรับผู้หญิงที่ทำลายชีวิตของคุณงั้นเหรอ คุณไม่รู้เห รอว่าที่เธอท้องมันทำร้ายผมยังไงบ้าง”

“ฉันรู้ เพราะมันทำให้แกกับหนูลินเลิกกัน

“ถ้ามันเป็นแบบนั้นก็ดี ผม…”
คําพูดที่กำลังออกจากปากถูกกลืนกลับไป เส้นเลือดสี เขียวที่หน้าผากปูดโปน สําหรับคนที่ไม่เคยเข้าใจอย่างพ่อ ของเขา เขาคงไม่ต้องพูดอะไรมากอีก

หันกลับไปและออกจากห้องหนังสือ ในห้องนั่งเล่น จันทรกําลังถือมีดผลไม้ขู่ว่าจะฆ่าตัวตายทั้ง คุณนายท่าน และคนรับใช้หน้าซีดด้วยความกลัว พยายามที่จะโน้มน้าว ให้เธอใจเย็นอย่าทําอะไรโง่ ๆ ปยุตเดินผ่านเธอไปโดยที่ไม่ มองแม้แต่นิดเดียว มุ่งตรงไปข้างหน้า

พฤติกรรมที่แสนเย็นชาของเขาอีกครั้งนั้น ทําให้จันทร โกรธมาก จันทรร้องไห้และพูดว่า “นอกจากปยุต พวกคุณมา พยายามโน้มน้าวฉันก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ อีกต่อไปแล้ว!!

เธอยกมีดผลไม้ เล็งไปที่ท้อง เกือบที่จะแทงลงไป แต่ แล้ว เพียะ! ถูกตบเข้าเสียก่อน มีดผลไม้หล่นลงพื้น ปยุตที่ เดินผ่านเธอไปแล้วกลับมาถามเสียงเย็น “แสดงพอหรือยัง”

จันทรที่เป็นนักแสดงในตอนแรก หวังจะดึงดูดความ สนใจของปยุต ดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดของเขา เธอจึง มีแรงกระตุ้นที่จะตาย ก้มลงหยิบมีดผลไม้บนพื้นเล็งไปที่ เส้นเลือดแดงที่ข้อมือ ปิดตาและกรีดมัน ผลคือมีดกรีดลง เพียงชั้นบาง ๆ ของผิวหนัง จนกระทั่งถูกปยุตหยุดอีกครั้ง

“ถ้าอยากตายนัก ทำไมต้องทำทุกอย่างเพื่อดึงชีวิตผู้ บริสุทธิ์มาเป็นแพะรับบาป
“ฉันพยายามทุกวิถีทางที่จะมีลูกเพื่อจะได้มีชีวิตที่ดีกับ คุณ ถ้าฉันรู้ว่าคุณเป็นแบบนี้ฉันจะทําอะไรสักอย่างกับเด็ก!!”

ปยุตตวาด “เธอกับฉันมันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะกลับไป สู่จุดเริ่มต้น ในเมื่อเธอเดินมาบนเส้นทางนี้แล้ว ต้องมีความ รับผิดชอบเด็กในท้อง ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อให้กําเนิดเขาออก มา!!”

จันทรเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาหมายถึง อะไรในประโยคนี้ มันคือการยอมรับเด็กคนนี้ทางอ้อมอย่าง นั้นหรือเปล่า

หัวใจเธอเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น รู้สึกว่าอนาคตที่ มืดมนเริ่มมีร่องรอยแห่งแสงสว่าง ปยุตให้เธอคลอดลูก มัน ก็เหมือนกับการยอมรับเด็ก ถ้ายอมรับเด็กไม่ช้าก็เร็วต้อง ยอมรับเธอจริงไหม

ในคืนนั้น จันทรหลับสบาย ในความฝัน เธอเห็นปยุตถือ กุหลาบมาที่โรงพยาบาลสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาเพื่อรับ เธอและลูกออกจากโรงพยาบาล เธออยู่ในอ้อมแขนของเขา ยิ้มหวานอย่างหาที่เปรียบมิได้…

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอออกจากบ้านด้วยพลังอันเปี่ยมล้น เตรียมไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ใน บ้านตระกูลทรัพยสานก็รู้สึกหดหู่ ยังไม่ได้รับการตรวจครรภ์ เลย

ระหว่างทางไปโรงพยาบาล เธอยิ้มพลางตบท้องและพูดว่า “ที่รัก วันที่ดีของพวกเรากำลังจะมาถึงแล้วนะ หลัง จากนี้แม่จะพาหนูไปตรวจเป็นประจํานะ”

ที่สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ทั้งหมดเป็นแบบทดสอบ การตั้งครรภ์ ตรวจปัสสาวะ วัดความดันโลหิต ทำอัลตร้า ซาวนด์ เมื่อทําอัลตร้าซาวนด์เธอค่อนข้างเครียดเมื่อเห็น ใบหน้าของหมอ ถามอย่างกังวลว่า “ทุกอย่างโอเคไหมคะ”

หมอกระซิบบางอย่างกับแพทย์คนอื่นรอบตัว หมอคนอื่น ลุกขึ้นและเดินออกไป หลังจากนั้นไม่นานสูตินารีแพทย์ที่ ตรวจสอบ จันทรก็เข้ามา สามคนจ้องหน้าจอและกระซิบ ทุก คนดูเครียดขรึมหนัก จันทรเริ่มตระหนักว่าสถานการณ์อาจ จะไม่สู้ดี เธอรีบถาม “เกิดอะไรขึ้นกับลูกของฉันงั้นเหรอคะ”

สูตินรีแพทย์หายใจเข้าลึก พูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย “ลูก ของคุณเสียแล้ว…

เสียแล้ว? จันทรโลกมีดดับเป็นลมหมดสติ

เมื่อเธอหมดสติ จึงยังคงนอนอยู่บนเตียงในโรง พยาบาล และทันใดนั้นจู่ ๆ ก็วิ่งเข้าไปในแผนกสูติศาสตร์ และนรีเวชวิทยาอย่าง บ้าคลั่ง หาหมอที่ตรวจเธอและละล่ำ ละลักสอบถาม “ทำไมลูกของฉันถึงเสียแล้ว เขาเสียได้ยัง ไง!!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ