ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 160 รักษามาตายดั่งมาเป็น(1)



ตอนที่ 160 รักษามาตายดั่งมาเป็น(1)

มันเป็นคืนที่สําคัญสำหรับตระกูลทรัพยสาน ทั้งคุณท่าน เวทนและคุณนายท่านจึงไม่ได้เข้าพักผ่อนเร็วนัก แต่นั่งอยู่ บนโซฟาใน ห้องนั่งเล่นเพื่อรอลูกชายกลับมา

ปาณีซ่อนตัวอยู่ข้างบนและไม่กล้าลงมา เธอยังไม่ได้ บอกพ่อแม่เลย ว่าพี่สะใภ้ออกไปแล้ว

รู้ว่าได้สร้างปัญหา เธอจึงใช้ข้อสามสิบหก การซ่อนตัว เป็นนโยบายที่ดีที่สุด

ตอนห้าทุ่ม มีเสียงรถเข้าประตูมา คู่สามีและภรรยา ก ขึ้นยืนพร้อมกัน เดินออกไปจากห้องนั่งเล่น ตอนแรกคิดว่า จะได้เห็น ลูกชายเพียงคนเดียว แต่ไม่คิดว่าลูกสะใภ้จะลง มาจากรถของลูกชายด้วย

ธามันยืนนิ่งมองไปไกลสองคิ้วค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน ใบหน้าบึ้งตึงทันที

ปยุตรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดของผลิน เขาเพิ่มแรง กระชับจับมือและเอ่ยพูดเบา ๆ ไม่ต้องเป็นห่วง คุณขึ้นไป ข้างบนก่อน ผม จัดการเอง”

ผลินไม่พูดอะไร และไม่ได้ขึ้นไปข้างบนตามที่ปยุคสั่ง ทิ้งความยุ่งเหยิงให้เขา แต่เดินตรงไปที่พ่อสามี กระแทก เข่าลงกับพื้น
“ลิน คุณทําอะไร

ปยุตดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ดึงเธอให้ลุกขึ้นมา แต่เธอขืนตัวไว้

“ลูกสะไภ้ เธอ…” ”

คุณนายท่านเองก็ตกใจกับการกระทำของเธอ มองอย่าง มึนเบลอและงุนงง คุณท่านเวทนนิ่งเงียบ หัวใจรับรู้ว่าเกิด อะไรขึ้น

“คุณพ่อคุณแม่คะ ขอโทษนะคะ ฉันพาคุณปยุตกลับมา เองค่ะ ฉันคิดว่าตัวเองสามารถทำสิ่งที่พวกคุณต้องการได้ แต่พิสูจน์ แล้ว ฉันไม่สามารถทำมันได้ ฉันไม่สามารถทน ให้สามีไปนอนกับผู้หญิงอื่นได้ค่ะ ถึงแม้ว่าพวกคุณจะไม่ ยอมรับฉันเป็นลูกสะใภ้ ฉันก็จะไม่มีวันมีชีวิตอยู่ในแบบที่ พวกคุณต้องการ

ทั้งสองคนไม่พูดอะไร ปยุตแผดเสียงออกมา “ลุกขึ้นมา ให้ผมพูดกับพวกเขาเอง”

เขาไม่สามารถทนเห็นท่าทีของพ่อแม่ที่มีต่อผลินได้ ยิ่ง กลัวว่าพวกเขาจะพูดอะไรที่ทำให้เธอสั่นคลอน จิตใจของ เขาชัดเจน แล้ว แม้ว่าตอนนี้หัวใจของผลินจะยืนอยู่กับเขา แล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่โหดร้ายของความ ไม่แน่นอน การยืน กรานของเธอก็มีแนวโน้มที่จะพังทลาย ลงได้ทุกเวลา
“มันเกิดขึ้นเพราะฉัน ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ยกโทษให้ฉัน ฉันจะไม่ลุกขึ้น”

ผลินคุกเข่าอย่างดื้อรั้นต่อหน้าพ่อสามี ตั้งแต่นี้เป็นต้น ไปเธอต้องเรียนรู้ที่จะปฏิเสธ ปฏิเสธคำขอที่ไร้เหตุผล ทั้งหมด เธอเป็นผู้ หญิงที่มีการศึกษาแบบดั้งเดิม จะไม่ต่อ ต้านพ่อสามีอย่างเปิดเผย แต่เธอจะใช้การกระทำของเธอ เอง เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าหัวใจ จะไม่มีวันยอมแพ้

ทันทีที่ถึงทางตัน ในที่สุดคุณนายท่านก็พูดขึ้น “ก็ได้จ้ะ ลุกขึ้นมาเถอะนะ”

“ฉันเข้าใจได้ไหมคะว่าคุณแม่ให้อภัยฉันแล้ว”

คุณนายท่านถอนหายใจ พยักหน้าช้า ๆ “อืมจ้ะ”

ผลินเปลี่ยนไปมองพ่อสามี “แล้วคุณพ่อหมายถึงเหมือน คุณแม่หรือเปล่าคะ”

คุณท่านเวทนไม่ได้พูดอะไรเลย หันหลังกลับเข้าไปใน

บ้าน

“ลุกขึ้นเถอะจ้ะ ความเงียบของเขาก็คือการยอมรับ”

แม่สามีช่วยพยุงเธอขึ้นมา แล้วจึงส่งสัญญาณให้ลูกชาย ที่ดูเศร้าหมอง “มันดึกแล้ว พวกเธอก็เหนื่อยเหมือนกัน ขึ้น ไปข้างบน และพักผ่อนเถอะ”
ปยุตจับมือของผลิน เขาจูงเธอขึ้นบันไดไปโดยไม่หัน กลับมา

คุณนายท่านเข้ามาในห้องนั่งเล่น เห็นสามีนั่งอยู่บน โซฟาจ้องมองเธอด้วยความโกรธ แล้วจึงเดินไปถาม “ทำไม คุณถึงจ้องฉัน แบบนี้”

“จ้องคุณเพราะจุดยืนของคุณมันไม่มั่นคง”

เธอส่ายหน้าอย่างจนหนทาง นั่งข้างสามี และพูดอย่าง อดทนว่า “เรื่องยุ่งยากที่มันเกิดขึ้นคิดว่าจะสามารถแก้ไขได้ ง่ายงั้นเหรอ ไม่รู้อารมณ์ลูกชายของตัวเองหรือไง ถ้าวันนั้น ไม่ใช่ฉันที่บอกว่าจะตาย คุณคิดว่าเขาจะยอมรับคำขอที่ไร้ เหตุผลของคุณงั้นเหรอ เขาอาจจะออกจากบ้านไปแล้ว”

ธามันพูดเสียงเย็น “จะไปก็ไป ผมเป็นพ่อของเขาแท้ ๆ ยังจะข่มขู่ผม!”

“แล้วอย่าแอบเข้าไปในห้องหนังสือเพื่อแอบดูรูปของ เขาล่ะ”

“ทำไมผมต้องไปดูรูปของเขาด้วย”

คุณท่านเวทนเขินเล็กน้อย

“ชิ คุณทำเหมือนฉันไม่รู้ ครั้งที่แล้วเพราะเรื่องพ่อแม่ ของจันทร ลูกชายโกรธจนหนีออกจากบ้านไป คุณแอบ เข้าไปในห้อง หนังสือทุกคืน พึมพำกับรูปของเขาอยู่เป็นนานสองนาน ฉันไม่ได้บอกไม่ได้หมายความว่าฉันไม่รู้ ฉัน แค่ไม่อยากแถลงไขให้คุณ ฟังหรอก

“แล้วยังไง ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะต้องกลับมาอยู่ดี”

“นั่นเป็นเพราะมีหนูลินเป็นตัวกลาง คุณสามารถรับรอง ได้ไหมว่าถ้าคุณทําผิดต่อลูกสะไภ้ในครั้งนี้ เธอยังจะอยาก ช่วยผา ลูกชายกลับมาหาคุณเหมือนครั้งที่แล้วหรือเปล่า”

คําถามของคณนายท่าน ทําให้คุณท่านเวทนพูดไม่ออก ที่จริงแล้วแน่นอนว่า เขาไม่มีความมั่นใจ

“เอาล่ะ อย่าโกรธเลย ฉันรู้ว่าคุณปรารถนาที่จะมีหลาน แต่เราต้องค่อยเป็นค่อยไป หนทางแก้ไขมันมีเสมอนั่น แหละ”

ได้รับการสนับสนุนจากสามี และการให้อภัยของพ่อสามี รู้สึกว่าชีวิตสีเทาในที่สุดก็มีแสงสว่างของรุ่งอรุณ วันต่อมา เธอตื่นแต่ เช้า มาที่ห้องลับของเธอ เปิดห่อยาจีนโบราณ ที่เธอได้รับมาจากภูเขาหลวงครั้งล่าสุด หลังจากคิดอยู่ชั่ว ครู่ ก็ลงไปข้างล่าง อย่างเด็ดเดี่ยว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะ รักษาม้าตายให้กลายเป็นม้าเป็นทำให้ทุกความพยายามเป็น ไปได้

หลังจากที่คุณนายท่านตื่นขึ้นมา ก็ได้กลิ่นยาจีนโบราณ จึงตามกลิ่นยาเข้าไปในครัว เห็นลูกสะใภ้ยืนอยู่หน้าเตาไฟ จากนั้นก็ ถามอย่างสงสัยว่า “หนูลิน เธอกำลังทำอะไรอยู่เห รอ”
เมื่อผลินหันไปเห็นแม่สามี เธอก็ยิ้มเอียงอาย “คุณแม่ ฉันกำลังต้มยาค่ะ”

“ต้มยาเหรอ ต้มยาอะไรจ๊ะ

“มีแพทย์แผนจีนคนหนึ่งสั่งให้ฉันน่ะค่ะ แต่ไม่ได้บอกว่า มันจะสามารถรักษาอาการมีบุตรยากของฉันได้

คุณนายท่านเห็นแววตาที่หายากในสายตาของลูกสะใภ้ พูดอย่างเจ็บปวดว่า “เธอเชื่อในคนประเภทนั้นด้วยเหรอจ๊ะ”

ผลินก้มหน้าลง พูดด้วยเสียงเศร้า “ตอนนี้ฉันเป็นแบบนี้ นี่คะ ไม่สำคัญว่าจะเชื่อหรือไม่ ถ้าเชื่อก็ยังพอมีความหวังอยู่ บ้าง แต่ถ้า ไม่เชื่อมันก็ไม่มีความหวังเลย”

แม่สามีไม่พูดอะไร เพียงแค่มองเธอด้วยความเสียใจ จากนั้นก็ถอนใจหนัก

“คุณแม่คะ คุณจะสนับสนุนฉันใช่ไหมคะ

เธอเงยหน้าขึ้นมอง และสอบถามอย่างระมัดระวัง

“ฉันก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ฉันเข้าใจความเจ็บปวดของ เธอดีกว่าผู้ชายในครอบครัว ดังนั้นตราบใดที่มันทำให้ลูก สะใภ้รู้สึกมี ความหวัง ฉันก็สนับสนุนเต็มที่

ดวงตาที่เคลื่อนไหวของผลินเปียกชื้น พูดด้วยน้ำเสียง ขึ้นจมูกว่า “คุณแม่ ขอบคุณคุณมากนะคะ”
ดื่มยาสมุนไพรและขึ้นไปข้างบน ปยุตตื่นแล้ว แต่ยังคง นอนอยู่บนเตียง เห็นเธอเข้าไปในห้อง เขาก็กวักมือเรียก “มานี่”

ผลินเดินตรงไปและก้มลงถาม “มีอะไรเหรอ”

“คุณดูให้หน่อยว่ามีอะไรอยู่ในตาของผมหรือเปล่า มัน คันจนทนไม่ไหวแล้ว

ปยุตชี้ที่ตาซ้ายของเขา

ผลินรีบก้มลงและเข้าไปมองใกล้ ๆ ทันที “มันเหมือนว่า ไม่มีอะไรเลยนะ

“ดูใกล้ ๆ อีกหน่อย

“ฉันดูดีแล้วนะ มันไม่มีอะไรเลยจริง ๆ

ผลินกำลังจะลุกขึ้น แต่ปยุตเหยียดแขนออกและดึงเธอ เข้าไปในอ้อมแขนเสียก่อน แล้วจัดการพลิกตัวกดเธอลง ริม ฝีปากที่ แข็งแกร่งและร้อนรุ่มกดจูบไล่ต้อนลิ้นของเธอ จาก อ่อนโยนจนกลายเป็นบ้าคลั่ง

จูบของปยุตป่าเถื่อนและรุนแรง ผลินเกือบจะหายใจไม่ ออกด้วยรสจูบนั้น มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะปล่อยเธอ เธอลูบ ริมฝีปากสี แดงสดที่อักเสบขณะที่เธอกอบโกยลมหายใจ เข้าปอด และประท้วงอย่างตำหนิ “ลวนลามกินเต้าหู้ฉันแต่ เช้าเลยนะ น่าเกลียด”
“ผมกินเต้าหู้เหรอ แล้วใครกินยาจีนล่ะ”

ปยุตรู้สึกถึงรสชาติยาจีนที่หลงเหลืออยู่ในปาก หรี่ตาม องเธออย่างชั่วร้ายพลางยิ้ม

วันอาทิตย์ที่สดใส ชื่นใจนอนจนถึงเที่ยง ไม่รู้ว่าไวภพ ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มีกระดาษโน้ตวางอยู่บนโต๊ะในห้อง นั่งเล่น “วันนี้ ผมกลับดึกมีบางอย่างต้องไปทํา อาหารสาม มื้อคูณจัดการเองได้เลย

นี่ก็หนึ่งสัปดาห์แล้วตั้งแต่พวกเขาแต่งงานกัน และ สัปดาห์นี้นอกจากอาหารที่โรงเรียน ชื่นใจยังไม่ได้ทำ อาหารเลย ซึ่งเธอไม่ ได้ขี้เกียจแต่เธอจะไม่ทำ

ในตอนแรก เธอแนะนำให้ไวภพสั่งซื้ออาหารมาที่บ้าน หลังจากผ่านไปสามวันไวภพก็ค้นพบว่าเธอ เป็นผู้หญิงที่ทำ อาหารไม่ เป็น

ดังนั้น ตั้งแต่วันที่สี่เป็นต้นมา ไวภพจึงเริ่มทําอาหารด้วย ตัวเอง เธอไม่ได้รู้สึกอาย เพราะยังไงก็ตามเมื่อเขาทำเสร็จ เธอก็แค่ ทาน ดูเหมือนว่าถ้าผู้ชายเป็นคนทำอาหาร มันก็ เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงจะเป็นคนทาน

เมื่อวานสามมื้อไวภพเป็นคนทำ วันนี้เขาไม่อยู่บ้าน ให้ เธอแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เธอจะแก้ปัญหาได้ยังไง หลังจาก ล้างหน้าเสร็จ แล้วจึงเดินไปที่ตู้เย็น และหยิบขนมออกมา ซึ่งมันเป็นทางออกของเธอ
เปิดทีวี กดเลือก มดูรายการวาไรตี้โชว์ และเพลิดเพลิน กับขนมขบเคี้ยว ค่อนข้างสบายและผ่อนคลาย ก่อนที่จะใช้ ชีวิตกับคนคนหนึ่ง นั่นคือสิ่งที่เธอเป็น นอนในวันหยุดสุด สัปดาห์จนกว่าดวงอาทิตย์จะขึ้น แล้วก็นอนขี้เกียจบนโซฟา กินขนมและดูทีวี แต่ หลังจากแต่งงานกับไวภพ ไม่อยาก ให้เขาเห็นว่าตัวเองขี้เกียจ ดังนั้นแค่แกล้งทำตัวเป็นผู้หญิง กลับบ้านมาในเวลาที่นอกเหนือจากเวลาทํางาน ก็นั่งแก้ไข การบ้านหรือแกล้งทําเป็นอ่านหนังสือที่ดูเหมือนจะดีมาก

นอกจากไวภพจะรู้ว่าเธอทำอาหารไม่เป็นแล้ว ก็ถูก หลอกโดยการแกล้งทําอีก

เมื่อกำลังเพลิดเพลินกับของกิน ทันใดนั้นประตูก็ถูก เปิดด้วยเท้าข้างหนึ่ง มือของเธอสั่นด้วยความกลัว มันฝรั่ง ทอดที่อยู่ในมือ ร่วงหล่นลงพื้น

“พวกคุณทําอะไรกันน่ะ”

เธอจ้องมองด้วยความตกใจไปที่ชายกำยำสองคน หน้าตาดร้ายมองอย่างน่ากลัวเหมือนจะกินเธอ ในขณะที่ กำลังสงสัยก็มีอีก คนเข้ามาจากข้างนอก ทันทีที่เห็นคน ๆ นั้น เธอก็เข้าใจในสิ่งที่เธอเห็น

“คุณแม่….”

เธอร้องตะโกนออกมา

ใบหน้าของท้ตดาบึ้งตึง “ใครเป็นแม่ของเธอ น่าทเรศ สฉันให้น้อยลงหน่อย”

“คุณป้าดามาทำอะไรที่นี่คะ”

ชื่นใจระงับความเจ็บปวดในหัวใจ เรียกเธอว่าป้า เข้าไป หาป้าของคุณ มันเป็นเรื่องยากที่จะเรียกว่าแม่ของคุณ

“ต้องการอะไรคะ”

ทัตดาเผยรอยยิ้มที่น่ากลัว “เธอพูดว่าฉันต้องการอะไร งั้นเหรอ”

ความจริงแล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องพูด เห็นผู้ชายสองคนนี้ แล้ว ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ…

“ถ้าคุณจะมาลักพาตัวฉันก็รอฉันก่อน เพราะตอนนี้ฉัน ปวดท้องมาก”

ชื่นใจโค้งตัวงองุ้ม มือกุมท้องและวิ่งไปที่ห้องน้ำ แต่ใคร จะรู้ว่าเมื่อก้าวขาไปข้างหนึ่ง มันก็เหมือนกับลูกไก่ตัวน้อยที่ ถูกดึงกลับ โดยชายแข็งแรง

เธอแกล้งทำเป็นเจ็บปวด “คุณแม่คะ..เอ้ยไม่ใช่คุณป้าคะ ฉันปวดท้องมากจริง ๆ นะ ให้ฉันได้ไปเข้าห้องน้ำก่อน พวก คุณจะฆ่า จะแกงคนอยากเข้าห้องน้ำเหรอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ