ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 99 คำสาบานที่สุสาน (2)



ตอนที่ 99 คำสาบานที่สุสาน (2)

ปยุตส่งยิ้มอ่อนโยน สตาร์ตเครื่องยนต์และออกไป…

ผลินมองดูเวลา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรออก หาชื่นใจ “ฮัลโหล ออกมา ยัง”

“ใกล้แล้ว ๆ”

“ทําไมถึงยังไม่ออกมาอีกล่ะ”

“ฉันท้องเสียตั้งแต่เมื่อคืน”

“เป็นอะไรมากหรือเปล่า ไปโรงพยาบาลไหม”

“ไม่ต้องหรอก ฉันเพิ่งทานยาไปสองเม็ด”

ผู้หญิงที่แต่งตัวสง่างามเดินผ่านผลิน ทันใดนั้นกระเป๋า สตางค์ที่อยู่ในเสื้อคลุมขนมิงค์ก็ร่วงหล่นลงพื้น เธอจึงบอก ชื่นใจว่า “เธอรอเดี๋ยวนะ”

หยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาจากพื้น แล้วจับผู้หญิงคนนั้น ไว้ “คุณป้าคะ คุณทํากระเป๋าสตางค์ตกค่ะ”

ผู้หญิงคนนั้นถอดแว่นกันแดดสีน้ำตาลเข้มออก เผยให้ เห็นถึงสายตาที่ยอดเยี่ยม แม้จะมีริ้วรอยแต่ยังคงดูดี ยิ้มและ รับไป “ขอบคุณมากค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”

ผลินยิ้มและหันกลับไปอย่างสง่างาม แล้วจึงพูดกับชื่น ใจในโทรศัพท์ “ฮัลโหล ยังอยู่หรือเปล่า”

“อยู่สิ เธอเก็บเงินได้เหรอ” ชื่นใจถามล้อเล่น

“ใช่ เก็บกระเป๋าสตางค์ได้”

“จ๋ ๆ เป็นเด็กดีจริง ๆ น่ายกย่อง”

“ไม่ต้องเลย จะออกมาหรือยัง”

“ไปแล้ว อีกสิบนาทีเจอกัน”

“โอเค”

ผลินกับชื่นใจใช้เวลาทั้งวันไปกับการเดินเล่น ซื้อเสื้อผ้า และเครื่องสำอางมากมาย และซื้อกลับมาฝากปยุตด้วย ป ยุตกลับบ้านมาในตอนเย็น ไม่เห็นผลินจึงเอ่ยถาม “คุณแม่ แล้วลินล่ะครับ”

คุณนายท่านไม่สนใจเขา

เขาจึงหันไปถามน้องสาว “ยายณี พี่สะไภ้ล่ะ”
“โลกนี้กำลังจะเข้าใจยากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ เมื่อก่อนนี้คน สองคนต่างรังเกียจที่จะเจอกัน แล้วตอนนี้เป็นยังไง พี่ต้อง ถามหนูเพียงเพราะแค่หนึ่งนาทีไม่ได้เห็นเลยเหรอเนี่ย ไม่ น่าเชื่อเลย เหลือเชื่อมาก

“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว คนล่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”

ปยุตหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างหงุดหงิด “ถ้าพี่ หาไม่เจอแล้วพี่ถามใครไม่ได้เลยรึไง ผู้หญิงที่จิตใจไม่ดี ไม่มีทางได้แต่งงาน!

ปาณีทุบหมอน ตะโกนใส่เขาที่หายเข้าไปด้านหลังประตู “ผู้ชายอย่างพี่ยังสามารถแต่งงานมีภรรยาได้ แล้วทำไมฉัน จะแต่งไม่ได้…”

“โอ้ยพระเจ้า หนวกหูจริง ฉันดูทีวีไม่รู้เรื่องเลย”

คุณนายท่านนวดหูของเธอ

“แม่คะ แม่ให้กำเนิดยังไง ทำไมต้องให้กำเนิดเขาแล้ว ค่อยให้หนูเกิด แม่ให้เขาเกิดมาเพื่อที่จะโกรธหนู!”

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าหมายถึงอะไร แต่ถ้าฉันรู้ว่าแกคุณสอง คนจะเกิดมาเพื่อทำให้ฉันกังวล ฉันก็คงไม่ให้เกิด

“โอ้ย ๆ ๆ บ้าไปแล้ว ๆ อยู่ครอบครัวนี้ไม่ได้แล้ว”
ปาณีวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างบ้าคลั่ง

ปยุตยืนอยู่ข้างน้ำพุและโทรศัพท์ไปหาผลิน รอสายสัก พักเธอก็รับมัน “ฮัลโหล สามี มีอะไรเหรอ

“คุณอยู่ที่ไหนน่ะ”

“ทานข้าวอยู่กับชื่นใจ

“ทำไมทานข้าวกับชื่นใจ คุณควรทานอาหารกับผมในเวลา แบบนี้ไม่ใช่เหรอ เราควรจะฉลองด้วยกันไม่ใช่หรือไง”

“ก็ชื่นใจจะเลี้ยงฉัน ถ้าฉันปฏิเสธจะไม่ดูใจแคบเกินไปเห

รอ”

ปยุตถอนหายใจ “แล้วคุณจะกลับมาเมื่อไหร่”

“ทานเสร็จแล้วกลับเลย”

“โอเค รีบ ๆ ทาน

“เข้าใจแล้ว”

ผลินรีบวางสายจากปยุตแล้วเช็ดปาก ชื่นใจถูกทิ้งไว้ใน

ร้านอาหาร

กลับไปบ้าน ปยุตทำงานอยู่ในห้องหนังสือ เธอเดิน เข้าไปพร้อมกับถุงใบใหญ่ “ฉันเก่งไหม วันนี้ทำให้คุณเสียเงินไปเยอะเลยนะ”

“เสียเงินก็ดี การเสียเงินให้ผู้หญิงเป็นหลักฐานว่าผู้ชายจะ ได้รับเงิน ผู้ชายจะไม่สามารถหาเงินได้ถ้าไม่เสียให้ผู้หญิง จริงไหม”

“ใช่ คุณเยี่ยมมาก คุณช่างน่าทึ่ง เอาล่ะ”

ผลินเปิดถุง “ดูสิว่าฉันซื้ออะไรให้คุณ” “โทนเนอร์ อิมัลชัน น้ำยาโกนหนวด มาส์ก มาส์กเหรอ”

ปยุตดวงตาเบิกกว้าง “ทำไมคุณต้องซื้อมาส์กให้ผม

“ก็มาส์กหน้าไง”

“ล้อเล่นน่า ผู้ชายอะไรจะมามาส์กหน้า มันไม่เหมือน

ผู้ชาย”

“ไม่มีใครบอกว่าผู้ชายจะไม่ใช่ผู้ชายถ้าบำรุงผิว มันทำให้ คุณดูไม่แก่ไปกว่าฉัน

“ผมดูแก่กว่าคุณมากเลยเหรอ”

ในความเป็นจริง ปยุตแก่กว่าผลินแค่สามปี

“ยังไม่แก่เท่าไร แค่อยากให้ดูมีหน้ามีตาเมื่อออกไปข้าง

นอกน่ะ”
“ผมทำให้คุณไม่สามารถออกไปข้างนอกได้เหรอ” ปยุต กำลังจะระเบิด

“แน่นอนว่าไม่ แต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่จะใช้มันตอนนี้นะ การ บำรุงผิวเป็นสิ่งที่ดี คุณจะได้มีผิวหน้าที่ดีขึ้น”

“อ่า ผมไม่รู้ได้ยังไงเนี่ย ว่าคุณเป็นผู้หญิงที่หลงใหลใน หน้าตาแบบนี้ด้วย”

ผลินโกรธจนตาเปลี่ยนเป็นสีขาว “ไม่ใช่หลงใหลใน หน้าตา ฉันต้องการให้สามีของฉันเป็นเด็กตลอดไปไม่ดี หรือไง”

“ใครอยากเป็นเด็กตลอดไป”

“โอ้ ฉันรู้แล้ว คุณอยากจะแก่ไปพร้อมกับฉันสินะ”

เธอมองอย่างเจ้าเล่ห์ ปยุตพูดขึ้นอย่างไร้อารมณ์ “อย่า มาหลงตัวเอง ไหนลองใส่เสื้อผ้าที่คุณซื้อมาให้ผมดูซิ”

“ทำไม”

อีกสองวันมีงานเลี้ยงอาหารค่ำกับคุณนายมีสุวรรณ์ ที่ไป มีแต่คนรวยเป็นคุณนายเศรษฐี คุณต้องแต่งตัวให้ดูดี

“คุณคงไม่ได้ต้องการให้เข้าร่วมด้วยหรอกใช่ไหม”

“อืม”
“ทําไมล่ะ ฉันไม่รู้จักเธอสักหน่อยไม่ใช่เหรอ”

“คุณไม่รู้จักเธอ แต่เธอรู้จักคุณ ภรรยาของผม ปยุต ทรัพย สาน มีใครไม่รู้จักบ้าง”

“เอ่อ…ถ้าไม่เข้าร่วมล่ะได้ไหม”

ผลินไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงแบบนี้ อะไรคือ คนรวยเป็นคุณนายเศรษฐี มันก็แค่ไข่นกพิราบของใครจะ ใหญ่กว่ากันแค่นั้น

“แน่นอนว่าไม่ มันเป็นเรื่องของการให้เกียรติ ถ้าคุณไม่ไป ผมก็เสียหน้า

“แล้วคุณจะไปไหม”

“เธอเชิญแต่ผู้หญิง ผมไม่ไป”

“ถ้าคุณไม่ไปฉันกลัว”

“กลัวเหรอ” ปยุตไม่อยากจะเชื่อ “คุณนี่เหรอกลัว คุณบอก ว่าคุณกลัวที่จะดูหนังสยองขวัญในตอนกลางคืนคนเดียว เท่านั้นไม่ใช่หรือไง”

“ฉันว่ามันน่าเบื่อ

“ไม่ได้ ยังไงคุณก็ต้องไป เพื่อเป็นคุณนายของปยุต ทรัพยสาน หลังจากนี้ก็ต้องไปงานเลี้ยงแบบนี้อีก”
“งั้นฉันไม่เป็นคุณนายของปยุต ทรัพยสานได้ไหม

“คุณกล้า…”

ปยุตวิ่งตามเธอไปที่ห้องนอน หลังจากการโจมตีที่ แข็งแกร่ง ผลินก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของเขา และสัญญาว่า จะไปงานเลี้ยง

คืนวันพฤหัสบดี เธอใส่ชุดราตรีธรรมดา มาถึงสถานที่จัด เลี้ยง ซึ่งก็คือบ้านของคุณนายมีสุวรรณ์

วิลล่าของคุณนายมีสุวรรณ์มีขนาดใหญ่มาก เดินเข้าไป ในห้องจัดเลี้ยง ผลินรู้สึกเจิดจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะแสง ไฟส่องสว่าง แต่ผู้หญิงข้างในไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทุกคนแต่งตัวดีส่องแสงระยิบระยับ เมื่อเทียบกับเธอซึ่งดู ธรรมดามาก ดีที่ปยุตไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย มิฉะนั้นคงโกรธเธอ แน่

“นี่คือภรรยาของคุณปยุตใช่ไหมคะ”

พบคุณนายมีสุวรรณ์ที่มีสายตาคมทักทายอย่างอบอุ่น เธอพยักหน้าเผยรอยยิ้มที่สง่างาม “ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ ดีใจที่ ได้เจอคุณนะคะ”

“ฉันได้ยินมาว่าคุณนายหญิงทรัพยสานเกิดมาพร้อมกับ ความงดงามที่ดูเป็นธรรมชาติ ได้ประจักษ์แล้วในวันนี้ ชุดที่ เรียบง่ายนี้แต่กลับทำให้ผู้หญิงที่นี่เทียบไม่ติดเลย”
“ที่ไหนกันคะ คุณนายมีสุวรรณ์ก็พูดเกินไปค่ะ”

ผิวเผินดูเธอเรียบเฉย แต่ในความเป็นจริงในใจคือเธอได้ หมดความอดทนแล้ว เพียงต้องการที่จะหาโอกาสไปหาที่ ซ่อนและหลบจนกว่างานจะเลิก

“เชิญคุณตามสบายนะคะ ฉันขอไปทักทายแขกเหรือคน อื่นก่อน”

“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”

ทันทีที่เธอไป ผลินก็ถอนหายใจยาว ไปที่โต๊ะบฟเฟต์ ถือจานใบเล็กสวยงามและเลือกสิ่งที่ชอบทาน กำลังมอง หาสถานที่ที่เงียบสงบเพื่อทานมัน ก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาหา เธอพร้อมกับแชมเปญ

และผู้หญิงคนนี้ช่างดูคุ้นตา

“สวัสดีค่ะ เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า”

ผู้หญิงคนนั้นถามเธอด้วยรอยยิ้ม

ผลินครุ่นคิดเช่นเดียวกับผู้หญิงคนนี้ “กระเป๋าสตางค์”

ฮ่า ๆ พวกเขายิ้มให้กันและกัน ต่างคนก็ต่างค่อนข้างตื่น เต้น “ฉันก็คิดว่าคุณดูคุ้น ๆ จำได้คลับคล้ายคลับคลา

“ใช่ค่ะ ครั้งแรกที่ฉันเห็นก็คิดเช่นนั้น คุณป้ามาที่นี่ได้ยังไงคะ”

หลังจากที่พูดจบเธอก็หัวเราะ ไม่ใช่ว่าต้องถามตัวเอง หรอกเหรอ ว่ามาที่นี่ได้ยังไง…

“ฉันได้รับเชิญให้มาที่นี่น่ะ คุณก็ด้วยเหรอ”

“ใช่ค่ะ”

“แล้วคุณชื่ออะไรเหรอ

“ฉันชื่อผลินค่ะ”

“ผลิน เป็นชื่อที่หรูหราดีจัง ฉันชื่อทัตดา เรียกฉันว่าป้าดา

ก็ได้”

“ค่ะ”

ผลินพยักหน้า ยื่นจานขนมในมือให้ก่อนที่เธอจะได้ลิ้ม รสมัน “คุณป้าคะ คุณทานนี่สิคะ เดี๋ยวฉันจะไปเอามาใหม่ ค่ะ”

“ขอบใจจ้ะ” ทัตดารับไปด้วยความยินดีก่อนที่จะยิ้มให้

พวกเขามาถึงที่โซฟามุมห้องกับขนมนิดหน่อย ทานและ พูดคุยกัน “คุณผลิน คุณมีแฟนไหมคะ ฉันชอบคุณ ฉันจะ แนะนําแฟนให้คุณดีไหม เป็นลูกชายของฉันเอง หล่อมาก เลยนะ”
ผลินที่กำลังกัดขนมเกือบจะสำลัก รีบโบกมือปฏิเสธ พัลวัน “ไม่ค่ะไม่ ฉันแต่งงานแล้วค่ะ”

“แต่งงานแล้ว?”

ทัดตาดูเหมือนประหลาดใจ “คุณดูเด็กมาก ทำไมถึง แต่งงานเร็วจัง”

“ค่ะ เพิ่งแต่งปีนี้เอง”

“โธ่ น่าเสียดายเสียจริง ฉันอยากจะแนะนำคุณให้รู้จักกับ ลูกชายของฉัน…

ในสายตาของเธอมีความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผลินยิ้ม อย่างตะขิดตะขวง “ขอบคุณสำหรับความใจดีของคุณป้า และความเป็นแม่ที่มีวิสัยทัศน์ของคุณนะคะ ลูกชายของคุณ ต้องหาภรรยาที่ดีได้แน่”

“ฮ่า ๆ ช่างพูดได้น่ารักเสียจริง”

ทัตดาชอบเธอมากขึ้น และหยุดพูดถึงการแนะนำให้รู้จัก

ใครอีก

“คุณป้าทำธุรกิจเหรอคะ”

“ใช่ค่ะ ฉันเคยทำธุรกิจในต่างประเทศ เพิ่งกลับมาบ้านน่ะ

“โอ้ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคุณถึงดูเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง”
“พูดเกินไปแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันมีความสัมพันธ์พิเศษกับคุณ ผลิน สงสัยจังว่าจะสามารถเชิญคุณไปทานข้าวเย็นที่บ้าน ของฉันได้หรือไม่คะ”

เมื่อคิดได้ว่าอาจจะแนะนำให้รู้จักกับลูกชายของเธอ จึง พูดออกมาอย่างยากล่ามาก “เกรงใจมากเลยค่ะ…

ดูเหมือนว่าทัตดาจะอ่านใจเธอออก จึงยิ้มและพูดว่า “ไม่ ต้องเป็นห่วงค่ะ ฉันอาศัยอยู่คนเดียว ฉันหย่ากับสามีของฉัน น่ะ ลูกชายอาศัยอยู่กับสามีของฉันค่ะ”

ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดบาดแผลของผู้อื่น ผลินจึงขอโทษ “ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลย

“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงใช่ไหมคะ ห้าโมงเย็นวันหยุดสุด สัปดาห์ คุณมาหาฉันทวิลล่าเพิ่มสินนะ ที่นั่นคือบ้านใหม่ ของฉันค่ะ”

“ได้ค่ะ ฉันยินดีทำตามนั้นด้วยความเคารพ

ผลินยากที่จะปฏิเสธความเมตตาเช่นนี้ จึงตกลง

สามทุ่มครึ่งจบงานเลี้ยง ทัตดาลุกขึ้นและออกไปจาก บ้านคุณนายมีสุวรรณ์พร้อมกับเธอ เมื่อยืนอยู่ที่รถ ทัตดาจึง ถาม “คุณอาศัยอยู่ที่ไหน ให้ฉันไปส่งคุณเอาไหมคะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ สามีของฉันจะมารับฉันน่ะค่ะ”
“โอ้ดีจัง งั้นฉันไปก่อนนะคะ”

“ลาก่อนค่ะ”

ทัตดาไป ปยุตก็มา เขาลงจากรถ มองผลินด้วยสีหน้า อ่อนโยน “ภรรยาของผม เป็นไงสนุกไหม

“ก็ไม่เลวค่ะ”

ผลินยิ้ม “แต่ฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลย คุณพาฉันไปหา อะไรทานหน่อยได้ไหม”

“แมวตะกละ”

ปยุตเขี่ยจมูกของเธอเหมือนเธอเป็นสัตว์เสียงตัวน้อย จูงมือเธอไปที่รถ “คุณทำความรู้จักเพื่อนใหม่บ้างไหม

ผลินพยักหน้าแล้วตอบ “มีสิ ได้รู้จักกับคุณป้าที่น่าสนใจ มากเลย”

“คุณป้า?”

“อืม ฉันว่าฉันมีความสําพันธ์ที่ดีกับเธอ เคยเจอกันที่ ที.เอส.เซ็นทรัล เธอทำกระเป๋าสตางค์หล่นแล้วฉันก็หยิบมัน คืนให้เธอ ไม่คิดว่าวันนี้เราจะได้พบกันอีกครั้ง”

“ชื่ออะไรเหรอ”
“ทัตดา”

“ทัตดา?” ปยุตขมวดคิ้ว “เหมือนว่าจะเคยได้ยินชื่อนี้ ที่ไหน”

“เธอบอกว่าเธอเคยทำธุรกิจในต่างประเทศ เพิ่งจะกลับ มา”

“อืม”

ปยุตพยักหน้าอย่างไม่ค่อยสนใจมากนัก เร่งเครื่องยนต์ วิ่งเข้าไปบนท้องถนน

จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างท่ามกลางแสงวาบของไฟ นีออน แล้วจู่ ๆ ผลินก็พูดขึ้นว่า “วันนี้ป้าดาบอกว่าจะแนะนำ แฟนให้ฉันรู้จักด้วย”

เอี๊ยด!

ปยุตเบรกกะทันหัน โชคดีที่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่เช่นนั้น การเบรกกะทันหันเช่นนี้ คงรับประกันไม่ได้ว่าจะไม่กระเด็น ออกไป

“คุณทำอะไรเนี่ย

ผลินโกรธเขา “จอดรถดี ๆ ไม่ได้หรือไง”

“เธอบอกว่าจะแนะนำแฟนให้คุณ แล้วคุณบอกไปว่ายังไง”
ปยุตเอ่ยถามด้วยใบหน้าไม่พอใจ ดวงตาเต็มไปด้วย ความหึงหวง

“ฉันบอกว่า…ฉันบอกว่า…”

ผลินจงใจอุบไว้ เพราะรู้ว่าปยุตกำลังโกรธ และยังตั้งใจ ที่จะยั่วความกระหายของเขา

“คุณบอกว่าอะไรกันแน่

“ให้ฉันคิดดูก่อน”

ปยุตทนไม่ไหวอีกต่อไป จับลำคอของเธอมารับจูบด้วย ความโกรธ จูบดั่งพายุโหมกระหน่ำ เหมือนเขาเป็นคนที่ รุนแรงและโหดร้าย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ