ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 210 บอกความในใจ



ตอนที่ 210 บอกความในใจ

“ทำเสร็จแล้ว ไม่หิวก็ทานนิดหน่อยก็ได้ค่ะ”

“ได้”

เขาถอดเสื้อนอกออก หยิบตะเกียบคีบบะหมี่คำหนึ่งเข้า ใส่ในปาก “อั้ม…อร่อยจังเลย”

“นภนต์ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันทำบะหมี่ให้คุณทานนะ คะ”

นภนต์ถามอย่างตกตะลึง “หมายความว่ายังไงครับ”

“ฉันไม่สามารถตอบตกลงแต่งงานกับคุณได้

“เพราะอะไรครับ”

ผลินโค้งคำนับและใช้เวลานานมากกว่าจะพูดออกมาได้ “เพราะว่าใจฉันตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ไม่สามารถลืมอดีตสามี ของฉันได้ค่ะ”

นภนต์ตกใจมาก “แต่ว่าคุณก็ยอมรับผมแล้วนี่ครับ”

“ขอโทษค่ะ ตอนที่ยอมรับคุณฉันก็คิดว่าอยากจะอยู่กับ คุณจริงๆ แต่ไม่ว่าฉันจะพยายามมากแค่ไหน หัวใจของฉันก็ ไม่ยอมเดินมาหาคุณ อดีตสามีของฉัน….
“ถ้าอย่างนั้นคุณพยายามให้มากขึ้น ถ้าหากว่าใจคุณ อยากที่จะเดินแล้ว คุณต้องเดินมาถึงอย่างแน่นอน!

“เดินต่อไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ ฉันผิดเองตั้งแต่ต้น ฉันไม่ สามารถผิดพลาดได้อีก ไม่สามารถทำลายความรู้สึกดีๆของ คุณอีกต่อไป นภนต์ ฉันเสียใจจริงๆค่ะ”

มีร่องรอยของความเจ็บปวดปรากฏขึ้นในสายตาของ นภนต์ เขาเสียใจมากแต่ยังพูดต่อไปอีกว่า “ไม่เป็นไร ผมรอ ให้ถึงวันที่คุณลืมได้ จะอีกห้าปี สิบปี หรือยี่สิบอย่างนั้นก็ไม่ เป็นไร”

เขาไม่ต้องการได้ยินคำปฏิเสธอีกครั้ง เขาจึงลุกขึ้นหยิบ เสื้อโค้ทแล้วเดินจากไป แต่ผลินกลับรีบคว้าแขนเสื้อของ เขาเอาไว้ “ฉันยังพูดไม่จบค่ะนานต์ อดีตสามีของฉันเขาก็ คือ…”

“ไม่ต้องมาบอกผมว่าอดีตสามีคุณเป็นใคร เขาเป็นใครก็ ไม่สำคัญสำหรับผม คนที่สำคัญสำหรับผมก็คือคุณเท่านั้น ผลิน”

นภนต์ไม่ยอมฟังเธอพูดให้จบ และเดินจากไปอย่างดื้อ

สามวันผ่านไป คืนนี้ลมฝนทั้งฟ้าร้องฟ้าผ่า นี่เป็นสภาพ อากาศที่เลวร้ายที่สุดที่ผลินเคยพบเห็น

เธอขดตัวอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นเพียงลำพัง อาศัยแสงสว่างจากโคมไฟเพียงดวงเดียวขบคิดเรื่องที่อยู่ภายในใจ ที่ ประตูก็ได้ยินเสียงเคาะขึ้น เธอประหลาดใจเล็กน้อยลุกขึ้น เพื่อไปเปิดประตู

เมื่อประตูเปิดออก คนที่อยู่ตรงหน้าก็คือปยุต ในสายตา ของเธอเต็มไปด้วยความคิดถึงเขา ความผิดพลาดในชั่ว ระยะเวลาสั้นๆของผลิน เธอไม่ลังเลสักนิดที่จะปิดประตูใน ทันที เธอไม่แปลกใจเลยที่เขาจะมาปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้

“ผลิน เปิดประตู ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ ผลิน ก๊อกก๊อก…

ปยุตยังคงเคาะประตูอย่างต่อเนื่อง ผลินปิดหูและเดิน กลับไปที่โซฟา กลายเป็นเหมือนกับหอยทากอีกครั้ง ขด ม้วนตัวเองเข้ามา

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ได้ยินเสียงที่ด้านนอก ประตูอีก เธอก้าวเท้าไปที่ประตูอย่างไม่สามารถควบคุมตน ได้ เธอเปิดประตูออกและพบว่าปยุยังไม่ได้ไปไหน แต่เขา นั่งอยู่ที่บันไดทางเข้า หลังของเขาพิงประตูเหมือนหุ่นเชิด ปล่อยให้ฝนกระทบถูกร่างกายแต่กลับไม่ได้แสดงความรู้สึก ใดๆ

หัวใจเธอเจ็บแปล๊บ ฉากนี้ดูเหมือนภาพที่คุ้นเคย เมื่อ สองปีก่อนที่วิลล่าริมทะเล เขาก็ทำโง่ๆเช่นนี้รออยู่ที่หน้า ประตูห้องของเธอ คืนนั้นไม่มีทางเลือก คืนนี้เจ็บปวดใจ ทั้งหมดล้วนพิสูจน์ให้เห็นร่องรอยความรักของพวกเขา

เธอหมุนตัวกลับไปเพื่อไปหยิบร่ม และไปยืนอยู่ทางด้านหลังของปยุต ปยุคค่อยๆหันตัวกลับไป เขาร้องออกมาและ ลุกขึ้นยืน ดึงเธอเข้ามาสู่อ้อมกอด “ผลิน ผมรู้ คุณต้องออก มาแน่ๆ..

เสื้อผ้าที่เปียกชื้นของเขาทำให้เสื้อผ้าของเธอพลอย เปียกไปด้วย เธอพยายามผลักเขาออกไปและกล่าวอย่างไม่ สนใจใยดี “เข้าไปข้างในอาบน้ำก่อน เสร็จแล้วก็เอาร่มออก

ผลินไปซื้อเสื้อผ้าให้กับเขา เธอเป็นภรรยาของเขา เธอรู้ ว่าเขาสวมเสื้อผ้าแบบไหนขนาดเท่าไร

เมื่อกลับมาถึง ปยุตยังคงอยู่ในห้องน้ำ เธอจึงเคาะประตู “ใส่นี่ละกันนะ ฉันหาซื้อยี่ห้อที่คุณชอบที่นี่ไม่ได้

ปยุคสวมใส่เสื้อผ้า ผลินมองเขาเห็นว่าเขาใส่เสื้อผ้าได้

พอดี

“เอาล่ะ มีอะไรก็ว่ามา

สีหน้าเธอไร้อารมณ์และไม่ได้หันหน้าไปมอง เธอรอฟัง สิ่งที่เมื่อสักครู่ตอนที่เขาอยู่ที่นอกประตูแล้วบอกว่ามีเรื่องจะ

พูด

“ผมคิดถึงคุณ”

ปยุตพูดอย่างใจเย็น
อ้อ เธอหัวเราะเยาะ “อย่าบอกนะคะ ว่าที่คุณฝ่าพายุฝน มากลางดึกเพียงเพื่อที่จะบอกว่าคุณคิดถึงฉันน่ะ”

“ใช่ ผมคิดถึงคุณ ถึงคุณจะมองว่ามันไร้สาระแต่ว่ามันคือ ความจริง”

ดวงตาที่สวยงามของปยุตเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดง ดู เหมือนว่าการนอนหลับในหลายคืนที่ผ่านมาจะไม่ค่อยดีนัก เขาพูดด้วยเสียงงัวเงีย “เรื่องของวารี ถ้าคุณอยากรู้ ผมจะ เล่าให้คุณฟัง”

ผลินไม่พูดจา เขาจึงตัดสินใจเล่าความจริงออกไป

“ความจริงระหว่างผมกับเขาไม่มีอะไรกัน คืนนั้นที่ตั้งใจ ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพียงเพราะผมอยากทำให้คุณหึง ผม ความจริง เธอเป็นพาร์ทเนอร์ของผมในการรับการรักษา แต่ว่าผมไม่ได้คิดกับเธอแบบนั้น การรักษาของเราจำกัด อยู่แค่ในห้องจิตเวช คุณ หมอประวีร์บอกว่าผมกำลังทุกข์ ทรมานจากความเจ็บป่วยที่ซ่อนเร้น สาเหตุหลักเกิดจาก การความสูญเสียคนรักที่เดินจากไป ทำให้ก่อให้เกิดความ ผิดปกติทางจิตใจ ปัญหานี้ต้องแก้ที่ความสัมพันธ์กับคนที่ เป็นต้นเหตุ ผมต้องได้รับการให้อภัยจากคนรัก เท่านั้นถึงจะ หายเป็นปกติได้ แต่ในเวลานั้นคุณไม่ได้อยู่ข้างกายผม ดัง นั้นคุณหมอประวีร์จึงใช้การสะกดจิตในการรักษาผมแทน แผนการณ์รักษานั้นเรียบง่ายมากคือให้ผู้หญิงคนนั้นใส่ เสื้อผ้าของคุณแล้วนั่งต่อหน้าผม หลังจากนั้นหมอก็สะกด จิตผม หลังจากอารมณ์ค่อยๆผ่อนคลาย ตาผมก็เห็นภาพ หลอนว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นคือคุณ ผู้หญิงคนนั้นสื่อสารกับผมตามคำแนะนำของหมอประวีร์ เธอนำทางให้ ผมได้พูดความในใจออกมา เมื่อผมเข้าสู่อีกโลกหนึ่งอยาาง สมบูรณ์นั้น ทั้งโลกมีเพียงคุณกับผม คุณหมอประวีร์จัดทำ แผนการรักษาชุดที่สองซึ่งเป็นการเล่นวีดีโอเทป ผมไม่ได้ ใช้ตาดู ผมใช้เพียงหูฟังเท่านั้น ในหัวผมก็เกิดภาพลวงตา ขึ้นอีกครั้ง แต่ที่น่าเสียดายคือผมได้ทำการทดสอบชุดนี้เป็น สิบครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่สำเร็จ

ปยุตบอกความลับที่เขาแอบซ่อนอยู่ในหัวใจ ดวงตาที่ เขามองเห็นเป็นภาพสีเทา “วารีก็คือผู้หญิงคนนั้น เธอคือผู้ หญิงเพียงคนเดียวที่รู้ถึงความทุกข์ทรมานจากอาการป่วย ที่ซ่อนเร้นนี้ของผม เมื่อพิจารณาถึงเงื่อนไขความเป็นส่วน ตัวแล้ว คุณหมอประวีร์เสนอให้เธอมาร่วมมือ เธอก็ไม่มีข้อ คัดค้าน แต่ผมก็ได้ตกลงชัดเจนก่อนการรักษาแล้ว ว่าจะ ไม่มีการสัมผัสทางกาย หมอประวีร์เข้าใจความรู้สึกของผม และไม่ได้บังคับผม ถึงแม้ว่าการสัมผัสทางกายจะเป็นวิธีที่ดี ที่สุดในการรักษา แต่เป็นเพราะว่าคุณ ผมเลยยอมแพ้”

พอผลินฟังคำบอกเล่าของปยุตจบ ใบหน้าของเธอก็ไม่ ได้แข็งกร้าวอีกต่อไป แต่ก็ยังคงไม่ได้มีสีหน้าที่ดีต่อเขา “ใครบอกให้คุณบอกฉันเรื่องพวกนี้ ตอนนี้ฉันไม่ได้อยากรู้ แล้ว”

“ใช่สิ คุณรู้อยู่แล้ว แน่นอนว่าคุณไม่อยากรู้แล้ว

ปยุตลุกขึ้นเดินสู่เบื้องหน้าผลินและค่อยๆโอบกอดเธอ “ตั้งแต่ที่ผมตกหลุมรักคุณ สายตาของผมก็ไม่สามารถมอง ผู้หญิงคนไหนได้อีก ผลิน ผมพูดคำพูดพวกนี้ก็เพียงเพื่ออยากจะบอกคุณว่าผมไม่เคยทรยศคุณ ไม่เคยมีเจตนาเช่น นั้นเลย มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นซึ่งผมไม่ได้เต็มใจ ซึ่งราคา ที่ผมต้องจ่ายก็คือสายเลือด สองปีต่อมาที่ได้พบคุณ ฟ้า เท่านั้นที่รู้ว่าผมอยากจะโอบกอดคุณแค่ไหน คิดจนอยาก จะเป็นบ้า แต่ว่าราคาเลือดที่จ่ายไปนั้นฉุดรั้งผมไว้ เมื่อคุณรู้ ถึงความเจ็บป่วยของผม คุณก็เต็มใจหวังที่จะช่วยเหลือผม ความกล้าหาญของคุณครั้งนี้ทำให้ผมกล้าที่จะรักอีกครั้ง ผม รับปากว่าจะรับความช่วยเหลือจากคุณ ผมได้คิดเอาไว้ในใจ แล้วว่าต่อให้ผมต้องเป็นเช่นนี้ไปตลอดชีวิต ผมก็จะไม่ยอม ปล่อยมือคุณไปเด็ดขาด ผมรักคุณ ผมไม่มีคุณไม่ได้ ผลิน เรามาเริ่มต้นกันใหม่ ครั้งนี้ ผมยินดีที่จะหมุนรอบตัวคุณ ผม จะปฏิบัติต่อคุณให้ดี

ในที่สุดกระแสความอบอุ่นก็แทรกเข้าไปถึงหัวใจอันเย็น ชาของผลินได้สำเร็จ เธอรอคอยให้ปยุตพูดคำนี้ออกมา รอ มานานแสนนาน น้ำตาก็ไหลรินออกมา ทันใดเสียงเคาะ ประตูก็ดังขึ้น

เธอสูดน้ำมูกในจมูกของเธอ ปาดน้ำตาจนแห้งสนิท ลุก ขึ้นและเดินไปเปิดประตู

ครั้งนี้ คนที่ยืนอยู่ที่นอกประตูนั้น เธอรู้สึกประหลาดใจ มากและพยายามตั้งสติ นภนต์ได้ก้าวเท้าเข้าไปในห้องนั่ง เล่นแล้ว

เมื่อเห็นปยุคที่นั่งอยู่กลางห้องนั่งเล่น นภนต์ก็ตกตะลึง “ประธานปยุต คุณมาที่นี่ได้อย่างไรครับ
ปยุตมองเขาอย่างไม่รู้ตัวและไม่มีคำพูดใดๆ นภนต์หัน หน้าไปมองที่ผลิน เธอก็นิ่งเงียบ บรรยากาศนั้นราวกับเป็น น้ำแข็ง เมื่อคิดถึงในอดีต เธอไม่เต็มใจที่จะไปเมือง B เธอ ไม่สามารถละสายตาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นปยุต ชัดเจนว่า เธอลืมอดีตไปได้แล้ว แต่หลังจากที่กลับไปที่เมือง B เธอ กลับบอกว่าไม่สามารถลืมอดีตสามีของเธอได้ ป้าของเธอ เรียกเธอว่าผลิน เธอทำงานที่กลุ่มบริษัทรักผลิน เขาค่อยๆ เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ทันใดนั้นนภนต์ก็เข้าใจทุกสิ่ง

เขาดึงมือผลินและพูดด้วยเสียงที่เศร้าหมอง “ตามผม มา”

ผลินเพิ่งจะถูกลากเดินไปได้สองก้าว มืออีกข้างหนึ่งก็ ถูกจับไว้เช่นกัน “ปล่อยภรรยาของผมเดี๋ยวนี้

ป้ง เมื่อคำพูดของปยุตจบลง นภนต์โกรธเกรี้ยวขึ้นมา หมัดของเขาทั้งหนักและแม่นยำ หนึ่งหมัดและอีกหมัดไปที่ ใบหน้าของปยุต แต่กลับไม่คาดคิด ปยุตไม่สู้กลับเขาสักนิด ตาของเขาแดงก่ำและดูเหมือนความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผลินเห็นเหตุการณ์นี้ก็ได้แต่ร้องไห้โดยไม่รู้ตัว

นภนต์ชกจนเหนื่อย เขามองไปที่ปยุตครู่หนึ่ง ไม่พูดจา อะไรทั้งนั้น หันหลังเดินกลับออกจากประตูไปอย่างสิ้นหวัง

ผลินได้สติจากความโศกเศร้า จับขาและวิ่งตามออกไป เธอจับแขนเสื้อของนภนต์ที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน “ฉัน ขอโทษ”
แต่พูดสามคำนี้ออก เธอไม่สามารถพูดคำไหนต่อไปได้

อีก

“คุณทำกับผมอย่างนี้ได้อย่างไร เวทิตา คุณทำกับผม อย่างนี้ได้อย่างไร คุณแย่มาก

นภนต์มองไปที่ดวงตาเธอด้วยความเสียใจ และทันใดก็ เปิดประตูรถออก สตาร์ทเครื่องยนต์และขับออกไป…

ผลินกลับไปที่บ้านและนั่งลงข้างๆปยุต ทั้งคู่ไม่พูดอะไร ครูใหญ่ผ่านไป ปยุตจึงพูดขึ้นทำลายความเงียบ “เราปิดไฟ กันดีไหม”

“ปิดไฟทำไมคะ” ผลินถามเบาๆ

“ไม่อยากให้คุณเห็นผมเละแบบนี้”

ผลินไม่พูดอะไรอีก เธอลุกขึ้นและปิดไฟ เมื่อบ้านอยู่ ในความมืด ในใจเธอจึงเข้าใจ เหตุผลที่ปยุตไม่สู้กลับไป ก็ เหมือนเช่นเดียวกับเธอ รู้สึกว่าติดค้างนภนต์อยู่ เพื่อให้เขา ได้ระบายความโกรธในใจออกมา

“ฉันเป็นผู้หญิงที่ชั่วร้ายมากใช่ไหมคะ…

ปยุตได้ยินเสียงของความอึดอัดใจ เขายกมือขึ้นโอบที่ ไหล่เธอ “คุณไม่ใช่ผู้หญิงไม่ดี คุณช่วยผู้ชายที่สิ้นหวังไว้ถึง สองครั้ง คุณเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดที่โลกนี้จะหาที่ไหนไม่ได้ อีก”
“แต่ว่าฉันได้ทําร้ายผู้ชายอีกคนหนึ่ง

“ฉันไม่ใช่ความผิดของคุณ ผิดที่คุณรักผู้ชายคนนั้น มัน หนักเกินไปที่เขาจะระงับจิตใจเอาไว้ได้ มันเป็นความมุ่งมั่น ของเขาที่ปรารถนาจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ