ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 179 การกระทําอันชั่วร้าย ที่ไม่อาจทนได้ (3)



ตอนที่ 179 การกระทําอันชั่วร้าย ที่ไม่อาจทนได้ (3)

“ฉันไม่ไป ฉันจะไม่อ่อนแอเหมือนกับเมื่อสามปีก่อน!”

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้”

ปยุตหัวเราะเยาะเย้ย เขาหันหลังกลับประกาศก้องให้เธอ ได้ยิน “เธอบังคับให้ผลินต้องตกนรก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉัน จะทําให้เธอต้องอยู่ในนรกบ้าง

ใบหน้าของจันทรซีดจนไม่มีสีเลือด

ผลินนั่งรถไฟไปเรื่อยๆจนถึงเมืองเอฟ เธอไม่มีที่ไป คน เดียวที่เธอสามารถไปหาได้ก็คือลุงตีรณ

พอลงจากรถไฟ ลุงและป้าก็รออยู่ที่สถานีรถไฟแล้ว ทันที ที่พวกเขาเห็นเธอ พวกเขาก็รีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความตื่น เต้น “ผลิน ดีใจที่ได้เจอหนูจริงๆ ไหนมาให้ป้าดูหน่อย ทำไม ผอมไปอย่างนี้ล่ะ ไม่กินข้าวเลยใช่ไหมเนี่ย

ผลินหัวเราะ “ป้าคะ หนูรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยค่ะ เรากลับ แล้วค่อยคุยกันดีไหมคะ”

เอาล่ะ เอาล่ะ ตีรณ รีบมาเอากระเป๋าหลานไปเร็วเข้า

คนทั้งสามนั่งแท๊กซี่กลับที่พัก ผลินมองไปที่บ้านของลุง และป้า แม้ว่าจะไม่หรูหราเท่ากับคฤหาสน์ของทรัพยสาน แต่กลับไม่มีคนมาคอยกดขี่ คุณลุงรินน้ำให้เธอ “หิวแล้วใช่ไหม ป้าเธอไปเตรียมหาอะไรไว้ให้เธอกินแล้วล่ะ”

เธอพยักหน้าและถามลง “ลุงคะ ตอนนี้ลงทําอะไรอยู่”

“เอ่อ จะทําอะไรได้อีก” ลงตีรถถอนหายใจ “ป้าของเธอ สุขภาพไม่ค่อยดี ทุกเดือนต้องใช้ยารักษา ลุงก็อยู่ที่ท่าเรือ คอยช่วยขนสินค้าลงจากเรือ เงินเดือนก็ไม่เลวนะ แต่ค่า ครองชีพแต่ละวันก็หนักหนาเหลือเกิน”

“แล้วเมื่อครั้งก่อนที่ลุงไปเมืองบีทำไมไม่บอกหนูล่ะคะ”

“พวกเรารบกวนหนูมามากแล้ว ไม่อยากจะรบกวนเธอไป ตลอดชีวิตนะ”

ป้าเอาเกี๊ยวร้อนๆใส่ชามมาให้ “กินให้อิ่มก่อนนะ นั่งรถมา

ตั้งนานเหนื่อยแย่

ผลินค่อยๆเอาเกี๊ยวคีบขึ้นหย่อนลงใส่ปาก เธอลืมไปแล้ว ว่ายังไม่กินอะไรเลย แต่เธอกลับไม่รู้สึกหิว อาจเป็นเพราะ ความเสียใจทําให้เธอไม่รู้สึกถึงความหิว

“ทำไมเธอถึงมีเวลามาหาพวกเราที่เมืองเอฟได้ล่ะ ไม่ได้ ทํางานรี”

ลุงตีรณยังไม่รู้ถึงเรื่องการหย่าของหลานสาว จึงคิดว่าเธอ มาเมืองเอฟเพียงเพื่อพักผ่อนเท่านั้น

“หนูลาออกจากงานที่โรงเรียนแล้วค่ะ”
สามีภรรยาตกตะลึง ทั้งคู่ตบต้นขาดัง “ควรจะเลิกทำไปตั้ง นานแล้ว เธอแต่งงานกับมหาเศรษฐี อยู่บ้านเป็นคุณนายถึง จะถูก”

“หนูหย่าแล้วค่ะ”

“ต๊ะ!”

ทั้งคู่ตกใจอ้าปากค้าง “เธอ นี่เธอพูดเรื่องอะไรกัน…

ลุงตีรณลุกลี้ลุกลนถาม

“ตอนนี้หนูหย่าแล้ว หนูเหลือแต่ตัวเท่านั้น

“เป็นไปไม่ได้ คราวที่แล้วเห็นดีดีกันอยู่เลย อยู่ดีๆมาหย่า กันได้ยังไง!”

ลุงและป้าไม่อยากจะเชื่อ ทั้งคู่คิดว่าหลานสาวล้อเล่น

ริมฝีปากของผลินกระตุกสองสามครั้ง น้ำตาที่แห้งแล้วก็ เริ่มไหลรินอีกครั้งลงในชามเกี๊ยวของเธอ

เมื่อเห็นเธอร้องไห้ ทีปินาจึงรู้ตัวว่าเรื่องนี้คงจะสะเทือนใจ เธอ “เธอไม่ได้หย่าจริงๆใช่ไหม”

“เรื่องนี้หนูไม่โกหกลุงกับป้าหรอกค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นเพราะอะไรล่ะ ต้องมีเหตุผลสิ การหย่าร้างไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะมาบอกว่าหย่าก็หย่านะ”

ผลินวางชามในมือลง และร้องไห้ “เพราะหนูไม่สามารถมี ลูกได้”

“ไม่ ไม่ ไม่สามารถมีลูก!!”

ดวงตาที่เบิกกว้างเพราะความตกใจของทีปินา เธอมองไป ที่บริเวณท้องน้อยของหญิงสาว “เธอบอกว่ามีลูกไม่ได้!!”

“อืม”

ผลินพยักหน้าด้วยน้ำตา

“เธอจะไม่สามารถมีลูกได้อย่างไรกัน” ทีปินาสักครู่ก็ ร้องไห้ออกมา “เธอเป็นผู้หญิงสุขภาพแข็งแรงดี จะไม่ สามารถมีลูกได้อย่างไร!!

อาจเป็นเพราะเธอเองก็ไม่สามารถมีลูกของตัวเอง ทีปินา เลยยิ่งไม่สามารถยอมรับความจริงในข้อนี้ได้

ผลินเริ่มถอนหายใจเนื่องด้วยความเจ็บปวดที่ได้รับตลอด ระยะเวลาครึ่งปีที่ผ่านมา พอพูดถึงเธอก็อดไม่ได้ที่จะ ร้องไห้ออกมา เธอคิดว่าชีวิตนี้จะไม่ร้องไห้อีกแล้วแต่เมื่อ คิดถึงปยุตขึ้นมาหัวใจเธอก็เจ็บปวดเหมือนจะหายใจไม่ออก

“คนพวกนี้มันไม่ใช่มนุษย์!!!
หลังจากที่ตีรณได้ฟังหลานสาวจบ เขาทุบหมัดลงบนโต๊ะ ทำให้กระติกน้ำร้อนที่อยู่บนโต๊ะล้มลงด้วยแรงสั่นสะเทือน ฝาเปิดน้ำร้อนไหลออกมา

ถ้าหากผลินไม่ได้หย่าเพราะไม่สามารถให้กำเนิดทายาท ได้ ทีปินาก็ยังจะพอเข้าใจได้ นี่มันครอบครัวแบบไหนกัน บ้านช่องใหญ่โต แต่หัวโบราณมาก ที่ว่าบ้านไหนถ้าลูก สะใภ้ไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้ ถือเป็นความขมขื่นที่ น่าสงสารนัก

“เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าช่างมีชีวิตที่ขมขื่นเหมือนกับแม่ของเจ้า นัก.

ทีปินากอดผลินไว้ ร้องไห้ด้วยความเสียใจ ในอดีตเธอได้ เห็นชะตากรรมที่น่าเศร้าของแม่ของผลินมาแล้ว ไม่คาดคิด ว่ายี่สิบปีต่อมาเธอจะได้เห็นชะตากรรมที่น่าสลดใจของผลิน อีกครั้ง ผลินดูแล้วน่าสงสารกว่าแม่ของเธอ อย่างน้อยแม่ ของเธอสูญเสียความรักแต่ก็ยังมีลูกอยู่ แต่ผลินเธอกลับไม่ เหลืออะไรเลย

“เธอจะทำยังไงต่อไป

ทีปินาปาดน้ำตาที่หางตาแล้วถามต่อไป

“หนูจะใช้ชีวิตอยู่กับพวกคุณที่นี่ ถึงแม้หนูจะสามารถเอา ตัวรอดได้ที่อื่น แต่หนูเสียแม่ไปแล้วและยังสูญเสียคนที่รัก ไป หนูตัวคนเดียวรู้สึกเหงา หนูไม่มีญาติมิตรที่ไหนอีก พวก คุณเป็นญาติที่เหลือที่หนูมีอยู่ การได้อยู่กับพวกคุณ ทำให้หนูรู้สึกเหมือนได้อยู่กับแม่ แน่นอนว่า….

ผลินหยุดพูดชั่วคราว “แน่นอนว่าถ้าหากว่าลุงและป้าไม่ สะดวก พรุ่งนี้หนูก็จะไปค่ะ หนูไม่อยากเป็นภาระของพวก คุณ หนูแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว”

“ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ที่นี่ ไม่ต้องไปที่ไหนทั้งนั้น!

รถลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาเธอ “สิบกว่าปีที่แล้ว แม่ของ เธอต้องการมอบเธอให้ลุงเป็นคนดูแล ณ ตอนนั้นลุงโง่เอง ที่ไม่ตอบตกลง แต่ในวันนี้ลุงไม่มีความลังเลใจอยู่เลย ลุง จะทําทุกทางเพื่อดูแลเธอเป็นอย่างดี ต่อจากนี้ลุงและป้าจะ ปฏิบัติต่อเธอ เหมือนเราเป็นพ่อแม่แท้ๆของเธอ บ้านเราจะ เป็นครอบครัวที่มีความสุขมาก

“ขอบคุณ ขอบคุณพวกคุณมากค่ะ

ผลินขอบคุณทั้งน้ำตา ตีรณร้องไห้ ทีปินาก็ร้องไห้ ทั้งสาม คนร้องไห้ด้วยกัน

หลังจากร้องไห้อยู่เป็นเวลานาน ที่ปินาลุกขึ้นและพูดว่า “มีห้องว่างอยู่ข้างๆประตูห้องหนึ่ง ฉันจะไปทำความสะอาด เอาไว้ให้เธออยู่”

“หนูช่วยค่ะ”

ผลินเช็ดน้ำตา เดินตามป้าไปที่ห้องด้านข้าง เป็นห้อง ขนาดราวสิบตารางฟุต ไม่ใหญ่โตอย่างห้องที่เธอเคยอยู่ในคฤหาสน์ทรัพยสาน แต่เธอก็พอใจมาก ถึงห้องจะเล็กแต่ก็ เพียงพอแล้ว ทําให้เธอได้เหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง

เธอต้องเดินออกจากชีวิตที่หดหู่ในอดีตให้เร็วที่สุด ต้องมี ชีวิตใหม่ของตัวเอง

ปินาเห็นเธอยืนอยู่ที่ทางเข้าประตู ก็อดไม่ได้ที่จะถอน หายใจ ในใจแอบคิดว่านี่เป็นเวรกรรมหรืออย่างไร เห็นได้ ชัดว่าเธอเป็นเพียงหญิงสาวอายุยี่สิบหก แต่กลับต้องทุกข์ ทรมานกับโชคชะตาที่โหดร้ายเช่นนี้

ใบหน้าเธอไม่มีความสดใสเหมือนคนอายุยี่สิบหกเลย แวว ตากลับมีความขมขื่นยิ่งกว่าคนอายุสามสิบกว่าปี

หลังจากที่เสียผลินไปปยุตก็เมาทั้งวัน ยิ่งนานวันจันทรยิ่ง ได้ค้นพบว่า ชีวิตเช่นนี้ห่างไกลจากสิ่งที่เธอจินตนาการไว้ นัก วันๆเธอแทบไม่ได้เห็นหน้าปยุต เธอตื่นขึ้นมาตอนเช้า เขาก็ไปแล้ว กว่าเขาจะกลับมาเธอก็เข้านอนไปแล้ว ไม่เคย อยู่กินข้าวกับเธอ ไม่เคยถามไถ่ถึงการตั้งครรภ์

เธอตัดสินใจว่าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เธอ พยายามทุกวิถีทางที่จะกลับมาหาปยุต ไม่ได้อยากใช้ชีวิต อย่างคนเป็นม่าย ดังนั้นในตอนเย็นวันนี้ เธอจึงนั่งรออยู่ใน ห้องนั่งเล่นไม่ยอมหลับ เธอต้องการรอจนกว่าปยุตจะกลับ มา และต้องการพูดคุยกับเขาดีๆ

เธอรู้ว่าปยุตที่ดูเหมือนจะเป็นคนเย็นชา แต่กลับเป็นคน ใจอ่อนมาก แค่ร้องไห้กับเขาสักหน่อย เขาอาจจะเปลี่ยนมาเห็นใจเธอบ้าง

เธอรอจนถึงห้าทุ่ม ปยุตถึงจะกลับมา จันทรได้ยินเสียงรถ กําลังเข้าจอด เธอตื่นเต้นและรีบวิ่งออกไปเตรียมพร้อมที่จะ ไปต้อนรับปยุตด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน แต่ภาพที่เธอได้เห็น กลับทําให้เลือดตาเธอแบบกระเด็น ปยุตอยู่ในรถกับผู้หญิง คนหนึ่งกำลังกระซิบกระซาบกันอยู่

เธอรีบเดินไปที่ด้านหน้าและทบไปที่กระจกรถ “ออกมา คุณปยุตออกมาเดี๋ยวนี้

ปยุตเปิดประตูรถและเดินออกมา ทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่น ไวน์แดงคลุ้ง เขาเมาและพูดว่า “ทำอะไรน่ะ

“คุณถามว่าฉันทําอะไร ฉันต้องถามพวกคุณมากกว่าว่าท่า

อะไรกันอยู่”

ผู้หญิงที่หยอกเย้าอยู่กับปยุตในรถก็ออกมาจากรถเช่นกัน เธอยืนเท้าสะเอวอยู่ด้านข้างปยุตและตอบแทนเขา “พวก เราทำอะไรกัน เธอสายตาสั้นมองไม่เห็นหรือยังไง”

“แก..

จันทรโกรธเหมือนจะตาย เธอง้างมือเพื่อเตรียมตัวที่จะตบ หญิงสาว ไม่น่าเชื่อหญิงสาวคนนั้นตัวเล็กบอบบาง แต่แรง กลับไม่เบา คว้าจับข้อมือเธอเอาไว้ได้ เจี๊ยะ เธอตบเธอกลับ ไปหนึ่งที
“แกกล้าตบฉันหรอ! รู้ไหมฉันเป็นใคร! แกกล้าตบฉัน หรอ!”

จันทรจับใบหน้าที่แสบร้อนทั้งครึ่งหน้าเอาไว้ เธอโกรธ จนจะเป็นบ้า นี่เป็นความอัปยศ เธอเป็นถึงคณนายน้อยของ บ้านแต่กลับถูกผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาตบ!!!

“ฉันรู้ว่าแกเป็นใคร ก็เป็นแค่คนที่ชอบแย่งของของคน อื่น จะสูงส่งแค่ไหนกันเชียว เหอะ!”

ผู้หญิงคนนั้นจับแขนของปยุตและพูด “ประธานปยุตคะ เวลาเป็นเงินเป็นทองนะคะ อย่ามามัวเสียเวลาตรงนี้เลยค่ะ”

“ดี ไปกันเถอะ”

ปยุตพยักหน้าอย่างงกงกเงินเงิน

“พวกเธอหยุดอยู่ตรงนั้นนะ!”

จันทรครามเสียงดังพร้อมทั้งวิ่งมาขวางทางด้านหน้า ของทั้งสองคนและฉุดรั้งปยุตเอาไว้ “พี่หมายความว่ายังไง พาผู้หญิงขายบริการกลับมาเย้ยต่อหน้าฉัน พี่โกรธฉันหรือ ว่าโกรธลูกในท้องของฉัน!!”

“โว้โว้โว้ พูดจาระวังหน่อยนะ ใครขายบริการกัน ถ้าฉันเป็น ผู้หญิงขายบริการแล้วเธอมันต่างจากฉันตรงไหนกัน !!

“พี่ปยุต!!”
จันทรกำลังจะเป็นบ้า

“อื้อ ว่าไง ฉันก็ไม่เห็นว่าเธอจะพูดผิดตรงไหน ! ”

ปยุตยิ้มให้กับหญิงสาวที่อยู่ข้างกาย แล้วก็เดินหนีไปจาก จันทร

ทั้งสองพูดไปหัวเราะไป พวกเขาเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ป ยุคกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาว “แสดงได้ดี”

“เล็กน้อยค่ะ แค่คุณพอใจก็พอ”

จันทรรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นคนโง่ เธอคุกเข่าลง เธอรับ ไม่ได้ที่ปยุตพาผู้หญิงอื่นเข้ามาในบ้าน เมื่อโมโหถึงขีดสุด เธอรีบขึ้นไปชั้นบนอย่างบ้าคลั่ง ใช้แรงทุบไปที่ประตูห้อง นอนของปยุตอย่างรุนแรง “ออกมา พวกแกออกมาจากห้อง เดี๋ยวนี้นะ !!”

ในห้องนอน ปยุตผ่อนคลายไม่รู้สึกแยแสใดๆ เขานั่งนิ่งอยู่ บนโซฟาเหมือนกับยมทูต ผู้หญิงคนนั้นถามเขาเบาๆ “เธอ จะตะโกนทั้งคืนอย่างนี้หรือคะ”

“ไม่หรอก อีกสักพักคงไปหาคนมาช่วย

ปยุตยิ้มอย่างสงบ

แน่นอนว่าไม่ได้รับความสนใจจากเขา จันทรตะโกนจน เหนื่อย จากนั้นเธอก็หันหลังกลับ วิ่งไปที่ห้องนอนของชายและหญิงชรา จันทรเคาะประตูห้องอย่างรุนแรง “พ่อคะแม่ คะพวกคุณตื่นขึ้นมาเร็ว ตื่นมาเร็วๆค่ะ”

หญิงชราเปิดประตูด้วยดวงตาเบิกกว้าง “ว่าไง”

ความจริงคนทั้งสองได้ยินเสียงดังนอกประตูอยู่แล้ว เพียง แต่ไม่ต้องการแทรกแซง พวกเขารู้จักอารมณ์ของลูกชาย ตน ตั้งแต่รับปากให้จันทรย้ายเข้ามาอยู่ ก็ไม่เคยเห็นเขามี ความสุขเลย

“ลูกชายของแม่พาผู้หญิงกลับมาค้างคืนค่ะ เขาไม่ใช่แค่ ไม่เห็นหนูอยู่ในสายตา ถ้าหากวันนี้พวกคุณไม่จัดการให้ล่ะ ก็ หนูจะพาหลานชายของพวกคุณไปตายด้วยกันค่ะ”

คุณท่านเวทนลุกขึ้นจากเตียงมาปลอบโยน “เธออย่าเพิ่ง ทำอะไรทั้งนั้น ให้ฉันไปดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น

เขาเดินมาที่ห้องของลูกชาย ยกมือขึ้นเคาะประตูแต่ ภายในกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ หญิงชราก็เดินมา เคาะประตู ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆเช่นกัน

เคาะอยู่เป็นเวลานาน พูดอยู่หลายคำ ก็ไม่มีการตอบ สนองใดใดทั้งสิ้น

คุณท่านเวทนถอนหายใจและกล่าว “ช่างเถอะ ตอนนี้เขา คงหงุดหงิด เธอก็มีน้ำใจสักหน่อยเถอะนะ

จันทรโกรธแค้นตะคอก “เรื่องอย่างนี้ใครเขามีน้ำใจกัน หนูไม่ใช่นังหน้าโง่ที่จะทำไม่รู้ไม่ชี้

“ถ้าอย่างนั้นเธอจะให้พวกฉันทําอย่างไร เขาไม่เปิดประตู จะให้พวกเราพังเข้าไปรึยังไง”

หญิงชรามองเธออย่างช่วยอะไรไม่ได้

“ลูกชายของพวกคุณเอง พวกคุณยังจัดการไม่ได้ แล้วจะ ไปทำอะไรได้ หนูไม่สน ถ้าวันนี้คุณไม่ไล่นังสุนัขจิ้งจอกนั่น ออกไป วันนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีใครได้อยู่อย่างสงบสุข

เธอพาลโกรธหญิงชราไปด้วย ธามันพูดด้วยใบหน้าเย็น ชา “พวกเราจัดการกับลูกชายของเราได้ แต่เธอจะไม่มีที่ยืน ในที่นี่อีกต่อไป”

ใบหน้าของจันทรเสียไป “ถ้าอย่างนั้นแปลว่าพวกคุณจะ ไม่จัดการแล้วใช่ไหม”

“เราควรจะอดกลั้นไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นเราจะทำอะไรไม่ได้ เลย”

“พูดพล่อยๆ ใครกันจะอดทนให้ผู้ชายของตัวเองไปมีอะไร กับผู้หญิงคนอื่นได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมีหลานชายก็แล้ว กัน ! ”

จันทรหันหลังเดินลงไปชั้นล่าง หญิงชราเตือนให้เธอตั้ง สติใจเย็น “เธอทบทวนดูให้ดี การที่เธออาศัยอยู่ในบ้านพวก เราได้ก็เพราะลูกในท้องของเธอ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กแล้วล่ะก็ ความหวังของเธอทั้งหมดก็จะพังทลายลง”

คุณท่านเวทนพูดอย่างไม่แยแส “เธอบอกว่าเธอทนไม่ได้ แล้วผลินเขาทนได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ฉันก็บอกกับเธอแล้ว แม้ว่าเธอจะแต่งงานเข้าบ้านพวกเรา เธอก็จะไม่มีความสุข อยู่ดี ในตอนนั้นเธอบอกว่าไม่เป็นไร ตอนนี้กลับมาร้องไห้ ตีโพยตีพาย ถ้าหากเธอทำไม่ได้อย่างที่พูดไว้ ก็ไม่น่าจะ ปล่อยให้ท้องตั้งแต่แรก ต้องการให้พวกเราเสียใจ เธอก็จะ ต้องลำบากเอง”

หลังจากพวกเขาพูดจบ ก็เดินกลับไปที่ห้องและกระแทก ประตูดังปัง

“ช่างเป็นวันที่น่าเบื่อจริงๆ ผลินแต่งงานกับปยุตมาปีก ว่า พวกเขาไม่เคยมีเรื่องให้เดือดเนื้อร้อนใจ แต่ผู้หญิง คนนี้มายังไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ กลับสร้างปัญหามากมายให้ ครอบครัวเรา”

“อดทนหน่อย รอให้เด็กคลอดออกมาก่อนเถอะ ไม่ว่ายัง ไงก็ต้องหาทางขับไล่เธอออกไป ไม่อย่างนั้นครอบครัวของ เรามอดไหม้แน่”

จันทรรู้สึกว่าไม่มีใครช่วยหนุนเธอเลย เธออยู่ตรงนั้นจะ จากไปก็ไม่ได้ จะไม่ไปก็ไม่ได้ ทันใดนั้นเธอก็กรีดร้องออก มาอย่างบ้าคลั่ง “กรี๊ด…กรี๊ด…กรี๊ด…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ