ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 45 ความใกล้ชิดครั้งแรก



ตอนที่ 45 ความใกล้ชิดครั้งแรก

ผลินคิดว่าเขาล้อเล่นแล้วก็จะโกหกเรื่องในอดีตอีกแล้ว เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอ ปยุตจะหลีกเลี่ยง มันทันทีด้วยความรังเกียจ

แต่ว่าคราวนี้มันเกินความคาดหวังของเธอ แทนที่ปยุตจะ หลีกเลี่ยงมัน กลับหันมาและกดเธอลง

“คุณเอาจริงเหรอ

ดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ และทันใดนั้นก็

ตื่นตระหนก

“คุณมองผมสิว่าเหมือนล้อเล่นไหม

ปยุตยื่นมือเข้าไปในเสื้อของเธอ เริ่มปลดกระดุมที่ หน้าอกของเธอ จากเม็ดที่หนึ่ง ไปเม็ดที่สอง ผลินตัวแข็ง เป็นหินไปหมด เมื่อเขาเริ่มปลดเม็ดที่สาม เธอก็เพิ่งตื่นจาก ความภวังค์ รีบเอื้อมมือไปหยุด “ไม่นะ”

“ทําไม”

เขาเลิกคิ้วที่สวยงาม สีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

ผลินกลืนน้ำลายอย่างอึดอัด “ฉันไม่สะดวกค่ะ”

เราต่างก็เป็นผู้ใหญ่ ที่เธอพูดว่าไม่สะดวกแน่นอนว่าเขารู้ว่าหมายถึงอะไร แต่เชื่อหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ปยุตลุกออกมาจากเธอแล้วบ่นอย่างหงุดหงิด “น่า รำคาญจริง ๆ”

ทั้งคู่กระอักกระอ่วนกันเล็กน้อย ผลินหน้าแดงด้วยความ เขินอาย เธอลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปในห้องลับ ปิดประตู ทิ้งตัว ลงบนเตียง มือทั้งสองข้างยกขึ้นปิดใบหน้าของตัวเอง

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอลงไปชั้นล่างเพื่อทานอาหารเช้า พลัง ชีวิตแทบไม่เหลือ ปกติจะมีกฎชีวิตที่ดีมาตลอด แต่จู่ ๆ ก็มี ความวุ่นวายเข้ามารบกวนการทำงานและการพักผ่อน มันจึง ค่อนข้างยากที่จะปรับตัว

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจคือถึงเธอจะไม่ค่อยดี แต่ปยุตก็ไม่ ต่าง ที่สำคัญคือเหมือนกับว่าจะดูแย่ยิ่งกว่าเธอเสียอีก

“เมื่อคืนพวกเธอสองคนไม่ได้พักผ่อนกันเหรอ”

คุณนายท่านที่ฉลาดเห็นความผิดปกติของลูกชายและ ลูกสะไภ้

ผลินไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงเตะปยุตที่อยู่ข้าง ๆ เบา ๆ ทุก ครั้งที่มีเรื่องเกี่ยวข้องกับคนสองคน จะแกล้งทำเป็นหูหนวก และเป็นใบ้ได้อย่างนั้นเหรอ

ปยุตเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วเอ่ยตอบแผ่วเบา “เมื่อ คืนผมแทบจะไม่ได้นอนเลยครับ”
“หา? ทําไมถึงไม่ได้นอน

คำพูดของเขาช่างน่าทึ่ง ดวงตาสามคู่ของคุณพ่อคุณแม่ และน้องสามีต่างก็กะพริบตากวาดมองไปมา คุณนายท่าน ยิ่งแปลกใจ ถามลูกสะใภ้ “หนูลิน เธอก็ไม่ได้นอนเหมือนกัน เหรอจ๊ะ”

ผลินเกือบจะอาเจียนเป็นเลือด ถ้าหากรู้ว่าสถานการณ์ มันจะเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฆ่าเขาให้ตายดีกว่าคาดหวังให้เขา ออกมาช่วย

“ฉันหลับไปค่ะ แต่แค่ฝันร้ายนิดหน่อย ดังนั้นจึงนอนไม่

ค่อยหลับ”

“เธอฝันว่าตัวเองขโมยของกินในครัวตอนกลางคืน แล้ว

ถูกผมจับได้

“คุณ…

ถ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้าทุกคนในครอบครัว เธอจะบีบคอเขา

ทั้งเป็น

“พี่คะ พี่มีอารมณ์ขันด้วย…

น้องสามีมองไปที่ทั้งสองคนและเกือบจะหลุดหัวเราะ

ออกมา

ผลินรู้สึกเกลียดจนอยากจะฉีกปยุตออกเป็นชิ้นๆ เพื่อระบายความเกลียดชังของตัวเอง ยื่นมือไปที่ด้านล่างใต้โต๊ะ และพยายามที่จะหยิกเขา แต่กลับถูกจับเอาไว้เสียก่อน แล้ว ยังกุมมือแน่นไม่ยอมปล่อย

นี่เป็นครั้งแรกที่คนสองคนใกล้ชิดกัน ฝ่ามือของเขาร้อน มาก มันทำให้เธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ทันใดนั้นหัวใจก็พลัน เต้นรัว สองก้อนเมฆสีแดงลอบขึ้นบนดวงแก้ม

ตลอดทั้งวัน ผลินอยู่ในอารมณ์ที่ดีอย่างมาก บางทีอาจ เป็นเพราะความสัมพันธ์กับปยุตที่กลายเป็นความปรองดอง

แต่สัญญาณที่ดีนั้นก็อยู่ไม่ได้นาน ในตอนเย็นเธอเพิ่ง กลับมาถึงบ้าน รู้สึกว่าบรรยากาศกลับเป็นแบบที่ไม่เคยมีมา ก่อน

แม่สามีและน้องสามียืนอยู่หน้าประตูห้องหนังสือของ พ่อ ใบหน้าของทั้งสองเป็นกังวลมาก ดูเหมือนว่าจะมีบาง อย่างที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นในนั้น

“แม่คะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” เธอวิ่งเข้ามาสอบถามข้อ

สงสัย

ทันทีที่ดนุชาเห็นลูกสะใภ้ ก็เหมือนจับฟางเส้นสุดท้ายที่ ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ “หนูลิน หนูช่วยหาทางออกหน่อยจ้ะ ตา ยุตทะเลาะกับพ่อของเขา”

เมื่อคำพูดของแม่สามีสิ้นสุดลง พวกเขาก็ได้ยินเสียง บางอย่างตกลงพื้นเสียงดังมาก สามคนตะลึงด้วยความตกใจ

ผลินตกใจมาก ถึงแม้ว่าปยุตจะเป็นคนเย็นชา และไม่ ใกล้ชิดสนิทกับพ่อแม่มากนัก แต่ก็ไม่เคยทะเลาะกันแบบ นี้ตอนนี้ระดับความรุนแรงของการทะเลาะเพิ่มขึ้นจนประตู บานหนาไม่สามารถกลบมันเอาไว้ได้

“คุณแม่คะ เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ”

เธอเอื้อมมือไปผลักประตู แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถ เปิดออกได้ เสียงของน้องสามีสั่นเทา “มันไม่มีประโยชน์ หรอกค่ะ ประตูถูกล็อกจากข้างใน”

“แล้วจะทำยังไงกันดีคะ”

สงครามยังคงบานปลาย มีทั้งเสียงของตกผสมกับเสียง ของการต่อสู้ที่รุนแรง คนที่สงบที่สุดอย่างผลินยังตกใจจน ทําอะไรไม่ถูก

ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินชื่อของ จันทร ร่างกายพลันชะงักแข็ง และหันไปถามแม่สามี “แม่คะ มันเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ”

แม่สามีนิ่งเงียบ สักพักก็เปลี่ยนไปเป็นหงุดหงิด หันเดิน ไปนั่งลงบนโซฟาแล้วเช็ดน้ำตาของเธอ

ความเงียบดังกล่าวยืนยันการคาดเดาของเธอ หันไป ถามน้องสามี “น้องณีคะ มันเป็นเพราะจันทร์ใช่ไหม”
ปาณีส่ายหน้าอย่างเศร้าโศก “ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ค่ะ ตอนที่ฉันกลับบ้านมา พ่อกับพี่ก็ทะเลาะกันแล้ว…

ผลินแนบใบหูกับประตู พราะอยากฟังให้ชัด ๆ น่า เสียดายที่ยกเว้นความโกรธในน้ำเสียง ก็ไม่สามารถจับใจ ความเนื้อหาของข้อพิพาทให้สอดคล้องกันได้เลย

เธอได้ยินคำพูดหนึ่งของน้องสามีพูดกับตัวเองขึ้นมา ว่า “ในโลกนี้ นอกจากพี่จัน ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว ที่ ทำให้พี่ชายของฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แบบนี้…”

ในเวลานี้ เธอเริ่มสงสัย คนคนนั้นเป็นผู้หญิงแบบไหน กันแน่ ถึงสามารถทำให้ปยุตเป็นถึงขนาดนั้นได้ ไม่มีความ ลังเลเลยที่จะเป็นศัตรูกับคนในครอบครัว

เธอยังคงแนบใบหน้าของเธอกับบานประตู ทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกอย่างไม่มีการเตือน พบเข้ากับใบหน้าของ ภูเขาน้ำแข็งในสายตา เดินผ่านเธอด้วยอารมณ์ที่เต็มไป ด้วยความโกรธโดยไม่ได้มองเธอเลย

หันกลับไปมองยังห้องหนังสือ บนพื้นเต็มไปด้วยเศษ ชิ้นส่วนที่เป็นอันตราย พ่อตาเดินออกมาด้วยสีหน้าว่างเปล่า เสียงแหบแห้งพูดขึ้นมา “ตามเขาไปเร็ว อย่าให้ก้าวออกไป ข้างนอก”

เธอพยักหน้า หันหลังและวิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่น ผ่านโซฟา และถูกแม่สามีจับเอวไว้ น้ำเสียงสะอื้น “ไม่ว่าเขา จะทำอะไรกับเธอ อย่าทิ้งเขาไว้ให้อยู่กับความโกรธแบบนั้นคนเดียวนะ”

“ฉันรู้ค่ะคุณแม่”

ยืนยันเพื่อให้แม่สามีมั่นใจ ขยับขาและไล่ตามไป ใน เวลานี้อย่าปล่อยให้ผู้ชายที่เจ็บปวดเพราะความรักใช้ชีวิต อย่างประมาทเลินเล่อขาดความยั้งคิด

ปยุตเหมือนวิญญาณที่ตกอยู่ในนรก เขาเต็มไปด้วย ความโกรธและความอดกลั้น เหยียบคันเร่งอย่างบ้าคลั่งมุ่ง หน้าไปทางประตูรั้ว

ตอนนั้นเอง มีเงาวาบดั่งสายฟ้าจากด้านข้างพุ่งเข้ามา อย่างรวดเร็ว กางมือออกเพื่อหยุดรถของเขา

เขาลงจากรถมาพร้อมกับใบหน้าเศร้าหมอง เดินเข้าไป หาเธอและกล่าวรอดไรฟัน “หลีกไป

“จะไปไหนคะ พาฉันไปด้วย”

ผลินสบมองเข้าไปในดวงตาของเขาโดยไม่ตั้งใจ ใช้น้ำ เสียงแน่วแน่ที่ทำให้ปฏิเสธไม่ได้

ก่อนที่ฉันจะต้องฆ่าใคร หายไปจากสายตาของฉันเดี๋ยว นี้ ไม่อย่างนั้นอย่าโทษฉันที่ไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ครั้ง เก่า”

หมม ความสัมพันธ์ครั้งเก่า เธอไปมีความสัมพันธ์ครั้งเก่ากับเขาเมื่อไหร่กัน

“ถ้าไม่สัญญาว่าจะพาฉันไปด้วย ฉันก็จะไม่ขยับ

เธอยืนกราน ปล่อยให้สถานการณ์หยุดชะงักชั่วคราว ปยุตมองเธออย่างเย็นชา หันหลังกลับเข้าไปในรถ เร่ง เครื่องยนต์แล่นเข้ามาหาเธอ

ผลินสูดอากาศเย็นเข้าปอด เธอเห็นแสงสว่างเจิดจ้าวิ่ง

มาหาเธอ หัวสมองพลันว่างเปล่า หลับตาลงและคิดว่าตัว เองกำลังจะไปสู่อีกโลกหนึ่ง แต่เมื่อลืมตาขึ้น มันไม่ได้เป็น อย่างที่คิด ในตอนนี้เธอยังมีชีวิตอย่

ชายหนุ่มที่กำลังสูญเสียการควบคุมทางอารมณ์ ในที่สุด เมื่อถึงช่วงเวลาคับขัน ในหัวใจก็พลันไม่อยากให้เธอต้อง หายไป

เธอจ้องมองด้วยความกลัวไปยังระยะห่างจากรถที่ห่าง เพียงไม่กี่เซนติเมตร ถ้าไม่ใช่คนขับรถมีทักษะที่ดีก็เป็นเธอ ที่โชคดี

ในหนังสือบอกเอาไว้ว่า อยู่กับผู้ชายที่อารมณ์ร้าย ก็ จะพบกับโชคร้าย แต่ดูเหมือนว่าประโยคนี้จะไม่ถูกต้อง ทั้งหมด

ปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกครั้ง พร้อมกับอารมณ์ที่ปะทุมาก ยิ่งขึ้น เขาประชากแขนเธออย่างแรง และเหวี่ยงเธอออกไป ทิ้งประโยคไว้ “ไปไกล ๆ ไปให้พ้น
ผลินสะดุดไปก้าวหนึ่งและเกือบจะล้มลง ใบหน้าหวาด ผวากับความโหดร้ายของเขา แต่เมื่อคิดถึงคำแนะนำของ แม่สามี เธอจึงอดทน ถือวิสาสะใช้ร่างกายขัดขวางประตูเอา ไว้ และพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นว่า “โอกาสเดียวที่จะกำจัดฉัน ได้ก็คือคุณต้องทอดทิ้งฉันไป เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณต้อง ยอมรับการมีอยู่ของฉัน

ดวงตาที่โหดร้ายแผดเผา เอื้อมมือมาที่คอของเธอ เอ่ย คำถามเยาะเย้ย “คุณเป็นผู้หญิงที่ไม่มีศักดิ์ศรีแล้วหรือไง”

ใครบอกว่าภูเขาไฟเท่านั้นที่จะระเบิด ภูเขาน้ำแข็งเมื่อ ปะทุขึ้น น่ากลัวยิ่งกว่าภูเขาไฟเสียอีก

ผลินถูกเขาบีบคอจนเกือบจะหายใจไม่ออก แต่ก็จะไม่ ยอมแพ้ “ศักดิ์ศรีมีค่าสำหรับคนเช่นคุณ แต่สำหรับฉัน มันไร้ ค่า”

หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ จู่ ๆ เขาก็ปล่อยมือของเขา ออก มุมปากยกขึ้นเกิดเป็นรอยยิ้มอันน่ากลัว

“คุณพูดเองนะ”

ก่อนที่จะสามารถวิเคราะห์ความหมายในคำพูดของเขา ก็กลับถูกเขายัดเข้าไปในรถเสียก่อน เสียงเครื่องยนต์ของ รถขับฝ่าความมืดมิดไปในค่ำคืนที่ไม่มีที่สิ้นสุด…

เร่งความเร็ว แซง คู่ขนาน หัวใจของผลินเต้นกระหน่ำ ด้วยความเร็วขนาดนี้ โอกาสของความอยู่รอดจะอยู่ที่เท่าไรกัน

“ช้าลงหน่อยได้ไหม

เขาทําเป็นไม่ได้ยิน

“คุณจะพาฉันไปไหน

เขายังคงเงียบ

“ทำไมต้องทะเลาะกันคะ

“หุบปาก”

ในที่สุดเขาก็ระเบิดออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ