ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่189 กลับไปยังสถานที่ที่คุ้นเคย



ตอนที่189 กลับไปยังสถานที่ที่คุ้นเคย

ปยุตหันหลังให้เขา หลังจากผ่านไปนานก็พยักหน้าให้ แต่ ไม่ได้หันหลังกลับ จากนั้นจึงเดินออกมาจากห้อง

ทันทีที่เขาเห็นลูกชายพยักหน้า ดวงตาขุ่นมัวในผู้สูงวัย ของธามันหลั่งรินน้ำตา และยังยกรอยยิ้มโล่งอก

บางครั้งมันก็ไม่ยากที่จะยอมรับความผิดพลาดกับลูกของ ตัวเอง ในเมื่อเราไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ ทำไมจะ ต้องดื้อดึงตลอดไป

ปยุตย้ายกลับมาคฤหาสน์นภาอย่างเป็นทางการ และเข้า มาควบคุมดูแลกิจการบริษัทเจ.เอส.ทรัพยสานอีกครั้ง เขา เริ่มงานยุ่ง ต้องรับผิดชอบทั้งสององค์กรขนาดใหญ่ มัน เป็นงานที่หนักมาก นอกจากนี้ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาบริษัท เจ.เอส.ทรัพยสานเป็นหนี้อยู่มาก ภายในบริษัทยิ่งเกิดไม่ มั่นคง เขาต้องใช้เวลาและพลังงานในการแก้ไขมัน และใน เวลาที่เหมาะสม ก็จะควบรวมสองบริษัทเข้าด้วยกัน

โชคชะตาตั้งใจแยกการแต่งงานอย่างไร้ความปรานี เมื่อ เวลาผ่านไปจนคุณคิดว่าจะไม่มีวันได้อยู่ด้วยกันอีก ความ เงียบก็นำพาให้มาพบกันโดยไม่รู้ตัว…..

“คุณเวทิดา เชิญเข้ามาที่ห้องของผมหน่อยครับ

ผลินได้ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ถูก เรียกตัวไปที่ห้องผู้จัดการทั่วไปอย่างน้อยสิบครั้งต่อวัน และผู้จัดการใหญ่คนนั้นไม่ใช่ใครอื่น เป็นนภนต์ที่หลงรักผลินมา นาน

“ผู้จัดการใหญ่มีอะไรเหรอคะ”

เธอมองไปที่นาฬิกาบนข้อมือของเธอ เมื่อสิบห้านาทีก่อน เธอเพิ่งออกไปจากที่นี่

ฤดูหนาวที่แล้ว พ่อของนมนต์เกษียณ เขาเข้าดูแลบริษัท อย่างเป็นทางการ ในวันเดียวกันนี้ผลินยังถูกย้ายจากฝ่าย การตลาดไปยังสำนักงานผู้จัดการทั่วไป ทำให้ผู้คนต่างพา กันอิจฉา นภนต์พาเธอไปทุกที่ ทุกคนในบริษัทรับรู้ได้โดย ทั่วไปถือว่าผลินเป็นภรรยาในอนาคตของผู้จัดการใหญ่ และ คิดว่าไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะแต่งงานกัน

นั่นไม่ใช่ในแบบที่ผลินคิด หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความ ชัดเจน เธอกับนภนต์ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่ใช่เพราะปยุต แต่เพราะเส้นทางที่เธอเคยเดินผ่านมาทำให้เธอไม่อยาก เข้าไปอีกแล้ว

“คืนนี้กลับไปเก็บของนะครับ พรุ่งนี้ไปทำธุระกับผม

“ไปทําธุระอีกแล้วเหรอคะ ไปที่ไหน”

“เมือง B”

ผลินหัวใจเต้นแรง จู่ ๆ ก็พูดไม่ออก
ความทรงจําเก่าย้อนกลับมาในทันที บางคน บางเรื่องราว บางสิ่งบางอย่าง ทั้งหมดแวบเข้ามาในจิตใจของเธอเหมือน ชิ้นส่วนของฟิล์มภาพยนตร์ มันผ่านมาสองปีแล้ว แต่เมื่อ ได้ยินคำว่าเมือง B โดยไม่มีการเตือน ทำให้หน้าอกของ เธออึดอัดแทบหายใจไม่ออก

“เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมสีหน้าไม่ดีเลยล่ะ”

นภนต์ถามด้วยความประหลาดใจ

เธอตื่นจากภวังค์ สั่นศีรษะแผ่วเบา “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันไม่ไป ได้ไหม”

ทำไมล่ะครับ ตำแหน่งของคุณคือผู้ช่วยนะ เจ้านายไป ไหนก็ต้องตามไปทุกที่สิ นี่เป็นกฎของการทำงาน

“ช่วงนี้คุณป้าของฉันสุขภาพไม่ดี คุณลุงยุ่งอยู่กับงานที่ ท่าเรือ ฉันอยากจะอยู่ในเมือง และกลับไปดูแลท่านใน ตอนเย็นค่ะ”

“นั่นคือเหตุผลเหรอ ไม่เป็นไรหรอกผมจะจ้างผู้ดูแลที่ดี ที่สุดในเมือง F ให้คุณป้าของคุณ สัญญาว่าจะดูแลเธอ อย่างดี ปัญหาของคุณแค่เส้นผมบังภูเขา เป็นไงครับ”

ผลินหน้าตึง “ขอบคุณสำหรับความใจดีของคุณ แต่คุณป้า ของฉันไม่ชินกับการดูแลของคนอื่นนอกจากฉัน

“งั้นพาคุณป้าของคุณไปด้วยแล้วกัน”
“หัวหน้า อย่ามาล้อเล่นนะคะ มีผู้บริหารมากมายในบริษัท คุณ สามารถใช้ใครก็ได้ ทำไมคุณต้องทำให้ฉันขายหน้า

นภนต์เห็นอาการแดงเรื่อในดวงตาของเธอ ทันใดนั้นจึง ถามอย่างจริงจัง “คุณปฏิเสธที่จะไปเมือง Bเพราะมีใครใน เมือง B ที่คุณไม่อยากเจอใช่ไหมครับ”

“เปล่าค่ะ”

เธอไม่ได้อยากจะปฏิเสธ

“มันไม่น่าใช่ ในเมื่อไม่มีใครที่คุณไม่อยากเจอ แล้วทำไม คุณถึงปฏิเสธไปที่เมือง B ผมไม่เคยเห็นคุณมีปัญหากับ การเดินทางไปเรื่องงานมาก่อน”

ผลินเห็นว่านภนต์ยังยืนยันให้เธอไปกับเขา จึงช่วยไม่ได้ จำต้องไป ถามด้วยความไม่พอใจว่า “บริษัทไหนคะ”

“บริษัทไหนคืออะไรครับ

“บริษัทไหนคะที่จะร่วมมือกันครั้งนี้”

“บริษัทรักผลิน”

ผลินได้ยินว่าไม่ใช่บริษัทเจ.เอส.ทรัพยสาน ก็โล่งอกเล็ก น้อย เธอพยักหน้า “งั้นก็ได้ค่ะ แต่เราต้องรีบกลับมา ป้าของ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการดูแล”
“เข้าใจแล้วครับ”

นภนต์มองเธอที่อารมณ์ไม่ดี “บางครั้งผมก็สงสัยว่าใคร เป็นเลขาฯ และใครเป็นหัวหน้า เลขาฯ สั่งให้เจ้านายกลับ มาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันไม่สมเหตุสมผลเลย

“นั่นเพราะบางคนมักจะใช้การเดินทางเรื่องงานมาเป็นข้อ อ้าง เพื่อคุกคามทางเพศฉัน”

ผลินและนภนต์รู้จักกันมานาน เขามักจะไปที่บ้านป้าของ เธอเพื่อขูดรีดขออาหาร ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาตาม ธรรมชาติไม่ได้ดูเหมือนระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้ บังคับบัญชา มันเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่า

“แล้วผมคุกคามทางเพศสำเร็จไหมล่ะครับ

“นั่นเพราะความสามารถที่แข็งแกร่งในการป้องกันตัวเอง ของฉัน ไม่อย่างนั้นก็เสร็จคุณไปแล้ว

“งั้นต่อไปคุณจะกรุณาอ่อนแอในการป้องกันตัวเองได้ไหม ให้ผมได้มันครั้งแล้วครั้งเล่า คุณไม่รู้เหรอว่ามีผู้หญิงกี่คนที่ อยากเข้าหาผม แม้ว่าจะถูกผมทิ้งอย่างไม่ลังเลก็ตาม”

“ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทิ้ง คงดีกว่าที่จะระวังเอาไว้ ตั้งแต่แรก”

“ใครถูกทิ้ง คุณเหรอ ล้อเล่นน่า ผมฝันอยากจะอยู่กับคุณ คุณต้องทำดีกับผม ผมจะให้คุณเป็นคุณนายของผม เป็นไงผมดีไหมล่ะ”

“คุณเป็นผีหัวโตดีค่ะ”

ผลินกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หันหลังและเดินออกไปจาก ออฟฟิศ

ยิ่งอยู่ด้วยกันนานเท่าไร เธอยิ่งรู้สึกว่านภนต์เป็นคน อันตราย บางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะใจเต้น แต่เธอมักจะทำให้ ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเสมอ

บริษัทรักผลิน……..

เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะ คิดว่าชื่อนี้มันแปลก ๆ แต่แปลกตรงไหน เธอก็ไม่สามารถอธิบายได้ แค่ตอนนี้ หัวใจเธอเต้นแรงมาก

เช้าวันรุ่งขึ้น นภนต์ขับรถไปรับพาเธอไปสนามบิน ผลิน ออกมาจากห้องพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง นั่นทำให้เขาตกใจ มาก

เขาก้าวเข้าหาอย่างรวดเร็ว ถามด้วยความสยองขวัญ “คุณทำอะไรน่ะ เป็นสายลับหรือเป็นไส้ศึก

มองดูเธอแต่งตัว ใส่แว่นกันแดดสีดำบนใบหน้า สวม หมวกสีเบจบนศีรษะ พันผ้าพันคอสีขาวรอบคอ ถ้าไม่เคยชิน กับรูปร่างของเธอ เขาก็คิดว่าคงไม่รู้จักคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขา
“ป้าของฉันบอกว่าอากาศเสียในเมือง B รุนแรงมาก ถ้า ฉันไม่ป้องกันให้แน่นหนา ฉันก็แก้ปัญหาไม่ได้

“พูดไร้สาระ”

นภนตรับกระเป๋าเดินทางของเธอมา “เมือง B เป็นเมือง ที่ดีที่สุดในเรื่องสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ครั้งนี้ผม วางแผนที่จะเปิดโรงงานที่นั่น

หา? ผลินตกใจมาก “ทำไมต้องเปิดโรงงานในเมือง B ถึง จะเป็นเมืองที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีมาก แต่เมือง B อยู่ไกล จากเมือง F มันไม่สะดวกที่จะตรวจสอบการทํางาน”

ที่จริงแล้วเธอไม่สนใจว่าโรงงานจะถูกสร้างขึ้นหรือไม่ สิ่ง ที่เธอกังวลคือนภนต์จะพาเธอไปที่เมือง B เพื่อเยี่ยมชม โรงงานใหม่บ่อยครั้ง

“ใกล้ไกลไม่ใช่ปัญหา ทําเงินได้มากต่างหากที่สำคัญ”

ทั้งสองคนบินไปถึงเมือง B ในตอนเย็น มาถึงที่โรงแรม ผลินไม่ได้ใส่ใจกับนมนต์ แอบออกไปข้างนอก

มองไปยังเมืองที่คุ้นเคย เธอเกิดแรงกระตุ้นให้ร้องไห้ หัวใจรู้สึกเจ็บปวดตลอดเวลา เธอเคยทานข้าวกับปยุตที่ร้าน อาหารร้านนั้น เดินกับปยุตบนถนนเส้นนั้น วิวทิวทัศน์นั้นที่ ได้มองกับปยุต ทุกสรรพสิ่งประจักษ์แก่สายตาของเธอ

เธอไม่สามารถดึงตัวเองกลับมาได้ ยืนอยู่บนดินแดนที่เต็มไปด้วยความทรงจํา หัวใจ รักษาจนหายดีแล้วของเธอเริ่มมี เลือดออกอีกครั้ง

เขากับเธอ ต้องมีชีวิตที่ดี เขาและลูกของเธอ คงจะอายุ สองขวบแล้ว

เด็กคนนั้นจะเป็นเหมือนใครกัน ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ เธอก็ยังต้องการที่จะเห็นว่าเหมือนปยุต เพราะอย่างที่เขา พูดกันว่าเด็กที่เกิดมาในสถานการณ์ที่ย่ำแย่มักจะหน้าตาไม่ เหมือนแม่

เดินด้วยความรู้สึกมัวหมองเตร็ดเตร่ไปจนถึงร้านดอกไม้ เธอบอกกับเจ้าของร้านว่า “ขอช่อดอกลิลลี่ค่ะ”

ลิลลี่คือดอกไม้ที่แม่ของเธอชื่นชอบ สองปีแล้วที่ไม่ได้มา ที่เมือง B สองปีแล้วที่ไม่ได้เจอแม่ แม่คงจะไม่โทษเธอ แม่ คงจะเข้าใจปัญหาที่เธอไม่ได้กลับมา

มีพายุในท้องฟ้า เธอดึงหมวกที่ถูกลมพัดออกจากศีรษะ แว่นกันแดดและผ้าพันคอถูกถอดออกตอนอยู่ที่โรงแรม เมื่อ ลืมที่จะนํามันออกมาด้วยก็เหลือเพียงการพึ่งพาหมวกใบนี้ เพื่อปกปิดใบหน้า ลมพัดแรงขึ้น เห็นพายุกำลังจะมา ผลิน รีบเดินให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะได้ขึ้นไปบนเขาก่อนฝนตก

มีความวุ่นวายบนท้องถนน เธอรีบก้มหน้าเดิน ผลที่ได้คือ บังเอิญเจอคนเดินผ่านมาชนเข้า ถูกกระแทกจนหมวกตก พื้น เธอรีบขอโทษ “ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ…”
ก้มลงเก็บหมวกบนพื้น ในช่วงเวลาที่ยืดตัวขึ้น มีรถแล่น ผ่านเธอไปช้า ๆ คนที่นั่งอยู่ในรถคือคุณนายท่าน สายตาสบ กันโดยไม่ตั้งใจ ดนุชาอุทานเรียกออกมาเหมือนกำลังฝัน “หนูลิน”

“จอด! จอดรถ! จอดรถเดี๋ยวนี้!”

คุณนายท่านรีบตะโกนใส่คนขับด้วยเสียงอู้อี้ รถหยุดลง เธอผลักประตูเปิดรีบก้าวลงไป หันมองไปรอบ ๆ และตรงนั้น เมื่อครู่นี้ แต่ก็ไม่มีผลิน ไม่มีแม้แต่เงา…….

“หรือฉันจะตาฝาด….

ดนุชายืนพึมพำกับตัวเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ