ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 249 ตอนจบ



ตอนที่ 249 ตอนจบ

ตอนเที่ยงวันต่อมา ผลินไปที่โรงเรียนมัธยมปรานต์ โทรหาชื่นใจนัดเธอออกมา

ที่ร้านกาแฟตรงข้ามโรงเรียน ชื่นใจแสดงออกได้ชัด ว่าตกใจที่เธอหุนหันกลับมา “เธอกลับมาได้ยังไงเนี่ย?”

“คราวก่อนฉันถามเธอว่าปยุตเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมเธอถึงบอกว่าไม่มีต๊ะ?”

ชื่นใจหน้าถอดสี “ก็เขาบอกฉันว่าไม่ให้บอกเธอ กลัว ว่าเธอจะไม่สบายใจ

“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับแม่สามีเธอน่ะ? ทำไมถึงได้ ฆ่าตัวตาย? ”

“จะฆ่าตัวตายหรือไม่ผลพิสูจน์ยังไม่แน่ชัดเลย………….

“ชื่นใจ!” ผลินตกใจมาก “แม้แต่เธอเองก็ยังคิดว่าการ ตายของแม่สามีเธอเกี่ยวข้องกับสามีของฉันอีกหรือ?”

เธอทบทวนเหตุการณ์ที่ได้ฟังจากปากของปยุตซ้ำอีก ครั้ง ถึงเข้าใจว่าที่แท้ความเป็นไปได้จากเหตุการณ์นั้น มีน้ำหนักมากจริงๆ

“ผลิน ฉันเชื่อเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันเชื่อปยุต ด้วย เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน แต่กับเขาแล้ว ไม่ได้ เป็นอะไรกับฉันเลย
ในใจของผลินกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ที่ฉันนัดเธอ ออกมาวันนี้ ก็แค่อยากจะถามว่าแม่สามีของเธอก่อนที่ จะเกิดเรื่องได้ไปหาพวกเธอหรือพูดอะไรกับพวกเธอ บ้างไหม?”

“ฉันไม่ได้เจอเขานะ”

“แล้วไวภพล่ะ?”

“อันนี้ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ”

“เธอไม่ได้ถามเขาเลยหรือ?”

“ตอนนี้เขากำลังเสียใจมาก ฉันจะไปถามเขาเพื่อ อะไรล่ะ”

ผลินขมวดคิ้วแน่น “ถ้างั้นเย็นนี้ฉันขอไปที่บ้านเธอ หน่อยได้ไหม? ฉันอยากจะขอคุยกับไวภพหน่อย ตอนนี้ เขาไม่ยอมรับโทรศัพท์ของฉันเลย”

“สองสามวันก่อนเขาไม่ให้ฉันไปมาหาสู่กับบ้านเธอ เกรงว่า….

“ชื่นใจ เธอช่วยเหลือตามเหตุผลไม่ได้ช่วยตามความ รู้สึกที่มีต่อกันใช่ไหม?”

ชื่นใจกัดริมฝีปาก เงียบไปสักครู่ “ถ้างั้นก็ได้ ฉันจะไม่ บอกอะไรเขาก่อน เย็นนี้เธอมาที่บ้านฉันได้เลย ถ้าฉัน บอกกับเขาก่อน เขาจะต้องไม่ยอมพบเธอแน่ๆ”
“ขอบคุณมากนะ……

เวลา 1 ทุ่ม ผลินทานอาหารเย็นเสร็จแล้วก็ให้คนขับ รถพาเธอไปที่บ้านของไวภพ ชื่นใจรับโทรศัพท์เธอ ก่อน ดังนั้นจึงยืนรออยู่แล้วที่ประตู เมื่อลงจากรถเธอรีบ เข้าไปยืนใกล้ๆชื่นใจ กระซิบถามว่า “เขาอยู่บ้านไหม?”

“อยู่สิ เธอตามฉันมา”

เธอตามชื่นใจไปถึงห้องรับแขก เลี้ยวอีกทีก็ถึงห้อง อ่านหนังสือของไวภพ ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ไวภพคะ มีแขกมาหาคุณคะ”

เธอส่งสายตาบอกผลิน “เธอเข้าไปเถอะ”

ผลินผลักประตูเข้าไป กวาดตามองไปที่ผู้ชายที่นั่งอยู่ หน้าคอมพิวเตอร์ ไม่ได้พบกันนานหลายเดือน เขาซูบ ผอมลงมาก ในใจเธออดรู้สึกเห็นอกเห็นใจไม่ได้ การ จากไปของทัตดาส่งผลกระทบกับเขามหาศาล

“คุณมาทำไม?”

นี่แหละไวภพ เป็นครั้งแรกที่เขาใช้น้ำเสียงเย็นชา ทักทายดั่งคนแปลกหน้ากับเธอ

“คุณก็น่าจะรู้นี่คะว่าฉันมาทำไม”

“ถ้าคุณมาเพื่อให้ผมชี้แจงเบาะแสเพื่อให้สามีคุณ หลุดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยละก็ ขอโทษ ผมไม่มีอะไรจะให้

“ฉันไม่ได้ให้คุณทำอย่างนั้นสักหน่อย ฉันก็แค่จะมาบ อกคุณว่า คนที่ตายไปแล้วไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้ คุณไม่ ควรจงเกลียดจงชังอย่างไม่มีเหตุผลเพียงเพราะคุณ ยอมรับความจริงไม่ได้ ใช่ ถูกต้อง คุณแม่คุณเดินมาใน เส้นทางที่พัวพันกับปยุตอย่างแยกไม่ได้ แต่คุณเคยคิด บ้างไหมว่า ทำไมปยุตจะต้องต่อกรกับเธอด้วย? แม่คุณ ทำอะไรลงไปตั้งหลายอย่างคุณรู้บ้างไหม? มีแต่เรื่อง ไม่น่าฟังทั้งนั้น เรื่องการตายของเขานั้นมีเงื่อนงำ ฉัน จะบอกให้ก็ได้ว่า เขาไม่ได้ถูกฆ่าหรอก แต่เขาตั้งใจ ฆ่าตัวตายเอง เขาปลิดชีวิตตัวเองเพื่อหลบหนีความผิด เพราะว่ามีเพียงวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นถึงจะลบล้างความ ผิดบาปที่เธอก่อเอาไว้ได้ ถึงแม้เธอจะตายไปแล้วก็ยัง ผลักปยุตไปยืนที่หน้าผาอีก ทำอย่างนี้ ยิ่งทำให้คนอื่น รู้สึกเสียใจมากขึ้นไปอีก”

“คุณออกไปเดี๋ยวนี้” ไวภพไล่แขกด้วยสีหน้าจริงจัง

“คุณลองทบทวนดูให้ดีนะคะ ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนที่มี เหตุผล”

เธอหันหลังเดินออกจากห้องหนังสือไป ขณะที่กำลัง ปิดประตูลง ได้ยินเสียงดังเพล้ง ไวภพปัดแก้วตกลงบน พื้น เธอและชื่นใจที่ยืนคอยอยู่หน้าประตูตกใจ ชื่นใจ กล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “แย่แล้ว ไวภพจะต้องโมโห มาลงกับฉันแน่ๆ”

“ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เธอต้องพลอยลำบากไปด้วย”
“อ้อ ไม่เป็นไรหรอก”

ชื่นใจส่ายหน้าด้วยความเซ็ง “เออนี่ เธอรอประเดี๋ยว นะ ฉันมีของขวัญจะให้ลูกของเธอด้วย ทีแรกว่าจะรอ ให้เธอกลับมาก่อนแล้วค่อยให้ แต่ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว นี่ งั้นฉันให้เธอไปเลยก็แล้วกัน ”

เธอเข้าไปในห้องนอน หยิบกล่องผ้าสีแดงออกมา พึมพำว่า “ครอบครัวเธอก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินเท่าไหร่ ดังนั้นฉันว่าให้เงินไปก็ไม่มีประโยชน์ หวังว่าของขวัญ ชิ้นนี้คงจะถูกใจเธอนะ”

ในกล่องผ้านั้นบรรจุหยกชั้นเลิศเอาไว้ 2 ชิ้น ชิ้นหนึ่ง เป็นรูปดาว อีกชิ้นหนึ่งก็เป็นรูปพระจันทร์ หยกทั้ง 2 ชิ้น วางไว้คู่กัน เปรียบดังท้องฟ้าที่สมบูรณ์แบบมีทั้งดาว และพระจันทร์……….

“ขอบใจเธอมากนะ ฉันชอบมากเลยล่ะ

ผลินส่งสายตามองไปที่ท้องของเพื่อนรักบ้าง “ชื่นใจ เธอท้องหรือยัง?”

ชื่นใจพยักหน้า “อืม ท้องแล้ว?”

“ดีจังเลย ยินดีด้วยนะ” เธอดีใจแทนชื่นใจด้วยความ จริงใจ

“อ่อ จะว่าไปก็ไม่ได้โชคดีนักหรอก หลังจากที่แม่สามี ของฉันตาย วันต่อมาฉันก็รู้ตัวว่าตั้งท้องน่ะ ทีแรกก็รู้สึกดีใจมากอยู่หรอก แต่เพราะเรื่องของเธอ ทั้งพ่อสาม และไวภพต่างก็อยู่ในช่วงเศร้าโสกเสียใจ จึงไม่มีใคร สนใจฉันเลย”

“อย่าคิดมากเลยนะ ตอนนี้เขายังเสียใจอยู่ รอให้พ้น ช่วงเวลานี้ไปก่อน เขาก็คงจะรักและดูแลเธอและลูกให้ มากขึ้นแหละ”

“อืม”

ชื่นใจออกมาส่งเธอที่หน้าประตู คนขับรถเปิดประตู รถให้ ก่อนที่ผลินจะขึ้นรถไป จับมือกับชื่นใจพลาง กล่าว “ฉันเสียใจจริงๆที่ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างฉัน และเธอค่อนข้างซับซ้อน ทำให้เธอลำบากใจที่ฉันมีเรื่อง กับไวภพ”

“ไม่เป็นไร เธออย่าโทษตัวเองสิ การตายของแม่สามี ฉันไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือถูกฆ่าตาย มิตรภาพ ระหว่างเราจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เหมือนกับที่ไวภพมี คุณค่ากับฉันมาก เธอกับฉันก็เป็นเพื่อนที่มีคุณค่ามาก เช่นกัน…….

ผลินรู้สึกซาบซึ้งมาก เธอกอดเพื่อนรักของเธอไว้ แน่น : “ชื่นใจ “ชื่นใจ ขอบคุณเธอมากนะ ฉันดีใจมากจริงๆ ชีวิตนี้ฉันมีความรักของปยุตแล้ว ยังมีมิตรภาพจากเธอ อีกด้วย สำหรับฉันแล้ว เธอและปยุตเป็นคนที่สำคัญ ที่สุด พวกเราจะไม่มีวันทอดทิ้งกัน!”

“อืม แน่นอน”
ชื่นใจตบไหล่ของเธอ ส่งสายตามองเธอนั่งรถออกไป จนลับสายตา……..

เป็นวันที่ 4 หลังจากที่ผลินกลับมา เธอได้พบ ทนายความฝ่ายจำเลยของปยุตชื่อดนุวัศ วันนั้นปยุต ไม่ได้ไปทำงาน ดังนั้นดนุวัศจึงมาหาเขาที่บ้าน ขณะที่ หยิบเอกสารส่วนหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เขาพูดด้วย ความโมโหว่า : “คุณดูสิ นี่เป็นบันทึกการสนทนาและ การส่งข้อความทางโทรศัพท์โดยละเอียดของทัตดา ตั้งแต่วันที่ 7 เดือนที่แล้ว ในนั้นมีข้อความหนึ่งที่ส่งให้ ลูกชายของเขา ไวภพ “ไวภพลูกรัก แม่รักลูกนะจ้ะ แม่ ขอโทษนะ ต่อไปดูแลตัวเองดีดีนะ” นี่แสดงไว้อย่าง ชัดเจนว่าได้เตรียมการเรื่องการฆ่าตัวตายไว้เรียบร้อย แล้ว บอกลาเป็นครั้งสุดท้าย แต่อีตามนต์ตรีนั่นกลับ ไม่ใส่ใจหลักฐานชิ้นสำคัญ เอาคดีนี้ส่งต่อไปยังแผนก สืบสวนสอบสวนคดี เขาเป็นพ่อของไวภพแท้ๆ กลับไม่ มาหาลูกชายถามที่มาที่ไปบ้างหรือ?”

“ข้อความสั้นๆแค่นี้ไม่เพียงพอที่จะยืนยันให้ชัดเจนได้ ว่าทัตดาเตรียมการไว้อย่างดีเรื่องวางแผนฆ่าตัวตาย หรอกนะ ยังต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนมากกว่านี้อีกถึงจะ ใช้ได้”

“ตอนนี้ขอเพียงแค่ไวภพยอมร่วมมือ”

“พวกเราเคยไปหาเขาแล้วนี่ครับ อีกตานั่นไม่ยอม ปริปากพูดอะไรเลย ถ้าคิดจะจะให้เขาสารภาพออกมา เองละก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ”
ผลินที่นั่งอยู่ข้างเสริมขึ้นบ้าง “ฉันคิดว่า มีคนหนึ่งท ช่วยได้คะ”

“ใครครับ?”

ดนุวัศถามด้วยความสงสัย

“คุณเฉลิมพล”

“เขาหรือ? ท่านมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไวภพหรือ ครับ?”

“เปล่าหรอกคะ แต่ว่าไวภพให้ความเคารพท่านมาก อีกทั้งคุณเฉลิมพลท่านมีจิตวิทยาชั้นสูง ฉันอยากจะจัด ฉากให้เขาทั้งสองได้พบกัน ไวภพอาจจะยินดีเล่าความ จริงทั้งหมดให้ท่านฟังก็ได้”

“จะลองดูดีไหมครับ?”

ปยุตถามดนุวัศ เขาค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดเห็น ของผลิน

“ก็ลองดูกันสักตั้งเถอะ อีกประมาณ 2 วันทางแผนก สืบสวนก็จะเรียกตัวคุณไปสอบแล้ว เราเหลือเวลาอีกไม่ มาก”

เย็นวันนั้น ผลินและปยุตมาถึงที่พำนักของคุณเฉลิม พล นับตั้งแต่ที่ได้พบกับท่านครั้งที่แล้วก็เป็นเวลานาน สักระยะหนึ่ง รูปลักษณ์ภายนอกของคุณเฉลิมพลแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตลอดการสนทนาเขามีอาการ ไออยู่เสมอ

เมื่อปยุตแจ้งเหตุผลที่มาในครั้งนี้จบลง คุณเฉลิมพล รับปากอย่างง่ายดาย “ได้ พรุ่งนี้ผมจะนัดเขามาที่บ้าน แล้วผมจะพูดคุยกับเขาเอง”

“ขอบคุณมากครับอาจารย์ รบกวนอาจารย์ด้วยนะ ครับ”

“ไม่เป็นไร ผมรับปาก

สนทนากันอีกสักพัก ทั้งสองก็ลุกขึ้นกล่าวลาคุณ เฉลิมพล เป็นตามที่ทนายว่าไว้ สองวันต่อมาปยุตได้ รับจดหมายแจ้งจากทางแผนกสืบสวนสอบสวน ให้เขา เข้าไปพบ

คุณเฉลิมพลได้เจรจากับไวภพเรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์ คือยังไงก็ต้องรอดูอีกที แต่สิ่งที่ยังต้องกังวลอยู่ก็คือ ช่วงระหว่างหัวเลี้ยวหัวต่อรอคำตัดสิน ในอินเตอร์เน็ต ปรากฏหัวข้อข่าวที่พาดพิงถึงปยุตในแง่ลบ3

ข่าวเรื่องนั้นเป็นบุคคลนิรนามเป็นคนปล่อย ภาพ เหตุการณ์นั้นเป็นภาพบนชั้นดาดฟ้าของบริษัททัตดา เมื่อราว 2 เดือนก่อน เป็นภาพวาดตอนที่ทัตดาถูกปยุต เกือบผลักตกลงไป ถึงแม้ตอนนั้นเขาไม่ได้ผลักเธอลง ไปจริงๆ แต่บังเอิญว่าเกิดเรื่องราวที่น่าสงสัยเกี่ยวกับ การฆ่าตัวตายของทัตดาขึ้นพอดี
ข่าวฉบับนั้นมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้เชื่อว่า เมื่อ สองเดือนก่อนปยุตก็วางแผนที่ฆ่าเธอแล้ว

ราวกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ครอบครัวของปยุตต่าง หน้านิ่วคิ้วขมวดกันหมด กลุ้มใจกับข่าวแง่ลบเกี่ยวกับป ยุคนี้

หลังจากผ่านไป1 เดือน คดีนี้ยิ่งเพิ่มความซับซ้อนไป กันใหญ่ กำหนดคลอดของผลินก็ใกล้เข้ามาทุกที ปยุต กลัวว่าเธอจะกังวลใจเกินไป จึงยื่นข้อเสนอให้เธอไป คลอดลูกที่เวียนนา แต่ครั้งนี้ ผลินไม่ยอมตกปากรับคำ เด็ดขาด

ถ้าหากว่าเพื่อหลบเลี่ยงเจตนาร้ายของทัตดา เธออาจ จะเชื่อฟังเขา แต่ว่าตอนนี้ทัตดาก็ตายไปแล้ว ปยุตก็มี คดีติดตัวอีก ยังไงซะเธอก็จะยืนหยัดเคียงข้างเขา ถึง แม้ว่าเธอจะช่วยอะไรไม่ได้มากนักก็ตาม

วันนี้ ขณะที่เธอกำลังนอนกลางวันอยู่ ทันใดนั้นเธอได้ รับโทรศัพท์จากปยุต

“ฮัลโหล คะปยุต?”

“ผลิน ผมมีข่าวดีจะบอกคุณ คดีเรื่องทัตดาวันนี้ผลอ อกมาแล้ว แผนกสืบสวนบอกว่าผมไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยอีก ต่อไป”

“จริงหรือคะ? คุณไม่ได้พูดเล่นใช่ไหมคะ? !!” ผลิน ดีใจจนลุกจากเตียงทันที
น้ำเสียงของปยุตฟังดูตื่นเต้นเช่นเดียวกัน “ครับ ผม เพิ่งได้รับสายจากทนาย ผมเลยโทรหาคุณเป็นคนแรก”

“ดีจังเลยคะ เป็นข่าวดีจริงๆ เย็นนี้คุณกลับมาเร็ว หน่อยสิคะ พวกเราจะได้ฉลองกัน”

“อืม ได้ครับ!”

ตอนเย็นเมื่อปยุตกลับถึงบ้าน ก็เห็นเตาเผาอยู่ที่หน้า ประตู เขาถามด้วยความสงสัย “นี่เอามาทำอะไรน่ะ?”

“รีบก้าวข้ามมาเร็วเข้า นี่สิถึงจะเผาสิ่งไม่ดีออกไปจาก ตัวได้”

หญิงชราบังคับอย่างมีความสุข ปยุตก้าวข้ามมา พูด อย่างไม่พอใจ “งมงายจริงๆเลย”

“ปยุตคะ คุณรีบบอกพวกเรามาสิคะว่าคดีนี้มันจบลง ยังไง?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ