ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 219 สวรรค์ส่งความสุขลงมาสู่ครรภ์



ตอนที่ 219 สวรรค์ส่งความสุขลงมาสู่ครรภ์

“คุณแม่คะ คุณกังวลเกินไปแล้วค่ะ”

ผลินยิ้มให้แม่สามี คุณนายท่านส่ายหน้า “ไม่กังวลได้ ยังไงกันจ๊ะ เพราะเด็กคนนี้ฉันกำลังจะตายอย่างมีความ สุขอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่หนึ่งแต่ถึงสอง ฉันแทบรอไม่ไหวที่ จะแบกเธอขึ้นนั่งบนหัวของฉัน”

น้องสามีก็มีความสุขเช่นกัน เขาเอนตัวลงบนท้องของ ผลินแล้วพูดว่า “ให้ฉันฟังหน่อย หลานชายและหลาน สาวตัวน้อยของฉันดิ้นหรือยัง”

“เด็กโง่ ยังไม่โตเป็นมนุษย์เลย จะไปดิ้นได้ยังไง” ผลินจิ้มหน้าผากของน้องสามีอย่างไร้อารมณ์ “คุณขึ้นไปนอนข้างบนเถอะ ถึงเวลาอาหารเมื่อไหร่ ผมจะไปเรียกคุณ

น้ำเสียงของปยุตนุ่มพอที่จะบีบน้ำออกมาได้ อยากให้ ทุกคนหายไปให้หมดจนเหลือเพียงผลินและเขาสอง คน จากนั้นก็กอดเธอไว้ในอ้อม และจูบเธอเพื่อแสดงให้ เห็นว่าตัวเองมีความสุขมากเพียงใด

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ใช่คนป่าย อย่ากังวลกับ ฉันเกินไปเลยนะคะ พวกคุณกังวล ฉันก็กังวลตามไปด้วย”อ้ะ ไม่กังวล ไม่กังวล ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเธอต้อง อยู่ในอารมณ์ที่ดีนะ เช่นนั้นแล้วเด็กเกิดมาก็จะฉลาด และน่ารัก”

จนเมื่อเริ่มเวลาบ่ายสามโมง คุณนายท่านสั่งให้ห้อง ครัวเตรียมอาหารเย็น เตรียมสูตรพิเศษสำหรับหญิงตั้ง ครรภ์เพื่อให้คนครัวทำตามสูตรนั้น ถึงเวลาอาหารเย็น แล้ว มองไปยังโต๊ะอาหาร มีซุปอยู่เกือบสิบชาม สอง ดวงตาของผลินเบิกกว้างใหญ่ยิ่งกว่าสุสาน “คุณแม่คะ ฉันจะทานเยอะขนาดนี้ได้ยังไง”

“ซุปเหล่านี้ดีสำหรับการตั้งครรภ์ของเธอ ฉันไม่รู้ว่า เธอชอบแบบไหน ดังนั้นจึงให้ครัวเตรียมพร้อมไว้ เธอ ดื่มแค่นิดหน่อยก็พอจ้ะ ถ้าชอบแบบไหน เดี๋ยวฉันจะ เขียนส่งไปในครัว เพื่อทํามันให้เธอดื่มในวันถัดไป

ผลินนั่งลง ปยุตมองไปรอบ ๆ “ดื่มนี่ก่อน”

ผลินหยิบมันขึ้นมาและดื่มมัน หลังจากดื่มไม่กี่คำ ก็รู้สึกเหมือนจะอาเจียน หลังจากที่เธอออกมาจาก ห้องน้ำ แม่สามีเสิร์ฟมาอีกชามหนึ่ง “ลองดื่มนี่สิ นั่นมัน เลี่ยนเกินไป”

ขณะที่ผลินบังคับให้ตัวเองดื่ม มันกลับกลายเป็นว่า อาเจียนอีกครั้ง

คุณนายท่านยังไม่ยอมตายใจ ยกอีกชามหนึ่งส่งให้ผลินไม่อยากดื่มอีกแล้วแต่ก็ละอายที่จะปฏิเสธความ เมตตาของแม่สามี จึงจิบเข้าไปเล็กน้อย แต่มันกลับ กลายเป็นว่าเธออาเจียนอีกครั้ง

เธออาเจียนอย่างขมขื่น ปยุตรู้สึกแย่ไปด้วย “คุณแม่ ครับ อย่าให้เธอดื่มอีกเลย”

“แต่เธอไม่ได้ทานอะไรเลยทั้งวัน ถ้าไม่ทานซุปนี่ก็จะ ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการนะ”

“ถ้าอยากจะบำรุงคุณไม่ต้องรีบ หมอบอกว่าตอนนี้เธอ กำลังแพ้ท้องหนักมาก คุณก็เห็นนี่ว่าเธออาเจียนมาก ขนาดไหน”

ลูกชายรักลูกสะใภ้มาก คุณนายท่านไม่ใช่ไม่เข้าใจ เธอพยักหน้า “งั้นก็ได้ บางทีฉันอาจจะกังวลเกินไป ใน ความเป็นจริงตอนที่ฉันมียัยณี สามเดือนแรกก็ยังทาน อะไรไม่ได้เลย ทุกวันทานได้แค่โจ๊กเล็กน้อยเท่านั้น”

“คุณแม่คะ พรุ่งนี้รบกวนทำโจ๊กให้ฉันหน่อยนะคะ ฉัน อยากทานโจ๊กค่ะ”

“ได้ได้ เธออยากทานอะไรก็บอกฉันได้เลย แต่ก่อน เข้านอนตอนกลางคืนต้องดื่มนมนะ แม้ว่าจะไม่มีความ อยากอาหาร ก็ต้องดื่มมันเพื่อลูก”

“ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
จบมือเย็นแล้ว ปยุตพาผลินขึ้นไปข้างบน ผลินหน กลับไปมองเห็นน้องสามีกำลังยิ้มหวานจึงรู้สึกเขินอาย เล็กน้อยจนต้องปล่อยมือ “ไม่ต้องจูง ฉันไม่ได้บอบบาง ขนาดนั้น”

ปยุตคิดถึงก่อนหน้านี้ที่จันทรตกบันไดจึงจับมือเธอไว้ “อย่าดื้อ”

ทั้งสองอาบน้ำและนอนบนเตียง ปยุตโอบกอดหญิง งามเข้ามาแนบชิด ผลินพูดพลางทอดถอนใจ “อยู่มา ยี่สิบแปดปี ในที่สุดฉันก็ได้รู้ว่าอะไรคือความสุขที่แท้ จริง”

ปยุตประท้วงอย่างไม่พอใจ “ผมไม่เคยทำให้คุณมี ความสุขเลยเหรอ”

“ก็มีความสุข เพียงแต่ตอนนี้ได้รับความสุขที่ตัวเอง ต้องการโดยที่ไม่คาดคิด ทำให้ได้รู้สึกถึงความสำคัญ ของความสุข”

ปยุตกดจูบบนหน้าผากของเธอ “ตอนนี้ผมก็มีความสุข เหมือนกัน”

“คุณจะให้ลูกของเราชื่อว่าอะไร” ผลินเงยหน้าขึ้นมอง

“เอาอีกเหรอ ก่อนหน้านี้ที่ตั้งไปไม่ดีเหรอ”
“นั่นเป็นชื่อที่ดี แต่มันใช้ไม่ได้จนกว่าจะเข้าโรงเรียน คุณตั้งชื่อเล่นให้อีกสองชื่อนะ”

เขาพยักหน้า “ได้สิ ขอผมคิดหน่อย”

ปยุตใช้เวลาน้อยกว่าสามนาทีในการคิด “โอเค ได้ แล้ว”

“ชื่อว่าอะไรเหรอ”

ผลินลุกขึ้นและมองไปที่เขา

“เด็กผู้หญิงชื่อหิหิ เด็กผู้ชายชื่อฮ่าฮ่า”

“โอ้พระเจ้า นี่มันชื่ออะไร…หิหิฮ่าฮ่า… ล้มตัวลงไปบนเตียง ” ผลินหัวเราะ

“คุณไม่คิดว่ามันเป็นชื่อที่มีความสุขเหรอ” ปยุตถาม อย่างจริงจัง

“ฉันแค่รู้สึกว่ามันหน่อมแน้มดี”

“ยัยโง่ ผมตั้งชื่อนี้น่ะมันมีความหมายนะ”

“ความหมายอะไร

“หิหิฮ่าฮ่า หมายถึงความสุข แม่ที่รักของพวกเราไม่เคยมีความสุขในวัยเด็ก ดังนั้นผมหวังให้เด็ก ๆ ของ พวกเราเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขในอนาคต เพิ่มความ สุขที่แม่ของพวกเขาไม่เคยมี

ผลินรู้สึกแสบจมูก สะเทือนอารมณ์จนแทบหลั่งน้ำตา ลงมา

เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของปยุต กอดเอวเขาไว้แน่น สะอื้นพลางพูดว่า “คุณยุต คุณใจดีกับฉันมาก มีคุณใน ชีวิตนี้ ฉันไม่มีอะไรต้องเสียใจอีกแล้ว”

“มีคุณในชีวิตนี้ เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ ผม”

“คุณหวังให้ลูกในท้องของฉันเป็นเด็กผู้ชายทั้งสอง คนเลยใช่ไหม”

“ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้น

“ครอบครัวของคุณมีขนาดเล็ก ถ้าเด็กผู้ชายสองคน คุณและแม่จะต้องมีความสุข”

“ไม่ ผมหวังว่าคุณจะมีทั้งชายและหญิง”

“ทําไมล่ะ”

“เหตุผลก็เพราะว่าผมจะได้ไม่ต้องตั้งชื่อใหม่อีกครั้ง”
ข่าวการตั้งครรภ์ของผลินรู้ไปถึงเพื่อนและญาติอย่าง รวดเร็ว ทุก ๆ วันจะมีคนมาแสดงความยินดี และในวันนี้ ชื่นใจก็มาด้วย

ผลินนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นข้างล่าง เมื่อเห็นเพื่อนที่ไม่ ได้พบมาหลายเดือนทำให้รู้สึกตกใจ เธอคว้ามือของชื่น ใจและเอ่ยถาม “นี่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมถึงได้ดูซูบ ผอมแบบนี้”

บางครั้งมนุษย์ก็เป็นสัตว์ประหลาด ถึงไม่อยากร้องไห้ แต่เมื่อมีคนมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำตาก็จะหลั่งลงมา อย่างไม่สามารถควบคุมได้

ชื่นใจร่ำไห้ “หัวใจของไวภพไม่ได้อยู่ที่ฉัน

ผลินรู้ว่ามันต้องเป็นเรื่องของความรู้สึกของเธอ ตบ ไหล่เธอ “เธออาจจะเข้าใจเขาผิด เขาพูดกับฉันชัดเจน แล้ว หลังจากนี้เราเป็นเพื่อนกัน เขาจะไม่คิดถึงฉันอีก ต่อไป”

“เขาไม่คิดถึงเธอไม่ได้หมายความว่าเขาจะตกหลุมรัก ฉัน”

“แล้วเธอแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้รักเธอ”
“สัญชาตญาณ สัญชาตญาณของผู้หญิง เขาไมมฉน อยู่ในหัวใจ ฉันรู้สึกได้

ผลินถอนหายใจ พูดอย่างจริงจัง “ความรู้สึกของ มนุษย์บางครั้งก็ผิด ถ้าเธออยากแน่ใจว่าเธอรู้สึกถูก ต้องหรือไม่ ฉันมีไอเดียให้เธอ”

ชื่นใจเงยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาดั่งสายฝนขึ้นมอง “ไอเดียอะไรเหรอ”

“หนึ่งไอเดียที่สามารถทดสอบความคิดภายในใจของ ไวภพได้ว่าเป็นยังไง

“เธอพูดมา”

“ถ้าอยากรู้ว่าผู้ชายของเธอสนใจเธอหรือเปล่า วิธีที่ ง่ายที่สุดคือต้องเข้าหาผู้ชายคนอื่น ถึงวิธีนี้มันจะค่อน ข้างล้าสมัยไปบ้าง แต่มันเป็นวิธีที่รอบคอบและได้ผล มากที่สุด อย่าปล่อยให้เขาคิดว่าโลกของเธอมีแค่เขา อีกต่อไป อย่าปล่อยให้เขาคิดว่าเธอเอาแต่เดินรอบตัว เขาเท่านั้น นี่คือการจับได้ง่ายที่จะทำให้เขาเสียอาการ ให้เขาทนไม่ได้หากต้องเสียเธอไป ผู้ชายเป็นสิ่งของ ที่ราคาถูก ยิ่งเธอแคร์เขามากเท่าไร เขาก็ยิ่งไม่แคร์เธอ มากเท่านั้น ในทางตรงกันข้ามหากเธอไม่สนใจเขา เขา ยิ่งไม่อาจเสียเธอไปได้”

“วิธีนี้มันจะได้ผลเหรอ” ชื่นใจยังคงลังเล
“แน่นอนว่าได้ผล ถ้าไวภพไม่สนใจเธอเขาจะไม่พูด อะไร แต่ถ้าเขาแคร์เธอเขาจะไม่เพิกเฉย ตราบใดที่ ผู้ชายมีผู้หญิงอยู่ในหัวใจ ตราบนั้นก็ไม่สามารถทนกับ สิ่งที่เกิดขึ้นได้”

“ฉันจะลองดู”

หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์นภา มันเป็นเวลาช่วง เย็นชื่นใจโทรหาเพื่อนร่วมชั้นชายที่ไล่จีบเธอใน วิทยาลัย ทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันเลยหลังจากเรียนจบ แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าคนนั้นจะยังติดใจเธออยู่หรือไม่

ไม่คิดว่าเพื่อนชายคนนั้นเมื่อได้รับโทรศัพท์จากเธอ จะมีความสุขมาก พูดคุยกับเธออย่างกระตือรือร้น ชื่น ใจไม่ได้ปิดบังเขา พูดเรื่องของตัวเองออกไปตามตรง เพื่อนชายคนนั้นเป็นคนจริง สัญญาว่าจะให้ความร่วมมือ

เมื่อไวภพกลับมาจากข้างนอก เห็นชื่นใจนั่งอยู่ในห้อง นั่งเล่น คุยโทรศัพท์เสียงนุ่มเหมือนสายน้ำ เนื้อหาของ บทสนทนาคลุมเครือออกไปทางจีบกัน

คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้พูดอะไร แล้วตรงไปที่ห้องหนังสือ

หลายเดือนมานี้ตั้งแต่ที่ทั้งสองคนทะเลาะกัน ไวภพ นอนที่ห้องพักแขก พูดคุยตามปกติก็แค่เรื่องเล็กน้อย เท่านั้น
เขานั่งอยู่ในห้องหนังสือและฟังเสียงชนใจหัวเราะตอ กระซิกข้างนอก ไม่มีสมาธิที่จะอ่านหนังสือ เปิดประตู ห้องหนังสือและเดินออกไปเตือนเธอ “ได้เวลาอาบน้ำ แล้ว”

ชื่นใจไม่สนใจเขา แค่โบกมือให้ “เข้าใจแล้ว” ยังคง คุยกับเพื่อนชายสมัยเรียนต่อ

ไวภพถอนหายใจแล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำไป และเมื่อ เขาอาบน้ำเสร็จแล้ว ชื่นใจยังคงคุยโทรศัพท์ เนื้อหา ของบทสนทนายิ่งลึกซึ้งขึ้นจนเขาไม่อาจทนได้อีกต่อ ไป

เขาเดินไปข้างหลังชื่นใจอีกครั้ง ตบไหล่เธอ “อาบน้ำ ได้แล้ว”

ชื่นใจหันไปมองเขา ประหลาดใจที่วิธีการของผลิน นั้นมีประโยชน์จริง ๆ สงสัยว่าเขาเคยคิดถึงตัวเธอมาก ขนาดนี้มาก่อนหรือเปล่า ถึงเธอไม่อาบน้ำสามเดือนก็ ไม่ได้จะสำคัญกับเขา

ชื่นใจไม่เต็มใจที่จะวางสาย และพบว่าไวภพนั่งอยู่ บนโซฟาด้วยใบหน้าสีดำ เธอไม่ได้พูดอะไร ลุกขึ้นไป อาบน้ำ แต่ไวภพพูดโพล่งออกมาอย่างขมขื่นว่า “คุย โทรศัพท์กับใคร ถึงได้ดูอารมณ์ดีกระตือรือร้นแบบนั้น”

ชื่นใจยิ้มตอบเนือย ๆ “อ๋อ เพื่อนร่วมชั้นเรียนวิทยาลัยของฉันน่ะ ตามจีบฉันมาสักพักแล้ว’

เธอลอบมองเขา เห็นสีหน้าเขาไม่สู้ดี นั่นทำให้หัวใจ เต็มไปด้วยความสุข คิดกับตัวเอง ฉันชื่อชื่นใจแต่ไม่มี คนมาชอบเหรอ ถ้าฉันชื่อชื่นใจแล้วไม่มีคนชอบ ก็อย่า มาเรียกฉันว่าชื่นใจเลย

“คุณแต่งงานแล้ว ระวังคำพูดและพฤติกรรมด้วย”

“ฉันไม่ใช่ไม่สนใจ แต่ไม่สามารถพูดคุยกับเพื่อนต่าง เพศหลังแต่งงานได้เลยเหรอ ไวภพคุณไม่ชอบพูดคุย ฉันต้องการใครสักคนที่ชอบคุยเหมือนกัน เช่นนั้นแล้ว ชีวิตจะได้ไม่น่าเบื่อเกินไปนัก”

ไวภพถูกเธอขังไว้ในความเงียบงัน

หลังจากคืนนั้น ชื่นใจเริ่มจงใจกลับบ้านดึก ในคืน นั้น เพื่อนร่วมชั้นชายที่พูดคุยกับเธออย่างอารมณ์ดี กระตือรือร้นพาเธอกลับบ้าน บังเอิญพบกับไวภพที่ออก มาทิ้งขยะพอดี ไวภพมองทั้งสองคนด้วยใบหน้าสีดำ เดินช้า ๆ ไปทักทาย “กลับมาแล้วสินะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ