ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 170 ขอโทษที่ฉันรักคุณ(1)



ตอนที่ 170 ขอโทษที่ฉันรักคุณ(1)

ในที่สุดปาณีก็จากไป ธามันใช้เส้นสายทั้งหมดที่มี แต่ก็ยัง ไม่ได้ลูกสาวกลับคืนมา

คุณนายท่านร้องไห้ทุกวัน แต่เดิมบ้านมีแต่ความอบอุ่น และมีชีวิตชีวา ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นเย็นเยือกลง ทุกคน ติดอยู่กับเงาของปาณีที่ออกจากบ้านไป ดังนั้นในคืนที่ปยุต ไม่ได้กลับบ้าน จึงค่อย ๆ ถูกมองข้ามไป ไม่มีใครสงสัยว่าใน คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ในชั่วพริบตาเดียว ก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ คุณท่านเวทนพา ครอบครัวไปที่ห้องนั่งเล่น ประกาศอย่างเคร่งขรึมและเศร้า โศกว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ให้หยุดตามหาปาณี ให้บ้าน หลังนี้กลับมาเป็นปกติ

ผลินตกใจกับสิ่งที่พ่อพูด “คุณพ่อคะ น้องณียังเด็กอยู่ ถ้า ไม่พาเธอกลับมา เธอคนเดียว…”

“บางทีเธออาจจะพูดถูก ตั้งแต่เล็กจนโตทั้งฉันและแม่สามี ของเธอเอาแต่โอบอุ้มเธอไว้ มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะได้เริ่ม เรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างอิสระ

“แล้วถ้าเธอเจอคนเลวจะทำยังไงล่ะคะ”

ไม่ผิดอะไรกับการทำให้เธอเป็นอิสระ แต่โลกใบนี้ไม่ได้ เป็นโลกที่ดีพอที่จะเป็นอิสระ
“เมื่อเธอเลือกเส้นทางนี้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องข้ามผ่านไปด้วย ตัวเอง พวกเราไม่สามารถปกป้องเธอได้ตลอดชีวิต

คุณนายท่านร้องไห้อย่างขมขื่น ผลินหันไปกอดแม่สามี “คุณแม่คะ อย่าเสียใจไปเลย น้องณีต้องไม่ได้พบกับปัญหา ใด ๆ มากนัก เพราะเธอฉลาดเฉลียว ถึงแม้ว่าจะไม่มีเกราะ กำบัง ก็ต้องดูแลตัวเองได้”

ปยุตนั่งเฉย ๆ โดยที่ไม่พูดอะไร สีหน้าของเขานิ่งเฉยแข็ง ตึง ตั้งแต่วันที่ปาณีจากไปจนถึงตอนนี้ ทั้งเจ็ดวันเขาเพียง กําหน้าอยู่แบบนี้ท่านั้น ผลินรู้แต่เพียงว่ามันเป็นเพราะน้อง สาวของเขาออกจากบ้านไปจึงทำให้เขารู้สึกไม่ดี แต่ไม่รู้ว่า มันเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเหตุผล เหตุผลที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือความรู้สึกผิดในใจ รู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้าผลิน

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เพราะความสมัครใจของเขา แต่เขารู้ว่า มันมีบางอย่างเกิดขึ้น ผลลัพธ์ย่อมสำคัญกว่ากระบวนการ

เมื่อสิ้นสุดการประชุมครอบครัว ผลินปลอบโยนแม่สามีอยู่ พักหนึ่ง จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปด้วยความเหนื่อยล้า น่าแปลก ที่ปยุตไม่ได้ทำงานในคืนนี้ แต่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้อง นอน และสูบบุหรี่ด้วยใจที่หนักอึ้ง

บนโต๊ะน้ำชาตรงหน้า มีที่เขี่ยบุหรี่ประณีตงดงาม มวนกัน บุหรี่สามถึงสี่มวนถูกทิ้งอยู่ในนั้น เปลวไฟส่องแสงระยิบ ระยับด้วยยังไม่ถูกดับโดยไม่สมบูรณ์

“คืนนี้ไม่ต้องทำงานเหรอ”
ผลินนั่งลงข้างเขา และเอ่ยถามแผ่วเบา

ปยุคสายหน้า “อืม เหนื่อยนิดหน่อย คืนนี้ผมอยากพัก ผ่อน”

ผลินเห็นเขาดูเหนื่อยจึงดึงเขาเข้ามา “พวกเราไปนั่งตรง นั้นกัน”

ผลินดึงปยุตไปนั่งบนเก้าอี้ แล้วยืนอยู่ข้างหลังเขา บรรจง บีบนวดไหล่ให้ “ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกไม่ดีเรื่องน้องณี ที่จริงแล้ว ลองคิดดูดี ๆ คุณพ่อพูดถูก มันถึงเวลาที่เธอต้องเรียนรู้ที่จะ ใช้ชีวิตอิสระ นอกจากนี้หลังจากเรื่องการยอมรับความรู้สึก ของชนัยที่เป็นเท็จถูกเปิดเผย เธออยู่บ้านก็รังแต่จะเสียใจ การเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมเป็นวิธีที่ดีที่จะเยียวยาหัวใจที่แตก สลาย”

ปยุตไม่พูดอะไร เธอยังคงพูดว่า “ตอนนี้การผ่าตัดของ น้องณีประสบผบสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ไม่มีอะไรมา คุกคามชีวิตเธออีกแล้ว เธอฉลาดและน่ารัก ไม่ว่าจะไปอยู่ ที่ไหนก็ตาม ต้องมีแต่คนรักแน่นอน

ในขณะที่เธอบีบนวดอย่างคล่องแคล่วอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ถูกปยุต จับมือไว้ ปยุตดึงเธอมานั่งตรงหน้าเขามองเธออย่างตั้งใจ และพูดว่า “ลิน คุณเชื่อใจผมไหม

ผลินชะงักไป พยักหน้าอย่างไร้ความรู้สึก “เชื่อใจสิ ทำไม เหรอ”
“ไม่มีอะไร ก็แค่ถามดูเฉย ๆ” ปากของเขายกยิ้มอย่าง

“จริงสิ ล่าสุดคุณไปเจอกับจันทรแล้วหรือยัง”

“เจอแล้ว”

“เธอได้พูดอะไรบ้างไหม

“ไม่ได้พูดอะไรมาก แค่เอาหลักฐานมาให้ผม

ทันใดนั้นดวงตาของผลินก็เบิกกว้าง มันค่อนข้างเหลือ เชื่อ “ไม่จริงน่า นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เธอสามารถขู่เราได้ เธอจะ ให้มันมาง่าย ๆ เลยเหรอ”

“มันเป็นความจริง ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปดูได้ ที่ในลิ้นชักกลาง ของห้องหนังสือผม

ปยุตพูดด้วยน้ำเสียงเนือยเนิบนาบ มีช่องว่างเกิดขึ้นใน แววตาที่ไม่สามารถอธิบายได้

“คุณมีอะไรสำคัญกว่าพอที่จะถูกเธอผูกมัดแล้ว ดังนั้นมัน จึงเป็นเหตุผลที่เธอให้หลักฐานมาใช่ไหม

ผลินพูดติดตลก แต่ใครจะรู้ ว่ามันทำให้ในหัวใจของปยุต เกิดคลื่นหลายพันลูกถาโถม

เขาจ้องมองเธอ อยากจะสารภาพ แต่สิ่งที่พูดออกมาคือ“ไม่มีอะไรหรอก

ผลินยิ้ม “รู้ค่ะว่ามันไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก แค่ล้อคุณเล่น น่ะ”

เธอนั่งอยู่บนตักของปยุต สองมือคล้องรอบลำคอของเขา หลับตาแล้วพูดว่า “ตอนนี้เธอได้ให้หลักฐานมาแล้ว ก็ไม่ ต้องเจอเธออีกแล้วได้ไหม”

“ได้”

ปยุตพยักหน้าอย่างฝืดเคือง

นานมาแล้วเมื่อครั้งที่เขาได้รู้ความลับที่ซ่อนอยู่ของผลิน เขาโกรธมากจนไม่อาจเข้าใจ แม้แต่เมื่อเธอเศร้าและผิด หวังที่เธอไม่ได้สารภาพกับเขาตอนนั้น เขาก็ไม่เข้าใจเธอ จริง ๆ แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะแน่นแฟ้นขึ้น เขา ก็ยังคงไม่เข้าใจความคิดเหล่านั้น จนเมื่อมาถึงตอนนี้ หลัง จากผ่านสภาวะอารมณ์เดียวกัน ในที่สุดเขาก็เข้าใจ เข้าใจ ความจำเป็นของคนคนหนึ่งที่ไม่สามารถสารภาพปัญหา และอับจนหนทาง

“ลิน”

“อืม?”

ผลินลืมตาขึ้นมองเขาแล้วเอียงศีรษะเป็นเชิงถาม “มีอะไร

เหรอ”
“พรุ่งนี้ผมต้องไปทริปยาว อาจจะนานเป็นเดือนถึงจะกลับ มา”

“นานขนาดนั้นเลยเหรอ คุณกำลังจะไปไหน”

ผลินที่กำลังงัวเงียพลันสติตื่นขึ้น ถามด้วยความตกใจ

“ซาอุดิอาระเบีย

“คุณไปทำอะไรที่นั่น

“ผมต้องการไปเปิดโรงงานน้ำมันที่นั่น คิดเอาไว้ตั้งแต่ปีที่ แล้ว”

“ทำไมคุณต้องไปเปิดโรงงานถึงที่นั่น ธุรกิจของครอบครัว

เรายังไม่ใหญ่พอเหรอ”

“คนมุ่งสู่ที่สูง น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ ธุรกิจก็เหมือนกัน มันเป็น ไปไม่ได้ที่จะหยุดอยู่แต่แค่ในบ้าน มันเป็นความสำเร็จที่แท้ จริงหากจะเริ่มต้นแบรนด์ในระดับสากล

ผลินนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ครูโรงเรียนมัธยมธรรมดา ๆ ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับธุรกิจ แต่เธอก็รู้ดีว่าผู้ชายมีความ ทะเยอทะยานมากแค่ไหน และวิธีการที่ดีที่สุดที่สามารถ ทำได้ก็คือเป็นผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังการประสบความสำเร็จ ของผู้ชาย นอกจากการสนับสนุนโดยไม่มีเงื่อนไขแล้ว ก็ ต้องเป็นกำลังใจให้โดยไม่มีเงื่อนไขด้วยเช่นกัน
“อืมโอเคค่ะ แต่ตั้งหนึ่งเดือนมันไม่นานไปเหรอ”

“ผมก็ไม่อยากอยู่ห่างจากคุณ แต่เพื่อธุรกิจ เรื่องของความ รักหนุ่มสาวก็จําเป็นต้องระงับไว้ก่อน”

ผลินเลียริมฝีปากและพูดอย่างหยั่งดูท่าที “คุณจะรังเกียจ ไหมถ้าฉันจะไปกับคุณ ยังไงช่วงนี้ฉันก็ไม่ต้องไปโรงเรียน อยู่แล้ว”

เธอคิดว่าเขาจะตกลงเหมือนครั้งก่อนที่ไปช่วยงานที่ บริษัท แต่ปยุตกลับปฏิเสธโดยไม่คิด “อย่าเลย การเดินทาง ครั้งนี้จะยุ่งมาก ผมคงไม่มีเวลาให้คุณ นอกจากนี้ยัยณีเพิ่ง หนีออกจากบ้านไป ถ้าเราไปอีก มันคงจะยากสําหรับคุณแม่ ที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว”

ถึงแม้ว่าจะผิดหวังเล็กน้อย แต่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริง น้อง สามีเพิ่งจากไป แม่สามียังอยู่ในช่วงเวลาเศร้า อย่างไร ก็ตามในเวลานี้ ทั้งหมดทั้งมวลควรอยู่ข้าง ๆ เธอ

“ถ้างั้นคุณต้องดูแลตัวเองคนเดียวน่ะเหรอ”

“ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลตัวเองให้ดี

“ถ้าคุณไม่ยุ่งก็อย่าลืมโทรหาฉันด้วย ไม่คาดหวังถึงขนาด วันละครั้ง แต่อย่างน้อยต้องสัปดาห์ละครั้งนะ

“ได้”
ช่วงดึกสงัด คนสองคนนอนเคียงคู่กันบนเตียง ผลินนอน หนุนแขนปยุตและกำลังจ้องมองเพดานดำมืดด้วยสายตา ว่างเปล่าและถอนหายใจหนักหน่วง

“คุณนอนไม่หลับเหรอ”

เธอตอบอย่างหดหู่ “คิดว่าพรุ่งนี้เวลานี้ฉันต้องอยู่ในห้อง กว้างนี่คนเดียว แล้วจะนอนหลับได้ยังไง”

“แค่ชั่วคราวเท่านั้น หยุดคิดเรื่องไร้สาระได้แล้ว รีบนอน เถอะนะ”

“อืม”

เธอหันตัวไปหาปยุต รู้สึกถึงลมหายใจอบอุ่นของเขา เมื่อ ความง่วงเริ่มมาเยือนและกำลังจะหลับ พลันได้ยินเสียงข้าง หูว่า “ลิน ตั้งแต่ที่อยู่กับคุณมาจนถึงตอนนี้ ผมไม่เคยปิดบัง อะไรคุณเลย ถ้าบางครั้งผมปิดบังคุณ ได้โปรดยกโทษให้ ผมด้วย”

“อืม…

ตอบรับอย่างง่วงงุน วินาทีต่อก็เข้าสู่ห้วงฝัน

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อปยุตตื่นขึ้นมา ผลินก็ได้เก็บสัมภาระให้ เขาทั้งหมดแล้ว เห็นเขาตื่นแล้วเธอจึงเดินไปถาม “จนถึง ตอนนี้เรายังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลยใช่ไหม
“หึมม?”

ปยุต นงง ไม่ค่อยตอบสนอง

“มองนี่สิ”

ผลินวาดแขนรอบลำคอเขา แก้มชิดใบหน้าของเขา กด หนึ่งคลิก โดยใช้โทรศัพท์มือถือของปยุตถ่ายรูปใกล้ชิด ของทั้งคู่

“ว้าว ไม่เลว ก่อนหน้านี้ไม่เคยถ่ายรูปด้วยกันมาก่อนเลย ตอนนี้ดูเหมือนเป็นคู่รักกันจริง ๆ แล้วนะ

เธอยื่นโทรศัพท์มือถือให้ปยุตดู “เป็นยังไงบ้าง ดูเป็นคู่ที่ สมบูรณ์แบบเลยใช่ไหมล่ะ”

ปยุตยิ้มเอ็นดู “อืม”

“ดีแล้ว ลุกขึ้นไปอาบน้ำเลยค่ะ มันสายแล้ว”

ผลินไม่มีทางรู้ ว่าปยุตไม่ได้นอนจนกระทั่งหกโมงเช้า

เธออยากไปส่งเขาที่สนามบิน แต่เขาปฏิเสธบอกว่ากลัว ว่าหากไปสนามบินก็จะไม่อยากปล่อยเธอไป ผลที่ได้คือทั้ง สองต้องบอกลากันอย่างไม่เต็มใจที่ตรงหน้าประตูบ้าน

ชนัยขับรถไปสนามบิน ตลอดทางปยุตไม่ได้พูดอะไรเลย หลังจากไปถึงสนามบินเขาตบไหล่ชนัย “บริษัทก็คงต้องฝากนายแล้ว รบกวนด้วย

ชนัยพยักหน้าหนัก และทันทีที่ปยุตหันหลัง ก็ตะโกนว่า “ท่านประธาน ขอโทษนะครับ”

“ทั้งหมดเป็นเพราะผม ถ้าไม่ใช่เพราะผม คุณณีจะไม่หนี ออกจากบ้าน ผมขอโทษจริง ๆ ครับ…

หลายวันมานี้ ชนัยรู้สึกไม่ดี ใช้ชีวิตทุกวันไปกับความรู้สึก ผิด รู้สึกเหมือนว่าที่ปาณีหนีออกจากบ้าน ทั้งหมดเป็นเพราะ ความผิดพลาดของตัวเอง

“ไม่ใช่เพราะนายหรอก อย่ารู้สึกผิดไปเลย”

ปยุตตบไหล่เขาอีกครั้ง แล้วจึงเอากระเป๋าเข้าไปในห้อง โถงของสนามบิน

ตอนที่ขึ้นเครื่องบิน หัวใจมันช่วงแสนอึดอัด เจ็ดวันสำหรับ เขามันเป็นความทรมานที่เจ็บปวดมากจริง ๆ ก่อนหน้านี้ไม่ ว่าในบริษัทจะยุ่งมากแค่ไหน เมื่อกลับมาบ้านและได้เห็น ผลิน ความเหนื่อยล้าทั้งหมดของเขาจะหายไป แต่ไม่ใช่ กับตอนนี้ เขากลัวที่จะกลับบ้าน กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับ ผลิน ไม่ได้เจอเธอก็คิดถึงเธอ แต่เมื่อเห็นเธอก็รู้สึกเจ็บปวด ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันนั้นเกือบจะทำให้เขาเป็นบ้า ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะเปิดโรงงานในพื้นที่ชั่วคราว เพื่อหนีจาก เรื่องทั้งหมดนี้ หวังว่าจะให้เวลาตัวเองสักเดือน เพื่อปรับ ความคิด เพื่อลืมประสบการณ์ที่ไม่ดีเหล่านั้น และกลับไป ยังสถานะของความสุขได้เหมือนเคยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผลิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ