ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 213 ความรักหมุนวนกลับมา



ตอนที่ 213 ความรักหมุนวนกลับมา

อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำให้เธอรู้สึกมั่นคง แต่ไม่ สามารถลบความเศร้าโศกของเธอ ปยุตอยากฝังเธอ เข้าไปอยู่ในร่างกาย พูดด้วย เสียงสั่นเทาว่า “ลิน ดีแล้ว ที่คุณไม่เป็นไร ผมเกือบจะบ้าตอนที่ได้รับข่าว ผม จินตนาการไม่ได้เลยหากว่าคุณเกิดเหตุไม่คาดคิด แล้ว เป็นอะไรไปผมจะทำยังไง ลิน ถ้าผมไม่สามารถปกป้อง คุณได้ผมก็ไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่ ลิน ลิน.…..

ประโยคของปยุตไม่ปะติดปะต่อเนื่องจากความ วิตกกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียที่มากเกินไป ผลินแทบ หายใจไม่ออกในอ้อมแขนของเขา เธอไม่พูดอะไรเลย แค่ฟังคนที่โอบกอดพูด ไม่นาน ปยุตรู้สึกว่ามีบางอย่าง ผิดปกติ เขาคลายอ้อมกอด จับไหล่ของเธอด้วยความ กังวล “ลิน คุณเป็นอะไร ทำไมสีหน้าของคุณซีดเซียว และดูไม่ดีเลย”

ผลินยังคงเงียบ เธอยังติดอยู่ในอาการช็อกและ ไม่สามารถดึงสติได้ ยังคงได้ยินเสียงที่คุกคามแสน โหดร้ายของทาตถุ ความหนาวเย็นเริ่มคืบคลานเข้าสู่ ร่างกายของเธอ ทันใดนั้นก็รู้สึกทนไม่ไหวอีก โผเข้าหา อ้อมแขนของปยุต ส่งเสียงร้องไห้เศร้าโศก “ฉันควรทำ ยังไงดี คุณยุต ธาตรีตายแล้ว ฉันควรทำยังไงดี”

ฉับพลันปยุตประหลาดใจที่ได้ยินมัน เขาทำให้จิตใจ สงบลง “อย่าร้องไห้ ไม่ต้องร้องนะ บอกผมมาเร็ว ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน”

ผลินร้องไห้จนหายใจไม่ได้ เธอไม่สามารถลืมปีนั้น ได้ ครั้งแรกที่เธอถูกพาตัวไปที่บ้านตระกูลตันวิรัช เธอ หมอบอยู่ที่ประตูและ ปฏิเสธที่จะเข้าไป เด็กที่อายุน้อย กว่าเธอเดินมาหาเธอ เอียงศีรษะและถามเธอ “เธอหิว หรือเปล่า เดี๋ยวฉันไปขโมยแอปเปิ้ลมาให้เธอนะ”

ธาตรีที่อายุเพียงสิบปี ช่างกล้าหาญและน่ารักมาก แค่พัฒนาการช้ากว่าเด็กที่อายุเท่ากัน ในวันนั้นเมื่อเขา ส่งแอปเปิ้ลสีแดงลูกใหญ่ในมือของผลิน เธอก็ไม่เคย มองเขาว่าเป็นคนโง่อีกเลย

เกือบสิบปีที่ผ่าน เธอถือว่าธาตรีเป็นน้องชายของ เธอ ถึงแม้ว่าจะเกลียดพ่อแม่ของเขา แต่ไม่เคยขา โกรธเลย ในตอนที่เกือบจะหลงกลทาต และภรรยา เพื่อธาตรีแล้ว เธอไม่ได้เปิดเผยเรื่องนั้นกับปยุต เธอแค่ หวังว่าเด็กที่น่าสงสารจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้ เด็กคนนั้นจากโลกใบนี้ไปเพราะเธอ….

ผลินยิ่งคิดยิ่งเศร้า ปยุตพาเธอเข้าไปในรถ แล้วเขา ก็เข้าไปในสถานีตำรวจเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เธอ กำลังเศร้า เขาจึงไม่อยากถามอะไรจากเธอ

ยี่สิบนาทีต่อมา ปยุตออกมาด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง เขาเข้าใจทุกอย่างชัดเจนแล้ว เขาเข้าไปในรถ กอด ผลินในอ้อมแขน พูดอย่างหดหู่ “มันไม่ใช่ความผิดของคุณ มันเป็นแค่อุบัติเหตุ อย่าโทษตัวเองเลย บางทีคนที่ ทําผิดอาจจะเป็นพ่อแม่ของเขา และพระเจ้าลงโทษคน ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ…

ผลินร้องไห้จนถึงที่สุด หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ในอ้อมแขนของปยุต เธอไม่ได้นอนทั้งวันทั้งคืน เรื่อง ที่โจมตีเข้ามากะทันหันทำให้เธอต้องทุกข์ทรมานทั้ง ร่างกายและจิตใจ

ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอฝันร้ายอย่าง หนัก เหงื่อเย็นเปียกชุ่มเส้นผมบนหน้าผากของเธอ

เธอมองไปรอบ ๆ พบกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้น เคย น่าจะเป็นที่โรงแรม จากนั้นเธอจึงเปิดประตูและ ออกไป ไม่รู้ว่าปยุตตื่นเช้าหรือยังไม่ได้นอนทั้งคืน นั่ง อยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น และกำลังทำงานยุ่งอยู่กับ แล็ปท็อป

ทันใดนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลัง เขาหันกลับมา ช้า ๆ เมื่อเห็นว่าเป็นผลินจึงรีบลุกขึ้นและเดินเข้าไปหา เธอ “ทำไมถึงตื่นแต่เช้า”

ผลินตอบคำถามอย่างอ่อนแอ “ฉันหลับนานแล้ว”

เธอชาเลืองมองไปที่สมุดบันทึกของเขา “ถ้าคุณ งานยุ่งก็กลับไปเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันต้องไป โรงพยาบาล”
“ผมจะไปกับคุณ”

สายตาของปยุตมั่นคง หลังจากทานอาหารเช้า พวกเขามาถึงที่โรงพยาบาลด้วยกัน

ไม่รู้ว่านภนต์นั้นโชคดีหรือเพราะทาตฤตึงเครียด เกินไปขณะที่ก่อเหตุ จึงแค่แทงถูกสะบักหัวไหล่ของ เขา หลังจากได้รับความช่วยเหลือดูแลทันเวลา เขา สามารถลุกขึ้นนั่งและพูดคุยได้เหมือนคนปกติแล้ว

ผลินยืนอยู่ต่อหน้าเขา สองตาบวมแดงเหมือนลูก วอลนัต นภนต์จ้องเธอชั่วครู่แล้วจึงหัวเราะ “เพราะผม ยังไม่ตาย คุณเลยร้องไห้แบบนี้น่ะเหรอ”

เขายังไม่รู้เรื่องนี้ นอกจากที่ผลินตำหนิตัวเองเรื่อง การบาดเจ็บของเขา แล้วยังมีเหตุผลอื่นอีก

ปยุตก้าวออกมา พูดอย่างจริงจังกับนภนต์ “ขอบคุณ ที่ปกป้องลิน ผมจะจดจำความเอื้อเฟื้อเมตตานี้ไว้ในใจ

นภนต์มองดูเขา ถามอย่างแดกดัน “ผมรับมีดแทน ลิน คุณมีตำแหน่งอะไรกับเธอถึงได้มาจดจําความ เอื้อเฟื้อเมตตา โดยนัยยะ มันก็แค่การจดจํา ผลินคงจำ เองได้”

“ผมอยู่ในตำแหน่งสามีของเธอ”
ปยุตตอบอย่างใจเย็น ไม่มีความไม่พอใจกับการ แดกดันของนภนต์

“พวกคุณไม่ได้หย่ากันแล้วหรอกเหรอ”

“ผมไม่ได้อยู่ที่นั่นในขณะที่เธอเซ็นมัน ภายหลังผม ฉีกข้อตกลงนั้น ดังนั้นในทางกฎหมาย เธอยังคงเป็น ภรรยาของผม”

นภนต์มีแววเศร้าโศกในดวงตา “ผมช่วยชีวิตภรรยา คุณไว้ คุณจะตอบแทนผมยังไง”

“ตราบใดที่มันอยู่ในอำนาจของผม คุณสามารถพูด มาได้เลย”

นภนต์พูดกับผลิน “เวทิดา ถอยไปก่อน ผมต้องการ คุยกับปยุตในเรื่องระหว่างผู้ชาย

ผลินไม่ได้ถามอะไร ออกจากวอร์ดไปเงียบ ๆ

เมื่อเธอออกไป นภนต์เริ่มเปิดเข้าเรื่อง “ผมจะให้ ลินทำงานอยู่ที่อะแวร์กรุ๊ปสามปี หลังจากสามปีผมจะ ปล่อยให้เธอกลับไปหาคุณ”

ปยุตปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “ขอโทษด้วย นั่นผมคง ยอมรับไม่ได้”
ทำไมคุณยอมรับไม่ได้ ผมแค่บอกว่าให้เธออยู่ที่ “ นี่สามปี มันไม่ได้หมายความว่าจะให้อยู่ตลอดไป ยังไง พวกคุณก็แยกกันอยู่มาสองปีแล้ว แยกกันอยู่อีกไม่กี่ปี ทําไมต้องใส่ใจ

“เพราะว่าเราแยกกันอยู่มาถึงสองปีแล้ว ดังนั้นผม จึงไม่ต้องการที่จะแยกจากเธออีกครั้ง

นภนต์ชักสีหน้า แววตาเย็นเฉียบ “คุณควรรู้ว่าถ้า ผมไม่ให้อภัยเรื่องที่เธอนอกใจ เธอจะไม่ไปอยู่กับคุณ ตอนนี้ผมช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เธอยิ่งติดหนี้ผมมากขึ้น ถ้าผมบอกว่าไม่ปล่อยเธอไป เธอก็จะไม่ไป ถึงแม้ว่าจะ ไม่อยู่กับผม ก็จะไม่อยู่กับคุณเช่นกัน คุณและผมต่างรู้ ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี จะไม่ยึดความสุขของตัวเองไว้บน ความทุกข์ของผู้อื่น”

“แล้วคุณต้องการอะไร

“เอาอย่างนี้ ในเมื่อคุณปฏิเสธข้อเสนอเมื่อสักครู่นี้ ผมจะให้คุณสองตัวเลือกสุดท้าย อย่างแรก ให้ผมแทง คุณด้วยมีดคืน แต่ผมไม่รับประกันว่าคุณจะโชคดีพอที่ จะมีชีวิตอยู่ เพราะมันไม่สำคัญว่าคุณจะโชคร้ายตายไป หรือไม่ ผมจะดูแลลินแทนคุณเอง”

“อย่างที่สอง คุณโอนหุ้นทั้งหมดของบริษัทรักผลิน ให้เป็นชื่อผม ความแค้นระหว่างคุณกับผมก็เป็นอัน ยกเลิก คุณพาเธอไปได้ แต่คุณจะไม่เหลืออะไรเลย”
ปยุตมองเขาอย่างไร้อารมณ์ “ต้องทำอย่างนี้ด้วยเห

รอ”

“นั่นเพราะพวกคุณติดหนี้ผม เธอพยายามช่วยให้ คุณผ่านพ้นวิกฤติในอาชีพ จึงโกหกผมเพื่อปกปิดความ สัมพันธ์ของพวกคุณ ถ้าผมฟ้องเธอ เธอจะมีความผิด ในเรื่องการฉ้อโกง คิดให้ดีก่อนตอบ เพราะผมจะไม่ยก ให้ทั้งสองอย่างทั้งคนทั้งเงิน

ปยุตหันหลังและเดินออกไปจากห้อง ในทางเดินที่ ทอดยาว ผลินยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงหน้าต่าง ความคิดของ เธอล่องลอยไปไกล ดังนั้นจึงไม่สังเกตเห็นเมื่อมีใครมา อยู่ข้างเธอ

“ลิน”

เขาเรียกเธอแผ่วเบา

“อืม?”

เธอหันไป และรอให้เขาพูดต่อ

“ถ้านภนต์ไม่ยกโทษให้ คุณก็จะไม่อยู่กับผมเหรอ”

ผลินชะงักไป พยักหน้าอย่างงุนงง “ใช่”

“ดี ผมเข้าใจแล้ว”
เธอยังอยากพูดอะไรต่อ แต่เขาหันกลับไปที่ห้อง ของผู้ป่วยเสียก่อน

ไม่มีการพูดจาเยิ่นเย้อกับนภนต์อีก “ถ้าคุณต้องการ หุ้นของรักผลินก็เอาไป ตั้งแต่นี้ต่อไป ไม่ติดค้างกันอีก”

เขาหันกลับและกำลังจะเดินจากไป นภนต์ตะคอก “รอเดี่ยว”

“ยังมีอะไรอีก”

“คุณคิดดีแล้วเหรอ บริษัทของพ่อคูณเหลือแต่ เปลือก รายได้ทั้งหมดมาจากรักผลินเท่านั้น ตอนนี้ ผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นความหวังเดียวที่ทำให้ฟื้นตัว คุณจะ ยอมแพ้แบบนี้จริงเหรอ”

“เงินเป็นของนอกกาย ถึงมีกองเท่าภูเขา ถ้าไม่มี ใครอยู่ข้างกายให้พิสูจน์ว่ายังคงมีชีวิตอยู่ แล้วจะมีพวก มันไว้ทําไม

จู่ ๆ นภนต์ก็หัวเราะ เขาโบกมือไปมา “ให้เวทิดาเข้า มาหน่อยครับ”

ผลินมาถึงห้องพร้อมกับปยุต นภนต์จับมือเธอทันที จากนั้นค่อย ๆ ส่งต่อไปยังมือของปยุต

“ได้โปรดดูแลผู้หญิงคนนี้ เธอมีค่ามากพอให้คุณทนถนอม

และเขาก็พูดกับผลินว่า “โปรดดูแลผู้ชายคนนี้ให้ดี เขามีค่ามากพอที่คุณจะไม่ทอดทิ้งไม่ดีจาก

ปยุตค่อนข้างตกใจ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ดูแตกต่าง ไป แต่ทว่าผลินกลับพยักหน้าด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วย น้าตา ไม่มีความสับสนบนใบหน้า

นภนต์ถอนหายใจด้วยความเสียใจ “มันค่อนข้าง ยากที่จะยอมแพ้ในเรื่องของผู้หญิงที่ตัวเองหลงรักมา ถึงสองปี แต่ที่ผมปล่อย มือไม่ได้พิสูจน์ว่าผมใจกว้าง แต่เพราะผมเห็นถึงหัวใจซึ่งกันและกันของพวกคุณ”

ออกจากโรงพยาบาล ปยุดพูดพลางทอดถอนใจ “ถ้านภนต์ไม่ใช่คู่แข่งของผม ผมอยากเป็นเพื่อนกับเขา เพราะเป็นคนจริงคนหนึ่ง

ผลินโต้แย้งอย่างอ่อนแรง “คนแบบนั้นจะไม่มีทาง ปล่อยมือหรอก”

“เมื่อครู่นี้เขาขู่ผม”

ปยุตเล่าเรื่องการสนทนาระหว่างลูกผู้ชายในวอร์ด ผลินไม่ได้รู้สึกดีขึ้น เผยรอยยิ้มที่ขมขื่น “นั่นเป็นเรื่องที่ เขาแค่พยายามจะทดสอบหัวใจของคุณ”
“ตอนแรกผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้”

พวกเขามาถึงบ้านของตีรณ ทันทีที่เข้าบ้าน ลุงถาม ด้วยใบหน้าที่เย็นชา “เธอมาที่นี่ทำไมไม่ไปหานภนต์ที่ โรงพยาบาล”

ผลินตอบกลับไป “นภนต์มีครอบครัวอยู่เป็นเพื่อนค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อคุยกับพวกคุณ…” เธอหยุดชั่วครู่ รู้ว่าพูด อะไรไป ลุงและป้าจะต้องโกรธ “ฉันจะกลับไปอยู่เคียง ข้างคุณปยุตค่ะ”

“เธอบ้าไปแล้วใช่ไหม”

อย่างที่คาดไว้ ป้าเป็นคนแรกที่โพล่งขึ้นมาก่อน “นภนต์เพื่อเธอแล้วแม้แต่ชีวิตก็ให้ได้ ผู้ชายแบบนั้นเห รอที่เธอควรเลิก เธอไม่มีน้ำในสมองแล้วใช่ไหม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ