ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่74 ความสุข ( 5 )



ตอนที่74 ความสุข ( 5 )

แล้วก็ตระหนักได้ว่าไม่ควรคิดเกี่ยวกับมัน เขาจึงสะบัด ศีรษะไล่ความคิด ยิ้มและโบกมือให้ผลิน “ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กันเอาไหม”

“เอาส

ผลินตกลง

ปยุตนํากล้องที่เตรียมมาด้วยกดถ่ายรูปผลินอย่างจริงจัง ด้วยหลากหลายสไตล์ที่แตกต่าง ผลินวิ่งมาอย่างมีความสุข “มันไม่น่าสนใจเท่าไรเลยถ้าฉันจะถ่ายคนเดียว เรามาถ่าย ด้วยกันเถอะ”

“โอเค”

ปยุตสื่อสารภาษาอังกฤษกับคนอเมริกันอย่าง คล่องแคล่ว คนอเมริกันคนนั้นนำกล้องไปถ่ายรูปคู่รูปแรกใน ชีวิตของทั้งสอง

“มันดีมากเลย”

ผลินจ้องมองภาพในกล้องดิจิทัลแล้วเผยรอยยิ้มกว้าง

“คุณอยากไปที่ไหนต่อไหม”

“หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์” “โอเค” ปยุตหยอกล้อเธอ “ไม่เคยมาปารีส แต่ดูคุณจะรู้ อะไรเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของที่นี่เยอะนะ

หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้นบนยอดเนินเขาสูง Montmartre เป็นโบสถ์คาทอลิกในสไตล์ไบแซนไทน์ ยอด เนินเขาสูง Montmartre มีเส้นทางที่คดเคี้ยว โคมไฟถนน ประดับหรูหรา แสงนีออนระยิบระยับ วิวทิวทัศน์เป็นแนว ภูเขา ชื่นชมนกไนติงเกลและสถานที่แห่งความรักอันนุ่มนวล บรรยากาศที่โรแมนติกมากที่สุดต่างรวมตัวกันอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังหลอมรวมไปด้วยศาสนา สถานที่แห่งศิลปะ และความรัก ยอดเนินเขาสูงแห่งนี้ห่างไกลจากความวุ่นวาย ภายในเมือง ทุกที่เต็มไปด้วยภาพวาดและบทกวี หัวใจอัน ศักดิ์ที่ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาสูงนั้นถูกแต่งแต้มด้วยสีสันความ โรแมนติกดั่งเทพนิยาย ทั้งหมดทั้งมวลเป็นสีขาวบริสุทธิ์สง่า งามหาใดเปรียบ เมื่อเทียบกับ Notre Dame ในกรุงปารีส หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ทางศาสนาที่ใกล้ชิดกับ ประชาชนทั่วไป เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใกล้ที่สุดซึ่งตั้งอยู่ ในเขตเมืองหลวง เต็มไปด้วยร้านค้าทั่วไปแน่นขนัด ใน อากาศคละคลุ้งด้วยกลิ่นหอมของอาหาร เมื่อมีอากาศที่ดีก็มี นักท่องเที่ยวเดินทางมามากมาย ถักทอดั่งภาพวาด ภูมิทัศน์ ราวกับละคร เป็นความงดงามที่น่ารื่นรมย์ท่ามกลางเสียง ไพเราะของเมาท์ออร์แกน หากมองเมืองปารีสจากยอดเนิน เขาสูง Montmartre ก็จะพบกับช่วงเวลาที่แสนเงียบสงบ

เข้ามาถึงภายในโบสถ์ ผลินดึงแขนเสื้อของปยุตไว้ “เรา มาอธิษฐานกันดีไหม”

“อืม ได้ คุณไป” “ ทำไมให้ฉันไปล่ะ แล้วคุณไม่ไปเหรอ”

“ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายทํากัน

“ลัทธิผู้ชายเป็นใหญ่มาอีกแล้ว ไม่เอาอะ คุณต้องไป

ผลินดึงแขนของเขาอย่างไม่มีเหตุผล ไปที่พระพักต์ของ พระผู้เป็นเจ้า นิ้วทั้งสิบสอดประสานกัน และอธิษฐานเงียบ ๆ “ด้วยความเคารพท่านพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงอำนาจ โปรด ประทานพรให้ฉันและคนที่อยู่ข้าง ๆ ให้เราได้อยู่ด้วยกันไป ตลอด จับมือกันไปจนแก่เฒ่า”

เธอลืมตาขึ้นมาและหันมองไปยังปยุต “คุณอธิษฐานหรือ

ยัง”

“อธิษฐานแล้ว”

“อธิษฐานว่าอะไร”

“บอกไปมันก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์น่ะสิ”

“ไม่หรอกน่า บอกมาเถอะ ฉันอยากรู้”

ปยุตเคลียร์คอ “พระเจ้าผู้ทรงอำนาจ ความปรารถนา ของคนรักที่อยู่ข้าง ๆ ผมก็คือความปรารถนาของผม ได้

โปรดเติมเต็มเธอและได้โปรดอย่าลืมผมเช่นกัน”

ฉีก ผลินยิ้มออกมาอย่างไร้อารมณ์ “อะไรกัน ไม่มีความ จริงใจเลย”

มันเริ่มมืดแล้ว คนสองคนออกจากหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ แวะ ร้านอาหารที่เชิงภู ทานขนมพื้นเมือง ผลินยังไม่อยากกลับไป ที่โรงแรมเร็วเกินไป จึงเสนอที่จะเดินรอบแม่น้ำเซน

แม่น้ำเซนตอนกลางคืนสวยเหมือนภาพวาด ลมเย็นพัด มากระทบผิวหน้า ช่างมีความสุขจนไม่สามารถบรรยายออก มาเป็นคําพูดได้ พวกเขาเดินไปตามแม่น้ำสักพัก ผลินก็รู้สึก คอแห้ง จึงพูดขึ้นมาว่า “ฉันรู้สึกกระหายน้ำเล็กน้อย

ปยุตหยุดเดิน เดี๋ยวผมจะไปซื้อน้ำให้คุณ

“จะไปซื้อที่ไหน ดูเหมือนว่ารอบ ๆ บริเวณนี้ไม่มีร้านค้าเลย

นะ”

“ผมรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน คุณรออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวผมมา

“ได้ค่ะ”

ปยุตหันหลังแล้วเดินไป แต่เดินไม่กี่ก้าวก็หันกลับมาบอก ว่า “อยู่นิ่ง ๆ นะ ถ้าหลงทางขึ้นมาผมไม่รับผิดชอบ”

ผลินยิ้ม “เข้าใจแล้วค่ะ

มองปยุตจนหายไปจากสายตา เธอเดินอยู่คนเดียวรอบ บริเวณนั้น แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเพลงร็อกดังเข้ามาในโสต ประสาท เธอรู้สึกตื่นเต้น หันไปทางทิศตะวันออก แล้วก็หัน ไปทางทิศตะวันตก จนแน่ใจว่าเพลงร็อกมาจากทางทิศ ตะวันออก

คิดว่าไปแค่ครู่เดียวปยุตคงยังไม่กลับมา แต่ถึงแม้ว่าจะ กลับมาก็ใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อเอาก็ได้ เธอถูกยั่วเย้าด้วย ความอยากรู้อยากเห็น ก้าวเดินไปเพียงไม่นานก็มาถึงพื้นที่ เปิดโล่งที่มีชีวิตชีวา

เธอใช้พลังพอ ๆ กับวัวเก้าตัวและเสืออีกสองตัวมารวมกัน เพื่อแทรกตัวเข้าไปท่ามกลางฝูงชน เป็นวงข้างถนนมีชาย สามคนและหญิงหนึ่งคน นักร้องนำนั้นหล่อมาก มีกีตาร์ตัว ใหญ่ในมือและร้องเพลงของวง BEYOND (ท้องฟ้ากว้างไกล) วง BEYOND เป็นวงดนตรีที่ผลินชอบมาก ในต่างถิ่นเช่นนี้ ได้ยินเสียงเพลงภาษาจีนนั้นทำให้เธอแปลกใจและตื่นเต้น อย่างมาก เมื่อเพลงจบก็ปรบมือ และเอากระเป๋าสตางค์ออก มาจากกระเป๋า เตรียมที่จะดึงเงินออกมา ทันใดนั้นเองก็มีมือ ดามาคว้ากระเป๋าเงินของเธอไปราวกับสายฟ้าฟาดและวิ่งหนี ไปอย่างรวดเร็ว “ขโมย หยุดเดี๋ยวนี้นะ !

ผลินครามออกมาด้วยความโกรธและวิ่งไล่กวดตามไป

เธอเป็นผู้หญิง ถ้าทางด้านความเร็วก็คงไม่สามารถวิ่งไล่ ทันผู้ชายได้ ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังนั้น ก็มีผู้ชายวิ่ง แซงเธอไป

ผู้ชายที่ผ่านตาของเธอไปนั้นรวดเร็วดั่งลูกศร เมื่อคิดถึง สิ่งที่สำคัญในกระเป๋าเงินเธอก็รีบก้าวถี่กระชั้นขึ้น โดยลืมป ยุตที่ไปซื้อน้ำให้เธอเสียสนิท ขโมยอาจจะไม่มีแรงที่จะหนีอีกต่อไปแล้ว จึงโยนกระเป๋า ทิ้งลงบนพื้น และหนีเข้าไปในป่ารกทึบ

ผลินเองก็เหนื่อยเหมือนกัน เธอนั่งยอง ๆ กับพื้นและอ้า ปากหอบเหนื่อย ผู้ชายคนนั้นหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาและ ส่งมันให้เธอ “ตรวจดูนะครับว่ามีอะไรหายไปบ้างหรือเปล่า”

เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ แล้วก็ได้พบกับสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผู้ชายที่วิ่งตามจับขโมยให้เธอนั้นเป็นนักร้องนำ เป็นผู้ชาย คนนั้นที่หล่อมาก

“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมาก ๆ เลย”

เธอรู้สึกขอบคุณที่ได้รับมันคืน เปิดซิปกระเป๋าสตางค์ ออกดูก็พบว่ารูปคู่ของเธอกับปยุตยังคงอยู่ก็พลันโล่งอก

“ไม่มีอะไรหายไปใช่ไหมครับ”

“ไม่ค่ะ ขอบคุณคุณมากจริง ๆ นะคะ”

เธอกล่าวขอบคุณอย่างกระตือรือร้น ชายหนุ่มยิ้ม “ด้วย ความยินดีครับ มันง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือเท่านั้นเอง”

“จริงสิ” เธอดึงเงินดอลลาร์ออกมาจำนวนหนึ่ง “คุณร้อง เพลงได้ดีมาก ฉันชอบมากค่ะ”

“ดีใจที่ชอบครับ ส่วนเงินน่ะไม่ต้องหรอก” “ทำไมล่ะคะ”

นักร้องข้างถนนไม่ได้ร้องเพลงเพื่อหาเงินหรอกเหรอ ผู้ชายคนนี้แปลกจริง ๆ ให้เงินแต่ไม่เอา

ผมมีงานที่มั่นคงครับ คืนนี้เป็นเพียงความตั้งใจที่อยากจะ แสดงให้ทุกคนได้ชมฟรีน่ะ”

“อ่าวเหรอคะ”

เธอยิ้มอย่างเขินอาย รู้สึกว่าตัวเองมีกลิ่นของทองแดง เกือบลืมไปว่าความฝันไม่สามารถวัดค่าได้ด้วยเงิน

“คุณมาคนเดียวเหรอ”

นั่นทําให้ผลินนึกถึงปยุตขึ้นมาได้ ตบศีรษะตัวเอง “โอ้ใช่ แย่แล้ว ฉันมากับสามีของฉันน่ะค่ะ เขาต้องเป็นกังวลมากแน่ ที่หาฉันไม่เจอ”

“ไม่เป็นไรหรอก คุณโทรหาเขาสิครับ”

“จริงด้วย”

เธอล้วงเข้าไปในกระเป๋า แล้วใบหน้าก็สลดลง “มันจบ แล้ว โทรศัพท์มือถือดูเหมือนจะหล่นหาย”

ชายหนุ่มยักไหล่ “มันจะโชคร้ายะไรขนาดนี้ “นั่นสิ ฉันจะทำยังไงดี ที่นี่มันที่ไหน” ผลินกำลังจะเป็นบ้า

“ไม่ต้องกังวลครับ คุณกลับไปที่ที่คุณเพิ่งแยกกันสิ เขาน่า จะรอคุณอยู่ที่นั่นนะ”

“นั่นสิ แล้วคุณล่ะ” เธอคิดว่าเพื่อนร่วมวงของเขาคงจะ กําลังรอเขาอยู่

“ลุกขึ้นเถอะครับ”

พวกเขาเดินกลับมาด้วยกัน ผลินถามอย่างอยากรู้อยาก เห็น “คุณชื่ออะไรคะ”

“ชนุตร์ แซ่ลี้ครับ แล้วคุณล่ะ”

“ฉันชื่อผลินค่ะ ชื่อของคุณแปลกจัง ทำไมถึงแซ่ลี้ล่ะ”

“คุณไม่เคยได้ยินเหรอ”

“ไม่นะคะ”

“อี้ซู่นักเขียนชื่อดังชาวฮ่องกงก็แซ่ฮี้ไม่ใช่เหรอ”

“อ้อ”

ตอนนี้คุณยังรู้สึกว่ามันแปลกอยู่หรือเปล่า”

“ไม่รู้สึกแล้วค่ะ” ผลินคาดเดาต่อ “งั้นคุณกับอี้ซูไม่ใช่ญาติ กันหรอกเหรอคะ”

“ไม่ครับ อี้ซู่จะมีญาติป็นนักดนตรีได้ยังไง”

เธอยิ้ม “พูดอย่างนี้ ญาติของนักเขียนก็ต้องเป็นนักเขียน เท่านั้นน่ะสิ”

“ถ้าไม่ใช่นักเขียนอย่างน้อยก็ต้องเป็นแนววรรณกรรม เหมือนกับนักกวีซูจื้อโหมก็เป็นญาติกับนักเขียนปิงซิน”

ผลินแปลกใจเล็กน้อย “คุณดูไม่เหมือนนักดนตรีเลย คุณ คงจะอ่านหนังสือมาเยอะมากเลยใช่ไหมคะ”

ดวงตาของชนุตร์ แซ่อี้หม่นแสงลง “สมัยนี้ คนที่ไม่เคย อ่านหนังสือก็ทําเหมือนว่าได้อ่านมันแล้ว ไม่แปลกหรอก ครับ”

จนมาถึงแม่น้ำที่แยกกันกับปยุต ผลินก็ขอบคุณอีกครั้ง

“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ”

“ด้วยความยินดีครับ”

ชนุตร์ แซ่ซี้ดูนาฬิกาบนข้อมือ “ดึกแล้ว ผมจะอยู่กับคุณ ก่อน ระบบรักษาความปลอดภัยของฝรั่งเศสไม่ได้ดีไปกว่า ประเทศจีนของเราหรอก”

ผลินรู้สึกดีต่อเขาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย “ขอบคุณมาก ๆ

เลยค่ะ” “ไม่ต้องขอบคุณแล้วครับ ถ้าคุณพูดมันอีกผมจะไปนะ”

“ได้ ๆ ฉันไม่พูดแล้วค่ะ”

คนสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมถนน และเริ่มการสนทนาขึ้น มาอีกครั้ง ผลินพูดคุยกับเขาอย่างมีความสุข แล้วจู่ ๆ ก็พูด ขึ้นมาว่า “ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณดูคุ้นๆ นะ ฉันเคยเจอคุณ ที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า”

ชนุตร์ แซ่อี้หัวเราะเสียงดัง “ทุกคนที่ไม่รู้จักต่างก็พูดกับ ผมแบบนี้ ด้วยใบหน้าที่เหมือนดารานี่มันช่างเป็นภาระจริง ๆ”

“อ่า ฉันเองก็คิดว่าคุณน่ะดูดีมาก”

ผลินเพิ่งจบคํา ก็ได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคยดังมาจากใน ระยะไกล เธอจึงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “ดูเหมือนว่าสามีของ ฉันจะมาแล้วค่ะ”

เธอวิ่งไปตามที่มาของเสียงและโบกมือไปมา “คุณปยุต ฉันอยู่นี่”

ปยุตมองมายังเธอ วิ่งมาทางนี้สองสามก้าว แล้วถามด้วย อาการหอบเหนื่อย “คุณไปอยู่ที่ไหนมา”

“ฉันไปฟังวงดนตรีร้องเพลง ใครจะรู้ว่า…”

“ผมไม่ได้บอกเหรอว่าให้คุณอยู่นิ่ง ๆ ทำไมคุณถึงไม่เชื่อ ฟัง! ใบหน้าของปยุตเศร้าหมองมาก ผลินรู้สึกผิด “ขอโทษนะ คะ ฉันแค่สงสัย แค่อยากไปดู ใครจะรู้ว่ากระเป๋าสตางค์ของ ฉันจะถูกขโมยไป ฉันวิ่งไล่ตามขโมยไป แล้วโทรศัพท์ก็หล่น หายไปอีก จนในที่สุด ฉันก็ไม่พบคุณแล้ว และสุดท้าย ฉันก็ มารอคุณที่นี่”

“ทําไมโจรไม่ขโมยคุณไปแทนนะ”

เธอหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ทำไมผู้ใหญ่อย่างฉันถึงจะต้อง ถูกขโมยไปด้วย ฉันไม่กลัวหรอกถ้าจะถูกขโมยน่ะ เพราะจะ ต้องมีใครบางคนช่วยฉันอยู่ดี”

“โอ้ใช่ ฉันจะแนะนำฮีโร่ให้คุณรู้จัก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ