ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 76 เธอเป็นผู้หญิงไม่ดี ( 1 )



ตอนที่ 76 เธอเป็นผู้หญิงไม่ดี ( 1 )

ทันทีที่คำพูดของคุณนายท่านจบลง ปยุตก็ขึ้นมาข้างบน เขายืนอยู่ที่ประตู และถามอย่างสงสัย “พวกคุณกำลังพูดถึง เรื่องอะไรกัน”

ผลินส่ายหน้าด้วยความเขินอาย “ไม่มีอะไรค่ะ

กำยาเม็ดชุนเซียวเอาไว้ในมือแน่น จนมันแทบละลาย เพราะเหงื่อ

“สู้ๆ!”

คุณนายท่านตบมือของลูกสะไภ้อย่างมีความหมายและ

จากไป

รอจนแม่ออกไป ปยุตก็เดินเข้ามาตรงหน้าของผลิน ทำไมผมถึงคิดว่าคุณทำตัวแปลก ๆ คุณคงไม่ได้มีแผนอะไร ปิดบังผมใช่ไหม”

ยิ่งเขาถาม ผลินก็ยิ่งรู้สึกผิด “ไร้สาระอะไร พวกเราไม่ ได้เหงาขนาดนั้นนะ”

ปยุตมองไปยังผลินที่แขวนเสื้อผ้าไว้ในตู้ของเขา

ปยุตยิ้มขำ “แต่คุณดูมีสติดีนะ ไม่ต้องถามผมสักคำ ก็ คิดว่านี่เป็นห้องของตัวเองแล้ว” “อะไร คุณยังอยากแยกกันอยู่กับฉันอยู่เหรอ ก็ได้ งั้นฉัน ย้ายกลับ

ผลินทําท่าจะเอาเสื้อผ้าออก

“โอเค ๆ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น แขวนมันไว้อย่างเดิม วางมันลงเถอะคุณจะได้ไม่ลำบากลำบากอะไร ฉันไม่กลัว ลําบาก กลัวแต่ว่าคุณสิจะลำบาก

ปยุตพาเธอไปที่ตู้เสื้อผ้า ขบกัดลำคอเธอ “คุณเป็นผู้ หญิงที่วางยาจนจับผมได้แล้ว ยังจะพูดแบบนี้อีก ดูซิว่าผมจะ ทําโทษคุณยังไง…

เขาใช้มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในเสื้อของเธอ ผลินหน้าแดง ไปหมด ตื่นเต้นเล็กน้อยและค่อนข้างสับสน เธอถูกเขาอุ้มไป ที่เตียง และเมื่อคิดเกี่ยวกับขั้นต่อไป ประตูก็เปิดออก ได้ยิน เสียงของน้องสามี “พี่คะ พี่สะไภ้ ไปกันเถอะ ออกไป ทาน…ข้าว”

ปาณีไม่คิดว่าเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะได้เห็นภาพที่งดงาม เช่นนี้ หันหนีอย่างเอียงอาย ร้องคร่ำครวญและวิ่งออกไป “โอ้ พระเจ้า ฉันเห็นอะไร ฉันเห็นอะไรเนี่ย ฉันไม่ควรเห็นอะไร เลย…

ผลินลุกขึ้นนั่ง รู้สึกอายต่อน้องสามี เธอเหลือบมองปยุต และจัดเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง

“ทําไมคุณไม่ปิดประตู ปยุตอธิบายอย่างไร้เดียงสา “ผมจะรู้ได้ยังไงว่าจะมีคน

เข้ามา”

“ คุณไม่รู้หรอกว่าจะมีใครเข้ามา ดังนั้นตอนนี้ ภาพลักษณ์ เก่าของคุณที่ผ่านมาถูกทำลายหมดแล้ว”

“ผมเคยมีภาพด้วยเหรอ”

“มีสิ

“ภาพอะไร”

“ภาพลักษณ์ที่ผิดปกติ เมื่อมีคนมาสัมผัสเตียงคุณก็เปลี่ยน มันทันที เป็นภาพลักษณ์ที่ผิดปกติ!”

ผลินทําหน้าล้อเลียนใส่เขา และก่อนที่จะถูกเก็บก็วิ่งออก จากห้องไปทันที

ทั้งครอบครัวเดินทางมาถึงที่โรงแรมระดับห้าดาวอย่างมี ความสุข ธามันและภรรยามีความสุขมากอย่างหาที่เปรียบ มิได้ตั้งแต่ออกจากบ้านมา ตอนนี้ พวกเขามองลูกสะไภ้เป็น ดั่งร่างแปลงของเจ้าแม่กวนอิม ความรักที่มีต่อเธอนั้นเพิ่ม มากขึ้นอีก

“หนูลิน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอต้องทานเยอะ ๆ นะ พยายาม เพื่อให้ได้คลอดหลานชายอ้วนท้วนสมบูรณ์ให้กับครอบครัว ของเราโดยเร็วที่สุด” แม่สามีวางเต่าตัวเล็ก ๆ ลงไปในชามของลูกสะไภ้ น้อง สามีที่อยู่อีกฝั่งก็พูดล้อเล่นขึ้นมา “แม่คะ แม่ให้พี่สะไภ้ทาน เต่า งั้นแม่อยากให้เธอมีหลานเต่าให้แม่เหรอ”

“ถ้าแกไม่พูดก็ไม่มีใครว่าแกเป็นใบ้หรอกนะ

คุณนายท่านจ้องมองลูกสาวของเธอ “ ทำไมผู้หญิงบ้านนี้ ถึงได้พูดจาไม่คิดแบบนี้กัน แกต้องเรียนรู้จากพี่สะไภ้ของแก ให้มากนะ ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูดอะไรต้องคิดก่อนที่จะ พูดมันออกมา”

ปาณีแลบลิ้นออกมา “ก็แค่ล้อเล่นเอง เชยจัง”

ดนุชาปวดหัว และหันไปพูดกับลูกสะไภ้ว่า “ดูสิดู ฉันให้ กำเนิดเด็กสองคนนี้ออกมาได้ยังไง ไม่มีเลยสักคนที่จะไม่ ทำให้กังวล”

“โธ่แม่คะ กังวลแค่พี่ชายก็พอไม่ต้องมากังวลเกี่ยวกับฉัน หรอก ถ้าจะเปรียบเทียบฉันกับพี่ชายแล้วล่ะก็ ฉันน่ะน่ารัก เชื่อฟัง มีไหวพริบ เป็นลูกกตัญญู มีแต่คนรัก เป็นดอกไม้ที่ บานสะพรั่ง…

“ที่ยังไม่มีใครแล

คุณท่านเวทนเสริมให้ต่อ

ความจริงแล้วน้องณีมีบุคลิกที่ดีนะคะ และฉันชอบมัน” “ “แค่พี่สะไภ้เท่านั้นแหละที่มีวิสัยทัศน์มากที่สุด

“ยังไงดีล่ะ ฉันกังวลเกี่ยวกับการแต่งงานนะคะ ว่าแม่สามี จะชอบคุณที่ไม่มีหัวใจและเป็นลูกสะไภ้ที่ตาบอดมากกว่า”

ปาณีเอ่ยขัด “คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันหรอกค่ะ ผู้ชายที่ฉันกำลังจะแต่งงานด้วยจะไม่มีปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ แน่”

ยกเว้นคุณท่านเวทนและคุณนายท่าน ผลินและปยุตรู้ดี อยู่แก่ใจว่าเธอหมายถึงคนที่เติบโตขึ้นในสถานรับเลี้ยงเด็ก กําพร้าอย่างนัย

“เอาล่ะ ออกมาทานข้าวเย็นหรือออกมาคุยกัน”

ปยุตเลิกคิ้ว คุณท่านเวทนจึงส่งสัญญาณ “ทานสิ ทาน กันเถอะ ทานเสร็จแล้วค่อยกลับไปคุยกันต่อที่บ้าน

ผลินยิ้มและหยิบตะเกียบ มีความสุขมากที่ได้เป็นส่วน หนึ่งของครอบครัว ตั้งแต่เกิดเธอขาดความอบอุ่นของ ครอบครัว คิดว่าต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต ไม่เคยคิดว่า จะได้มีความรักที่แท้จริงเป็นของตัวเอง และตอนนี้ก็ได้มี ต้องเชื่อในความจริงว่าการแต่งงานเป็นการเปลี่ยนทิศทาง ครั้งที่สองของผู้หญิง

ติ้ง.. มีเสียงข้อความโทรศัพท์มือถือเข้า เธอก้มหน้าลง มองผู้ส่งเป็นทาตถุ สีหน้าแข็งเกร็งขึ้นมาทันที กดปุ่มยืนยัน ด้วยนิ้วอันสั่นเทา “ฉันอยู่ห้องข้าง ๆ ถ้าไม่อยากให้ฉันเข้าไป ก็ออกมา”

หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด ฝันร้ายมาอีกครั้ง ความสุข ในระยะเวลาอันสั้น เกือบจะลืมว่ามีปีศาจอีกกลุ่มหนึ่งมองเธอ อย่างหิวโหย

“ฉันขอตัวไปห้องน้ำนะคะ”

เธอลุกขึ้นนิ่ง ๆ ออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกที่ยุ่งเหยิง

ที่ห้องข้าง ๆ ประตูเปิดแง้มอยู่ เธอมองไปรอบ ๆ และ

เข้าไป

ภายในห้อง ทาตฤสั่งอาหาร และนั่งดื่มไวน์อยู่คนเดียว

“ด้วยอัตราส่วนแล้วมันเร็วกว่าที่ฉันคิดนะ”

เขาเงยหน้าขึ้น สายตาคมเหมือนมีดโกนส่งมาที่เธอ ทำให้เธอก้าวถอยหลัง เอ่ยถามอย่างหวาดกลัว “คุณมาที่นี่ ได้ยังไง”

“เธอไม่ได้วางแผนที่จะหนีหรอกเหรอ ทำไมถึงกลับมาล่ะ

ทาตฤถามคำถามที่โหดร้าย

ผลินหัวใจเต้นแรง แน่ชัดว่าเขารู้ทุกอย่าง เธอค่อย ๆ ก้าว ไปข้างหน้า ทันใดนั้นก็คุกเข่าลง คุณลุงทตฤคะ ฉันขอร้อง ล่ะ คุณปล่อยฉันไปเถอะ” “ปล่อยเธอไป ถ้าปล่อยเธอไป แล้วใครจะช่วยลูกชายที่น่า สงสารของฉันล่ะ”

คุณคิดว่าลูกชายของคุณน่าสงสาร แล้วคุณไม่คิดว่าฉัน น่าสงสารบ้างเหรอ มันไม่ง่ายที่ตอนนี้ฉันได้รับความสุขเล็ก ๆ นี้มา ทำไมคุณถึงจะต้องปล้นมันไปอย่างโหดร้ายด้วย

“ฉันไม่ได้โง่นะ ให้ทำลายความสุขของลูกชายของฉันเพื่อ ให้เธอมีความสุขงั้นเหรอ ผลิน วันนี้ต้องพูดกับเธอให้ชัดเจน ไปกับฉันเดี๋ยวนี้ หรือจะให้ฉันไปที่ห้องข้าง ๆ นั่น และบอก พวกเขาทุกอย่าง”

น้ำตาของผลินร่วงหล่น “มันต้องเป็นแบบนี้ด้วยเหรอ คุณ คิดว่าคุณบอกพวกเขาทุกอย่างแล้วลูกชายของคุณจะมี ความสุขงั้นเหรอ”

“อย่างน้อยฉันก็ไม่ทำอะไรที่ไม่เต็มใจ”

“คุณเห็นแก่ตัวขนาดนี้เลยเหรอ รู้ทั้งรู้ว่าฉันจะไม่มีวันให้สิ่ง ที่คุณต้องการได้ แต่คุณยังต้องการที่จะทำมันงั้นเหรอ”

“ใช่ ฉันเป็นคนแบบนั้น ถ้าไม่ได้ก็ทำลาย

ทาตฤไม่สนใจคำขอร้องของเธอ บังคับเธอต่อ “ฉันไม่ได้ มีเวลากับเธอมากนักนะ จะให้เวลาเธอคิดห้านาที”

เขาวางนาฬิกาลงบนโต๊ะและเริ่มรอให้เธอเลือก นาทีที่สองผ่านไป หัวใจของผลินตกลงไปในหุบเหวลึก ทันใดนั้นเธอก็เผยรอยยิ้มเศร้า “คุณไม่ต้องรอ ฉันจะไม่ไป กับคุณ เพราะว่าฉันรักคุณปยุต”

ทาตฤเกรี้ยวกราด ลุกขึ้นยืนพร้อมตวาด “แล้วอย่ามา โทษฉันที่มัจฉาตายตาข่ายขาดล่ะ”

มองเขาก้าวออกไปจากประตูห้อง ผลินพูดเสียงดัง “หาก คุณไปอีกก้าว ฉันจะตายที่นี่ และคุณจะไม่สามารถหลีก เลี่ยงได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”

ทาตฤค่อย ๆ หันกลับมา เห็นผลินถือกริชไว้ในมือ ก็หยุด ชะงัก กริชเป็นของเขา ใส่ไว้ในกระเป๋าตลอดเวลา แต่ตอนนี้ มันกลับไปอยู่ที่เธอ

“ใครบอกให้เธอเอามันไป วางมันลง ”

“คุณบังคับฉันเองนะ คุณไม่ได้บอกเหรอว่ามัจฉาตาย ตาข่ายขาด งั้นก็มาเลย”

เธอกดกริชที่ไหปลาร้า เลือดไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ทาตฤค่อนข้างตกใจ “วางมันลงก่อน มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดกัน”

“ลุงทาตฤ ฉัน ผลินคนนี้ มีชีวิตที่ไร้ค่า ไม่เหมือนกับคุณ เมื่อครั้งที่คุณยังเป็นเด็ก คุณยังตระหนักได้ถึงความฝันที่ อยากเป็นคนรวย ตราบเท่าที่คุณก้าวออกจากประตูนี้ คุณได้ ทำลายสิ่งเดียวที่ฉันแคร์ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่สนใจอะไรอีก แล้ว ฉันจะฝังตัวฉันไปพร้อมกับคุณ” เธอคิดว่าจะขู่ฉันได้เหรอ เธอตายแบบนี้มันคือการฆ่าตัว ตาย มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันอยู่แล้ว”

“งั้นก็ลองดูสิ นี่เป็นห้องที่คุณจองไว้ กริชในมือฉันก็เป็น ของคุณ ฉันตายอย่างมีเงื่อนงำแบบนี้ คุณคิดว่าสามีของฉัน จะปล่อยคุณไปไหม แล้วตำรวจจะปล่อยคุณไปงั้นเหรอ”

ทาตฤหน้าถอดสี เขากล่าวว่า “เธอกล้ามากนะ แต่จะกล้า ได้มากแค่ไหนกัน ถ้าฉันต้องการที่จะทำลายเธอ มันเมื่อไหร่ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องในเวลานี้

“ เมื่อใดก็ตามที่คุณทำลายชีวิตของฉัน ฉันจะไม่มีทางให้ คุณได้ดีขึ้น คนอย่างผลินไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน”

“เธอไม่กังวลในความปลอดภัยของลุงเธอหรือไง”

เธอยิ้มเยาะ “คุณสามารถหาลุงของฉันพบเหรอ คุณต้อง เฝ้าดูฉัน แล้วยังไปเฝ้าดูลุงของฉันอีก ฉันคิดว่าคุณคงไม่ได้ ว่างขนาดนั้นหรอกมั้ง”

“ถ้าฉันต้องการ ถึงจะสุดหล้าฟ้าเขียวเขาก็ไม่สามารถหนี ได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นถ้าฉันส่งหลักฐานไปให้ตำรวจ ไม่ต้อง ถึงมือฉันหรอก เขาก็จะถูกหาจนพบอยู่ดี”

“คุณจะส่งมันไปก็ได้ ฉันตั้งใจจะทิ้งเขาแล้ว เมื่อฉันไม่ สามารถรับประกันความสุขของตัวฉันเองได้ ก็ไม่สามารถ ปกป้องเขาได้เช่นกัน” เธอหยุดครู่หนึ่ง “แต่ฉันขอเตือนคุณ สิ่งนี้เป็นกับดักที่คุณสร้างขึ้นเอง ถ้าตำรวจจะสืบสวนเรื่องนี้ จริง ๆ ฉันไม่คิดว่าคุณจะสามารถหลุดพ้นจากส่วนเกี่ยวข้อง นีไปได้ ลุงของฉันไม่โง่พอ จะถูกสุนัขกัดโดยที่ไม่กล้าส่ง เสียง”

ทาตฤไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่เธอพูดได้ คำรามด้วยความ โกรธ หยิบกระเป๋าที่โต๊ะและออกไป…

ผลินปล่อยกริชในมือตกลงพื้น ทั้งร่างทรุดลงกับเก้าอี้ ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ