ตอนที่ 44 พูดในขณะที่ทำ
พนักงานเสิร์ฟส่งเมนู ปยุตจ้องมองเธอ แต่เธอผลักมันให้ เขา “คุณสั่งสิคะ ฉันไม่คุ้นเคยกับที่นี่ ไม่รู้ว่าอะไรอร่อย”
เขาไม่ปฏิเสธ นำมาเปิดออกดู หลุบตาลงแล้วชี้ไปยังรูป ตัวอย่างอาหารในเมนูเพื่อบอกกับพนักงาน
จ้องเขาอย่างตั้งใจจนเขาปิดเมนูและเงยหน้าขึ้นมองมา สบตาเธอ เธอขัดเขินจึงเบนสายตาไปทางอื่น
“คิดอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมา”
ปยุตเห็นเธอเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็หยุด
“แค่สงสัยนิดหน่อยน่ะค่ะ ว่าทำไมถึงเสนอให้ออกมาหา อะไรทานข้างนอก
“อะไร ปล่อยให้ขุนนางวางเพลิง แต่ไม่ให้ชาวบ้านจุด
ตะเกียงหรือไง”
ผลินรีบส่ายหน้า “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ แค่ไม่คาดคิดว่าคุณ จะเป็นคนที่มีนิสัยชอบทานมื้อดึกด้วย”
“คุณไม่คาดคิดเยอะเหลือเกินนะ อะไรที่ทำให้คุณคิดว่า คนอื่นไม่ต้องดำรงชีวิตอยู่
นิ้วยาวชี้ไปทางตู้เก็บไวน์ “คุณจะดื่มอะไรไหม
“ไม่เอาค่ะ”
เมื่อนึกถึงความผิดปกติในการดื่มครั้งล่าสุดทำให้เธอ ปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
พนักงานเสิร์ฟนำอาหารมาให้อย่างรวดเร็วทันใจ เสียง เพลงจากแผ่นเสียงที่ไพเราะละเมียดละไมช่างเพิ่มความ อยากอาหาร
ผลินหิวจนจะเป็นลม ไม่สนสามสิบเจ็ดสิบ หยิบตะเกียบ ขึ้นมาและส่งมันเข้าปาก
“เป็นไง”
“มันเยี่ยมมากค่ะ”
“ยิ่งกว่าบะหมี่สำเร็จรูปไหม
“ดีกว่ามาก”
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอกำลังจะบานเหมือนดอกไม้
มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นในดวงตาของปยุต แล้วจู่ ๆ ก็ พูดขึ้น “ให้กำเนิดลูก”
ซุปร้อนเกือบจะพุ่งออกมาจากปาก ผลินเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใน เอ่ยถามหาข้อสรุป “ใคร…ใครให้กำเนิดใคร
“คุณพูดอะไรของคุณ” เขาเลิกคิ้วถาม
“ฉันกับคุณเหรอ”
“ไร้สาระ ถ้าไม่ใช่กับผม คุณคิดว่าจะกับใคร
เส้นสีดำวิ่งผ่านศีรษะ ผลินรู้สึกเหมือนกับวันสิ้นโลก ผู้ชายที่คิดว่าผู้หญิงเป็นแมลงสาบเสนอที่จะมีลูก มันเป็น เรื่องยากที่จะเชื่อ ช่างน่าหวาดกลัว
“แต่คุณไม่ได้รักฉัน
“ใครบอกว่ามันต้องมีความรักถึงจะมีลูกได้
“นั่นไม่ใช่เครื่องมือในการมีลูกเหรอคะ”
“หรือคุณจะบอกว่าไม่ต้องการ”
ผลิยยิ้มออกมาอย่างอึดอัด “ไม่ใช่ไม่ต้องการค่ะ แค่คิด ว่าคุณควรคิดให้ดีอีกครั้ง ฉันรู้สึกว่าคุณอาจจะยังไม่ตื่น”
“ถ้าผมบอกว่าผมตื่นแล้ว และคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วล่ะ”
“ให้ฉันคิดเกี่ยวกับมันก่อนนะคะ เรื่องแบบนี้ เราต้องเตรี
ยมตัวให้พร้อม
ปยุตพยักหน้า “ได้ ผมให้เวลาคุณคิดสามวัน สามวันให้ หลังค่อยมาให้คำตอบกับผม”
“สามวัน?” ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “มันไม่น้อยเกินไป
เหรอคะ”
“น้อยเกินไป? คุณจะเอาเวลาสามสิบปีหรือไง”
“สามสิบปี? นั่นมันก็นานเกินไปแล้วนะ…
“ใช่ ดังนั้นผมจึงไม่รังเกียจที่จะให้เวลาคุณคิดอีกหน่อย ผมกลัวว่าพอถึงเวลาเมื่อไหร่คุณจะให้กำเนิดไม่ได้มากกว่า”
“ให้กำเนิดไม่ได้มันเป็นเรื่องเล็กค่ะ แต่ถ้าคุณเปลี่ยนผู้ หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า จากสามเดือนก็ยืดระยะเวลาไป สามสิบปีได้ นั่นคือสิ่งที่สำคัญกว่า”
รอบแรกของสงครามทางวาจา ปยุตจ้องเธอ หลังจากที่ พูดว่าคุณนี่ช่างรู้จักผมเสียจริง ทุกอย่างก็จบลง
เมื่ออิ่มท้อง ทั้งสองคนก็ออกจากร้านอาหาร ผลินดู นาฬิกา มันเป็นเวลาตีสองแล้ว
เธอถอนหายใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่กลายเป็นนก ฮูกกลางคืน ปกติเคยชินแต่กับการมีกฎ มันเป็นนิสัยปกติ ไม่เคยรู้และไม่อยากรู้ว่าหลังจากตีสองแล้วค่ำคืนมันเป็น อย่างไร ตอนนี้เหมือนยืนอยู่บนพื้นดินที่มีแสงจันทร์และ แสงดาวสาดส่องลงมา ทันใดนั้นก็พลันรู้สึกสงบและมันช่างความตกใน เอ่ยถามหาข้อสรุป “ใคร…ใครให้กำเนิดใคร
“คุณพูดอะไรของคุณ” เขาเลิกคิ้วถาม
“ฉันกับคุณเหรอ”
“ไร้สาระ ถ้าไม่ใช่กับผม คุณคิดว่าจะกับใคร
เส้นสีดำวิ่งผ่านศีรษะ ผลินรู้สึกเหมือนกับวันสิ้นโลก ผู้ชายที่คิดว่าผู้หญิงเป็นแมลงสาบเสนอที่จะมีลูก มันเป็น เรื่องยากที่จะเชื่อ ช่างน่าหวาดกลัว
“แต่คุณไม่ได้รักฉัน
“ใครบอกว่ามันต้องมีความรักถึงจะมีลูกได้
“นั่นไม่ใช่เครื่องมือในการมีลูกเหรอคะ”
“หรือคุณจะบอกว่าไม่ต้องการ
ผลิยยิ้มออกมาอย่างอึดอัด “ไม่ใช่ไม่ต้องการค่ะ แค่คิด ว่าคุณควรคิดให้ดีอีกครั้ง ฉันรู้สึกว่าคุณอาจจะยังไม่ตื่น
“ถ้าผมบอกว่าผมตื่นแล้ว และคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วล่ะ”
“ให้ฉันคิดเกี่ยวกับมันก่อนนะคะ เรื่องแบบนี้ เราต้องเตรี ยมตัวให้พร้อม”
ปยุตพยักหน้า “ได้ ผมให้เวลาคุณคิดสามวัน สามวันให้ หลังค่อยมาให้คำตอบกับผม”
“สามวัน? ” ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “มันไม่น้อยเกินไป
เหรอคะ”
“น้อยเกินไป? คุณจะเอาเวลาสามสิบปีหรือไง”
“สามสิบปี? นั่นมันก็นานเกินไปแล้วนะ…
“ใช่ ดังนั้นผมจึงไม่รังเกียจที่จะให้เวลาคุณคิดอีกหน่อย ผมกลัวว่าพอถึงเวลาเมื่อไหร่คุณจะให้กำเนิดไม่ได้มากกว่า”
“ให้กำเนิดไม่ได้มันเป็นเรื่องเล็กค่ะ แต่ถ้าคุณเปลี่ยนผู้ หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า จากสามเดือนก็ยืดระยะเวลาไป สามสิบปีได้ นั่นคือสิ่งที่สำคัญกว่า”
รอบแรกของสงครามทางวาจา ปยุตจ้องเธอ หลังจากที่ พูดว่าคุณนี่ช่างรู้จักผมเสียจริง ทุกอย่างก็จบลง
เมื่ออิ่มท้อง ทั้งสองคนก็ออกจากร้านอาหาร ผลินดู นาฬิกา มันเป็นเวลาตีสองแล้ว
เธอถอนหายใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่กลายเป็นนก ฮูกกลางคืน ปกติเคยชินแต่กับการมีกฎ มันเป็นนิสัยปกติ ไม่เคยรู้และไม่อยากรู้ว่าหลังจากที่สองแล้วค่ำคืนมันเป็น อย่างไร ตอนนี้เหมือนยืนอยู่บนพื้นดินที่มีแสงจันทร์และ แสงดาวสาดส่องลงมา ทันใดนั้นก็พลันรู้สึกสงบและมันช่างมีคุณค่า
อย่างน้อยก็มีความสงบ ท่ามกลางเมืองที่วุ่นวายเช่นนี้
นั้นช่างหาอยาก
“ดูอะไร ไปเถอะ”
ปยุตเข้าไปในรถแล้ว เห็นผลินยืนโง่มองขึ้นไปบน ท้องฟ้า จึงเตือนเธอก่อนที่เธอจะได้ไปรถบัสแทน
“โอ้ ได้สิ”
เธอรีบเปิดประตูและขึ้นไปนั่ง มองตรงไปข้างหน้า “โอ เคค่ะ ไปกันเถอะ
“นั่นน่ะ”
ปยุตเหลือบมองเธอที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย เธอขี้เกียจ จึงโบกมือปฏิเสธ “ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว ดึก ขนาดนี้ไม่มีตำรวจจราจรแน่ ๆ
“อย่าเชื่อในทักษะการขับรถของผม อย่างที่คุณพูด ผม อาจจะยังไม่ตื่น”
เมื่อเขาพูดจบทันใดนั้นก็โน้มตัวมาข้างหน้า จับมือของ เธอออกก่อนจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ การกระทำนี้ทำให้ เกิดความทรงจําที่คลุมเครือของผลิน เธอนึกถึงครั้งสุดท้าย ที่พวกเขาออกไปทานข้าวด้วยกัน เขาเข้ามาอย่างใกล้ชิดแบบนี้เช่นกัน ครั้งนั้นลูบใบหน้าสมส่วนของเขาอย่างไร้ ยางอายด้วยความเมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่ครั้งนี้ ทำได้แค่กลั้นลมหายใจและทำตัวแข็งทื่อไม่ขยับเขยื้อน
รถเคลื่อนตัวออกจากพื้นดิน ผลินรู้สึกร้อนอบอ้าว เธอ เปิดหน้าต่างรถและพิงศีรษะเล็กน้อย เพลิดเพลินกับความ รู้สึกของสายลม
หลังจากผ่านไปไม่นาน ไม่สามารถยับยั้งความสงสัยเอา ไว้ได้ จึงเอ่ยถามกลับไป “ทำไมถึงเสนอให้มีเด็กคะ”
“เดาดูสิ”
ปยุตเหลือบตามองเธออย่างมีความหมาย
เธอครุ่นคิดสักครู่ และคาดเดาออกมาอย่างไม่แน่ใจ “บางทีคุณอาจจะตกหลุมรักฉัน ต้องการให้ฉันเป็นจุดสิ้นสุด ในการแต่งงานของคุณ
“พระเจ้า” ปยุตร้องไห้ก็ไม่ได้หัวเราะก็ไม่ออก แสดงออก เหมือนถูกฟ้าร้องใส่อย่างรุนแรง
“อะไร ไม่ใช่เหรอคะ”
“เวอร์เกินไปมาก
ผลินกลอกตาไปมาแล้วส่งเสียงโวยวายออกมา “อย่าให้ ฉันเดาเลยค่ะ ไม่งั้นฉันก็อดจะเดาในเรื่องที่เวอร์เกินจริงไม่ได้หรอก ผู้ชายเสนอให้ผู้หญิงมีลูก นอกจากอยากอยู่กับผู้ หญิงคนนั้นตลอดไปเพื่อสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบแล้ว คุณจะต้องการอะไร
“นั่นเป็นความคิดของผู้ชายปกติ แล้วผมเป็นผู้ชายปกติ
หรือไง”
เมื่อปยุคถามคำถามจบ เธอก็พูดไม่ออกเลย ใช่ กับ ผู้ชายที่ผิดปกติ เธอจะใช้วิธีที่ปกติมาคิดวิเคราะห์ได้
อย่างไร
ไม่มีอะไรจะพูดกันแล้วทั้งคู่ก็ต่างเงีย
เมื่อรถเกือบจะถึงบ้าน จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มี ขลุ่ย เพราะคุณฉลาด” “อะไรนะคะ
เล่นเหมือนอยู่ท่ามกลางเมฆหมอก
“ที่คุณถามผมถึงเหตุผลว่าทำไมถึงเสนอที่จะมีลูก และ นี่คือเหตุผล เพราะคุณฉลาดพอ ดังนั้นคุณจึงมีสิทธิ์ที่จะให้ กำเนิดลูกของผม ปยุต ทรัพยสาน
“ถ้าพูดอย่างนั้น คุณก็แค่ต้องการเด็กที่ฉลาด ไม่สนใจ ว่าใครเป็นแม่ของเด็กสินะคะ”
“จะเข้าใจแบบนั้นก็ได้
ผลินหายใจเข้าลึก ๆ มันเป็นคำตอบที่ทำให้เธอไม่มีความสุข ความชัดเจนคือการใช้เธอเป็นเครื่องมือในการ คลอดบุตร
“คุณกำลังประเมินค่าฉันสูงเกินไป ฉันไม่ได้ฉลาดอย่าง ที่คุณคิด คุณสามารถประเมิณได้จากสิ่งที่ฉันเดาผิด”
ปยุตยิ้มออกมาอย่างไม่เห็นด้วย “แม้แต่คนฉลาดก็คาด เดาสิ่งที่คนอื่นคิดไม่ได้หรอก ไม่ใช่ว่าเดาผิดแล้วคนนั้นจะ ไม่ฉลาด แต่คนที่ถูกคาดเดานั้นแปลกเกินไปต่างหาก”
ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันฉลาด เพราะอาชีพครูของฉันคุณ “ จึงคิดว่าฉันฉลาดมากกว่าคนอื่นงั้นเหรอคะ”
“อาชีพคือเหตุผลหนึ่ง แต่มีบางอย่างที่สามารถพิสูจน์
ได้”
“ตัวอย่างเช่น?”
“ตัวอย่างเช่นคุณสามารถขอให้พ่อบริจาคสิบล้านเพื่อการ
กุศล”
ผลินลูบหน้าผากพลางถอนหายใจยุ่งเหยิงและกล่าวว่า “นั่นไม่ฉลาดค่ะ มันคือการใช้กลอุบาย เป็นพฤติกรรมที่น่า กลัว”
“การใช้กลอุบายได้มันก็ต้องฉลาดที่จะเล่น
“มันไม่ได้เป็นวิธีที่ดีในการศึกษา ในฐานะพ่อแม่ส่วนใหญ่ต้องการให้เด็กเป็นคนจริง เปิดเผยและตรงไปตรงมา
“ความหวังของคนส่วนใหญ่ไม่ใช่ตัวแทนของปยุต ทรัพย สาน ลูกหลานของตระกูลทรัพยสาน เขาถูกลิขิตให้เกิดมา รับภาระอันหนักหน่วงของตระกูล แน่นอนว่าหมายถึงการ ขาดสติปัญญาไม่ได้
ผลินไม่มีอะไรจะพูดอีก ดูเหมือนว่า ถ้าโต้แย้งในเรื่องที่ จริงจัง เธอก็เทียบไม่เห็นฝุ่นด้วยฝีมือห่างไกลกันเกินไป
เมื่อรถหยุดลง ทั้งสองก็ลงจากรถ ปยุตเดินนำหน้า ผลิน
เดินตามหลัง
จู่ๆ เขาก็หันมาและเอ่ยเตือนอย่างเย็นชา
อ่า.. อีกครั้งที่ผลินพูดไม่ออก ต้องจู้จี้จุกจิกขนาดนี้เลย หรือไม่ ไม่อนุญาตให้เดินเคียงข้างกัน แม้แต่เงาก็ห้าม เหยียบ เธอเริ่มจินตนาการไปถึงว่าถ้าต้องให้เด็กกับผู้ชาย คนนั้น ไม่แน่ว่าเด็ก ๆ อาจจะ ไม่เข้าใจความหมายว่าอะไร คือคุณธรรม…
“ฉันมีคำถาม ถ้ามีเด็กจริง ๆ ฉันจะเป็นยังไงคะ”
ปยุตเหมือนว่าจะไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร เธอจึง เปลี่ยนวิธีอธิบาย “หมายถึงว่าคุณจะจัดการฉันยังไงคะ
“คุณน่ะเหรอ” เขายักไหล่ “มาทางไหน ก็กลับไปทาง
นั้น”
“ไม่ได้นะ ใจคุณจะปล่อยให้เด็กไม่มีแม่หรือไง”
ผลินไม่มีอะไรจะพูดอีก ผู้ชายคนนี้เป็นคนแบบไหนกัน
แน่
“จะเป็นอะไรไปถ้าไม่มีแม่ ชนัยไม่มีทั้งพ่อและแม่ก็ไม่ เห็นว่าจะโตขึ้นมาไม่ได้ แถมไอคิวก็ไม่ต่ำกว่าใคร
“.……….” คำพูดที่ไม่คาดคิด เกินครึ่งประโยคก็มากเกินไป
ขึ้นไปข้างบน ก่อนที่ผลินจะเข้าไปในห้องลับ ก็คิดอย่าง ไม่เต็มใจ แล้วหันกลับไปถาม “คุณเคยมีภรรยาที่เป็นคน โง่มาก่อนหรือไม่ก็คนที่ฉลาด ที่ไม่อยากให้ลูกกับคุณหรือ ” เปล่า
“ไม่แน่ใจว่าโง่ไหม ผมไม่ได้สัมผัสพวกเธอมากนัก มีแค่ คุณที่พิเศษกว่าคนอื่น
ผลินหัวใจเต้นแรง แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วเอ่ย ถามต่อ “ฉันมีอะไรที่พิเศษเหรอคะ”
“ไม่น่ารำคาญ เข้ากันได้ดีและไม่เป็นภาระ ดังนั้นมันจึง ค่อนข้างใกล้เคียง
ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดก็มีคำพูดที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น
“บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องราวของอดีตภรรยาคุณได้ไหม ฉัน สงสัยมาตลอด”
ผลินรีบวิ่งไปตรงหน้าปยุต กับความสัมพันธ์ของพวกเขา คืนนี้ มีบางอย่างที่ลอยอยู่ในอากาศ ทำให้เธอมั่นใจที่กล้า จะท้าทายเส้นความอดทน
“ผมรู้จักคุณดีพอแล้วเหรอ คุณมานั่งบนเตียงของผมได้ แล้วหรือไง”
“ฉันจะเป็นแม่ของลูกคุณในอนาคตนะ ไม่พอเหรอ พูดมา
สิ พูดมา”
“พอได้แล้ว อย่าได้คืบจะเอาศอก กลับไปที่ห้องของคุณ
ปยุตตัดสินใจออกคำสั่ง แต่ผลินไม่สนใจ ยังคงรบกวน เขาอย่างไม่หยุดหย่อน
ถูกครอบงำด้วยความใจร้อนของเธอ เขาถอดเสื้อผ้า ออกและนอนลงบนเตียง ตบมือลงที่ว่างข้าง ๆ เขา และ กล่าวว่า “ถ้านั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน งั้นก็มานอนนี่ พวกเราพูดในขณะที่ทำไปด้วยดีกว่า”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ