ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 35 ชายปากร้าย



ตอนที่ 35 ชายปากร้าย

เชื่อจริงของคุณนายท่านคือดนุชา เกิดในครอบครัวที่ มีชื่อเสียง ธรรศเป็นลูกของพี่ชายคนรองของเธอ ในหมู่ พี่น้องมากมาย เธอสนิทกับพี่ชายคนรองมากที่สุด และ แน่นอนว่าหลานชายคนนี้ก็เป็นที่รักยิ่ง แต่หลานชายก็ ทำลายความสุขของลูกชายเธอ ตัวเธอเองที่เป็นอา ไม่ว่าจะ เป็นอารมณ์ความรู้สึกหรือสถานะ มันทั้งยากและเจ็บปวดที่ คนอื่นไม่มีวันจะเข้าใจ

“ถ้าอย่างนั้นการที่ลูกชายของคุณแต่งงานและหย่าอยู่ บ่อยครั้ง มันก็คือการเล่นเกมจิตวิทยาใช่ไหมคะ เขาแค่ อยากแก้แค้นผู้หญิงเพราะว่าเคยถูกทิ้ง” “ใช่จัะ การที่ถูก จันทรและธรรศทรยศหักหลังทำให้เขาประสบปัญหาทาง จิตอย่างรุนแรง ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เป็นโรคที่เรียกว่า PTSD ซึ่งรู้จักกันทั่วไปคือ Post-Traumatic Stress Disorder สภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบ กระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง ส่งผลให้เกิดความเครียด สูง เขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากมานานมากแล้ว เราที่เป็น ครอบครัวของเขาก็ยากลำบากไม่ต่างกัน เขาปล่อยตัวเอง ไม่เคยนอนหลับสนิทสักคืน ทุกครั้งที่หลับตาลง ก็จะเห็นผู้ หญิงที่เขารักทั้งเขาไป.”

“ไม่พาเขาไปพบแพทย์เหรอคะ”

ดวงตาของผลินเปียกชิ้นจู่ๆ เธอก็ตระหนักได้ว่าตัวเอง ได้ทำเรื่องที่ผิดพลาดลงไปอย่างไม่น่าให้อภัย
“เขามีปัญหาทางหัวใจ สามารถรักษาได้ด้วยหัวใจเท่านั้น คุณพ่อของเธอได้เชิญจิตแพทย์ที่ดีที่สุดจากต่างประเทศมา ดูอาการเขา ในช่วงสองปีนี้เขามีอาการน้อยมากจนพวก เราคิดว่าเขาจะไม่เป็นอะไรแล้ว คิดว่ามันคงถึงจุสิ้นสุดที่ ดีแล้วแต่ก็ไม่ตายคิดว่ามันจะกลับมาอีก

คุณนายท่านสะอื้นหนักขณะที่พูด ฟอแม่ทุกคนบนโลก ใบนี้ช่างน่าสงสารนักการที่ต้องเฝ้าดูลูกชายของดัวเองไม่ สามารถออกมาจากเงามีได้ในฐานะคนเป็นแม่อย่างเธอจะ ไม่รู้สึกเจ็บปวดได้อย่างไรกัน

“คุณแม่คะ ฉันขอโทษ

ผลินกับศีรษะต่ำลงด้วยความรู้สึกผิด “ทั้งหมดมันเป็น ความผิดของฉันเอง ฉันพูดบางอย่างที่ไม่ควรพูดกับเขา…

เธอพูดว่าอะไรเหรอ”

เธอบอกความจริงกับแม่สามีของเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อแม่สามีได้ฟังก็ไม่คิดโทษตำหนิเธอกลับปลอบเธอ แทน

ไม่เป็นไรจะ มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก เราเองที่ไม่ ดีเราไม่ควรปิดบังเธอมาตั้งแต่ต้น เธอเป็นผู้หญิงที่ดี ถ้ารู้ว่า เขาเคยผ่านเรื่องเจ็บปวดแบบนั้นมา เชื่อว่าเธอจะไม่ใช้คำ พูดที่รุนแรงแบบนั้นแน่

แม่สามีแล

ะไภ้พูดคยกันอย่างนานห้องของตน แม้ว่าผลินจะเหนื่อยแต่เธอก็ไม่รู้สึกอยากนอน เธอเดินตรงไปยังข้างเตียงของปยุต เมื่อมองใบหน้าในยาม หลับของเขา มันก็ยากที่จะจินตนาการว่าผู้ชายที่เย่อหยิ่งมี ความภาคภูมิใจในตนเองเช่นนี้จะมีอดีตที่ตกต่ำถึงเพียงนั้น

ทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เขาและขอโทษอีกครั้ง “ฉันขอโทษ นะคะ ฉันไม่รู้ว่าคุณถูกผู้หญิงที่คุณรักทรยศหักหลังจน บิดเบือนความหมายของคุณ คิดว่าคุณหมายถึงแม่ของฉัน ฉันมันแย่จริง ๆ ที่พูดว่านั่นเป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับ”

ผลินรู้สึกผิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เธอเอื้อมมือออกไป สัมผัสที่หน้าผากของปยุต มันชั้นเล็กน้อย ลุกขึ้นเดินเข้าไป ในห้องน้ำ บิดผ้าขนหนูพอหมาด เช็ดเอาคราบเหงื่อออกให้ เขาด้วยความระมัดระวัง

ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่หนักมาก อย่างน้อยก็สำหรับผลิน มันหนักเหมือนติดอยู่ในความไม่แน่นอนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เข้าใจแล้วว่าปยุตมีบาดแผลในหัวใจ เธอเริ่มคิดทบทวนว่า มันอาจจะโหดร้ายเกินไปที่เลือกเขามาเพื่อแก้แค้น

จิตสำนึกเริ่มพร่าเลือนในช่วงเวลาที่ปิดเปลือกตาลง เธอ คิดเพียงอย่างเดียวว่าจะต้องทำเช่นไรถึงจะหลีกเลี่ยงการ บาดเจ็บของเขาอีกครั้งได้ นั่นคืออย่าให้เขาตกหลุมรักเธอ ตราบใดที่ไม่มีความรู้สึก ไม่ว่าจะผิดหวังแค่ไหนหัวใจก็จะ ไม่เจ็บปวด

ก่อนรุ่งสาง เขาหลุดพ้นออกจากความฝัน นอนหลับ

สบายตลอดทั้งคืน ดังนั้นเขาจึงลืมว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะนอน

เพราะดื่มเข้าไปมากในงานเลื้องเมื่อคืนจึงปวดศีรษะเล็ก น้อย เขาลุกขึ้นนั่ง และพยายามที่จะลุกจากเตียงเพื่อไปดื่ม น้ำ

เมื่อขยับเขยื้อนร่างกายก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ข้าง ๆ เขาขยับศีรษะเพื่อเรียกสติให้ตัวเองตื่น เมื่อเหลียวมอง ก็พบกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงมานอนอยู่บนเตียงของ

เขา..

“นี่ ตื่น ตื่นได้แล้ว”

เขาผลักเธออย่างไม่อ่อนโยนและเอ่ยถามด้วยความไม่ พอใจ “คุณมานอนที่นี่ได้ยังไง อย่าบอกนะว่าคุณละเมอน่ะ!”

เธอมองเขาด้วยความหวาดกลัวเนื่องจากนึกถึงเรื่องเมื่อ คืน แล้วเอ่ยตอบ “ฉันมานอนที่นี่เพราะไม่ระวังเอง”

ที่ ไม่เคยจะได้ยินเหตุผลอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ปยุต หัวเราะเยาะ “วันนี้เผลอมานอนบนเตียงของฉัน แล้วพรุ่งนี้ คุณจะบังเอิญไปที่เตียงของผู้ชายคนอื่นหรือเปล่าล่ะ”

ถ้าเขาไม่ได้มีรอยช้ำที่ข้อมือ ผลินก็อาจจะคิดว่าเมื่อ คืนเป็นแค่ความฝัน ผู้ชายที่ดูเหมือนจะทรมานจากอาการ PTSD มันเป็นลิ้นที่เป็นพิษ ถ้าไม่ได้วางยาคนก็คงไม่ยอม

หยุด
“คุณไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมคะ” เธอสอบถามรายละเอียด

“ผมจะต้องเป็นอะไร”

ปยุตเลิกคิ้ว หลงลืมอาการป่วยที่เกิดขึ้นกับตน

“คุณจำอะไรไม่ได้เลยเหรอคะ”

ผลินเอ่ยเตือนความจำอย่างอ่อนโยน “เมื่อคืนคุณ ควบคุมตัวเองไม่ได้…”

“เมื่อคืนนี้ผมทำอะไรคุณหรือไง”

เมื่อรู้ว่าเขาเข้าใจผิดเธอจึงส่ายหน้าปฏิเสธ “มันไม่ใช่ อย่างที่คุณคิดค่ะ คือ…”

“ถ้าไม่ใช่อย่างที่ผมคิดงั้นเรื่องอื่นมันก็ไม่สำคัญ”

เลิกผ้าห่มออกและลุกออกจากเตียง เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า และสั่ง “ออกไป ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”

“ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้วค่ะ”

หลังจากที่ผลินชั่งใจ เธอก็ตัดสินใจสารภาพกับเขา

“ร้อะไร?”

“อดีตของคุณ”
ชั่วขณะหนึ่ง ปยุตหยุดยืนนิ่งโดยไม่เคลื่อนไหว มัน เหมือนร่างกายสูญเสียวิญญาณไปจนไม่สามารถเอ่ย ประโยคที่สมบูรณ์ได้

“งั้นก็ดีสิ คุณก็จะได้ยื่นฟ้องหย่าต่อศาลและได้รับเงิน ชดเชยมากมาย แถมยังทิ้งผมได้อย่างเปิดเผย” “ฉันจะไม่ ไป ถึงแม้ว่าคุณเป็นปีศาจก็ไม่ไปเด็ดขาด”

ผลินพูดมันออกมาจากหัวใจ ไม่เกี่ยวกับความเห็นแก่ตัว ในเวลานี้แม้ว่าจะไม่มีความรัก เขาก็ไม่ควรถูกผู้หญิงทั้งไป อีก

เพราะเช่นนั้นแล้วมันจะทำให้เขานึกถึงผู้หญิงที่จากไป

คุณแม่สามีบอกว่า ในภรรยาทั้งเจ็ดคน เธอเป็นคนแรกที่ ทำให้เขามีอาการป่วย

“ตอนนี้คุณก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว คุณไม่กลัวหรือไงว่าวัน หนึ่งผมจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วฆ่าคุณ”

จู่ๆ ปยุตก็หันกลับมา แล้วกระชากเข้าที่ข้อมือขวาของ

เธอ

“รอยฟกช้ำแบบนี้ ถ้าคุณยังยืนยันที่จะอยู่ ต่อไปมันจะ ไม่ใช่จุดเล็กน้อยแค่นี้

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะฉันไม่สนใจ อีกอย่างคุณไม่จำเป็นต้อง ทำร้ายฉัน เมื่อคืนคุณยังบังคับให้ฉันอยู่ห่างจากคุณเลย นั่นอธิบายได้ว่าในจัตใด้สำนักคุณไม่ได้ต้อหารที่จะทำข้าย โคร

มีคนประเภทหนึ่ง สังแม้ว่าคุณจะสามารถอ่านควานคิด โดยผ่านจัดใจของเขา แต่เขาก็ยังพยายามที่จะปกปัตตัวเaง เขาไว้

ปูเตเป็นคนแบบนั้น เขาโกรธลีนมาทันคารามฮaกมา “aอย่ามาทำเป็นสงสารเห็นอกเห็นใจผม ผมไม่ต้องการมัน!

“ตะฉันสงสารคุณพาศ แต่เพราะฉันรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เสิต ขั้นกับคุณ ไม่ใช่เพราะสงสารตัวคุณพรanนะคะ”

มันก็เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะสงสารaะไรส้าผมขอกว่าไม่ ต้องก็คือไม่ต้อง ตอนนี้เก็บของแล้วออกไปจากที่นี่ซะข้อ ธสินสำหรับการหย่าร้างผมจะส่งคนไปที่บบ้านของงคุณแaง

ผลินเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มันจำเป็นที่จะต้อง จริงจังขนาดนี้เลยเหรอคะ ฉันไม่ได้ท้าอะไรผิด ก็แค่รู้อดีด ของคุณโดยบังเอิญเท่านั้นเอง”

“แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ผมไม่อยากคุยกับคนที่รู้ว่าผมถูกผู้ หญิง ทั้ง และคิดว่าผมน่าสงสารก็เลยต้องอยู่ด้วย”

ในขณะที่ปยุตพูดแบบนั้นสีหน้าของเขาเศร้ามากใน สายตาของผลิตมันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถอธิบาย

ได้
เมื่อเขากำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ ทันใดนั้นผลินก็ก้าว เข้าไปอย่างรวดเร็วและกอดเขาไว้จากด้านหลังพลางพูดว่า “บวงที่คุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ แต่เมื่อเทียบกับคนที่ เป็น PTSD แล้ว คนที่เป็นโรคกลัวที่แคบอย่างฉันก็ไม่ได้ดี ไปกว่ากันเลย”

ปยุตหยุดกะทันหัน เธอรู้สึกได้ถึงความแข็งเกร็งของ ร่างกายของเขา ทั้งสองตกอยู่ในสถานการณ์เงียบงัน หลัง จากผ่านไปสักพักผลินเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบ “สิ่ง ที่ฉันพูดเป็นความจริงไม่ใช่เพื่อปลอบใจคุณหรือโกหกเพื่อ ความสบายใจของคุณนะคะ ฉันเป็นโรคกลัวที่แคบ กลัวถูก ขังอยู่ในที่มืด กลัวความรู้สึกสิ้นหวังหมดหนทางซึ่งแม้จะ ร้องไห้ทุกวันหรือต่อให้ตะโกนออกไปก็ไร้ประโยชน์ เช่นนั้น แล้วฉันจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องมาเห็นใจสงสารคุณในเมื่อ ฉันก็ยืนอยู่ในจุดเดียวกับที่คุณยืนอยู่ ได้โปรดเชื่อเถอะค่ะ ว่าที่จริงแล้วเราต่างก็เหมือนกัน”

เขาถอดแหวนออกจากมือที่อยู่ตรงช่วงเอวของเขา โดย ไม่ถามเหตุผลที่เธอป่วยเป็นโรคกลัวที่แคบ ไม่ได้ถามอะไร เลย และเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างเงียบ ๆ

ผลินรออยู่ที่ประตู เมื่อเขาออกมา ทั้งคู่ก็ต่างก็มองจ้อง กัน และเขาก็พูดขึ้นว่า “คุณมีสิทธิที่จะเลือก แต่ไม่มีใครจะ รับผิดชอบต่อทางเลือกนั้นของคุณ”

โดยความหมายแล้วเธอสามารถเลือกที่จะอยู่ แต่หลัง จากอยู่ที่นี่แล้วมันจะดีหรือไม่ดีก็ไม่เกี่ยวกับใคร
เมื่อถึงเวลาทานอาหารเช้า บรรยากาศในโต๊ะอาหารนั้น เลวร้ายมาก ทุกคนต่างเงียบ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ ไม่มีใครพูดถึงมัน

ปยุตทานไปเพียงแค่เล็กน้อย และอ้างว่าที่บริษัทมี ประชุมต้องไปก่อน แล้วจึงลุกออกจากที่นั่งไป ทันทีที่เขา จากไปทั้งครอบครัวก็ไม่ทานต่อ คุณนายท่านสั่งให้คนรับใช้ นำจานอาหารไปเก็บ แล้วพูดกับลูกสะใภ้ว่า “หนูลินมาคุย กับแม่หน่อยจะ”

ผลินเดินตามแม่สามีไปที่ห้องนั่งเล่นและนั่งลง น้องสามี เองก็มาด้วยกัน

“ตอนนี้เธอรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับลูกชายฉันแล้ว เมื่อคืนนี้ เธอคงคิดเกี่ยวกับมันอยู่นาน บอกแม่สิจ๊ะว่าเธอคิดยังไง”

แม่สามีเป็นกังวลมากเธอรู้ดี จึงให้คำตอบที่แน่นอนกลับ ไป “ฉันจะไม่ทิ้งเขาไปค่ะ”

“จริงเหรอจ๊ะ”

“จริงค่ะ”

“ถึงแม้ว่าเขาจะทำร้ายเธอ ทอดทั้งเธอ ก็จะไม่จากไปใช่

ไหม”

“ใช่ค่ะ จะไปจากไป”
คุณนายท่านถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วจึงสำทับ ต่อ “ถ้าอย่างนั้นเธอสัญญากับแม่อย่างหนึ่งได้ไหม”

“อะไรเหรอคะ”

“เธอจะมีลูกให้กับเราทันทีเลยได้ไหม เด็กเป็นความ ผูกพันที่ทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ ตราบเท่าที่เธอสองคนมีลูก แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลย แต่สักวันหัวใจของเขาจะ เปิดให้กับเธอ”

“คือว่า…” ผลินตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“มันยากมากเลยเหรอ” คุณแม่สามีผิดหวังเล็กน้อย

น้องสามีที่เอาแต่เงียบในคราแรกพูดขึ้นโดยที่ไม่คิด “แม่คะ นั่นเป็นสิ่งที่ยากที่สุด การมีลูกไม่ใช่เรื่องของคนคน เดียว พี่สะไภ้ก็สัญญาแล้วว่าจะไม่ทิ้งพี่ชาย แม่ยังจะรีบให้มี หลานให้อีก ที่บอกว่าไม่ยากนี่คิดว่าพี่สะไภ้แข็งแรงกว่าพี่ ชายฉันอย่างนั้นเหรอคะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ