ตอนที106 โกรธ
เกิดความเงียบขึ้น เงียบสงัดดั่งความตาย หลังจากผ่าน ไปเป็นระยะเวลานาน ปยุตก็เปิดปากพูดเพื่อทำลายความ เงียบ
“บางทีคำตอบอาจจะไม่สำคัญกับคุณ แต่มันสำคัญสำหรับ ผม ถ้าผมไม่แก้ปมนี้ ผมคงจะรู้สึกไม่เต็มใจไปตลอด ชีวิต” ทันใดนั้นผลินก็พูดขึ้น ใช้มือผลักเขาออกไป”คุณไม่เต็มใจ ที่จะถูกคนอื่นทรยศหักหลัง หรือผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ เป็น ภรรยาของคุณ?”
“ผลิน!”
ปยุตโกรธเล็กน้อย ทำไมคุณต้องบิดเบือนความหมาย ของผม คุณเองก็รู้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหมายถึงเลย”
“ขอโทษด้วย แต่ที่ฉันเข้าใจทั้งหมดมันหมายถึงอย่างนั้น คุณไม่ต้องปฏิเสธ ยังไงการแต่งงานของคุณปยุต ทร พย สานมันก็ง่ายดายไม่ต่างจากการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเหวี่ยง ทิ้ง คุณสามารถเหวี่ยงฉันทิ้งได้แล้วก็พาเธอกลับมา!”
“อย่าพูดไร้สาระ!
ปยุตโกรธแล้วจริง ๆ เขาโน้มตัวไปข้างหน้ากับร่างกายที่ แข็งแกร่งของผู้ชายเพื่อกดเธออย่างหนัก มันเป็นเรื่อง ง่าย ที่จะทำให้เธออ่อนแอลง แผดเผาลมหายใจของเธอ ทำให้ เธอตัวสั่นด้วยความกลัว
“อย่าพูดแบบนั้นอีก…
เมื่อเธอได้ยินเสียงของเขา สัมผัสถึงลมหายใจของเขา เป็นครั้งแรกที่ตัวแข็งทื่อ หลังจากนั้นก็เกิดอาการสั่นเทา อย่างรุนแรง เหมือนดอกไม้ที่ถูกกลั่นแกล้งในพายุที่โหม กระหน่ำ อ่อนนุ่มและเปราะบาง และเมื่อปยุตเริ่มขบกัด ติ่งหู ของเธอ เมื่อนั้นจึงเริ่มดิ้นรน ปล่อยฉันนะ! คุณปล่อยฉัน เดี๋ยวนี้! ไปหาจันทรสิ ฉันไม่ถือสาหรอก ไปหาเธอ เดี๋ยวนี้ เลย!”
“อย่าพูดถึงชื่อของเธออีก!”ชายบนร่างกายส่งเสียงหนัก กดเธออย่างแรงให้อยู่ภายใต้ร่าง จับเรียวขายาวสวย อ่อน นุ่มของเธอไว้ แล้วตบลงบนสะโพกขาวอมชมพูของเธอ เพื่ ยะ! “ผมบอกแล้วไงว่า ตอนนี้คุณเป็นภรรยาของ ผม!”
“แต่ที่อยู่ในใจคุณไม่ใช่ภรรยาของคุณ”ผลินพยายาม กระเสือกกระสนดิ้นรนต่อไป ปกเสื้อค่อย ๆ แหวกออก เพราะการเคลื่อนไหวที่รุนแรง คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉัน เกลียดคุณ!”
เมื่อปยุตได้ยินคำว่า ‘ฉันเกลียดคุณ’ก็เริ่มโกรธจนไฟ ม อกอีกครั้ง จับเธอที่ดิ้นหนีพลิกตัวมาหาแล้วลากเข้าสู่ อ้อม แขน ก้มหน้าลงและกดจูบปากเล็กที่ยั่วยวน
เขาจูบซับน้ำตาของเธอ ฝ่ามือใหญ่บีบเข้าที่เอวบางของ เธอด้วยแรงที่มี เพื่อต้องการหยุดเอวเล็กของเธอที่ไม่ เชื่อ ฟัง
เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่สามารถเห็นหน้าเขา ได้อย่างชัดเจน แต่ก็เห็นความปรารถนาอันแรงกล้าในสระ น้ำลึกทั้งสอง ทั้งร้อนแรง สว่างไสว นั่นทำให้เธอสั่น
ร่างกายค่อย ๆ นิ่งลง สติของเธอเริ่มสับสนกับหัวใจที่ ไม่จริงใจ เธอเกลียดผู้ชายคนนี้จริง ๆ แต่เธอก็รักผู้ชายคนนี้ มาก
หลังจากความรู้สึกที่ท่วมท้น เธอก็ได้สติ ร่างกายเต็มไป ด้วยความเจ็บปวดที่ยังไม่หายไป ความเจ็บปวดและ อาการ ชาของผลกระทบที่หว่างขายังคงอยู่
เสียงเปิดประตูดังขึ้น ปยุตนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออก มา เส้นผมสั้นเปียกโชก สัมผัสริมฝีปากบางแผ่วเบา
“ผมจะอุ้มคุณไปอาบน้ำ…
ผลินลุกขึ้นมา ดวงตาสวยว่างเปล่า ไม่ให้เขาอุ้ม เดินเข้า ห้องนําไปด้วยตัวเอง
เธออยู่ในอ่างอาบน้ำ เป็นระยะเวลานานก็ยังไม่ออกไป
คิดไตรตรองอยู่นาน ตัดสินใจที่จะนัดพบกับธรรศ กด เบอร์โทรออกที่เขาทิ้งไว้ให้เธอ ธรรศไม่ปฏิเสธ และตอบ ตกลงกับเธอ
เย็นวันรุ่งขึ้นที่ร้านกาแฟ ผลินนัดเจอเขา เขาใส่กางเกง หนังกับกีตาร์ขนาดใหญ่บนไหล่ ดูเหมือนว่ากำลังจะไปแสดงหรือไม่ก็แสดงจบไปแล้ว
เมื่อมองเขาจากระยะไกล ต้องยอมรับว่าธรรศเป็นผู้ชาย ที่ดูดี ถ้าจันทรไม่ได้ทิ้งปยุตด้วยเหตุผลอื่น การตกหลุมรัก ผู้ชายแบบนี้ มันก็เป็นไปได้เช่นกัน
“รอนานไหมครับ” ธรรศนำกีตาร์ออกจากตัว ส่งรอยยิ้มที่ สดใสดั่งดวงอาทิตย์ให้กับผลิน
“ไม่นานหรอกค่ะ ดื่มอะไรไหมคะ”
ผลินหยิบเมนูกาแฟส่งให้เขา
“คาปูชิโน่ครับ”
ธรรศเหลือบมองจนเลือกสุ่มมาหนึ่งเมนู เธอเรียก พนักงาน“คาปูชิโน่สองแก้วค่ะ”
“มีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”
ธรรศเริ่มสอบถามรายละเอียด
“คุณพาฉันไปหาคุณจันทรได้ไหม ฉันมีบางอย่างจะพูดกับ
เธอ”
เขาเงียบไปชั่วขณะ แล้วจึงส่ายหน้า “ขอโทษด้วย ผม ทำแบบนั้นไม่ได้”
“ทำไม คุณน่าจะรู้ว่าญาติของคุณกำลังตามหาเธออยู่ หรือ คุณอยากให้เขาตามหาเจอก่อนล่ะ
“เขาจะไม่มีทางเจอ”
ธรรศมั่นใจมาก
บริกรนำกาแฟมาเสิร์ฟ ผลินยกขึ้นดื่มทันที แต่ถ้ากลับ มาแล้ว ทำไมต้องซ่อนตัวจากใคร เธอต้องการอะไรกัน แน่”คุณกับเธอไม่ควรมีปฏิสัมพันธ์พบเจอกันได้อย่างอิสระ
“หมายความว่ายังไง คุณคิดว่าถ้าฉันเจอเธอแล้วจะทำร้าย เธองั้นเหรอ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น
“ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น แล้วทำไมฉันเจอไม่ได้ ฉันก็แค่อยากจะ คุยกับเธอ”
ธรรศถอนหายใจเล็กน้อย“ขอโทษด้วยจริง ๆ จันทรไม่ อยากเจอใคร หากเธอต้องการเจอทุกคน เมื่อถึงเวลาพวก คุณก็จะเจอแน่นอน
ผลินเห็นเขายืนกราน ก็ถามครั้งสุดท้าย“มันเป็นไปไม่ได้ จริง ๆ น่ะเหรอ”
อม”
เขาปฏิเสธอีกครั้ง
“โอเค ในเมื่อมันไม่สะดวกจริง ๆ ฉันก็จะไม่ทำให้คุณ ลำบาก”
ผลินหลุบตาลงและดื่มกาแฟ ใบหน้าไม่สามารถซ่อน ความเศร้าโศกและหดหู่ได้
และหลังจากแยกจากธรรศ เธอเดินอยู่คนเดียวบนท้อง ถนน ยังไม่อยากกลับบ้านในตอนนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ใด ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อ ของเธอดังเข้ามาในโสตประสาท…
“หนูลิน หนูลิน”
เธอหันมองโดยรอบอย่างสงสัย ทันใดนั้นก็เหลือบไป เห็นคนที่เรียกเธอ นั่นคือทัตดาแม่ของไวภพ
ทัตดาโผล่ศีรษะออกมาทางหน้าต่าง ยิ้มและโบกมือ ให้เธอ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะตัดสินใจไปแล้ว ว่าจะไม่มี ส่วน เกี่ยวข้องกับคน ๆ นี้อีก แต่เมื่อต้องมาเจอกันบนถนน โดยบังเอิญ ตามมารยาทแล้ว ก็ไม่สามารถแกล้งทำเป็นไม่ สนใจและเดินจากไปได้
เธอเดินไปที่รถของเธอ ทักทายอย่างสุภาพ“คุณป้าคะ บังเอิญจัง”
ทัตดาลงจากรถ ดูเหมือนว่าดีใจที่ได้เจอเธอใช่ค่ะบังเอิญจัง”เหลือบมองมือเปล่าของเธอ และสอบถาม เพิ่ม เติมไปช็อปปิ้งมาเหรอคะ”
“เปล่าค่ะ เพิ่งไปเจอเพื่อนมาน่ะ ตอนนี้ก็กำลังจะกลับบ้าน ค่ะ”
“ไม่ได้ขับรถมาเหรอคะ”
“O”
“ที่บ้านไม่มีเรื่องอะไรใช่ไหมคะ ทำไมพวกเราไม่ไปทาน ข้าวด้วยกันล่ะ”
ผลินกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วันนี้เราจะไปทานข้างนอกกัน ฉันรู้มา ว่าในเมือง B มีร้านอาหารหูหนานแท้ ๆ อยู่ด้วย ทำไม เราไม่ ไปทานที่นั่นกันล่ะคะ”
“ฉัน…
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่มองเธอด้วยความคาดหวัง ผลินจึงไม่สามารถหาเหตุผลเพื่อมาปฏิเสธได้
“เอาล่ะ อย่าลังเลอีกเลยนะคะ แค่ทานข้าวด้วยกันเอง มัน ไม่ใช่เรื่องยากนี่ใช่ไหมคะ”
ทัตดาจับมือเธอพลางพึมพำอย่างไม่พอใจ มองดูเหมือนเป็นเด็กเล็ก
อีกฟากฝั่งของถนน รถหรูกำลังเคลื่อนตัวไปช้า ๆ คุณนายท่านสวมชุดหรูหรานั่งอยู่ในนั้น เธอกำลังพักสายตา จู่ ๆ คนขับรถก็พูดขึ้นว่า อ้าว นั่นไม่ใช่คุณนายน้อยเหรอ ครับ
หญิงชราลืมตาขึ้นช้า ๆ มองตามไป ในตอนนี้เอง ใบหน้าก็ซีดเผือดลงต้องการให้ผมขับรถไปตรงนั้นไหม ครับ”
คนขับรถเอ่ยถาม
ไม่ต้องหรอก”
เธอส่ายหน้าอย่างมีความหมาย จ้องทั้งสองคนที่พูดคุย ในสายตา หัวใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ในที่สุดผลินก็รู้สึกไม่ดีที่ต้องตอบรับคำเชิญของทัตดา อีกครั้ง มาที่ร้านอาหารหูหนานกับเธอ ทัตดาสั่งอาหารมา เต็มโต๊ะ เห็นผลินไม่เจริญอาหารทานอย่างเหม่อลอย จึง ถามอย่างสงสัย หนูลิน ทำไมทานน้อยจังล่ะคะ มีอะไร ใน ใจหรือเปล่า
ผลินรีบส่านหน้าไม่มีอะไรค่ะ”
“ฉันเห็นสีหน้าของหนูดูไม่ค่อยดีเลย อยากไปโรง พยาบาลไหมคะ”ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อาจจะเพราะเมื่อคืนไม่ค่อยได้พักผ่อนน่ะ
“ถ้าอย่างนั้นก็ทานไปอีกเยอะ ๆ ไม่ต้องเกรงใจนะคะโต๊ะนี้ ป้าสั่งมาเพื่อคุณ”
“อืมค่ะ”
ทางด้านตระกูลทรัพยสานก็มีเมฆหมอกแห่งความ หม่นหมองปกคลุม แน่นอนว่ามันเป็นเพราะคุณนายท่านที่ เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
“คุณแม่คะ หนูพูดอะไรกับคุณแม่อยู่รู้ไหมเนี่ย ทำไมถึงไม่ สนใจหนูเลย”
ปาณีบ่นและมองไปยังแม่ที่กำลังมีเรื่องให้ต้องกังวล
คุณนายท่านถามกลับมา “พูดว่าอะไร
“คุณแม่ไม่ฟังหนูเลย น่ารำคาญจริง ๆ ลืมมันซะเถอะ ไม่ ต้องพูดอะไรอีกแล้ว เอาเป็นว่าคุณแม่กับคุณพ่อก็วางใจ พี่ ชายของฉันได้แล้วก็แล้วกันค่ะ”
ปาณีออกจากบ้านไปอย่างหดหู่ มาพูดกับแม่เกี่ยวกับคน ที่ตัวเองรัก เพราะอยากให้แม่ช่วยให้สมหวัง
ใช้เวลาอยู่นานเพื่อรวบรวมความกล้าหาญที่จะพูดมัน ออกมา แต่ผลลัพธ์คือแม่ไม่ฟังเลย
ผลินไม่ได้กลับบ้านจนถึงสามทุ่ม ในช่วงเวลาปกติ คุณ แม่จะพักผ่อนไปแล้ว แต่คืนนี้ยังคงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น โดยไม่คาดคิด ดูเหมือนว่ากำลังรอใครบางคนอยู่
“คุณแม่คะ ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“อืม หนูลินเธอมาที่นี่หน่อยจ้ะ แม่มีบางอย่างจะถามเธอ”
คุณนายท่านโบกมือให้ลูกสะไภ้ ผลินเชื่อฟังและนั่งลง ถามอย่างสงสัย มีอะไรเหรอคะ”
“ไปทานอาหารที่ไหนมาเหรอจ๊ะ”
“ทานข้างนอกกับคนรู้จักค่ะ”
“คนรู้จักนั่นชื่อทัตดาใช่ไหม”
ผลินดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“คุณแม่ คุณ แม่รู้ได้ยังไงคะ”
มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นในแววตาของคุณนายท่าน
“เมื่อช่วงบ่ายฉันเห็นพวกเธอน่ะ”
“คุณแม่รู้จักคุณป้าทัตดาด้วยเหรอคะ”
“อืม เคยรู้จักกันมาก่อนน่ะ”
“ถ้าอย่างนี้ ดูเหมือนว่าที่ฉันรู้จักกับเธอก็เป็นโชคชะตาส คะ เพราะลูกชายของเธอก็เป็นครูใหญ่ของโรงเรียนที่ฉัน สอนอยู่ด้วยค่ะ”
“ลูกชายที่เกิดกับมนต์ตรีเหรอ”
ผลินไม่รู้จักชื่อคุณพ่อของไวภพ แต่เมื่อได้ยินว่า นามสกุลเดียวกันก็พยักหน้า “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ”
“เธอได้พูดอะไรหรือเปล่า”
ผลินเหลือบมองแม่สามีที่ดูเหมือนกำลังกังวล
“ไม่ค่ะ แค่พูดคุยกันเรื่องทั่วไป”
คุณนายท่านดูเหมือนจะโล่งใจ“หนูลิน เธอสัญญากับแม่ ได้ไหม ว่าจะพยายามติดต่อกับเธอให้น้อยที่สุด”
ผลินประหลาดใจ คิดว่าแม่สามีมีความกังวลในเรื่อง เดียวกันกับเธอ จึงเดาว่า“คุณแม่ก็กลัวว่าคุณยุตจะเข้าใจ ผิด ว่าคุณป้าทัตดามาใกล้ชิดฉันเพราะครูใหญ่ไวภพเหรอคะ”
“จะ
ภายในใจรู้ว่ามันไม่ใช่ แต่ดนุชาก็พยักหน้า เพราะเรื่อง ในอดีต ต่อหน้าลูกชายและลูกสะใภ้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่ จะสารภาพความจริงออกมา
“ไม่ต้องห่วงนะคะคุณแม่ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน วัน นี้แค่บังเอิญเจอกันบนถนนเท่านั้น ต่อไปนี้จะไม่พบกับ เธอ อีก”
“ดีแล้วจ๊ะ แม่จะได้โล่งใจ จริงสิ เธอมีช่องทางการติดต่อ ทัตดาไหมจ๊ะ”
“มีค่ะ ทำไมเหรอคะ”
“เธอเอาให้ฉันหน่อยจ้ะ ฉันรู้จักกับเธอมานานแล้ว ถ้ามี เวลาก็อยากจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตเสียหน่อย น่ะ”
ผลินให้เบอร์โทรกับแม่สามี หลังจากพลิกไปพลิกมาทั้ง คืน วันต่อมา ก็ตัดสินใจโทรไป
สภาพแวดล้อมภายในร้านน้ำชาที่หรูหรา มีผู้หญิงสอง คนที่แยกทางกันมาหลายสิบปี หลังจากนั้นในที่สุดก็ได้มา เจอกันอีกครั้ง
“น้องทัตดา ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
ทันใดนั้นเมื่อได้ยินสรรพนาม ก็เกิดรอยยิ้มเสียดสีที่มุม ปาก”อย่าเรียกอย่างเป็นมิตร ฉันไม่คิดว่ามันจะดีที่จะมี ความ สัมพันธ์กับผู้หญิงที่แย่งผู้ชายของฉันไป”
“มันนานมากแล้วนะ ตอนนี้เธอยังไม่สามารถปล่อยวาง ความคิดพวกนั้นได้อีกเหรอ”
“ปล่อยวางเหรอ หึ ถ้าคู่หมั้นของเธอมีความสัมพันธ์กับพิ สาวที่ดีของเธอเอง เธอจะสามารถปล่อยวางความคิด ของ เธอได้ไหมล่ะ”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่สามารถกล้ำกลืนมันลงไปได้ แต่ความรู้สึก ของเรื่องความรักนั้นไม่สามารถบังคับกันได้ ธามันไม่ ได้รัก เธอมาตั้งแต่แรกแล้ว ในสถานการณ์แบบนั้น ถึงแม้ว่าพวก เธอจะแต่งงานกันไป เธอก็จะไม่มีความสุข
“แต่อย่างน้อยก็มีความสุขกว่าฉันที่เป็นอยู่ตอนนี้”
ดนชารู้ว่าเมื่อสิบแปดปีก่อนทัตดาได้หย่าขาดกับมนต์ตรี เธอถอนหายใจเล็กน้อย “มนต์ตรีเป็นคนดีนะ มันเป็นเพราะ เธอเองที่ไม่เห็นคุณค่า”
“อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ เธอได้คนที่ตัวเธอต้องการ นี่ ก็แค่ทำให้ฉันรู้สึกผิด ดนุชา ซักวันหนึ่งฉันจะให้เธอ ได้ ลิ้มรสกับความเจ็บปวดที่ฉันเคยได้ลิ้มรสมัน
ตอนที่ทัตดาพูดแบบนั้น สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ มาก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เธอไม่สามารถลืมได้ กับประสบการณ์ของความอัปยศ
สามสิบปีที่แล้ว เธอกับดนุชานับถือกันเหมือนพี่น้อง เธอ มีความรักที่ลึกซึ้งกับคนรัก นั่นคือธามัน ทั้งสองครอบครัว เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน เธอชอบเขามาก แต่ไม่เคยรู้ถึง ความรู้สึกที่ธามันมีต่อตัวเองเลย ไม่นานหลังจากที่หมั้น กัน วันหนึ่ง จู่ ๆ ก็นัดเธอออกมา เสนอให้ยกเลิกการหมั้นตอนนั้นเธอตกใจมาก ไม่สามารถยอมรับได้ แต่ไม่ว่าเธอจะ ประท้วงให้ตายอย่างไร ธามันก็ใจแข็งจะเลิกกับเธอให้ได้ แม้แต่กระทั่งจะแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เป็นชื่อของเธอ ก็ตาม เพียงเพื่อที่จะแยกความสัมพันธ์กับเธอ คุณพ่อคุณ แม่ของเธอเห็นฝ่ายชายยืนกรานหนักแน่น จึงเกลี้ยกล่อม เธออย่างหนักและยกเลิกการหมั้นโดยที่ไม่บอกเธอ น้อย กว่าสามเดือนหลังจากยกเลิกการหมั้น ธามันก็แต่งงาน และ เจ้าสาวก็คือดนุชาที่เป็นพี่สาวที่ดีที่สุดของเธอเอง เธอไม่ สามารถยอมรับมันได้ เมื่อดนุชาได้ตั้งครรภ์มาเป็นเวลาห้า เดือนแล้ว เธอเกือบจะทรุด เธอไปมีเรื่องทะเลาะที่บ้านธา มัน ตั้งแต่นั้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องทั้งสองก็พลัน แตกละเอียด จนในที่สุด เพื่อที่จะแก้แค้นพ่อกับแม่ที่ปิดบัง เรื่องการแต่งงาน เธอตัดสินใจแต่งงานกับตำรวจชั้นผู้น้อยที่ ไม่มีชื่อเสียง และตอนนี้พ่อของไวภพก็คือมนต์ตรี
หลังจากแต่งงาน ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ไม่สู้ดี มนต์ ตรีรักเธอมาก แต่เธอรักธามัน ยิ่งธุรกิจของธามันใหญ่ขึ้น บ่อยครั้งที่หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ออกข่าว เห็นทั้งสอง ที่ได้รับการสัมภาษณ์ เธอก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เสนอที่จะทำ ธุรกิจในต่างประเทศ แต่ไม่คิดว่าเมื่อเธอบอกออกไปสามีก็ ต่อต้านเธออย่างรุนแรง และขู่ว่า ถ้าไปก็จะหย่า
ในที่สุด เธอก็เลือกที่จะหย่า ทิ้งลูกชายอายุแปดขวบเอา ไว้เป็นระยะเวลาสิบแปดปี
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ