ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 248 ตอนจบ



ตอนที่ 248 ตอนจบ

ตีรณพยายามจะวางสาย ผลินถอนหายใจด้วยความ เศร้ากับโทรศัพท์ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดของคุณ ลุง

เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเอ่ยถาม แม่สามีไปตรงๆ “แม่คะ พวกคุณจะกลับกันวันไหนคะ ฉันขอกลับไปด้วยได้ไหมคะ?”

คุณแม่สามีส่ายหน้า “ไม่ได้หรอกจ้ะ สามีหนูบอกว่า ให้หนูอยู่ที่เวียนนาจนกว่าจะคลอดลูกถึงจะกลับไปได้

“คลอดที่ไหนก็เหมือนกันไม่ใช่หรือคะ? เขาไม่กลัว เลยหรือคะว่าหนูจะถูกทัตดาจับตัวไปอีก? แม่สบายใจ ได้คะ หนูรับรองว่ากลับไปครั้งนี้หนูจะไม่ออกไปไหนทั้ง สิ้นจนกว่าจะคลอดลูก

“พี่สะใภ้คะ พี่สัญญากับพวกเราก็ไม่มีประโยชน์อะไร หรอกค่ะ”

ปาณียักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “ยังไงซะพวกเราก็ไม่ใช่ สามีของพี่นี่คะ”

“ถ้างั้นคงต้องใช้วิธีตบหัวแล้วค่อยลูบหลังละกัน พวก คุณพาฉันกลับไปด้วย กลับไปถึงแล้วฉันจะอธิบายกับ เขาเอง”

“อย่าดีกว่าคะ ท้อง 7 เดือนเสี่ยงมากต่อการคลอดก่อนกำหนด ถ้าพี่เกิดบังเอิญคลอดบนเครื่องบินขึ้นมา พี่ชายฉันต้องมาถลกหนังฉันแน่ๆ”

“อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก แม่คะ ให้หนูกลับไปด้วยนะคะ…”

ผลินขอร้องอ้อนวอนทั้งแม่สามีและปาณีอยู่นานแสน นาน แต่ยังไงซะพวกเขาก็ไม่ยอมรับปาก เธอจึงวาง ตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย : “ยังไงยังไงฉันก็ ตัดสินใจแล้วว่าจะกลับ ไม่ว่าพวกคุณจะรับปากหรือไม่ พรุ่งนี้ฉันก็จะกลับให้ได้!

เช้าตรู่วันต่อมา ขณะที่หญิงชราเพิ่งตื่นนอน ก็เห็น ลูกสะใภ้ลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้องนอน เธอ แปลกใจก้าวออกไปถาม “นี่เธอจะทำอะไรของเธอน่ะ?”

“หนูบอกไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี่คะ ว่าหนูจะกลับบ้าน”

“เธอกลับไปไม่ได้หรอก”

“หนูก็มีขาเหมือนกันนะคะ ก็หนูอยากจะกลับ ใครก็ ห้ามหนูไม่ได้”

ผลินเดินลงบันไดไปด้วยท่าทีแข็งกร้าว ตอนนี้ปาณี ตื่นแล้วเพราะได้ยินเสียงสนทนาของพวกเขา เมื่อออก จากห้องมาก็พบว่าพี่สะใภ้ต้องการจะไป จึงรีบร้อนขึ้น มาทันที “แม่คะ ดูเหมือนว่าเราต้องบอกความจริงกับเธอ แล้วล่ะคะ”

หญิงชราแห่งตระกูลทรัพยสานตะโกนร้องเพื่อหยุด ลูกสะใภ้เอาไว้

ผลินหันหลังกลับมา จ้องมองไปที่คนทั้งสองขณะยืน อยู่ตรงปากทางลงบันได

ปาณีรีบก้าวไปยืนตรงหน้าเธอ บอกออกไปว่า “พี่ สะใภ้คะ ความจริงคือพี่ชายช่วงนี้เจอปัญหานิดหน่อย

เธอนึกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้! “ปัญหาอะไรไม่ ทราบ?!”

“เอ่อคือ…..คือว่า…..

“คืออะไรล่ะ? รีบพูดมาสิ!”

ผลินร้อนใจแทบตาย รำคาญปาณีที่ล้ำๆอึ้งๆอยู่ได้ “เขาถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าทัตดาตาย…….

“ฆ่าทัตดางั้นหรือ? ทัตดาตายแล้ว?” เธอตกใจอ้าปาก

ค้าง

“คะ”

“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ผลินรู้สึกว่าคราวซวยมาถึงแล้ว เมื่อย้อนนึกถึงวัน ก่อนหน้าที่จะออกเดินทางเพียง 1 วัน ที่ชั้นดาดฟ้าของ บริษัทของทัตดา ปยุตพูดประโยคนั้นกับทัตดา “แก คอยดูฉันบ้างก็แล้วกัน” ขณะนั้นรู้สึกใจหายขึ้นมา

“ไม่แน่ใจเหมือนกันคะ”

ผลินร้อนใจจับมือของคุณแม่สามี “แม่คะ เกิดเรื่อง แบบนี้ขึ้น ทำไมแม่ไม่รีบบอกหนูคะ?”

“ก็เพราะว่าปยุตกลัวว่าเธอจะเป็นห่วงนะสิ แต่เธออย่า เพิ่งคิดมากไป มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนักหรอก”

“ชีวิตคนคนหนึ่งเลยนะคะ หนูไม่เป็นห่วงไม่ได้หรอก คะ? หนูจะไป พวกคุณจะไปด้วยไหมคะ?”

ผลินนึกอยู่แล้วเชียว มิน่า 1 เดือนที่ผ่านมานี้หนังตา เธอกระตุกตลอด

เครื่องบินมาถึงเมือง B แล้ว เมื่อลงจากเครื่องปาณีรีบ โทรหาพี่ชายทันที หลังจากที่ปยุตรับสายแล้วเขารีบวิ่ง รถมาที่สนามบินทันที แน่นอน พอเห็นผลินเข้า เขาทำ หน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที

“ใครอนุญาตให้คุณกลับมา?” เขาถามด้วยความโกรธ

“คุณกำลังต้องคดีอยู่ไม่ใช่หรือ ทำไมฉันจะกลับมาไม่ ได้ล่ะ?!”
“คุณกลับมาแล้วมีประโยชน์อะไร?” สายตาของเขา เหลือบมองไปทางน้องสาว ราวกับโทษเธอที่เล่าความ จริงให้หล่อนฟัง

ปาณีบอกปัดความรับผิดชอบ “ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน และแม่เลยนะ พวกเราก็ถูกบังคับให้ยอมเหมือนกัน พี่ สะใภ้เธอยืนยันว่ายังไงก็จะกลับให้ได้เลย”

“กลับบ้านก่อนเดี๋ยวค่อยคิดบัญชี!”

เขาเปิดประตูรถ ลากผลินเข้าไป

เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์นภา คนรับใช้ต่างพากันแปลก ใจเมื่อเห็นว่าคุณนายหญิงกลับมาแล้ว แต่ก็ยังไม่มี โอกาสได้ถามอะไรเธอ ผลินก็ถูกปยุตลากขึ้นไปที่ชั้น บน

“ไหนว่ามาสิ ตกลงคุณกลับมาทำไม? ผมเห็นด้วยหรือ ยังที่จะให้คุณกลับมาน่ะ?”

“คุณนั่นแหละที่ต้องตอบฉันมา เรื่องการตายของทัต ดาตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

พระเจ้า……

ปยุตปาดเหงื่อที่หน้าผาก “คุณใกล้จะคลอดแล้ว คุณ ควรจะเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ไหมครับ?”

“แล้วทำไมฉันถึงจะเกี่ยวไม่ได้? คุณเป็นสามีของฉัน!
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร คุณอย่าถามถึงมันอีกเลย

“ถ้างั้นฉันก็อยากรู้ความจริงทั้งหมดเลยคะ ยังไงซะ ฉันก็กลับมาแล้ว”

ความดื้อรั้นของเธอ ทำให้เขาหมดปัญญา ได้แต่เปิด ปากเล่าความจริงออกมาให้เธอฟัง “เมื่อวันที่ 19 เดือน ที่แล้ว ทัตดามาหาผมถึงที่ทำงานแบบไม่ได้ตั้งตัว ตอน นั้นเธอไร้ซึ่งทางออกแล้ว สำนักงานต่อต้านการทุจริต ได้ออกหมายจับเธอแล้ว หลังจากที่เธอมาถึงที่ทำงาน ผมแล้วเธอก็เริ่มกล่าวคําสบประมาทผมหลายอย่าง เมื่อเห็นว่าผมบันดาลโทสะแล้ว ทันใดนั้นเธอหยิบปืน กระบอกหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ยัดใส่ลงไปในมือของ ผม ให้ผมยิงเธอ เธอยั่วโทสะของผมอีกครั้ง ผมจึงรับ มันมาด้วยความขาดสติ อยากจะยิงเธอเหลือเกิน แต่ ว่าเมื่อนึกถึงคำพูดเตือนสติของคุณขึ้นมา ผมก็ระงับ อารมณ์ไว้ได้ แต่ว่าในตอนนั้นเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทัตดาพอเห็นผมลังเล เธอจึงเอามือผมที่ถือปืนอยู่ลั่นไก ใส่ตัวเองต่อหน้าผม………..

ปยุตเล่าเรื่องทั้งสั้นและกระชับจนจบ ผลินเดือดเนื้อ ร้อนใจขึ้นมาทันที “ในเมื่อเธอฆ่าตัวตายเอง ทำไมคุณ ถึงได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยละคะ? หรือว่าเป็นเพราะเธอ ตายในห้องทำงานของคุณคะ? คนที่ตั้งข้อสงสัยคุณ มันโง่หรือเปล่า? ใครมันจะไปฆ่าคนอื่นในที่ของตัวเอง? คนตั้งเยอะตั้งแยะ? แล้วที่ทัตดาลั่นไกตัวเอง ที่ปืนไม่มี รอยนิ้วมือของเธอเลยหรือ? แล้วฉันติดกล้องวงจรปิดที่ ห้องคุณเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือ?
ปยุตถอนหายใจ “พูดก็พูดเถอะผมก็ประมาทเกินไป ตอนนั้นไม่ทันสังเกตเห็นว่าเธอใส่ถุงมือสีดำเอาไว้แล้ว เธอตั้งใจมาใส่ร้ายผมโดยเฉพาะ ไม่เพียงไม่มีหลักฐาน ที่บ่งบอกได้ว่าเธอฆ่าตัวตายทิ้งเอาไว้เลย ยิ่งไปกว่านั้น เธอบันทึกเสียงเอาไว้ในโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมพูดประโยคนั้นออกมาพอดี “คุณคิดว่าผมไม่กล้า ฆ่าคุณหรือ?” หลังจากนั้นเธอก็ยิงตัวตาย นั่นทำให้ผม หมดข้อแก้ตัวไปโดยปริยาย

“แล้วกล้องวงจรปิดละคะ? มันน่าจะบันทึกเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเอาไว้?”

“เสียไปแล้วครับ เมื่อเปิดข้อมูลที่บันทึกไว้ออกมาดู ปรากฏว่าเป็นเหตุการณ์เมื่อสามเดือนที่แล้ว ส่วนสาม เดือนหลังนี้ไม่มีอะไรบันทึกไว้เลย”

ผลินปาดเหงื่อ นี่มันเรื่องใหญ่ระดับชาติเลยนะ เนี่ย……….

“เสียงที่บันทึกในโทรศัพท์ใครเป็นคนเจอคะ?”

“ว่ากันว่าเธอเตรียมแผนการเอาไว้ล่วงหน้า ก่อนที่ จะมาเธอเขียนจดหมายลาตายเอาไว้ให้กับสามีเก่า ของเธอ บอกว่าผมเป็นคนอยากที่จะปลิดชีวิตเธอมา โดยตลอด ถ้าวันไหนเธอเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ต้องเป็น ผมแน่นอนที่เป็นฆาตกร ตอนที่บันทึกเสียงไว้เป็นเวลา ที่เหมาะเจาะพอดี มันบันทึกข้ามถ้อยคำที่หยาบคาย ทั้งหมดของเธอ มันเริ่มบันทึกตอนที่ผมถือปืนจ่อเธอไว้ พอดี”
“แล้วคุณเอาปืนจ่อเธอทำไมคะ?”

“ผมอยากรู้ว่าเธอจะมาไม้ไหนอีก?”

ผลินไม่มีอะไรจะพูดต่อ กัดฟันพูดว่า “ยัยแก่คนนี้ จะ ตายอยู่แล้วยังไม่วายหาเรื่องคุณอีก ช่างเลวไม่มีที่ติ จริงๆ!”

“แต่ว่าปยุตคะ…. ….……” เธอชะงักกลางคัน “ตกลงว่าคุณ ไม่ได้เป็นคนทำใช่ไหม?”

ปยุตถลึงตาใส่เธอด้วยสายตาสยดสยอง ถามด้วย ความไม่มั่นใจ “ผลิน คุณหมายความว่ายังง? แม้แต่ คุณก็ยังไม่เชื่อผมหรือ การตายของทัตดาไม่เกี่ยวข้อง อะไรกับผมเลยแม้แต่นิดเดียว?”

ผลินรู้ว่าเธอกำลังสะกิดแผลในใจเขา รีบแก้ตัว “ฉัน ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นคะ เพียงแต่ตอนนั้น………. บริษัทของทัตดา…….

“ผมเกือบจะผลักเธอลงไปแล้วใช่ไหม?”

สายตาของปยุตเริ่มเย็นลง “ดูเหมือนว่า แม้แต่คุณเอง ก็ยังไม่เชื่อผมเลย

เขาหันหลังจากไปอย่างสิ้นหวัง ผลินพึมพำอย่างไม่ เป็นธรรม “ไม่ใช่อย่างนั้นคะ….……..

ปยุตออกไปนานแล้ว จนฟ้ามืดก็ยังไม่กลับ ผลินนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกอย่างกระวนกระวาย แม่สามีนั่งรออยู่ เป็นเพื่อนเธอ

“ลองโทรหาเขาดูหรือยังล่ะ?”

โทรแล้วค่ะ แต่ปิดเครื่อง”

“บางทีเขาอาจจะไม่ได้โกรธหนูก็ได้นะจ้ะ เขาอาจจะ ติดเลี้ยงลูกค้าอยู่

“มีนัดก็ไม่เห็นจะต้องปิดเครื่องนี่คะ”

“หรือว่าโทรศัพท์เขาแบตหมด

“ปกติเขาไม่ค่อยยอมให้โทรศัพท์แบตหมดจนติดต่อ ไม่ได้นะคะ

หญิงชราไม่พูดอะไรอีก ผลินกัดริมฝีปากแล้วกัดริม ฝีปากอีก แม่คะ ตอนนี้ปยุตไม่สบายใจมากเลยใช่ไหม คะ?”

เธอคิดไม่ถึงเลยว่า ทัตดาจนมุมขนาดนี้แล้ว ยัง อุตส่าห์ลากปยุตลงไปเดินทางสายเดียวกับเธออีก

“แน่นอน หลักฐานที่มีทั้งหมดชี้ชัดว่าเป็นเขา เขาจะ ไม่เครียดได้ยังไง โชคดีที่ท่านนภันต์และคุณเฉลิมพล มีคนรู้จักและเส้นสายทางการเมืองที่พอจะช่วยเหลือได้ หลังเกิดเรื่องพวกเขาช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้ปยุต มาโดยตลอด”
ผลินรออยู่นานมาก ปยุตจึงกลับมา ณ เวลานั้นคุณแม่ สามีเข้านอนไปแล้ว

เขาแอบมองเธอทีหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร เธอรู้แล้ว ว่าเขายังเคืองเธออยู่ที่พูดประโยคนั้นออกมาอย่างไร้ หัวใจ

“ปยุตคะ คุณไปไหนมาคะ ทำไมกลับมาช้าจัง?”

“ฉันรอคุณอยู่ตั้งนาน คราวหน้าอย่ากลับดึกอย่างนี้ อีกนะคะ คนกำลังท้องไม่ควรเข้านอนดึกนะคะ”

“ฉันขอโทษเรื่องเมื่อตอนบ่ายด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ สงสัยคุณเลยจริงๆค่ะ ฉันแค่รับไม่ได้ที่ทัตดาถึงสุดขีด ขนาดฆ่าตัวตาย”

“ดังนั้น คุณก็เลยสงสัยว่าผมเป็นคนฆ่าเธอ?”

“ไม่ใช่คะ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ฉันก็แค่อยากยืนยันให้ ชัดเจนอีกครั้ง บอกให้ตัวเองยอมรับความจริงก็เท่านั้น เอง”

“เอาละ ตอนนี้ผมเบื่อมาก ไม่อยากคุยกับใคร คุณ ช่วยไปไกลๆผมหน่อย

เธอรีบโอบกอดเขาไว้ “ฉันจะไม่ยอมจากคุณไปไหน อีกแล้ว แผนที่ทัตดาวางเอาไว้ดูเหมือนจะแนบเนียน แต่ ว่ามันต้องมีข้อผิดพลาดซ่อนอยู่แน่ ฉันจะช่วยคุณหาจุด อ่อนออกมาให้ได้คะ
“คุณจะช่วยผมหาได้ยังไง? อย่าลืมสิว่าตอนนี้คุณ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ”

“ท้องอยู่แล้วยังไงคะ วันนี้ฉันนั่งคิดอยู่ทั้งวัน ฉันรู้สึก ว่าทัตดาถึงแม้ว่าจะวางแผนไว้อย่างดีแล้ว แต่น่าจะต้อง มีข้อผิดพลาดอะไรสักอย่างและน่าจะตกอยู่ที่ใครบาง คน”

“ใครล่ะ?”

“ลูกชายของเธอไง ไวภพ”

ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?” “

“ตามสัญชาตญาณของฉันแล้ว ถ้าทัตดาคิดจะทำ แบบนี้จริงๆละก็ ก่อนตายเธอน่าจะต้องไปพบหน้า ลูกชายของเธอก่อน แล้วคงจะพูดอะไรแปลกๆสักอย่าง หรือไม่ก็มอบหมายเรื่องให้เขาทำ เธอคงจะไม่ลืมบอก ลาลูกชายเธอก่อนตายหรอก”

“คุณคิดเหมือนผมเลย”

ปยุตถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก นั่งลงบนโซฟา “ผม มอบหมายให้ทนายไปพบเขาแล้ว หวังว่าเขาจะให้ เบาะแสเรื่องการตายของแม่เขาว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่ใช่การถูกฆาตกรรม แต่ไม่ได้ผล เขาไม่ให้เบาะแส อะไรเลย แถมยังแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรอีกด้วย”

“ความรู้สึกที่ไวภพมีต่อแม่ของเขานั้นลึกซึ้ง ทัตดาตายอย่างกะทันหันเหมือนเป็นระเบิดลูกใหญ่มาก สำหรับเขา แต่ว่าตอนนี้เขาคงยังทำใจไม่ได้ อาจจะ ต้องรออีกสักพักหนึ่ง ฉันเชื่อว่าเขาจะยืนเคียงข้างความ ยุติธรรม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ