ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 238 บีบให้จนมุม



ตอนที่ 238 บีบให้จนมุม

“คุณกล้ากับผมเหรอ” ปยุตคว้ารอบคอของเธอ ดึง ศีรษะเธอเข้าไปในอ้อมแขน จั๊กจี้เธออย่างหนัก ผลินบิด ตัวหัวเราะเสียงดัง “ก็ได้ ฉันยอมแพ้ ฉันยอมแพ้ ฉันจะ บอกคุณ”

“พูดเร็ว”

เธอจัดผมยุ่งเหยิงของเธอ มองดวงจันทร์สว่างไสวที่ ลอยเด่นอยู่เหนือขอบฟ้า แล้วพูดว่า “นภนต์บอกว่า เขา ดีใจที่เห็นฉันมีความสุข”

ปยุตชะงักไป “แค่นั้นเหรอ”

“แล้วคุณต้องการอะไรอีก

“แค่นั้นก็ดีแล้ว”

เขาโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา หัวเราะอย่าง เอ็นดู

ทั้งสองนั่งกันอยู่สักพัก เห็นบรรดาแขกที่มีเสียงดัง ทยอยกันออกมาจากในบ้าน ปยุตพูดว่า “มันดึกแล้ว เรา ไปบอกลาเจ้าสาวและเจ้าบ่าวกันเถอะ แล้วกลับไปพัก ผ่อนที่โรงแรม”

“อืมได้”

ผลินพยักหน้าและหาวออกมา เพราะเหนื่อยมากแล้วจริง ๆ

นกนต์และจิราพรออกมาส่งแขก ปยุตก้าวไปข้างหน้า เพื่อล้อเล่น “เฮ้ ในที่สุดคุณก็ปลดปล่อยตัวเองด้วยคำพูด ที่น่าสยดสยอง”

“โอ้ยอย่าพูดถึงมันเลย เกือบจะตายอยู่แล้ว แต่งงาน ครั้งหน้าจะไม่ปล่อยให้คนพวกนี้มาก่อกวนได้เลย”

“แต่งงานครั้งหน้าเหรอ”

ปยุต ผลิน จิราพร ทั้งสามคนพูดขึ้นพร้อมกัน นภนต์ ตระหนักว่าเขาได้พูดผิดไปแล้วจึงรีบอธิบายทันที “ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมเหนื่อยเกินไปจึงพูดไปเรื่อย ไม่ได้ หมายความว่าอย่างนั้น”

“นภนต์ ที่คุณบอกว่าไม่ใช่กับฉัน คุณต้องแก้ไขปัญหา นี้นะ คุณมีทั้งความฉลาดและความหล่อ แล้วคุณยังคงคิด เกี่ยวกับการแต่งงานครั้งต่อไป คุณวางแผนที่จะแต่งงาน ในชีวิตกี่ครั้งกัน”

จิรพรรู้สึกแย่จนร้องไห้ ปยุตจงใจเติมเชื้อไฟ

“ประธานยุต คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ”

“คุณจิราพร ถึงแม้ว่าผมจะเห็นใจคุณ แต่ในเมื่อพวก คุณแต่งงานกันแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องอดทนให้มาก”

“ไม่ใช่นะ จิราพร อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของเขา นอกจากภรรยาของเขาผมก็รักคุณเท่านั้น”
“คุณดู คุณดู เขารักภรรยาของผม ว่ากันว่า เพื่อนและ ภรรยาไม่ควรถูกหลอก เขาเกินเยียวยาแล้ว”

ผลินเห็นนภนต์ละล่ำละลักอธิบายอย่างวุ่นวาย จน ศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อ จึงหยิกมือปยุต “คุณก็ไปยุแหย่ เรื่องของสามีภรรยา ระวังเถอะนภนต์จะทำให้จมูกคุณ เขียวช้ำอีก”

“ผมยุแหย่ที่ไหน คุณก็ได้ยินเหมือนกัน เขาบอกว่าถ้า แต่งงานครั้งหน้า เขาต้องการที่จะแต่งงานในครั้งต่อไป”

จิราพรมุ่ยปาก ด้วยอารมณ์โกรธนภนต์ หันตัววิ่งเข้าไป ในบ้าน

“อ้าว จิราพร จิราพร คุณฟังผมอธิบายก่อน…

นภนต์วิ่งไล่ตามภรรยาที่น่ารักไป และคำรามไล่หลัง กลับมา “ลิน คุณแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้ได้ยังไง ทำลายสิ่งที่ผมบอกกับคุณไปซะ….” คุณ

ผลินหันหน้ากลับมา พูดอย่างไร้อารมณ์ “พอใจแล้วใช่ ไหม”

ปยุตหัวร่องอหาย “อืม พอใจแล้ว”

“ถ้าสองสามีภรรยาไม่สามารถมีเทียนในถ้ำโดย สมบูรณ์ จะไม่ไว้ชีวิตคุณเลย

ใช้เวลาทั้งคืนในเมือง F วันต่อมาพวกเขากลับไปที่ เมือง B ไม่คิดว่าวันต่อมาก็มีอีกเหตุการณ์ที่ดีเกิดขึ้น
ในตอนเช้าตรู่ ปาณีประกาศว่า “วันนี้พวกคุณอย่าออก ไปไหนนะคะ อีกเดี๋ยวจะมีแขกสำคัญมาที่บ้าน”

คุณนายท่านถามด้วยความประหลาดใจ “ใครเหรอ”

“ความลับค่ะ เดี๋ยวพวกคุณก็ได้รู้

ผลินเห็นหน้าของน้องสามีดูเขินอาย จึงเดาว่า “ไม่ใช่ว่า เป็นชนัยเหรอคะ”

“เด็กนั่นน่ะนะที่เป็นแขกคนสำคัญ”

ปยุตขัดจังหวะอย่างไร้อารมณ์

“ถ้าไม่ใช่คุณชนัย อาจจะเป็น….คุณพ่อของคุณชนัย?”

อันที่จริงแล้วเป็นความจริง ผลินพูดถูก ในตอนเก้าโมง เช้า รถยนต์สีดำหลายคันกำลังแล่นเข้ามาในคฤหาสน์ นภาทีละคัน ท่านนภันต์เป็นคนที่มาที่นี่

คุณนายท่านนำครอบครัวออกไปทักทาย ทันทีที่เขา เห็นเขาก็เอ่ยพูดกับคุณนายท่าน “คุณนายท่านครับ ท่าน นภันต์ถือวิสาสะมาเยี่ยม หวังว่ามันจะไม่รบกวนพวกคุณ”

“ที่ไหนที่ไหน”

คุณนายท่านยิ้มต้อนรับ

ท่านนภันต์สั่งคนของเขา “เอาสินสอดทั้งหมดเข้าไปใน

บ้าน”
เจ็ดหรือแปดคนเปิดท้ายรถ ยกกองของขวัญอย่างดี ออกจากรถ คุณนายท่านค่อนข้างแปลกใจ “ท่านนภันต์นี่ มันอะไรกันคะ”

“ผมมาที่นี่เพื่อสู่ขอแทนลูกชายของผมเรื่องงาน แต่งงานกับพวกคุณตระกูลทรัพยสานครับ”

ท่านนภันต์มองไปที่ลูกสาวด้านหลังคุณนายท่าน พยัก หน้าอย่างพอใจ “ขอบคุณคุณปาณี ที่ทำให้ฉันได้พบกับ ลูกชายและทำให้ลูกชายเข้าใจกัน”

ปาณียิ้มอ่อนหวาน “คุณลุงไม่ต้องสุภาพหรอกค่ะ ฉันไม่ ได้มีบทบาทอะไรเลย ที่พวกคุณได้รู้จักกันมันคือความ สัมพันธ์ที่เลือดข้นกว่าน้ำเป็นโชคชะตาที่ตัดยังไงก็ไ ขาด”

“ฮ่าฮ่า ลูกสะไภ้ของฉันพูดได้ดีเสียจริง ฉันชอบ ฉัน ชอบ”

“ท่านภันต์เชิญเข้าไปนั่งด้านในค่ะ”

ทุกคนเข้ามาในห้องนั่งเล่น ผลินถามน้องสามีเบา ๆ ว่า ทำไมคุณชนัยไม่มาด้วยล่ะคะ”

“นี่ต้องถามสามีของคุณค่ะ ตัวเองอยู่บ้านกับภรรยา แล้วให้ชนัยครอบครัวของฉันเดินทางไปติดต่อธุรกิจให้ เขา ฉันล่ะเกลียดนัก”

“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าท่านนภันต์จะมาวันนี้คะ”
“เมื่อคืนนี้ชนัยบอกฉันทางโทรศัพท์ค่ะ”

“อ้อ…”

ผลินนั่งลงบนโซฟา น้องสามีนั่งตรงข้ามเธอ ปยุตนั่งกับ ท่านนภันต์

เมื่อมาถึงการเริ่มต้นพูดคุย ชนัยก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุก คน ปาณียืนขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ชนัย คุณมาที่นี่ได้ยัง ไง”

ชนัยยิ้มและพูดว่า “ผมกลับมาด้วยเที่ยวบินเที่ยวแรก ช่วงเช้า”

ท่านนภันต์มองไปที่ลูกชายและยิ้มอย่างมีความสุข “ใน วันที่สำคัญเช่นนี้ เขาต้องบินกลับมาอยู่แล้ว”

ปาณีมีความสุข ดึงให้ชนัยนั่งลงข้างเธอ

“คุณนายท่าน ผมแน่ใจว่าคุณไม่มีปัญหากับการ แต่งงานของลูกชายของผมกับลูกสาวของคุณ ถึงแม้ว่า ครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยเท่าคุณ แต่ให้ลูกสาว ของคุณมีชีวิตที่สวยงามนั้นไม่ใช่ปัญหา ผมจะรักหนูณี เหมือนลูกสาวของตัวเอง และคุณสามารถวางใจเรื่อง ลูกสาวของคุณกับลูกชายของผมได้ครับ”

คุณนายท่านพยักหน้า “ชนัยมาที่บ้านเราตอนเป็นวัย รุ่น ฉันไม่เคยเห็นเขาเป็นคนนอก เป็นเวลากว่าสิบปีที่เขา อุทิศตนเพื่อครอบครัวของเรา ฉันรู้ดีถึงอุปนิสัยที่ดีของ เขา ฉันวางใจที่จะมอบยัยณีให้กับเขาค่ะ”
“งั้นก็ดีมากเลย พวกเรามาหาฤกษ์มงคลกัน แล้วจัดงาน แต่งงานให้กับพวกเขา”

“ดีค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะให้คนหาฤกษ์ หากได้ฤกษ์มงคล เมื่อไรจะแจ้งให้ท่านนภันต์ทราบ”

“ไม่ต้องดูแล้วครับ ผมให้คนหาฤกษ์ดีไว้แล้ว วันที่หก เดือนถัดไปดีที่สุดสำหรับการแต่งงาน”

“ได้ค่ะ งั้นก็เอาตามนั้น”

และการพูดคุยเรื่องแต่งงานก็จบลงเท่านี้ ฝันของปาณี ได้เป็นจริง เธอไม่สามารถพูดได้ว่ามีความสุขมากมาย ขนาดไหน แอบเหลือบมองผู้ชายข้าง ๆ ในที่สุดเขาก็เป็น ของเธอแล้ว

คุณนายท่านสั่งให้คนรับใช้เตรียมอาหารกลางวันมื้อ ใหญ่ ท่านนภันต์ทานมื้อเที่ยงที่บ้าน ท่านนภันต์ได้ยินว่า คุณนายท่านชอบเล่นไพ่นกกระจอก จึงเสนอขึ้นมาให้ เล่นหลายเกม

“เธอสี่คนสองคนไหนจะขึ้นไปข้างบน”

ท่านนภันต์ถามปยุต ผลิน และชนัยกับปาณี

ปาณีจับมือชนัย “พวกเรามีเรื่องต้องคุยกัน พี่สะใภ้คุณ ไปกับพี่ชายของฉันนะ”

โดยไม่ได้รับอนุญาตจากปยุต เธอลากชนัยวิ่งขึ้นบันได

ไป
เข้าไปในห้องส่วนตัว ทันทีที่ประตูปิด ปาณีไม่สามารถ รั้งรอที่จะโอบกอดจูบดูดดึง คู่มือเล็กอุกอาจคลายเข็มขัด ของเขา ชนัยตกใจและตื่นเต้นพูดว่า “คุณณี เดี๋ยวนี้คุณ กล้าขึ้นทุกทีแล้วนะ…

“ฉันต้องการคุณ” ปาณีเงยหน้าขึ้น เบียดชิดร่างกาย เขา ผิวของเธอนั้นสวยมาก บอบบางลื่นมือ “คุณไม่ ต้องการฉันเหรอ”

“ตอนนี้เหรอ คุณไม่กลัวใครมาเหรอ” ชนัยยกคิ้วแปลก ใจ มือทั้งสองข้างกอดเธอไว้แน่น

เธอมองเขา สองหน้าผากแนบชิดกัน ชนัยชอบดวงตา ของเธอมากที่สุด ซึ่งในตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ ปาณี ยื่นลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของเขา “อืม ตอนนี้”

ชนัยไม่สามารถอดทนต่อการยั่วเย้าดังกล่าวนั้นได้อีก ต่อไป เขาค่อย ๆ ประสานมือรอบคอของเธอ ตอบรับจูบ เธอ

ผลินได้รับโทรศัพท์จากธนวันหนึ่งสัปดาห์ให้หลังจาก ที่ท่านนภันต์มาเสนอเรื่องงานแต่ง หลังจากวางสายเธอ กังวลมาก ตอนนั้นเธอนั่งทานข้าวอยู่กับปยุต ปยุตถาม ด้วยความสงสัยว่า “ใครเหรอ”

“คุณพ่อของฉันน่ะ”

“เขาโทรมาทำไม” สีหน้าของปยุตจมลง

“บอกว่าอยากเจอฉัน”
“ไม่ต้องเจอ”

ปยุตพูดออกมา ผลินยิ้มขมขื่น “อะไรเนี่ย ดูเหมือนคุณ จะเกลียดเขามากกว่าฉันอีกนะ”

“แน่นอนผมเกลียดเขา ผมเกลียดทุกคนที่ไม่ชอบ ภรรยาของผม ผมเกลียดพวกเขาไปจนตาย”

“แต่เขาบอกว่ามีบางอย่างที่สำคัญมากจะพูดกับฉัน ให้ ฉันไปเจอเขาให้ได้

“คุณไม่กลัวว่าเขากับลูกสาวที่ชั่วร้ายจะวางกับดักคุณ เหรอ”

ผลินทำสมาธิคิดหนัก หลังจากผ่านไปสักพักก็นึกอะไร ออก “หรือไม่ก็ คุณกับฉันไปด้วยกันไหม”

“คุณอยากไปจริงเหรอ”

“ไม่ใช่ว่าอยากไป แต่ฉันอยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไรกับ ฉัน”

ปยุตครุ่นคิด “งั้นก็ได้ เมื่อไหร่ล่ะ”

“พรุ่งนี้ตอนเย็น”

เย็นวันถัดไปหลังจากเลิกงาน ทั้งสองคนออกจาก บริษัทโดยไม่ได้ตรงกลับบ้าน แต่ไปยังสถานที่ที่ตกลงไว้ กับธนวัน
ที่ห้องของโรงแรมหนึ่ง เมื่อเคาะประตูพบเพียงธนวันคน เดียว ปยุตถอนหายใจโล่งอก กระซิบกับผลิน “ผมจะรอ คุณหน้าประตู โทรหาผมถ้าคุณต้องการอะไร

“คุณจะไม่เข้าไปด้วยกันกับฉันเหรอ”

“การสนทนาระหว่างพ่อลูกผมจะไม่ฟัง จำเอาไว้นะ ถ้า มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น ตะโกนเรียกผมทันที”

“ได้ค่ะ”

ผลินเข้าไปในห้อง ธนวันชี้ไปที่ม้านั่งตรงโต๊ะ “นั่งสิ”

“คุณต้องการอะไรจากฉันเหรอคะ”

ผลินมองดูอาหารน่าทานบนโต๊ะ เธอคิดว่าธนวันไม่ได้ เพียงแค่ต้องการทานอาหารกับเธอแน่

“พวกเราพ่อลูกไม่เคยทานอาหารดี ๆ ร่วมกันเลย ถือว่า วันนี้ชดใช้ความเสียใจทั้งหมดเถอะ”

ธนวันเทไวน์ขาวใส่แก้ว ค่อย ๆ ดื่มเข้าปาก ผลินอยาก หัวเราะ เสียใจ คำว่าเสียใจคำพูดนี้ไม่เหมือนจะเป็นคำพูด ที่พูดออกมาจากปากของธนวันเลย

“ยัยลิน ตั้งแต่วันที่เธอจากไป ฉันคิดอย่างรอบคอบแล้ว ฉันรู้สึกผิดต่อเธอจริง ๆ ฉันขอโทษเรื่องแม่ของเธอ สิ่ง ที่ฉันเสียใจที่สุดในชีวิตของฉันก็คือเธอสองคน วันนี้ฉัน ไม่ได้หวังให้เธอยกโทษให้ ฉันแค่อยากจะบอกเธอว่าฉัน ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี และฉันก็ไม่ได้ตระหนักถึงความผิดพลาดของฉัน ฉันรู้ว่ามันผิด รู้ว่ามันผิด ยัยสิน ขอโทษ…

คำขอโทษของธนวันนั้นไม่สามารถอธิบายได้ น้ำตา ขุ่นจากสองคู่ดวงตาไหลออกมาจากมุมตา ผลินมองเขา อย่างไร้อารมณ์ ผมสีเทาของเขาพิสูจน์ว่าเขาแก่แล้ว เธอ ควรจะดีใจหรือไม่ที่เขายังไม่ทันตายก็ยอมรับความผิด ของตัวเองแล้ว

“นี่คือเรื่องสำคัญที่คุณต้องการจะพูดกับฉันเหรอคะ”

ธนวันพยักหน้า เช็ดที่มุมของดวงตา “เมื่อคืนก่อนฉัน ฝันถึงแม่ของเธอ เธอเรียกฉันว่าไอ้เลว ตำหนิฉันที่ไม่ได้ ทำหน้าที่ของพ่อ ที่เธอด่านั้นไม่ผิด ฉันมันเป็นไอ้สารเลว อย่างไม่มีเงื่อนไข ปีนั้นเห็นได้ชัดว่าเธอแม่ลูกมีปัญหา แต่ กลับไม่เคยช่วยเหลือ ถูกต้องแล้วที่แม่ของเธอเกลียด ฉัน เธอเกลียดฉันก็สมควรแล้ว คนหนึ่งคนจะมีกรรมใน ที่สุด และตอนนี้ฉันได้รับการลงโทษนั้นแล้ว แม่ของชุดา ตายแล้ว ชุดาแต่งงานกับชายชราที่อายุใกล้เคียงกับฉัน และถูกทิ้ง ร่างกายของฉันเองก็แย่ลง ยัยลิน ฉันไม่ได้ขอ ให้เธอยกโทษให้ฉัน แต่ได้โปรดรับคำสารภาพของฉันไว้ ฉันอาจจะไปจากที่นี่อีกไม่นาน พ่อแก่แล้ว หลังจากที่จาก ไปก็คงจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วในชีวิตนี้…”

“ฉันให้อภัยคุณค่ะ….

ผลินพูดอย่างใจเย็น น้ำตาเอ่อขึ้นมา “แต่อย่างที่คุณพูด ปีนั้นคุณรู้ดีว่าฉันกับแม่ลำบากแค่ไหน แต่ไม่เคยยื่นมือ เข้ามาช่วยเหลือ จึงไม่มีทางที่จะแก้ไขเรื่องเลวร้ายนั้นได้ ดังนั้นฉันให้อภัยคุณแต่ไม่สามารถกลับไปที่ระดับของ ความรักระหว่างพ่อลูกได้ ต่อไปดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
“แล้วน้องสาวเธอล่ะ ตอนนี้เธอกำลังอารมณ์ไม่มั่นคง เธอ…เธอจะปล่อยเธอไปได้ไหม”

ผลินนิ่งไปชั่วครึ่ง เหลือบมองเล็กน้อย “ฉันไม่เคยคิดจะ จัดการกับเธอ ดังนั้น คุณพาเธอไปเถอะ”

ออกจากห้องไป เธอเห็นชายที่รักรอคอยอย่างอดทน ในขณะนั้นความอ่อนโยนในหัวใจพลันเกิดขึ้นอย่างไม่ เคยมีมาก่อน อย่างน้อยในช่วงชีวิตนี้ เธอก็จะได้มีผู้ชาย คนนี้คอยอยู่เคียงข้าง

ปยุตเห็นตาของเธอแดง ก็ไม่ได้ถามอะไร ก้าวไปข้าง หน้าและกอดเธออย่างอบอุ่น เอ่ยพูดแผ่วเบา “กลับบ้าน กันเถอะ”

ยิ่งใกล้งานแต่งงานของชนัยกับปาณี ปยุตก็ยิ่งจัดการ กับทัตดาด้วยขั้นตอนที่เข้มงวดมากขึ้น ตั้งแต่เขาร่วมมือ กับท่านนภันต์ วันแต่ละวันของทัตดาก็ยากล่ามากม ขึ้น มันเป็นครั้งแรกที่เงินทุนหมุนเวียนในต่างประเทศได้ ถูกขัดขวางอย่างรุนแรง

“คุณจะทำให้ฉันจนมุมจริง ๆ ใช่ไหม”

เธอเปิดคําถามถามอย่างคมชัดทันที

ปยุตโต้แย้งเสียดสี “มันเป็นคุณเองที่ทำให้ตัวเองจนมุม เมื่อคุณทำเรื่องสกปรกพวกนั้น ก็ลองนึกดู มันคือการขุด หลุมฝังตัวเองทั้งนั้น”

“หึ เรื่องสกปรกเหรอ คุณหมายถึงเรื่องไหนล่ะ”
ปยุตหยุดไปชั่วครู่ “ในเมื่อคุณฆ่าคุณพ่อของผมก็ต้อง จ่ายคืนในราคาเดียวกัน”

“จริงสิ คุณปยุต คุณรู้ดีว่าการตายของคุณพ่อคุณไม่ได้ เกี่ยวข้องกับฉัน คุณก็รู้ว่าฉันพูดอะไรกับคุณพ่อของคุณ ถูกไหม”

น้ำเสียงของทัตดาเริ่มมืดมนเหมือนการแสดงออกของ เธอ ทั้งดุร้ายและน่ากลัว

ปยุตไม่มีคำพูดแต่สามารถสัมผัสได้ การปะทุอารมณ์ โกรธของเขากำลังใกล้เข้ามา

“ถ้าคุณไม่ไว้ชีวิตฉัน เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนก็ไม่ คิดว่ามันง่ายอีก ถ้าฉันบอกเรื่องที่บอกกับคุณพ่อของคุณ กับภรรยาของคุณอีก มันจะเกิดอะไรขึ้น…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ