ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 220 สวรรค์ส่งความสุขลงมาสู่ครรภ



ตอนที่ 220 สวรรค์ส่งความสุขลงมาสู่ครรภ

ชื่นใจพยักหน้า “อืม”

เพื่อนชายสมัยเรียนมองเขาขึ้นลง ถามอย่างสงสัย “นี่ คือใคร”

“พี่ชายของฉันน่ะ

ชื่นใจเปิดปากเรียบเรื่อย ไม่ได้มีอาการหน้าแดงหรือ กะพริบตา

“พี่ชายของคุณไม่ได้อยู่ที่ออสเตรเลียเหรอ”

“กลับมาเยี่ยมญาติน่ะ”

“อ๋ออย่างนี้นี่เอง”

ผู้ชายที่ดูโอ้อวดยื่นมือออกไป “พี่ สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวีณ”

ไวภพพยักหน้าอย่างอดทนกับเขา หันหลังแล้วเดิน ไปที่ถังขยะ โยนถุงขยะในมือ ปิดฝาถังขยะด้วยเสียง ดังปัง เป็นเสียงที่น่าตระหนกในคืนที่เงียบสงัด

เมื่อกลับถึงบ้าน เหวี่ยงรองเท้าออกทันที โยนกระเป๋า ทิ้ง นอนลงบนโซฟา เอามือกุมท้อง และพูดว่า “ไวภพทําอาหารเย็นหรือยัง ฉันหัวแล้ว’

“ไม่มี”

ไวภพตอบเสียงเย็น

เธอลุกขึ้นนั่ง ประท้วงอย่างไม่พอใจ “ทำไมหลายคืน มานี้คุณไม่ทำมันเลยล่ะ

เขาเงยหน้าขึ้นมองแดกดัน “ผมทำแล้วคุณมีเวลาที่จะ กลับมากินมันด้วยเหรอ ทำไม เพื่อนอวดดีของคุณส่ง คุณกลับบ้านโดยไม่ชวนคุณไปทานข้าวหรือไง”

ไวภพไม่ได้ปิดบังความโกรธของเขา ชื่นใจตื่นเต้น กระโดดออกมา เดินไปหาเขาและถามว่า “คุณหึงเหรอ”

เธอใจจอจ่อรอเขาตอบว่าใช่ แต่ผลคือเขาตอบว่า “ผม เปล่า”

“ไม่หึงแล้วคุณโกรธอะไร

“ผมโกรธที่คุณแนะนำผมว่าเป็นพี่ชายของคุณ แนะนำ ผมว่าเป็นสามีของคุณมันทำให้คุณรู้สึกอับอายหรือไง”

ชื่นใจยักไหล่ เถียงกลับไป “ไม่ได้น่าอับอาย ฉันแค่ อยากถอยหลังไปยังทางที่เหลือให้ตัวเอง”
“ทางที่เหลืออะไร” ไวภพไม่เข้าใจ

“ก่อนที่คนอื่นจะไล่จีบฉัน ฉันต้องติดต่อกับคนพวกนั้น หลังจากวันที่คุณทิ้งฉันไป ฉันก็จะได้มีตัวเลือกสำรอง เดิมทีพ่อแม่ของฉันรู้ว่าฉันแต่งงานก็อาเจียนเป็นเลือด แล้ว ถ้าฉันรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ถูกทิ้ง พวกเขาไม่ถลก หนักฉันทั้งเป็นหรอกเหรอ ดังนั้นเมื่อคุณหย่ากับฉัน ฉันก็จะแต่งงานกับปวีณทันที เมื่อนั้นพ่อแม่ผู้น่าสงสาร ของฉันก็จะไม่โกรธฉัน

ไวภพสูดลมหายใจเข้าลึก เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่พ่อแม่ ของเธอที่กำลังโกรธ แต่เป็นเขาต่างหากที่กำลังจะตาย “ผมบอกเมื่อไหร่ว่าจะทิ้งคุณ

“นอนแยกเตียง นี่ไม่ใช่สัญญาณของการทิ้งหรอกเห รอ”

“นั่นเพราะคุณไม่อยากให้ผมนอนกับคุณ!

“แล้วถ้าตอนนี้ฉันขอให้คุณอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน คุณจะไม่สนใจไหมล่ะ”

ไวภพลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ เขาอุ้มเธอขึ้น พูดรอด ไรฟันว่า “ผมทนไม่ไหวแล้ว

เขาอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน ยกเท้าเตะประตู…
เที่ยงคืน ผลินกำลังหลับอยู่ โทรศัพท์มือถือไดหมอน ดังขึ้น เธอตอบสะลึมสะลือ “ฮัลโหล?”

“ลิน ไอเดียของเธอดีมาก พวกเราเพิ่งทำสงครามกัน ไปสามร้อยรอบ….

ผลินยังไม่ตอบสนอง สะลึมสะลือถาม “อะไรคือ สงครามสามร้อยรอบ

“มันก็คือ…” ชื่นใจอธิบายเรื่องเขินอาย

ในตอนนี้เธอเพิ่งจะได้สติ ก่นด่าออกมา “เธอเป็นพวก โรคจิตเหรอ โทรหาฉันตอนเที่ยงคืนเพื่อที่จะบอกฉัน ว่า เธอมีอะไรกับสามีของเธอเนี่ยนะ

เธอตะโกนเสียงดังมาก จนปลูกผู้ชายข้าง ๆ รอจน เธอวางสาย ปยุตโอบเธอไว้ในอ้อมแขน กระซิบที่ข้าง หูของเธอ “ภรรยาของผม ผมก็อยากมีอะไรกับคณ เหมือนกัน”

“บนหัวคุณสิ นอนไปเลย”

เธอดึงผ้าห่มคลุมศีรษะ สองข้างแก้มร้อนผ่าว

ตั้งแต่ตั้งครรภ์ผลินได้กลายเป็นสมบัติของครอบครัว อมไว้ในปากเพราะกลัวจะละลาย ถือไว้ในมือเพราะกลัว จะสูญเสีย เดิมทีเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน ในที่สุดเธอก็โต้แย้ง ช่วงนี้จึงได้ทำงานต่อไป

หลายวันมานี้ ปาณีได้ยินพี่สะใภ้พูดว่าชนัยไม่ค่อย สบาย ไม่ได้มาทำงานหลายวันแล้ว เธอไม่สามารถ ควบคุมตัวเองได้ อยากไปดูให้แน่ว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร ร้ายแรง

เคยบอกไปแล้วว่าจะวางความรู้สึกที่มีต่อเขาลง การ ไปหาเขาเธอคิดว่ามันคงไม่ค่อยดี แต่ในที่สุดก็ไปอยู่ดี

ปาณีมาที่อพาร์ตเมนต์ของชนัย ยืนอยู่ที่หน้าประตู ไม่มีความกล้าที่จะกดกริ่ง ในขณะที่กำลังลังเล ประตู ด้านหน้าก็เปิดออก ชนัยออกมาจากในห้อง “คุณณี” เขา ค่อนข้างเหลือเชื่อ

“คุณมาที่นี่ได้ยังไง ทำไมไม่เข้าไปข้างในล่ะ” ชนัยถามด้วยความสงสัย มีความแปลกใจอยู่ในแวว

ตา

“ฉันได้ยินพี่สะใภ้พูดว่าคุณป่วย คือมันเป็นทาง ผ่าน….แค่แวะมาดูคุณ เอ่อ มันเป็นทางผ่านน่ะ…

เธอเขินอาย จนค่อนข้างตะกุกตะกัก

“ไม่เป็นไรหรอก แค่เป็นหวัดนิดหน่อยครับ”
ชนัยปิดปากและไอหลายครั้ง

เธอเห็นเขาถือกุญแจรถในมือ จึงสอบถามราย ละเอียด คุณจะออกไปไหนเหรอ”

“ผมกำลังจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต”

“งั้นฉันไปเป็นเพื่อนคุณนะ”

“ได้”

พวกเขามาถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ของเมือง เข็นรถ เข็นเหมือนคู่รัก ปาณีพูดว่า “ซื้อพวกวัตถุดิบเถอะ ให้ คุณลองชิมฝีมือของฉัน”

“คุณทําอาหารเป็นเหรอ”

ชนัยไม่อยากเชื่อ

มองหน้าเขาอย่างไม่เกรงใจ ปาณียู่ปากไม่พอใจ “ได้ โปรดเถอะ ฉันไม่ใช่อย่างที่เคยเป็นแล้วนะ ในสองปีที่ ผ่านมาฉันอยู่คนเดียว ถ้าฉันทำอาหารไม่ได้แล้วจะให้ ฉันแขวนเค้กก้อนโตไว้รอบคอเพื่อประทังชีวิตหรือไง”

ชนัยหัวเราะเสียงดัง ขบขันกับคำพูดอารมณ์ขันของ

เธอ
ทั้งสองคนเข็นรถเขินไปยังโซนผก บาณเห็นหญิง ชรากำลังเขย่งเท้าดิ้นรนกับผู้หญิงหลายคนเพื่อแย่งชิง พวงแตงกวา หญิงชราที่อายุมากถูกเบียดไปมา ความ ยุติธรรมของเธอผุดขึ้นมา เข็นรถเข็นเข้าไปและพูดข้าง หู “คุณยายคะ คุณรอเฉย ๆ นะ ฉันช่วยคุณเอง”

ปาณียังเป็นสาวและมีกำลัง เพียงสามหรือสองจังหวะ ก็แหวกฝูงชนออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับแตงกวา หนึ่งกำมือ “พอไหมคะ” เธอถามหญิงชรา

ภรรยาของเขายิ้มและรับไป “พอแล้วพอแล้ว ขอบคุณ จ๊ะสาวน้อย”

ชนัยลูบผมที่ยุ่งเหยิงให้เธออย่างไร้อารมณ์ หยอก ล้อขบขัน “บุคลิกที่เป็นประโยชน์ของคุณมันก็ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงมากนักนี่นา”

“พ่อหนุ่ม ภรรยาของคุณเป็นคนดี คุณต้องทำดีกับเธอ

นะ”

หญิงชรายิ้มคลุมเครือ เดินกะโผลกกะเผลกเข็นรถไป ปาณีหน้าแดงด้วยความเขินอาย รู้สึกอึดอัดจึงชี้นิ้วไป ทางซ้าย “พวกเราไปดูตรงนั้นกันเถอะ”

เธอเอาแต่ก้มหน้า ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามุมปากของ ชนัยยกขึ้น
หลังจากออกจากซุปเปอร์มาร์เกต ทงส ที่อพาร์ตเมนต์ ปาณีเข้าไปในครัวโดยไม่พัก ชนัยเอ่ย ถาม “อยากให้ผมช่วยไหมครับ

เธอส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณรอทานก็พอแล้ว” ชนัยเริ่มบทสนทนา พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย

อารมณ์ “คุณณี ตอนนี้คุณดูแตกต่างไปเล็กน้อยนะ”

ใบหน้าปาณีกลายเป็นสีแดง “ฉันมีอะไรที่แตกต่างเห รอ”

“นิดหน่อย…ดูเหมือนว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ”

ปาณีหันกลับไป ไม่มีอะไรจะพูดอีก หัวใจของเธอเต็ม ไปด้วยความสุข ก่อนหน้านี้เธอเกลียดชนัยที่ทำกับเธอ เหมือนเป็นเด็ก ตอนนี้ในที่สุดเขาก็ยอมรับว่าเธอไม่ใช่ เด็กแล้ว แต่เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ

เธอเตรียมอาหารที่ยอดเยี่ยมหลายอย่าง ชนัยเปิด ขวดไวน์แดง ทั้งสองพูดคุยกัน

หลังจากทานอาหารเย็น ปาณีดื่มไปเล็กน้อย ล้มลงไป บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ชนัยล้างจานและตะเกียบเสร็จ แล้ว นั่งลงข้างเธอและเอ่ยถาม “คุณไม่เป็นไรนะ”

เธอส่ายหน้า “มีสติดี”
ชนัยจ้องหน้าแดงกำของเธอทเหมือนมะเขือเทศสุก หัวใจเต้นผิดปกติ จู่ ๆ ก็โน้มตัวลงและจูบใบหน้าของ เธอ “แล้วตอนนี้คุณยังมีสติอยู่หรือเปล่า”

ปาณีหัวใจเต้นเร็วมาก ใบหน้าที่เขินอายก็กลายเป็นสี แดงก่ำ ทำให้โดยรวมดูมีเสน่ห์มากขึ้น

ชนัยค่อนข้างหลุดออกจากการควบคุม โอบศีรษะเธอ ด้วยสองมือ กดริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของ เธอ เหมือนลูกพืชในเดือนพฤษภาคม รสชาติของเธอดี กว่าที่คาดไว้

ปาณีตกใจกับจูบที่ไม่คาดคิดนี้ ไม่รู้จะตอบสนอง อย่างไร แค่ปล่อยให้เขาล่วงล้ำเข้ามาผ่านฟันของเธอ สัมผัสปลายลิ้นของเธอ ดูดดุนหนักหน่วง คนแรกที่ เธอชอบคือชนัย จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเขาคนเดียว เมื่อ เผชิญหน้ากับความใกล้ชิดระหว่างชายหญิง มันจึงมีทั้ง ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาน่าหวั่นวิตก

คืนนี้ชนัยเองก็มึนเมา ร่างกายของเขาตอบสนอง อย่างเห็นได้ชัด ที่คิดว่าปาณีเป็นเพียงน้องสาว พิสูจน์ ได้แล้วว่าเขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ สามารถทำให้เขาตื่นเต้นได้

หลังจากบทรัก ปาณีนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา พูด อย่างไม่อยากเชื่อ “ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนฝัน
ชนยกอดเธอไว้แน่น “คุณไม่ไดฝน คุณณ คุณเป็นผู้ หญิงของผมแล้ว

เธอเงียบไปชั่วครู่ รวบรวมความกล้าเอ่ยถาม “ให้ฉัน เป็นผู้หญิงของคุณ แค่ทำตามสัญชาตญาณของผู้ชาย หรือเพราะคุณเริ่มชอบฉันขึ้นมานิดหน่อย”

“คุณบอกสิ”

“ฉันไม่รู้”

“ผมไม่ใช่คนประเภทที่มองหาดอกไม้และต้น หลิว ดังนั้นปาณีคุณเป็นผู้หญิงของผม ไม่ใช่เพราะ สัญชาตญาณของผู้ชาย แต่เพราะผมเริ่มจะชอบคุณแล้ว มันไม่ใช่แค่นิดหน่อย แต่มันมากกว่านิดหน่อย”

“มากกว่านิดหน่อยนี่มันนิดหน่อยเท่าไร”

“ผมอยากแต่งงานกับคุณในช่วงชีวิตที่เหลือของผม ต่อจากนี้”

ปาณีไม่ได้พูดอะไรอีก ใบหน้าเล็กที่ฝังอยู่ในอ้อกอด ของชนัยกำลังยิ้มอย่างมีความสุข

เป็นอีกคืน ที่ผลินนอนหลับสนิท เสียงเรียกเข้า โทรศัพท์มือถือดังขึ้นรบกวนท่ามกลางความเงียบสงัด แม้ว่าปยุตจะกดตอบรับและลดเสียงลง ถึงกระนั้นผลินก็ยังคงตื่นขึ้นมา

ครั้งนี้เธอไม่ได้ลุกขึ้นนั่ง แต่หลับตาลง แกล้งทำเป็น หลับสบายและยังไม่ตื่น

“มีคนนํามันมาได้งั้นเหรอ นำมันไปไว้ที่ห้องหนังสือ ของฉัน ฉันจะไม่ออกไปข้างนอกอีก…อืม เบา ๆ ล่ะ อย่าปลุกครอบครัวของฉันให้ตื่น”ปยุตพูดสั้น อีกสอง ๆ ประโยคแล้ววางสายไป แอบไปที่เตียง เห็นอีกคนบน เตียงไม่ตื่นเขาก็รู้สึกโล่งใจ หลังจากแต่งตัวแล้วจึงเปิด ประตูและเดินออกไป

ในความมืดมิด ผลินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา นี่เป็นครั้ง ที่สองแล้วที่ปยุตตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อรับโทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือของเขานั้นเมื่อถึงเวลาสามทุ่มก็จะปิด เครื่องทันที มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาเปลี่ยนนิสัยนี้

จิตใจของเธอมักจะรู้สึกไม่มั่นคง แอบเปิดผ้าห่มและ ลุกออกจากเตียง ใส่เสื้อแจ็คเก็ต เปิดประตูห้องนอน เป็นช่องค้างไว้ มองออกไปผ่านช่องนั้น ไม่เห็นอะไร มาก เธอเห็นชนัยนำชายแปลกหน้าเข้าไปในห้อง หนังสือของปยุต

พวกเขาจะพูดคุยเรื่องอะไรกันดึกขนาดนี้ มีอะไรที่ เธอไม่รู้อย่างนั้นเหรอ มีปัญหาอะไรอีกหรือเปล่าผลิน ขมวดคิ้ว ในใจมีความอยากรู้อยากเห็นผลักดันมากขึ้น ค่อย ๆ คืบคลานออกมาจากห้องนอน ไปที่ประตูห้องหนังสอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ