ตอนที่ 216 เซอร์ไพรส์ที่ไม่คาดคิด
ชนัยเงียบไปชั่วขณะ
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาจึงจะพูดขึ้นด้วยเสียงที่ ค่อนข้างสงบ “ปทิตลูกชายคนเล็กของตระกูลสิทธิคง มีชื่อเสียงในด้านความเจ้าชู้ คุณไม่ใช่ไม่รู้ การคบหา กับคนแบบนั้น มันคือการทำลายชีวิตของตัวเอง”
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของฉัน ถึงแม้ว่าจะต้อง ทำลาย ฉันก็ทำลายชีวิตของตัวฉันเอง มันไม่เกี่ยวอะไร กับใคร”
ปาณีดื้อรั้นแล้วเดินไป เป็นครั้งแรกที่ชนัยมีความรู้สึก ของความพ่ายแพ้
ส่งแขกกลับไปหมดแล้ว ผลินลากเท้าเหนื่อยอ่อนขึ้น ไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำแล้วออกมา ก็เห็นปยุตนั่ง สีหน้าหนักใจบนโซฟา เธอนั่งลงและสอบถามในขณะที่ เช็ดผมด้วยผ้าขนหนู “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“ทำไมคุณถึงบอกให้ยัยณีตกลงว่าจะไปนัดบอด ปทิต เป็นแกะดำของครอบครัว เกือบทุกครั้งที่ผมเห็นเขาอยู่ กับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ใช้ชีวิตกับผู้ชายแบบนั้น มันก็มีแต่ ความทรมาน!”
“ผู้หญิงบ้าคนนั้นก็เหมือนคน คิดว่ายัยณีของเรารังแกได้งั้นเหรอ มาแนะนำไอ้เลวนั่นให้น้องสาวผม มันไม่ได้ อยู่ในสายตาของตระกูลทรัพยสานเลยด้วยซ้ำ!”
ปยุตยิ่งพูดยิ่งโมโห “ไม่ได้ ผมต้องไปหยุดยัยณี เธอ ต้องล้มเลิกความคิด”
“นี่ คุณกลับมาก่อน”
ผลินดึงแขนของเขา ตำหนิอย่างไร้อารมณ์ “คุณน่ะโง่ ทำไมไม่เข้าใจความคิดของลูกสาวคนเล็กของบ้าน ไม่ เห็นสีหน้าไม่ดีของชนัยเมื่อสักครู่นี้เหรอ บางทีครั้งนี้มัน อาจจะนำพาให้หัวใจของทั้งสองคนลงเอยกันนะ”
ปยุตชะงักไป “คุณหมายความว่า ยัยณีตอบตกลงเพื่อ ท้าทายชนัยงั้นเหรอ”
“หรือคุณคิดว่าน้องณีจะโง่พอที่จะฝากชีวิตตัวเองไว้ กับคนเลวกันล่ะ!
ผลินเหมาะสมที่จะเป็นผู้ช่วยของน้องสามี วันนัดบอด ปาณีไม่ได้แต่งตัว สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาที่สุดและไปยัง ที่สถานที่นัดหมาย
เมื่อพบกับปทิต พูดคุยกันเพียงไม่กี่คำ เธอรู้สึกว่า ผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามไม่ได้ดีไปกว่าข่าวลือที่น่ากลัว กักขฬะ อวดดี หลงตัวเอง และที่สำคัญที่สุด เจ้าชู้อย่าง มาก
“คุณหนูตระกูลทรัพยสาน ผมเรียกคุณว่าคุณณีได้ ไหมครับ”
“ได้สิ”
“ชื่อของคุณสวยงามเหมือนตัวคุณ ทันทีที่ผมเรียกชื่อ คุณ ก็คิดว่ากำลังจูบอยู่
ปาณีรู้สึกมวนท้อง
“คุณเคยมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า”
“ไม่เคย”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ยังบริสุทธิ์อยู่น่ะสิ”
ความแปลกใจแวบเข้ามาในดวงตาของผู้ชายฝั่งตรง
ข้าม
ปาณีอยากจะอาเจียน เธอพยายามที่จะรักษาความนิ่ง สงบ “นี่เป็นเรื่องส่วนตัว ฉันไม่สะดวกที่จะตอบ
“โธ่เอ๊ย นี่มันสมัยไหนแล้ว ยังหัวโบราณอยู่เลย มัน เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชายและผู้หญิงที่จะพูดคุยเกี่ยว กับหัวข้อที่ละเอียดอ่อน ผมขอบอกคุณ ถ้าคุณยัง บริสุทธิ์ ผมยินดีที่จะแต่งงานกับคุณ ไม่ใช่ว่าผมจะสนใจ สาวบริสุทธิ์ แต่ผมชอบผู้หญิงที่สะอาด”
“แล้วคุณเป็นผู้ชายที่สะอาดงั้นเหรอ”
ปาณีแดกดันโต้แย้ง ในที่สุดก็ไม่สามารถทนนั่งต่อได้ อีก เธอลุกขึ้นและจะไป “ฉันมีบางอย่างต้องทำ ลาก่อน คุณปทิต”
“อย่าเพิ่งไปสิ ผมยังไม่ได้ตอบคุณเลยนะ”
ปทิตยืนขึ้นและหยุดเธอด้วยเสียงอันดัง มือข้าง หนึ่งจับเอวเธอไว้ ส่วนอีกมือจับข้อมือของเธอ ล้อเล่น คลุมเครือ “ผมเป็นผู้ชายที่สะอาดหรือไม่ คุณไม่ลองก็ ไม่รู้
“ปล่อยฉัน! ”
ปาณีดิ้นรนอย่างรังเกียจ
“คนสวย ไม่ต้องอายหรอกน่า คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ช้าก็เร็วเราต้องเผชิญกับมัน ให้ผมเป็นผู้ชายคนแรก ของคุณนะ”
“ปล่อยเธอ”
เสียงคำรามของความโกรธที่ได้ยินนั้นดังมาจากทาง ด้านหลังของพวกเขา ปาณีได้ยินเหมือนว่าเป็นเสียง ของการอภัยโทษ ก่อนที่เธอจะหันไป ชนัยก็กำลังก้าว ยาวๆ ไปข้างหน้า มือผลักปทิตจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
“นายเป็นใคร”
ปทิตใบหน้าแดงลามไปยังลำคอหนาด้วยความโกรธ ถามคำถามอย่างอวดดี
“ฉันเป็นแฟนของเธอ”
ชนัยตอบอย่างหนักแน่น
“แฟนงั้นเหรอ หึ มึงคิดว่ากูจะเชื่อเหรอ มีแฟนแล้วยัง มานัดบอดทำไม ล้อกูเล่นเหรอ”
ปทิตเลิกคิ้ว มองชนัยขึ้นลงอย่างดูถูก “มึงไม่ใช่ว่าจะ เป็นชนัยสุนัขรับใช้ของตระกูลทรัพยสานหรอกเหรอ โอ้ ใช่ เด็กกำพร้านี่เอง”
หัวใจของปาณีเต้นแรง มองไปยังชนัย ความเจ็บปวด ในดวงตาของเขาแทงลึกเข้าไปในหัวใจของเธอ ทันใด นั้นเธอก็โกรธจัด ยกถ้วยที่เหลือกาแฟครึ่งหนึ่งบนโต๊ะ สาดเข้าใส่ใบหน้าของปทิต กัดฟันด่า “แกสิเป็นสุนัขรับ ใช้!”
เธอจะไม่ทนกับใครที่มาดูถูกชนัยอย่างแน่นอน ถึงแม้ ว่าชนัยจะไม่ใช่คนของเธอก็ตาม
ปทิตไม่คาดคิดว่าจะถูกผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอมาก ล้าดูถูกแบบนี้ยกมือขึ้นจะตบหน้าของเธอ แต่ถูกชนัย ต่อยจนล้มลงกับพื้นด้วยหมัดเดียว
ออกมาจากร้านกาแฟ ใบหน้าของปาณีค่อนข้างซีด เธอถามอย่างรู้อยู่แล้ว “คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
ชนัยตอบอย่างโกรธจัด “ถ้าผมไม่มาคุณก็ยินดีที่จะถูก สัตว์นรกนั่นทําลายใช่ไหม”
“นั่นมันเรื่องของฉัน อย่ามายุ่งกับฉันถ้าคุณไม่สนใจ ฉัน”
เธอหันกลับแล้วเดินไป ครุ่นคิดและหันกลับมาเพิ่มอีก ประโยค “เป็นคำพูดของแฟนฉัน ฉันไม่สนใจหรอก ใน เมื่อมันไม่เป็นความจริง”
ชนัยหยุดเธอ ตะโกนด้วยความโกรธ “คุณหมายความ ว่ายังไง เหตุผลที่ตกลงนัดบอดคือตั้งใจให้ผมอับอาย งั้นเหรอ”
ปาณีหายใจเข้าลึก ตั้งคำถามซ้ำ “ทำไมฉันต้องทำให้ คุณอับอาย คุณไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน ฉันแค่อยาก พยายามหาคนมาแต่งงานด้วยตัวเอง”
“คุณคิดแบบนี้เหรอ คิดว่าไม่ว่าจะเป็นแมวหรือสุนัข ตราบเท่าที่พวกเขายินดีที่จะแต่งงาน คุณก็เต็มใจที่จะแต่งงานงั้นเหรอ ทําไมคุณถึงได้ลดค่าตัวเองอย่างนี้!”
ปาณีเบะปากสั่น หันหลังและร้องไห้ ชนัยจ้องมอง เธอที่ไหล่สั่นเทา รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมันหนักเกินไป เขา พูดเสียงอ่อน “ก็ได้ หยุดร้องไห้ได้แล้ว ผมจะพาคุณไป เล่น”
เขาปลอบสักพักก่อนที่เธอจะหยุดร้องไห้ คนสองคน ขับรถเล่นทั้งบ่าย หลังจากทานอาหารเย็นด้วยกัน ปาณี ก็เสนอขึ้น “ฉันอยากไปที่บาร์ คุณจะไปไหม”
เขาพยักหน้า “ไปสิ ผมอยากดื่มสักสองแก้ว”
ทั้งสองเดินทางไปที่บาร์ ในบาร์มีแสงไฟสีเขียวและ สีแดง ชนัยแกล้งทำเป็นสมถาม “ช่วงสองปีมานี้คุณไป อยู่ที่ไหน”
“สถานที่ที่ห่างไกล”
“เจาะจงหน่อยได้ไหม”
“ทะเลทรายซาฮารา หุบเขากาฐมาณฑุ ภูเขาอากอ งกากัว ทะเลแคริบเบียน…”
ฟังเธอนับนิ้วพลางบอกว่าเธอเคยไปที่ไหนมาบ้าง หน้าของชนัยดูตกใจ เธอหัวเราะและบอกว่า “ล้อคุณ เล่นน่ะ”
“แล้วสบายดีไหม”
“กด”
“เคยถูกรังแกไหม”
“บ่อยครั้งอยู่”
“แล้วคุณจัดการกับมันยังไง”
“บางครั้งตะโกนขอความช่วยเหลือ บางครั้งก็ พยายามหนี บางครั้งก็เป็นนักฆ่า”
ชนัยขมวดคิ้ว “คุณเคยถูกรังแกเหมือนในวันนี้ด้วยเห
รอ ”
“ทำไมจะไม่เคยล่ะ ฉันสวยมากนะ
ชนัยสูดลมหายใจเข้าลึก “แล้วคุณทำทำไมบอกว่าไป ก็ไปแบบนั้นได้ยังไง”
“นี่ ยังไงก็ตาม มันก็เป็นอดีตไปแล้ว อยู่ในยุทธภพ เท้าจะไม่เปียกได้ยังไง”
“คิดอยากจะไปท่องยุทธภพก็ไปงั้นเหรอ”
“แล้วยังไงล่ะ ก็ไปมาแล้วนี่”
ชนัยผายมือทั้งสองข้าง ชนัยพูดไม่ออกด้วยความ
โกรธ
พวกเขาคุยกันอีกสักพัก เขาก็หยิบเสื้อขึ้น “กลับเถอะ ดึกมากแล้ว”
ออกจากบาร์ มีสายลมเย็นพัดเข้าใบหน้า ปาณีหลับตา แล้วพูดว่า “เหมือนว่าฉันจะเมานิดหน่อย แล้วคุณล่ะ”
“มีสติน้อยกว่าคุณ
พวกเขาเดินไปยังรถที่จอดอยู่ข้างถนน แต่ในเวลานี้ จู่ ๆ ก็มีสี่ห้าคนวิ่งเข้ามาที่ไม่รู้ว่าจากทางทิศไหน แต่ละ คนถือไม้ในมือ
ปาณีฟื้นสติที่เหลือครึ่งหนึ่งขึ้นมาด้วยความกลัว และ หลบซ่อนตัวอยู่หลังชนัย
“พวกแกจะทำอะไร
ชนัยถามอย่างใจเย็น ร่างกายเป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่ ปกป้องแน่นหนาอยู่ด้านหน้าของปาณี
“กล้าที่จะนั่งบนหัวของคุณชายของพวกเรา พวกแก ว่าพวกเราจะทำอะไรล่ะ”
ที่มาเป็นลูกน้องของปทิต ชนัยรำพึงเสียงเย็น มองไปที่ปาณีและพูดว่า “คุณแค่อยู่เฉย ๆ ผมจัดการเอง”
ผู้ชายหลายคนวิ่งไปข้างหน้า ยกไม้ขั้นทุบตี แต่ชนัย ซ้อมเทควันโดมาพร้อมกับปยุตเป็นเวลาหลายปี
ทุ่มพวกเขาหลายคนลงพื้นได้อย่างรวดเร็วและ ง่ายดาย พูดด้วยสีหน้าดุร้ายภายในใจอ่อนโยน “กลับ ไปบอกปทิต อย่าไร้ยางอาย!”
คนหนึ่งพยายามที่จะลุกขึ้นจากพื้น และรีบย้ายเป้า หมาย จนเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของปาณี ชนัยวิ่งเข้า เตะตัดขาข้างหนึ่งของสุนัขรับใช้จนได้รับบาดเจ็บ แต่ เขาถูกชายอีกคนลอบกัดเข้ามาตี เขาร้องด้วยความเจ็บ ปวด และในขณะกำลังจะกลับไปสู้ ก็กลับเห็นว่ามีอีก กว่าสิบคนวิ่งมาแต่ไกล เขาจึงดึงมือปาณีขึ้น “วิ่งเร็ว…”
ปาณีนั้นด้านกีฬาเป็นเลิศและการวิ่งยิ่งเป็นจุดแข็ง ของเธอ ไม่เหมือนหญิงงามคนอื่นการวิ่งแบบนี้เหมือน ทองพันชั่งจะวิ่งไปร้องตะโกนไปก็ไม่หวั่น ทั้งสองคน เลี้ยวเจ็ดเลี้ยวแปด เข้าไปในซอยที่มืดและเงียบ
“ห้ามพูด”
ชนัยทำให้เธอเงียบและหยุดเคลื่อนไหว มีสิบคนวิ่ง ผ่านพวกเขาไปรวดเร็วดั่งสายลม เมื่อเสียงฝีเท้าจาง หายไป ปาณีลดเสียงลง “คุณไม่เป็นไรนะ”
ซอยนั้นเงียบสงัด ได้ยินเพียงสองเสียงหอบเหนื่อย
ชนัยสั่นศีรษะ “ผมไม่เป็นไร”
“ที่ถูกไม้ตีเข้าที่หลังคุณเจ็บไหม”
“ไม่เจ็บ
ชนัยกลัวว่าเธอจะตำหนิตัวเองจึงสั่นศีรษะและตอบว่า ไม่เจ็บ ทั้งที่จริงแล้วมันเจ็บหลังจนจุกเสียดถึงใจ
“มันคงไปกันไกลแล้ว ออกไปกันเถอะ”
ชนัยช่วยพยุงลุกขึ้น กำลังจะออกจากซอย แต่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่หายไปกลับมา เขารีบดึงปาณีลงนั่ง ยอง ๆ ข้างเขา หลังจากไม่กี่นาที เสียงฝีเท้าหายไปอีก ครั้ง
ปาณีเงยหน้าขึ้น เห็นแสงสะท้อนบาง ๆ ของเหงื่อบน หน้าผากของเขาผ่านแสงจันทร์สีอ่อน จึงขมวดคิ้วมุ่น เธอถามว่า “คุณเป็นยังไงบ้าง
“ไม่เป็นไร”
“ขอฉันดูหน่อย”
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋า อยากเห็นหลังของชนัย
“บอกแล้วว่าไม่มีอะไรไม่ต้องดูหรอก”
ชนัยหยุดเธอไว้ รู้สึกว่าหลังบวมขึ้น รู้สึกปวดแสบปวด ร้อน
“ในเมื่อไม่เป็นไร งั้นให้ฉันดูได้มั้ย”
ปาณีดื้อรั้นขึ้นมา ไม่หยุดจนกว่าจะได้เห็นมัน
คนหนึ่งไม่ให้ดู อีกหนึ่งคนต้องการดู ภายใต้การ ยื้อยุด ชนัยเอื้อมมือไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน ก้มศีรษะ ลงเพื่อควบคุมเธอด้วยการจูบที่ริมฝีปาก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ