ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 214 ความรักหมุนวนกลับมา



ตอนที่ 214 ความรักหมุนวนกลับมา

“เธอต้องกลับไปอยู่เคียงข้างเขา ถ้ายังยืนยันคำ เดิมกับฉัน จากนี้ไปก็อย่ามาเรียกฉันว่าลุง พวกเราไม่ ติดต่อกันไปจนวันตาย!”

ลุงก็โกรธจัดไม่ต่างกัน

ผลินถอนหายใจอย่างหมดหนทาง หันหลังและเดิน ออกจากประตูไป พูดกับปยุตที่ยืนอยู่ข้างนอกประตู “ทำ ยังไงดี คุณทำให้นภนต์เห็นความจริงใจของคุณ แต่ พวกคุณลุงเขามองไม่เห็น ตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไง พวกเขาก็ไม่เห็นด้วย ทำยังไงดี”

ปยุตไม่พูดอะไร เดินตรงเข้าไปในบ้าน พูดกับตีรณ ที่นั่งอยู่บนโซฟาสีหน้าหมองคล้ำ “คุณลุงคุณป้าครับ ผมรู้ว่าเมื่อครั้งอดีตลินได้รับความคับข้องใจมากมายที่ ยู่กับผม แต่ผมขอสัญญากับพวกคุณ ว่ามันจะไม่มีอีก แล้ว”

“พวกเราจะเชื่อในสิ่งที่คุณพูดได้ยังไง”

“ผมสาบาน ถ้าผมทำไม่ได้ ขอให้ถูกฟ้าผ่า ห้าม้า แยกร่าง ไม่ได้ตายดี…

“คุณยุต อย่าสาบานร้ายแรงแบบนี้!”
ได้ยินคำพูดที่ละเอียดอ่อนในเรื่องความตาย ผลิน นึกเชื่อมโยงไปถึงคำสาปแช่งของทาตฤ รีบห้ามไม่ให้ป ยุตพูดต่อไป

เมื่อตีรณได้ยินว่าเขาสาบานด้วยคำที่ร้ายแรง จึงหัน หน้าหนีไม่พูดอะไรอีก

“คุณอย่าลืม ว่ายัยลินของเราไม่สามารถมีบุตรได้”

ที่ปินาเตือนเขา

ปยุตตอบด้วยสีหน้าปกติ “ตั้งแต่แรกผมก็ไม่เคย รังเกียจ”

“แต่พ่อแม่ของคุณรังเกียจ”

“พ่อของผมจากไปแล้ว แม่ของผมได้แสดงให้เห็น แล้วว่าความสุขของผมสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

ได้ยินคำพูดแบบนั้น แม้ว่าจะมีความคิดเห็นเพิ่มอีก แต่การยุ่งมากไปก็จะไม่ดี ทีปินาจับมือหลานชายและ พูดอย่างจริงจัง เพราะมันเป็นทางที่เธอเลือกเอง พวกเราเข้าไปยุ่งมากก็คงไม่ได้ ฉันกับลุงของเธอไม่ใช่ พ่อแม่ของเธอ ไม่ใช่เจ้าชีวิตเธอ พวกเราแค่หวังว่า ครั้ง นี้เธอจะได้รับความสุขที่แท้จริงเสียที”

ผลินมีก้อนสะอื้นในลำคอ เธอกอดป้าเอาไว้ “ในใจฉัน ฉันคิดว่าพวกคุณเป็นพ่อแม่ของฉันค่ะ ขอบคุณ สำหรับสองปีนี้นะคะ”

เธอออกจากบ้านที่อยู่มาสองปีพร้อมกับปยุต เริ่มต้น ใหม่อีกครั้งไปบนถนนที่เคยเดิน เมื่อถึงสนามบิน ปยุต เพิ่งจองตั๋วเครื่องบิน มือถือของผลินดังขึ้น เธอมองเห็น ว่าเป็นเบอร์ของลุง จึงรีบกดตอบรับ “ฮัลโหล คุณลุงคะ”

“ยัยลิน พวกเธอไปหรือยัง”

“ยังไม่ขึ้นเครื่องค่ะมีอะไรเหรอคะ”

เธอได้ยินเสียงของลุงผิดปกติ อดไม่ได้ที่จะไม่ สบายใจ

“ป๋าของเธอหมดสติไป ตอนนี้อยู่ระหว่างทางไปโรง พยาบาล”

“หมดสติไป?” ผลินตกใจ รีบวิ่งออกจากสนามบิน

“ ทำไมถึงหมดสติไปได้คะ ที่ฉันเพิ่งไปก็ยังดีดีอยู่

เลย”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน หลังจากที่เธอไปเธอนั่งอยู่บน โซฟาและคุยกับฉันสักพัก แต่แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกอึดอัดที่ หน้าอก แล้วก็หมดสติไป”
ปยุตตามออกมา จับมือของผลินไว้ “คุณกำลังไป ไหน เราจะขึ้นเครื่องแล้วนะ”

“คุณยุต ฉันขอโทษนะ วันนี้ฉันกลับไปไม่ได้ คุณป้า ของฉันเป็นลมที่บ้าน ตอนนี้ต้องรีบไปโรงพยาบาล คุณ กลับไปก่อนเถอะ อีกสองวันฉันจะกลับไปเอง!”

ปญฺตงุนงง ถอนหายใจและพูดว่า “งั้นผมก็ไม่กลับ ไป พวกเราไปเยี่ยมด้วยกัน”

คนทั้งสองรีบไปโรงพยาบาลอีกครั้ง เมื่อเห็นป้าที่ อยู่บนเตียงสีหน้าซีดเซียว หัวใจของผลินพลันเจ็บปวด “คุณลุงคะ หมอว่ายัง ไงบ้าง”

ตีรณตอบด้วยดวงตาแดงก่ำ “บอกว่าอาการแย่ลง กลัวว่าจะอยู่ได้ไม่เกินฤดูใบไม้ร่วงนี้”

ผลินน้ำตาร่วงหล่นลงมา แม่ก็เสียชีวิตเพราะมะเร็ง แม้ว่าป้าจะอยู่มาได้สามปี แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถ หลีกหนีชะตากรรมแห่งความตายไปได้

“คุณลุงคะ อย่าเสียใจไปเลย ตอนนี้การแพทย์กำลัง พัฒนา คำพูดของหมอก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป”

“หมอบอกว่าตั้งแต่นี้ไปจะต้องเข้ารับการรักษาใน โรงพยาบาล ฉันต้องไปทำงาน ป้าของเธอต้องอยู่คน เดียว….”
“ฉันมาดูแลให้เองค่ะ”

ผลินยืนยันมั่นคง

ปยุตพูดขึ้นทันที “ย้ายโรงพยาบาลเถอะครับ คุณ กลับไปที่เมือง B กับพวกเรา มันจะสะดวกที่ลินดูแล มากกว่า ผมจะหาแพทย์ฝีมือดีที่สุดเพื่อรักษาคุณป้า”

ตีรณมีสีหน้าลังเล ผลินคิดว่ามันค่อนข้างเหมาะสม แต่ไม่คิดว่าป้าที่หมดสติจะตื่นแล้ว และปฏิเสธ “ฉันป่วย มากแล้ว ที่นี่คือบ้านเกิดของฉัน พ่อแม่ของฉันตายบน ผืนแผ่นดินนี้ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

“คุณป้าคะ ถ้าคุณไปเมือง B คุณจะได้รับการรักษา ที่ดี คุณจะทิ้งคุณลุงไว้คนเดียวเหรอคะ ตราบใดที่ยังมี ความหวัง พวกเราไม่ควรยอมแพ้นะคะ”

ผลินเกลี้ยกล่อมทีปินาอย่างหวังดี

ทีปนาเองก็ตัดสินใจแน่วแน่แล้วเหมือนกัน ไม่ว่า พวกเขาจะพูดอย่างไร ต่อให้ตายเธอก็จะไม่ไป

ในที่สุดผลินก็หมดหนทาง พูดกับปยุตว่า “เธอคงจะ ไม่ไปแน่แล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะ ที่บริษัทมีหลาย อย่างที่ต้องจัดการ คงไม่สามารถอยู่ในเมือง F ได้ ตลอดเวลา”
ปยุตไม่เต็มใจจากผลิน “แล้วคุณจะกลับไปเมื่อไหร่”

“ถ้าหากป้าของฉันดีขึ้นแล้วก็จะกลับไป ช่วงเวลานี้ ฉันจะทำการเกลี้ยกล่อมเธอให้ดีที่สุด พยายามให้เธอ ตกลงไปรักษาต่อที่เมือง B

และแล้วก็ถึงจุดสิ้นสุด หมดข้อคัดค้าน ปยุตต้อง เห็นด้วยกับข้อเสนอของเธอ จําต้องลาจากผลินอย่าง อาลัยรัก กลับไปที่เมือง B เพียงคนเดียว

ครั้งนี้หลังจากที่กลับมาปยุตงานยุ่งมาก ผลิตภัณฑ์ ใหม่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เขามักจะเดินทาง ไปทั่วโลกในเรื่องธุรกิจ ไม่มีเวลามากพอที่จะเดินทาง ไปมาระหว่างเมือง B กับเมือง F แต่ยังไงก็ตาม ความ สัมพันธ์ของเขากับผลินก็ไม่เคยหยุดชะงัก

ชนัยถูกสั่งให้เข้าเมือง F เกือบทุกสัปดาห์ ทุกครั้ง ที่ไปต้องมีแพ็กเกจอาหารเสริมบำรุงกำลังขนาดใหญ่ ไปด้วย และฝากคำทักทายด้วยความเคารพจากปยุตมา ถึงป้าสะใภ้ จากนั้นก็รายงานทิศทางการเดินทางของ ปยุตให้กับผลิน วันเวลาผ่านไปเช่นนี้วันแล้ววันเล่า ใน พริบตา ก็เข้าสู่ภายในเดือนเมษายนแห่งฤดูใบไม้ผลิอัน อบอุ่น

ในวันนี้ ผลินได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลใน เมือง แจ้งว่าโรงพยาบาลของพวกเขาได้เปิดโรง พยาบาลแห่งใหม่ แนะนำการรักษาใหม่สำหรับโรคมะเร็งตับ ให้พวกเขาย้ายโรงพยาบาลไป

ขณะนั้นผลินสงสัยมาก ทำไมทางโรงพยาบาลถึง เลือกคนไข้ตามอำเภอใจ และอีกอย่างเป็นคนไข้ที่ไม่รู้ จัก เธอคิดว่ามันเหลือเชื่อ เธอไม่รู้จนกระทั่งบ่ายวันนั้น เมื่อชนัยมา ปรากฏว่า ทั้งหมดถูกจัดขึ้นโดยปยุต

ทีปินาถูกย้ายไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมือง F เพื่อเริ่มต้นการรักษาที่ทันสมัยที่สุด และค่าใช้จ่าย ทางการแพทย์ทั้งหมดจะถูกจ่ายโดยปยุต

ภายใต้ความช่วยเหลือของแพทย์และความ ปรารถนาอันแข็งแกร่งที่จะมีชีวิตอยู่ อาการของทีปินา เริ่มดีขึ้น ผลินมีความสุขมาก แต่ยิ่งทำให้เธอมีความ สุขมากขึ้น เมื่อมาถึงวันครบรอบปีที่สามในการแต่งงาน ของเธอกับปยุต ปยุตบินจากดูไบหลายพันไมล์ เพื่อมา อยู่เคียงข้างเธอ พวกเขาไม่ได้เจอกันมานานกว่าสอง เดือนแล้ว เหมือนคู่แต่งงานใหม่ที่ต้องจากลา กดจูบดูด ดื่มร้อนแรงทันทีเมื่อพบกัน

“เมื่อวานนี้คุณไม่ได้ไปต่างประเทศเหรอ ทำไมวันนี้ ถึงได้มาที่เมือง F ได้ล่ะ”

ผลินถามด้วยความประหลาดใจและยินดี

“ไม่ต้องพูดเลยกับวันสำคัญเช่นนี้ถ้าผมยังอยู่บน โลก ถึงผมอยู่บนดวงจันทร์ ผมก็จะขึ้นจรวดกลับมา”
เธอกระแอมไอหัวเราะ “ไม่ได้เจอกันนาน ลักษณะ การพูดลื่นไหลเป็นน้ำมันไม่น้อยเลยนะ

ปยุตบีบจมูกเธอ “เห็นได้ชัดว่าเป็นคำพูดที่จริงใจ อย่าตีความผิดว่าผมลื่นเป็นน้ำมัน”

เขาเหลือบมองไปที่ห้องผู้ป่วย “คุณป้าเป็นยังไง

บ้าง”

“สองวันนี้ความอยากอาหารดีขึ้น ใบหน้ามีสีแดง มากขึ้นด้วย อาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

“นั่นมันเยี่ยมมาก”

ปยุตยินดีจากใจ “ผมเข้าไปเยี่ยมเธอได้ไหม”

“เธอเพิ่งจะหลับไป อย่าไปรบกวนเธอเลย

ผลินจับแขนเขาไว้ “เนื่องจากกลับมาในวันครบรอบ ไม่มีของขวัญให้ฉันเหรอ”

“คุณอยากได้อะไร

เธอครุ่นคิด “ตามแต่คุณต้องการ คุณให้อะไรฉันก็ ชอบทั้งนั้น”

ปยุตค่อย ๆ หยิบสร้อยคอทองคำขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท สายสร้อยเป็นประกายระยิบระยับ ตัวจี้ นั้นสวยงามมาก มันเป็น หัวใจดวงเล็ก เต็มไปด้วยการ ล้อมกรอบฝังเพชรรูปหัวใจดวงเล็ก ๆ เมื่อมองผ่านแสง ของดวงอาทิตย์ แสงประกายนั้นแยงตาจน เกือบลืมตา ไม่ขึ้น

“ชอบหรือเปล่า”

ผลินเผยร้อยยิ้ม “ชอบค่ะ”

“มา เดี๋ยวผมจะใส่ให้คุณ

ปยุตค่อย ๆ บรรจงใส่สร้อยรอบลำคอของผลิน อย่างอ่อนโยน ส่งเสียงด้วยความชื่นชม “มันสวยมาก”

ผลินกอดแขนเขาและพูดอ้อน “คนสวยมากหรือ สร้อยคอที่สวยมาก

ปยุตมองเธอ “สวยมากทั้งคู่”

แล้วเขาก็ยื่นมือออกมา “เอามา”

“อะไรเหรอ” เธอไม่ตอบสนอง

“ในเมื่อมันเป็นวันครบรอบแต่งงานของคนสองคน เพราะฉะนั้นไม่ควรมีเพียงแค่คนเดียวที่ได้รับของขวัญ”
ผลินรู้สึกอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี เพราะไม่ รู้ว่าปญฺตจะมากะทันหัน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เตรียมอะไร มาเลย ดวงตากลอกหมุนวน เขย่งเท้าขึ้นและจูบที่แก้ม ของเขา “ของขวัญที่จริงใจที่สุดของศตวรรษนี้

ปยุตชะงักไปช่วงสั้น ๆ แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างไร้ อารมณ์

ถึงแม้ว่าปากจะไม่พูดอะไร แต่สีหน้าไม่ยากที่จะ เห็น เขาค่อนข้างไม่พอใจกับของขวัญ

ตอนเที่ยงทั้งสองไปทานข้าวที่ร้านอาหาร เขาพูด กับผลินว่า “ทานอีกหน่อยสิ การดูแลคนป่วยมันลำบาก เกินไปใช่ไหม ทำไมคุณดูผอมลงแบบนี้”

ผลินส่ายหัวขณะดื่มซุปดอกบัว “ไม่ลำบาก อาจเป็น เพราะความรัก”

เขาหัวเราะอีกแล้ว “หลังจากช่วงเวลาของงานยุ่ง ผ่านไป และเมื่อคุณป้าของคุณแข็งแรงขึ้น ผมจะพาคุณ ไปพักผ่อน”

ผลินจงใจแกล้ง “คุณอยากชวนพวกชื่นใจกับคุณ ชนัยไปด้วยไหม”
“แค่เราสองคนเท่านั้น”

เธอหันมองปยุตอย่างรวดเร็ว

“มันจะไม่เป็นการใช้ตะกร้าไม้ไผ่หาบน้ำว่างเปล่า หมดใช่ไหม รู้ไหมว่าที่ฉันไม่เห็นหิมะเพชรยังคงกังวล จนถึงตอนนี้”

“ทำไมคุณยังคิดถึงมันอยู่อีก” ปยุตไม่อยากเชื่อ “ผมให้ชนัยไปตรวจสอบแล้ว ที่ฮอกไกโดไม่มีหิมะเพชร อย่างที่คุณพูดถึง”

“ชนัยหลอกคุณ เขาไม่เคยเห็นมันสักครั้ง เขาจะรู้ได้

ไง”

“แล้วคุณเคยเห็นเหรอ คุณแน่ใจได้ยังไงว่ามันต้อง มีหิมะแบบนั้น”

“เพื่อนร่วมชั้นของฉันได้เห็นมัน

“ไม่แน่ว่าเพื่อนร่วมชั้นของคุณอาจจะหลอกคุณ”

ผลินถอนหายใจ “หรือว่าคุณจะซื้อบ้านในหมู่บ้านใต้ ภูเขาฮอกไกโดให้ฉัน ถ้าฉันอยู่ที่นั่นทุกหน้าหนาว ฉัน ไม่เชื่อว่าฉันจะไม่เห็นมัน

“อย่าแม้แต่จะคิด”
“ทำไมล่ะ”

“เพราะผมไม่ได้วางแผนที่จะตั้งรกรากในสถานที่ แบบนั้น และเช่นกัน ผมไม่ได้วางแผนที่จะแยกห่างจาก คุณ”

ผลินยิ้มอย่างไร้อารมณ์และมองไปที่เขาอย่างจิก กัด “ผู้ชายเป็นใหญ่

“จริงสิ คุณบอกชนัยนะ ครั้งต่อไปที่มาเยี่ยมป้าของ ฉันไม่ต้องแบกอะไรเยอะ”

“ของพวกนั้นผมสั่งให้เอามาเอง เขาบอกแล้วไม่ใช่ เหรอ”

“นั่นแหละ คุณไม่ต้องใช้ชนัยเอามาเยอะอีกนะ มัน เสียของเปล่า ๆ

“มันเป็นยาบำรุง มันจะช่วยในการฟื้นตัวของคุณป้า ของคุณ”

“ฉันรู้ว่าคุณต้องการที่จะเอาใจพวกเขา แต่ตอน นี้คุณทำได้แล้ว หลายเดือนมานี้คุณจัดการเรื่องโรง พยาบาลให้ แล้วยังจัดการส่งคนมาเยี่ยม จัดการสิ่งพวก นี้สม่ำเสมอ ดูแลคุณป้าของฉันเป็นอย่างดี ถึงพวกเขา ไม่ได้พูดอะไร แต่ที่จริงแล้วพวกเขารู้สึกขอบคุณคุณ มาก”
ปยุตจ้องมองเธออย่างอ่อนโยน “คุณคิดว่าผมทำไป เพื่อเอาใจพวกคุณลุงของคุณเหรอ”

“ถ้าไม่ใช่แล้วอะไรเหรอ”

“แน่นอนว่ามันเพื่อคุณ”

“เพื่อฉัน”

ผลินค่อนข้างสับสน

“เพราะผมรู้ว่าตอนนี้คุณเหลือเพียงคุณลุงและ คุณป้าสะใภ้ที่เป็นญาติ ผมไม่อยากให้คนที่ผมรักสูญ เสียคนที่รักไป ดังนั้นผมจึงอยากที่จะปกป้องพวกเขา เพื่อคุณ”

ตลอดทั้งนาที ผลินไม่ได้พูดอะไรเลย เธอประทับใจ มาก ลุกขึ้นโผเข้าไปหาปยุต กอดเขาไว้ ถามทั้งน้ำตา “ทำไมคุณถึงทำดีกับฉันตอนนี้”

“ผู้ชายเมื่อสัญญาแล้วมักจะรักษาสัญญา ผมบอก แล้วไงว่าจะดีกับคุณ ก็จะดีกับคุณ”

การเดินทางของปยุตนั้นกระชั้นชิดมาก เขาต้องบิน กลับไปดูไบด้วยเที่ยวบินตอนบ่าย ดังนั้นทันทีที่ทาน อาหารกลางวันเสร็จ เขาบอกลาผลิน เพื่อเตรียมตัวไป สนามบิน
“คุณเดินทางมาไกลขนาดนี้ แค่มาทานข้าวกับฉันเห

รอ”

“ถ้าคุณปล่อยวางเรื่องคุณป้าสะใภ้ได้แล้ว คุณจะ เดินทางไปด้วยกันกับผมไหม”

รู้ว่าเธออาลัยอาวรณ์ และตัวเขาเองก็อยู่ในอารมณ์ นั้นเช่นกัน

“พวกเราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่”

“มันขึ้นอยู่กับคุณ ผมอยู่รอบตัวคุณ”

ผลินยิ้มอย่างไม่พอใจ “คุณไม่กังวลเกี่ยวกับความ สัมพันธ์ของฉันกับนภนต์เหรอ เราเจอกันบ่อยนะ เขามา หาป๋าสะใภ้ของฉันสองครั้งในสามวัน และมักจะพาฉัน ออกไปทานข้าว”

“มันไม่มีประโยชน์ที่จะกังวล ผมไม่สามารถนำคุณ ใส่ไว้ในเข็มขัดติดตัวไปด้วยทุกวัน ไปไหมไปกับเข็มขัด ถ้าผมต้องการ”

“เอาล่ะ ล้อเล่นน่ะ นภนต์กับฉันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

แล้ว”

“แน่นอนผมรู้ว่าคุณล้อเล่น นภนต์เป็นคนที่น่าเชื่อถือ มากสำหรับผม”
“อ้าว….ถ้าพูดอย่างนี้ ฉันไม่ควรค่าได้รับความไว้ วางใจของคุณเหรอ”

“น่าจะควรค่าสิ”

“อะไรคือน่าจะ”

ผลินเริ่มไม่พอใจ “คุณพูดกับฉันให้ชัดเจนหน่อย ไม่ อย่างนั้นก็ไม่ต้องไป

ฮ่า ๆ ปยุตหัวเราะ “ก็ได้ เชื่อใจได้ เอาล่ะ ปล่อยผม ไปเถอะ ถ้ายังไม่ไปสนามบินผมก็คงตกเครื่องแน่”

“ได้ งั้นอยากจูบลาไหม”

“แน่นอนว่าอยาก

ทั้งสองคนกอดกันแน่น หลังจากจูบที่ร้อนแรง ผลินกระซิบที่ข้างหูของเขา “เจอกันคราวหน้า ฉันมี เซอร์ไพรส์ให้คุณ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ