ตอนที่ 203 ทำให้คุณผิดหวัง
เธอช่วยเขาถือกระเป๋าเอกสาร ทั้งสองเดินเคียงข้างกัน ออกมาจากอาคารผู้โดยสารจากสนามบินนานต์ตอบเธอ สบายๆ “ผมอยู่บนเครื่องทั้งวัน จะมีเวลาไปไหนไกลๆได้ ทั้งหมดเป็นพลังแห่งความคิดถึงล้วนๆ”
เธอยิ้มกว้าง “อยากกินอะไรล่ะ? ฉันเลี้ยงเอง?”
“จริงหรือหลอกเนี่ย ขี้เหนียวเอ้ย?
“ว่าใครขี้เหนียว?”
“คุณนะสิ ตอนเจอกันครั้งแรกพูดซะดิบดีว่าถ้าสัมภาษณ์ งานผ่านจะเลี้ยงข้าวผม ผลสุดท้ายกินอิ่มแล้วผมก็เป็นคน จ่ายอยู่ดีนั่นแหละ”
“นั่นมันคุณอยากเลี้ยงเองต่างหากล่ะ ฉันไม่ได้บอกให้ จ่ายซักหน่อย”
“ก็ตอนนั้นผมเห็นคุณไม่ค่อยมีตังค์ อีกอย่างผมก็เป็น สุภาพบุรุษ ดังนั้นจึงไม่อยากให้คุณลำบากใจ แต่ว่าต่อมา เงินเดือนคุณก็เพิ่มขึ้นแล้ว ก็ไม่เห็นเลี้ยงข้าวผมบ้างเลย อย่างนี้ไม่เรียกขี้เหนียวหรือ? แต่ว่าไม่เป็นไร ยังไงซะผม ก็โตกว่ามีกำลังมากกว่า ไม่บังอาจรบกวนผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างคุณหรอก”
“อุ้ย ทางนั้นมีหัววัวด้วย”
ผลินทําท่าประหลาดใจ ขึ้นไปบนท้องฟ้า
“วัว?” นภนต์ตกใจ “มีวัวที่ไหนกัน?”
“คุณมองไม่เห็นหรือ? ตรงนั้นน่ะมีหัววัวแต่ถูกใครก็ไม่รู้ เป่าปลิวไปบนท้องฟ้าแล้ว?”
นภนต์หันกลับมามองที่เธอ แสดงให้เธอรู้ว่าเรื่องขำขัน เธอไม่ตลก
ทานข้าวกลางวันเสร็จแล้ว ผลินไปเป็นเพื่อนนภนต์เดิน ช้อปปิ้งตามตรอกซอกซอยในเมือง B เธอเอาใจใส่ด้วย การอธิบายความเป็นมาของแต่ละซอยย่อยให้เขาฟังโดย ละเอียด นภนต์ถามด้วยความประหลาดใจ “คุณทำไมถึง รู้ลึกซึ้งถึงขนาดนี้เนี่ย?”
“ฉันทำงานแถวนี้ได้เดือนสองเดือนแล้วล่ะทำไมจะไม่รู้ ล่ะ”
“คุณบอกว่างานยุ่งมากไม่ใช่หรือ? บอกว่าให้กลับไป เมืองFบ้าง คุณก็บอกว่ายุ่งถึงขนาดข้าวยังไม่มีเวลากินเลย ทําไมถึงมีเวลามาสำรวจแถวนี้ล่ะ?”
ผลินกลืนน้ำลายลงคอ ทำตาปริบๆตอบไป “คุณไม่รู้ หรือว่าความจําฉันน่ะเนเลิศ เรื่องราวแถวนี้ใช้เวลาเพียงวัน เดียวก็เพียงพอแล้ว”
ตอนเย็นทั้งสองยังคงทานอาหารเย็นด้วยกันอีกทานเสร็จ แล้วก็ไปเที่ยว KTV กันต่อถึงเที่ยงคืนนภนต์อยากจะ ไปส่งผลินกลับไปพักผ่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด ผลินจึงให้เขาส่งเธอแค่ห้องรับแขกหอพัก
ตอนลงจากรถ นภนต์จับมือของเธอไว้ เธอถามอย่าง ลังเลว่า “มีอะไรหรือ?”
“ลืมอะไรหรือเปล่า?”
ความหมายของเขาคือควรจะจูบลากันสักหน่อยไหม ผลินทำตัวไม่ถูก ณ เวลานั้นโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นพอดี เธอรีบหดมือกลับ เขาจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “ใครกัน ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ยังโทรหาคุณอีก”…..
มือหนึ่งกดรับสาย อีกมือหนึ่งผลักประตูออกไป “ฮัล โหล?”
“วันนี้ทำไมคุณลางานล่ะ?”
ปยตเป็นคนโทรมา ผลินลางานเพียงแค่บอกกล่าวกับ หัวหน้าทีม ไม่จำเป็นต้องแจ้งกับท่านประธาน ปยุตติด ประชุมกว่าจะรู้ว่าเธอไม่ได้มาทำงานก็ช่วงบ่ายแล้ว
“คะ ท่านประธาน มาแล้วค่ะ”
ผลินยิ้มให้นภนต์พร้อมกับโบกมือลา หันหลังกลับขึ้น
หอพักไป
“คืนนี้คุณไม่กลับบ้านหรือ?”
“อ้อ ใช่ค่ะ”
พูดจบก็นึกได้ว่าปยุตจะต้องสงสัยเธอที่พูดประโยคนั้น ออกไป รีบตัดบท “ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ฉันขอนอนที่ หอพักนะคะ”
“คนเดียวหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
ตุ๊ดๆๆ ปยุตวางสายไปแล้ว ผลินบ่นกับโทรศัพท์ “อะไร กัน แค่นี้ก็วางสายละ
วันที่สองเป็นวันเสาร์ ยังคงไม่ต้องไปทำงานนภนต์มารับ ผลินแต่เช้าที่หอพักออกไปด้วยกัน ตอนที่เธอขึ้นรถ “วันนี้จะ ไปไหนคะ?”
“ไปทะเล”
“ไปทะเลหรือ?” เธอถลึงตาอย่างตื่นเต้น “ไปทะเลที่ไหน คะ?”
“ผมเช่าเรือยอร์ชเอาไว้ จะพาคุณไปรับลมทะเลสัก หน่อย”
“ไม่เหมาะมังคะ อากาศเย็นแบบนี้ ถึงไม่โดนลมก็แทบจะแข็งตายแล้ว ขืนยังไปรับลมทะเลอีก มีหวังฉันได้ตาย เร็วแน่ๆ?”
ผลินจามออกมาขณะที่กำลังพูด
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าหนาวตายผมจะรับผิดชอบเอง”
นภนต์หัวเราะชอบใจ “แต่ถึงไม่หนาวตาย ผมก็รับผิด ขอบคุณอยู่ดี”
โอ้ย ผลินชักจะไม่สนุกแล้ว แต่ก็ไปกับเขาอย่างไม่มี ทางเลือก
ปยุตนั่งอยู่ในห้องอ่านหนังสือที่บ้าน ในมือถือผลงานชิ้น เอกด้านจิตวิทยาไว้เล่มหนึ่ง «Discard heavy»
แต่ว่ากลับอ่านไม่รู้เรื่องเพราะจิตใจว้าวุ่น ตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงวันนี้ เขารู้สึกไม่สบายใจเลย เพียงเพราะเขารู้ว่า ผลินไปเที่ยวกับนานต์
ป้ง เขาโยนหนังสือลงไปข้างๆ เอาหลังพิงเก้าอี้ หลับตา
ลง
ไหนว่าจะอยู่เคียงข้างกันตั้งแต่วันนี้และตลอดไป ทำไม พอนมนต์มาถึงเธอกลับไปยืนเคียงข้างเขาซะล่ะ?
หรือว่าที่มาอยู่เคียงข้างเขาก็เพียงแค่ความรู้สึกเห็นอก เห็นใจเขาแค่นั้น
พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันทำอะไรบ้างนะ? ชายก็โสด หญิงก็โสดดังเชื้อเพลิงกับไฟ……
เขายิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน ง่ายดายปานนั้นไม่อยากจะนึกถึง เขา ลุกขึ้นคว้ากุญแจรถเตรียมจะออกไป
ยังคงจินตนาการต่อถึงความเป็นไปได้ ในใจเขาตอนนี้ แทบอยากจะฆ่าคนแล้ว
นภนต์ขับเรือยอร์ชออกไปที่กลางทะเล ทันใดนั้นกุหลาบสี แดงสดไม่รู้มาจากไหนส่งให้ผลินต่อหน้า “ตอบรับการขอ แต่งงานของผมนะครับ? คุณเวทิดา?”
ผลินตกตะลึง การกระทำที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทําเอาเธอรับมือแทบไม่ทัน ไม่รู้จะตอบเขายังไงดี เธออยาก จะปฏิเสธนภนต์ แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้
“เอ่อคือ…ฉันขอคิดดูก่อนนะคะ”
“คุณคิดนานจังเลยครับ คุณหย่ากันแล้วไม่ใช่หรือ คุณยัง ตัดสินใจไม่ได้อีกหรือครับ?”
“แต่งงานกันสุดท้ายก็ต้องหย่าร้างกัน? งั้นฉันไม่ตอบรับ คุณดีกว่า”
นานต์ทำหน้าทะเล้นอธิบาย “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ สิ่ง ที่ผมขอคุณ คุณใช้เวลานานเหลือเกินในการตัดสินใจ จนถึง ตอนนี้แม้กระทั่งมือเล็กๆของคุณผมยังแตะต้องไม่ได้เลยผมคิดว่าเราควรพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกระดับหนึ่งน่าจะดี กว่า”
“คุณไม่ได้แตะต้องมือของฉันเลยหรือ?”
ผลินถลึงตามองเขาอย่างสงสัย
“คุณก็พูดไป มีคู่รักที่ไหนเขาสงวนเนื้อสงวนตัวแบบ เราบ้างครับ แม้กระทั่งรุ่นคุณยายผม พวกเขายังเปิดเผย มากกว่านี้เป็นไหนๆ
“การที่จะพัฒนาความสัมพันธ์จำเป็นต้องใช้เวลาหน่อยค่ะ ไม่ใช่ว่าพอฉันตกปากรับคำคุณแล้วจะสามารถพัฒนาความ สัมพันธ์ทางกายไปรวดเร็วอย่างนั้นหรอกค่ะ ความปรารถนา ของคุณช่วยอย่าให้มันเปิดเผยถึงขนาดนี้เลยได้ไหมคะ?”
นภนต์หน้าเสีย พูดอะไรไม่ออก……
มาอยู่ที่เมือง B ติดกันสองวัน นภนต์อยากกลับเมือง F แล้ว ระหว่างทางที่ผลินส่งเขาไปสนามบิน เขาพึมพำออก มาด้วยความเสียใจ “เฮ้อ มาครั้งนี้เสียเที่ยวเปล่า
“เสียเที่ยวยังไงคะ?”
ผลินไม่เข้าใจ
“เดิมทีคิดว่าจะถือโอกาสนี้จัดการเรื่องขอแต่งงานให้เป็น มั่นเป็นเหมาะ ผลสุดท้ายกลับถูกคุณปฏิเสธอีกจนได้”
“ฉันไม่ได้ปฏิเสธคุณนะคะ ฉันเพียงแค่บอกให้รอก่อน”
“ยังต้องรออีกนานแค่ไหนครับ? คุณไม่รู้หรือว่าผมรอจน ดอกไม้ร่วงโรยไปหมดแล้ว?”
ส่งนภนต์แล้ว ผลินกลับไปยังคฤหาสน์ของนภา ในบ้านมี เพียงคุณแม่สามีอยู่เพียงคนเดียว เธอถามอย่างแปลกใจ “ป ยุตไม่อยู่หรือคะ?
“เขาออกไปตอนบ่าย ยังไม่กลับเข้ามาเลยจ๊ะ”
“อ่อ คะ”
ผลินก็ไม่ได้สนใจอะไร ดึงแขนแม่สามีมากล่าวว่า “เย็นนี้ เราสองคนออกไปทานข้าวข้างนอกกันเถอะค่ะ ฉันรู้จักร้าน อาหารเปิดใหม่แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเมือง อาหารที่ ร้านนั้นรสชาติเยี่ยมทีเดียว”
“เอาสิ”
ขณะที่คุณแม่สามีตกปากรับคำ เธอยังกังวลถึงลูกชาย “ถ้าพวกเราสองคนออกไปกินข้าวข้างนอก ปยุตกลับมาแล้ว ไม่เจอล่ะ?”
“อย่าไปสนใจเขาเลยค่ะ ป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก เย็นขนาด นี้แล้วคงจะทานข้างนอกไปแล้วละค่ะ”
แม่ผัวลูกสะใภ้สองคนจูงมือกันเดินออกจากบ้านไป กว่าจะ กลับถึงบ้านเกือบสามทุ่ม ขณะกำลังลงจากรถผลินเห็นรถ ของปยุตจอดอยู่ไกลๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าเขากลับมาแล้ว
เธอตรงขึ้นไปชั้นบน เห็นปยุตอยู่ในห้องนอน จึงเดินเข้า ห้องไปกล่าวทักทายตามปกติ : “คุณทานข้าวเย็นมาแล้ว หรือคะ?”
ปยุตมองค้อนเธอทีหนึ่ง พูดเยาะเย้ยถากถาง “คุณเหนื่อย มากพอหรือยังล่ะ”
ผลินงุนงง ไม่เข้าใจความหมายของเขา เลิกคิ้วถาม “ฉัน
เหนื่อยยังไงหรือ?” “สับขาหลอกผู้ชายสองคนในเวลาเดียวกัน ดูแลคนนั้นที
ดูแลคนนี้ที คุณไม่เหนื่อยบ้างเลยหรือไงต๊ะ?”
ทันใดนั้นผลินเข้าใจได้ทันที
ว่าคำพูดที่ปยุดพูดกระทบกระเทียบก็คือตำหนิเธอว่ามัวแต่ ไปอยู่กับนมนต์สองวันเต็มๆแล้วไม่สนใจเขา
“ประธานนภนต์นานๆครั้งมาที ฉันก็เลยดูแลเขาเป็นพิเศษ หน่อยพาไปเที่ยวหลายที่แค่นั้นเองค่ะ
“ดูแลเป็นพิเศษ แค่นั้นหรือ? ผมจำได้ว่าคุณยอมรับความ รักของเขาต่อหน้าผมเลยไม่ใช่หรือ? ”
“ตอนนั้นฉันงอน ณ
ผลินก้มหน้าบ่นพึมพำ
“แล้วตอนนี้ล่ะ? ตอนนี้เพราะอะไร? พูดมาซะดิบดีว่าจะอยู่ เคียงข้างผม แต่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับนายนภนต์นั่น ผมไม่เคย เจอผู้หญิงปากอย่างใจอย่างเช่นคุณเลย
ผลินตะลึงถลึงตามองเขา ถามด้วยความไม่มั่นใจ “คุณว่า ฉันปากอย่างใจอย่าง เรารู้จักกันมานานขนาดนี้ ฉันเป็นคน ยังไงคุณยังไม่รู้อีกหรือ?”
“งั้นคุณลองบอกเหตุผลผมมาว่า ทำไมคุณต้องเหยียบ เรือสองแคมด้วย?”
เธอลูบหน้าอก พยายามยับยั้งความโกรธเอาไว้ในใจ “ทําไมฉันถึงต้องเหยียบเรือสองแคม คณไม่เข้าใจสาเหต ใช่ไหม? สินค้าใหม่กำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจ สอบคุณภาพ ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญอย่างมาก ขอเพียงรอคอย เวลาหนึ่งสัปดาห์ สินค้าก็จะสมบูรณ์แบบออกสู่ตลาดได้ ถ้า ฉันบอกกับนภนต์ในตอนนี้ว่าคุณคือสามีเก่าของฉัน ฉันไม่ สามารถยอมรับความรักของเขาไว้ได้ คุณคิดว่าเขาจะทำยัง ไงต่อคะ?”
การเดิมพันที่แฝงอยู่ในนั้นถึงผลินไม่พูดปยุตก็รู้ดีอยู่แก่ ใจ หากว่าครั้งนี้นภนต์ระงับความร่วมมือลงชั่วขณะ ความ พยายามตลอดสองเดือนที่ผ่านมาของพวกเขาก็เป็นอันล้ม เหลวไป
“ธุรกิจของผมไม่ต้องการการเสียสละตัวเองของผู้หญิงคน หนึ่งเพื่อมาปกป้องแทนผม แม้ว่ามันจะเกิดความเสียหายที่ ร้ายแรงต่อบริษัทผมก็ไม่เดือดร้อนอะไร คุณจะบอกเขาตาม ตรง หรือจะย้ายออกไปจากบ้านผม คุณก็เลือกเอาเองก็แล้ว กัน ผมไม่มีตัวเลือกที่สามให้
แท้จริงแล้วปยุตหึงหวงเธอ เขารู้สึกอิจฉาจนแทบบ้าเมื่อรู้ ว่าผลินกับนดนต่อยู่ด้วยกัน
“คุณไม่สนใจเรื่องขาดทุนก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ควรจะ เคารพผลงานของความพยายามของทุกคน นี่คือผลลัพธ์ จากการทํางานล่วงเวลาอดหลับอดนอนเหนื่อยแสนสาหัส ของทุกคน คำพูดของคุณเพียงประโยคเดียวนี้ไม่สามารถ เอามาชดเชยความอุตสาหะพยายามของทุกคนได้ทั้งหมด หรอก!”
เห็นเธอไม่ยอมเลือกตามเงื่อนไขที่เขาให้ ปยุตยิ่งโมโห มากขึ้นไปอีก เขาเสียดสีเธอว่า “อย่าคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าแม่ กวนอิมคอยช่วยโลกหน่อยเลย ผมยังไม่เดือดร้อนอะไรเลย คุณจะมาเดือดเนื้อร้อนใจแทนผมทำไมกัน? ผมว่าไม่ใช่ว่า คุณเสียดายความอุตสาหะพยายามของทุกคนหรอก คุณก็ แค่คิดหาหนทางอีกเส้นหนึ่งไว้ให้ตัวเอง ถ้าพวกเราไปกัน ไม่รอดแล้ว อย่างน้อยคุณก็ยังเหมือนภนต์ไว้อีกทางหนึ่ง”
“คุณมันบ้า!”
ผลินทั้งอายทั้งโกรธผลักเขาออกไปทีหนึ่ง “หัวใจของฉัน ก็อยู่ที่คุณแล้วไง คุณยังจะมาหาเรื่องเข้าใจผิดฉันอีก รอให้อาการคุณหายเป็นปกติก่อนเถอะ ฉันจะรีบไปทันที ต่อไปไม่ ว่าคุณจะชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมฉันแค่ไหน ฉันก็ไม่มี ทางกลับมาที่นี่อีก!!”
“ได้เลย ตกลงตามนั้น ถ้าคุณไปแล้ว ผมยังตามคุณกลับ มาอีก ผมจะเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุล แล้ววิ่งรอบโลกหนึ่ง รอบเลย!”
“คุณจำคำพูดตัวเองเอาไว้ด้วยนะคะ!”
“คุณไม่ต้องเตือนผมหรอก ผมไม่ลืมมันอย่างแน่นอน!
ผลินโกรธจนอกแทบระเบิดออกมา หึงหวงก็หึงแต่ไปลงที่ อะไรก็ไม่รู้ ต้องมีสักวันที่เธอจะให้เขาชดใช้ในสิ่งที่เขาพูด ออกมาวันนี้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ