ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 197 ไม่อาจฝืนโชคชะตา



ตอนที่ 197 ไม่อาจฝืนโชคชะตา

“คุณไปก็รู้เอง”

เขาเหลือบมองผลิน และคว้ากระเป๋าของเธอ ยิ้มจนตาปิด “น้องสาวรอฉันเดี๋ยวนะ พี่ไปเดี๋ยวก็กลับมา”

“เอากระเป๋าฉันคืนมา”

ผลินกำลังจะไล่ตามไป เจ้าของร้านขวางเธอไว้ “คุณหนู ไม่ต้องรีบครับ เดี๋ยวเขาจะนำมันมาคืนให้คุณเอง”

“ให้ฉันยืมโทรศัพท์มือถือของคุณหน่อยค่ะ ฉันจะโทรเรียก ตำรวจ”

“ตำรวจเหรอครับ ให้มาทำอะไรเหรอ

“ตาของคุณมองไม่เห็นเหรอ เขาขโมยกระเป๋าฉันไปนะ!”

“เมื่อเขาออกมาเขาก็จะคืนให้คุณเองครับ

“คุณหมายถึงให้ฉันรอเขาออกมา แล้วปล่อยให้เขามา ทำร้ายฉันเหรอ”

“คุณมั่นใจได้ครับ เขาจะไม่มาคุกคามคุณอีก ผมขอสัญญา กับคุณ ถ้าคุณสูญเสียแม้แต่เพียงเส้นผม บาร์ของเราจะเป็น ผู้รับผิดชอบทั้งหมดครับ”
เห็นเขาดูจริงจัง มันไม่เหมือนการแกล้งเธอ จึงนั่งลงด้วย ความโกรธรอคนบ้ากามสกปรกออกมาคืนกระเป๋าให้เธอ

รอประมาณสิบนาที ในที่สุดคนบ้ากามสกปรกก็กลับ และ นั่นทำให้เธอตกใจ

เธอมองเขาด้วยความประหลาดใจ ถามด้วยความหวาด กลัว “คุณ….เกิดอะไรขึ้นกับคุณ”

ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีฟันเหลืองขนาดใหญ่สองแถวที่ ยังคงพอจะจำได้ เธอเกือบจะจำเขาไม่ได้เพราะใบหน้าเต็ม ไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว จนดูเหมือนเป็นหัวหมู

“คุณหนูครับ ขอโทษนะ ผมผิดไปแล้ว จะไม่กล้าอีกแล้ว”

คนบ้ากามสกปรกให้กระเป๋าแก่เธออย่างสุภาพ แล้วจึงวิ่ง หนีหางจุกกันไป

เกือบหนึ่งนาทีที่ผลินไม่มีการตอบสนองใด ๆ ต่อสิ่งที่เกิด ขึ้น และเมื่อปฏิกิริยากลับคืนมา ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไป ในทิศทางที่คนบ้ากามสกปรกเพิ่งออกมา

สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว เธอหิ้วกระเป๋าเดินไปยัง ประตูห้องที่สามโดยไม่ลังเล

ตึง! เธอกระแทกประตู เมื่อประตูเปิดออก ชายแปลกหน้าก็ ถามว่า “มาหาใครครับ
“คุณอยู่ในห้องนี้คนเดียวเหรอคะ”

“ใช่ มีอะไรหรือเปล่าครับ”

เธอกัดริมฝีปากพลางส่ายหน้า “ไม่มีอะไรค่ะ”

ผลินไม่ได้ไปไหน แต่หลบอยู่ด้านซ้ายของห้อง ประมาณ ห้าหรือหกนาทีต่อมา ประตูห้องเปิดอีกครั้ง หกหรือเจ็ดคน เดินออกมาจากข้างใน ที่นำหน้าคือปยุต

เธอวิ่งไปหาเขา โดยที่ไม่พูดอะไร แค่จ้องเขาอยู่แบบนั้น

ปยุตเกิดความสับสนสั้น ๆ ชัดเจนว่าไม่ได้คาดคิดว่าผลิน ยังไม่ไป เขาพูดกับคนที่อยู่ข้างหลังว่า “พวกคุณไปก่อน”

เมื่อทุกคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาหายไป เขาก็ถามขึ้น เงียบ ๆ “คุณมาทำอะไรที่นี่

“ฉันมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ นี่เป็นประโยคที่ฉันควรถาม มากกว่า ว่าคุณมาทำอะไรที่นี่!”

เสียงของผลินดังมาก พนักงานเสิร์ฟที่ผ่านไปผ่านมามอง พวกเขาด้วยความประหลาดใจ

“เข้าไปคยข้างใน

ปยุตไม่อยากให้ใครเห็น แล้วเขาก็จับมือของผลินดึงเธอ เข้าไปในห้อง จากนั้นจึงกระแทกประตูปิด
“คุณไม่รู้เหรอว่าสถานที่แบบนี้มันวุ่นวายมาก นี่ไม่ใช่ที่ที่ คุณควรมา”

“มันไม่ใช่ที่ที่ฉันควรมา งั้นมันเป็นที่ที่คุณควรมางั้นเหรอ”

“ผมเป็นผู้ชาย คุณเปรียบเทียบกับผมได้เหรอ”

“คุณเป็นผู้ชายแล้วยังไง คุณเป็นผู้ชายอยากไปที่ไหนก็ ไปได้ ฉันเป็นผู้หญิงไปได้แค่ทางเดียวไปทางที่สองไม่ได้ เลยใช่ไหม”

ปยุตโกรธเล็กน้อย ครามออกมาพร้อมกับเส้นเลือดสี เขียวปูดโปนบนหน้าผาก “ถ้าผมไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนนี้คุณได้ ถูกไอ้นักเลงนั่นทำมิดีมิร้ายไปแล้ว!”

“แล้วยังไง ฉันถูกรังแกมันก็เรื่องของฉัน มันเกี่ยวอะไร กับคุณด้วย ในเมื่อคุณไม่ได้รักฉันแล้ว ทำไมคุณจะต้องมา สนใจฉัน

“ผมไม่ได้สนใจคุณ”

“ทั้งทั้งที่ทําเหมือนเป็นห่วงฉัน แต่กลับพูดว่าไม่สนในฉัน คุณคิดว่าฉันโง่ ฉันไม่มีหัวใจ ฉันไม่มีความรู้สึกหรือไง”

ผลินไล่บี้กดดัน หัวใจของปยุตสั่นไหวต่อเนื่อง

“ฉันรับรักนภนต์ตามที่คุณต้องการแล้ว และเริ่มพยายาม ลืมอดีตและไปมีชีวิตที่ดีกับเขา แล้วทำไม ทำไมคุณถึงผลักไสฉันออกไปแต่ก็ทำเหมือนคุณไม่อยากละทิ้งแบบนี้ คุณไม่รู้เหรอว่ามันจะทำให้ฉันรู้สึกแย่ คุณต้องการกดฉัน ให้ต่ำลงขนาดไหนคุณถึงจะพอใจ”

น้ำตาของผลินทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของปยุต หัวใจของ เขาเริ่มมีหยดเลือดออกตั้งแต่วันที่เธอจากไป จนกระทั่งถึง ตอนนี้ เพราะศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายซึ่งมันมีบางอย่างที่เขา พูดออกมาไม่ได้ แค่ปล่อยให้หัวใจสูบฉีดเลือดเพื่อเป็นตัว เร่งการเสียเลือด จนกว่าเลือดจะหมดลงในวันที่เขาตายไป

“คุณไปเถอะ ออกจากเมือง B อย่างที่ผมบอก แล้วอย่า กลับมาอีก….”

จู่ ๆ ปยุตก็เหนื่อยที่จะพูด

ผลินรู้สึกสิ้นหวัง เธอเงยหน้าขึ้นมองอย่างเลื่อนลอย “ครั้ง สุดท้ายที่ฉันจะถามคุณ มันเป็นความจริงหรือเปล่า มันออก มาจากใจจริง ๆ ใช่ไหม

เขาพยักหน้า ดังนั้น เธอจึงเดินจากไปโดยไม่หันกลับมา

คืนก่อนที่ผลินจะออกจากเมือง B คุณท่านเวทนและภรรยา ได้รู้จากชนัยว่าผลินกลับมา ในคืนนั้นทั้งคู่มาที่อพาร์ตเมนต์ ที่เธออาศัยอยู่

ทั้งสามคนนั่งเผชิญหน้ากัน คุณท่านเวทนและภรรยา ตึงเครียดมาก บางทีอาจจะเพราะรู้สึกผิดต่อลูกสะใภ้
“หนูลิน วันนี้ฉันและพ่อสามีของเธอใช้ความกล้าเพื่อมา หาเธอ พวกเรารู้ว่าเธอต้องเยาะเย้ยพวกเราในหัวใจ แต่ พวกเราก็ยังคงมา

“ฉันไม่ได้เยาะเย้ยพวกคุณ พวกคุณต้องการอะไรก็กรุณา พูดมาเถอะค่ะ”

ผลินมองไปที่พ่อแม่สามี เธอเป็นผู้หญิงที่ได้ฝึกฝนอบรม บ่มนิสัยมา ไม่ว่าพ่อแม่สามีจะปฏิบัติต่อเธออย่างไร เธอจะ ไม่ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร้เหตุผล

“เธอรู้เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับจันทรแล้วหรือยัง”

“อืม รู้แล้วค่ะ”

“แล้วเธอมีแผนยังไง”

“ฉันไม่มีแผนค่ะ”

คู่สามีภรรยาจ้องมองกันและกัน ธามันบังคับตัวเองให้พูด จุดประสงค์ของการเดินทางมาที่นี่ “มีบางอย่างที่พวกเรารู้ ว่าไม่ควรพูด และไม่ได้อยู่ตำแหน่งที่พูดได้ แต่เพื่อลูกชาย น่าเป็นห่วง พวกเรายังคงหวังให้เธอกลับไปหาตายุต”

หึ ผลินยิ้มเยาะ “คุณลืมไปแล้วเหรอคะ ว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ เป็นหมัน”

“ไม่เป็นไรหรอก พวกเราไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว ในช่วงสองปีที่ผ่านมามีหลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งฉันและพ่อสามีคิด ได้แล้ว การที่ลูกชายไม่มีความสุขก็สำคัญเหมือนกัน ต้อง เห็นตายุตหดหู่แย่ลงทุกวัน ๆ พวกเราเป็นห่วงจริง ๆ ถ้าวัน หนึ่งเขาเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราคนผม ขาวต้องส่งคนผมดำ ถ้าไม่มีลูกหลานเหลือแล้วจะทำยัง ไง….”

“ในที่สุดพวกคุณก็คิดได้ แต่ไม่คิดว่ามันสายเกินไปเหรอ

ผลินมองไปที่ทั้งสองคนฝั่งตรงข้าม “ถ้าพวกคุณคิดอย่าง นี้ตั้งแต่แรก ทุกวันนี้จะมีผลลัพธ์อย่างนี้ไหม

คุณนายท่านร้องไห้อย่างขมขื่น “หนูลินขอโทษนะ พวก เรารู้แล้วว่าผิด โปรดอภัยให้พวกเราด้วย ให้อภัยพ่อแม่ที่ โง่เขลาอย่างเราด้วย เห็นแก่ความรักของเธอกับตายุตเมื่อ ก่อน เธอกลับไปหาเขาเถอะนะ เขาต้องการเธอจริง ๆ คน อื่นคิดว่าชีวิตส่วนตัวของเขาเละเทะ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นแค่ รูปลักษณ์ภายนอก เขาไม่เคยทำผิดต่อเธอเลย

“ขออภัยค่ะ ด้วยความเคารพฉันไม่สามารถตอบตกลงกับ พวกคณได้ ฉันบอกไปตั้งแต่ตอนเซ็นใบหย่าเมื่อสองปีก่อน แล้ว ว่าฉันจะไปและจะไม่กลับมา ดังนั้นพวกคุณกลับไป เถอะค่ะ ฉันและครอบครัวของพวกคุณได้สิ้นสุดลงแล้ว”

ผลินไล่แขก แต่คุณท่านเวทนและภรรยาปฏิเสธที่จะ ไป “หนูลิน ได้โปรดลองคิดดูอีกครั้งเถอะนะ ลูกชายฉัน ต้องการเธอจริง ๆ มีแต่เธอเท่านั้นที่จะทำให้เขามีชีวิตที่ตกต่ำแบบนี้ ตราบเท่าที่เธอยินดีที่จะกลับไปหาเขา ไม่ว่า เธอจะขออะไร พวกเราทุกคนขอสัญญาทั้งหมด ถ้าเธอบอก ว่าจะไม่อยู่กับพวกเรา พวกเราจะไม่ว่าอะไรเลย

“พวกคุณกลับไปเถอะค่ะ ฉันบอกแล้ว ฉันทำไม่ได้”

“ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะปิดหูปิดตาทนดูชีวิตของเขาถูก ทําลายลงเหรอ”

“แล้วจะให้ฉันทํายังไงคะ ตอนนี้ไม่ใช่ว่าฉันไม่กลับไป แต่ ลูกชายของพวกคุณต่างหากที่ไม่ต้องการฉัน เขาพยายาม ทุกวิถีทางเพื่อจะได้แยกจากฉัน เขาปล่อยฉันไป เขาทำให้ ฉันไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก นั่นก็คือสิ่งที่พวกคุณต้องการไม่ใช่ เหรอคะ พวกคุณได้โปรดกลับไปค้นหาความคิดที่แท้จริง ของลูกชายของพวกคุณก่อน แล้วค่อยมาพูดแบบนี้กับฉัน อีกครั้งดีไหมคะ!”

ระบายลมหายใจแห่งความโกรธ ร้องไห้และวิ่งไปที่ห้อง นอน ล็อกประตูเสียงดังปัง

คู่สามีภรรยาทรัพยสานอยู่ในจุดที่กลายเป็นหินทันที เนิ่น นานที่ไม่มีการตอบสนองใด ๆ จนเมื่อตื่นจากภวังค์ ก็รีบกลับ ไปบ้านอย่างรวดเร็ว แต่พบว่าลูกชายของเขายังไม่กลับมา ธามันโทรหาลูกชายทันที และสั่งให้เขากลับบ้านเดี่ยวนั้น

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ปยุตก็กลับมา ถามพ่อกับแม่อย่างไม่ แยแสว่า “คุณต้องการให้ผมกลับมาทำไม
“พวกเราเพิ่งไปหาหนูลินมา เธอบอกว่าแกต้องการที่จะ แยกห่างจากเธอเหรอ”

ปยุตชะงักไป แล้วจึงพยักหน้า “ใช่ มีปัญหาอะไร

“ทําไมแกถึงทําแบบนั้น เห็นอยู่ว่าแกคิดถึงเธอมาก แล้ง ทําไมต้องแยกห่างจากเธอ!”

“นั่นมันเรื่องของผม พวกคุณไม่ต้องถาม

“พวกเราจะไม่ถามได้ยังไง พวกเราเป็นพ่อแม่แก แกเป็น ลูกพวกเรา มีพ่อแม่ที่ไหนในโลกใบนี้จะไม่สนใจลูกตัวเอง บ้าง”

ปยุคเสียงเสียดสี “พวกคุณอย่ามายุ่งกับผมเลยเพราะ นั่นคือสิ่งที่ผมกังวลมากที่สุด ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าพวกคุณ ห่วงใยผม ก็อย่ามายุ่งกับเรื่องของผม

เขาหันหลังและเตรียมที่จะขึ้นไปข้างบน คุณท่านเวทน คำรามด้วยความโกรธ “ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ มันก็เป็น ไปไม่ได้ที่จะไม่สนใจแก

“คุณคิดว่าคุณเป็นห่วงผมงั้นเหรอ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับผม บ้าง หยุดดิ้นรนไร้ประโยชน์ได้แล้ว มันก็แค่ชีวิตรรมดาไม่ ได้มีอะไรผิดปกติ

“แกหยุดเลยนะ!”
ธามันคำรามอีกครั้ง “ฉันขอสั่งแกในฐานะพ่อ ไปขอโทษ หนูลินเดี๋ยวนี้ แล้วพาเธอกลับมาบ้าน”

ห์ ปยุตเหมือนได้ยินเรื่องตลกที่ตลกที่สุดในโลก “พวก คุณจะตายก่อนวัยอันควร ทำอะไรกับคนอื่นเอาไว้บ้าง อยาก ให้เธอไปก็ต้องไป อยากให้เธอกลับมาก็ต้องกลับมาเหรอ เห็นคนอื่นเป็นหุ่นเชิดงั้นเหรอ พวกคุณอยากจะจัดวางแบบ ไหนก็ได้หรือไง”

“พวกเราขอโทษเธอแล้ว แต่ถ้าแกก้มหัวให้เธอ เธอก็จะ กลับมาหาแก”

“ผมไม่ต้องการได้ไหม”

ปยุตหันไปด้วยความโกรธจัด “อะไรทําให้พวกคุณคิด ว่าผมยังคงรักเธอ ทำไมถึงคิดว่าผมต้องการเธอ ถ้าผม ต้องการเธอคงทำบางอย่างด้วยตัวเองนานแล้ว พวกคุณ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ พวกคุณไม่เคยคิดเลยใช่ไหมว่าได้ รบกวนชีวิตของผมอยู่

หลังจากที่เขาตวาดจบ ก็ขึ้นไปข้างบน คิดบางอย่างขึ้น ได้จึงหันมาเพิ่มอีกประโยค “อย่าไปหาเธออีก พวกคุณไม่มี หน้าพอจะไปรบกวนชีวิตของคนอื่น”

ปัง!

ทันใดนั้นธามันก็มีอาการเป็นตะคริวที่หน้าอก หมดสติล้ม ลงกับพื้น
“ธามัน!”

“คุณพ่อ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ