ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 186 ไม่อยากมีความรักกับคนรวย



ตอนที่ 186 ไม่อยากมีความรักกับคนรวย

เรื่องราวน่าเศร้าที่เกิดขึ้นที่บ้าน ทำให้คุณนายท่านหดหู่ ทั้งวัน ในวันนั้น เธอได้รับโทรศัพท์จากทัตดา นัดเธอให้ออก ไปคุยกัน

เธอไม่อยากไป แต่หากไม่ไปก็เหมือนรู้สึกผิด ดังนั้น จึง อดทนตกลงอย่างฝืนใจด้วยความเศร้าโศก

นั่งอยู่ในร้านกาแฟบรรยากาศดี เมื่อเทียบกับความ เปล่งปลั่งของทัตดาแล้ว ดนุชาช่างดูซีดเซียว ทัตดาเชิด หน้าอย่างภูมิอกภูมิใจ จงใจแดกดันเธอว่า “ช่วงนี้เธอมีช่วง เวลาที่เลวร้ายเหรอ สภาพดูน่าเกลียดจริง ๆ เลยนะ”

“อยากคุยอะไรก็พูดมา

ดนชาไม่อยากจะพูดเรื่องไร้สาระกับเธอ

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันได้ยินมาว่าเธอกำลังจะได้หลาน ขอ แสดงความยินดีกับเธอล่วงหน้านะ

คำพูดของทัตดานั้นแทงถูกบาดแผลของคุณนายท่าน เธอพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “เธอไม่ต้องมาเยาะเย้ยฉัน เธอเป็นคนยังไงฉันรู้ดีกว่าใคร”

“จริงเหรอ งั้นก็แสดงว่าเธอรู้จักฉันเหมือนกับที่ฉันรู้จักเธอ งั้นเหรอ”
ดนชาไม่พูด เธอยิ้มเยาะเย้ย “คนอื่นคิดว่าเธอมีบุคลิกที สง่างาม พูดโดยทั่วไปก็คือได้รับการฝึกฝนมาดี แต่ในความ เป็นจริงก็แค่มือที่สามที่แย่งคู่หมั้นของคนอื่น”

“ทัตดา!!”

คุณนายท่านสีหน้าซีดเซียว “เธออย่าได้คืบจะเอาศอก”

“ฉันได้คืบจะเอาศอกงั้นเหรอ เธอแย่งคนของฉันไป ฉัน ไม่มีสิทธิ์บ่นเหรอ เปรียบเทียบกับนิสัยชอบเป็นมือที่สาม แย่งของคนอื่นไป ฉันมีมารยาทกว่าเธอมาก”

“ฉันไม่ได้แย่งผู้ชายของเธอไป เธอควรจะโทษตัวเองที่ มีนิสัยรุนแรงก้าวร้าวเกินไป จนไม่สามารถทำให้ธามันชอบ ได้”

“หึหึ ใช่ ถ้าเทียบกับความสามารถในการยั่วยวนผู้ชายฉันสู้ เธอที่เก่งมากในเรื่องนี้ไม่ได้หรอก แต่ไม่ใช่ว่าตอนนี้เธอได้ รับการลงโทษแล้วเหรอ ฉันได้ยินว่าลูกชายของเธอพัวพัน กับเรื่องมือที่สาม จนลูกสะใภ้ต้องหย่า ฉันดีใจจริง ๆ ที่ได้ยิน อย่างนั้น ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีวันนี้เหมือนกันนะดนชา เป็น ทุกข์เรื่องมือที่สาม ลูกชายทิ้งลูกสะใภ้ ฮ่า ๆ ๆ”

คุณนายท่านเห็นทัตดาหัวเราะเยาะ เธอตบโต๊ะอย่างแรง ด้วยความโกรธจัด และพูดรอดไรฟันว่า “แม้ว่าฉันจะไม่ได้มี ชีวิตที่ดี แต่เธอก็อาจจะไม่ได้ดีไปกว่าฉัน ตอนนี้มันไม่ต่าง กันเลย ลูกชายแต่งงานกับลูกสะใภ้ที่เธอไม่พอใจ เธอมี สิทธิ์อะไรมาหัวเราะเยาะเย้ยฉัน”
“ลูกชายของฉันแต่งงานกับลูกสะใภ้ที่ฉันไม่พอใจแล้วไง ถ้าฉันต้องการให้เธอให้กาเนิดหลานชายเธอจะให้กาเนิด โดยไม่พูดอะไรสักค้า เธอทําได้เหรอ ลูกชายของเธอรัก ลูกสะใภ้ของเธอ แต่ลูกสะใภ้ของเธอให้กำเนิดไม่ได้ โอ้ พระเจ้า หากธามันสามารถคาดการณ์ถึงวันนี้ได้ แน่ใจว่า คงจะเลือกคู่อย่างระมัดระวังกว่านี้แน่ การเลือกผู้หญิงที่ผิด ก็คือการทําลายชีวิต ธุรกิจครอบครัวใหญ่ดูเหมือนจะไม่มีผู้ สืบทอดเสียแล้ว

ฟี่บ!

ดนุชาทนไม่ได้ ยกแก้วน้ำสาดบนใบหน้าของทัตดา “แล้ว เราจะได้เห็นดีกัน ว่าสุดท้ายแล้วใครจะสามารถหัวเราะดัง กว่า”

มองไปที่ด้านหลังของเธอ ทัตดาส่งสายตาดั่งเปลวไฟ โชติช่วงกับรอยยิ้มที่เหี้ยมโหด แล้วจะเห็นดีกัน ดนุชา!

คืนนั้นผลินเลิกงานดึกเล็กน้อย รถเมล์เที่ยวสุดท้ายออก ไปแล้ว เมื่อเธอยืนอยู่ที่แยก ก็มีรถฮัมวี่สีเทาเงินมาหยุดตรง หน้าเธอ “คุณผู้หญิงครับ อยากติดรถไปด้วยไหม

เธอจ้องมองอย่างไร้ความรู้สึกไปยังคนที่พูดกับเธอในรถ “ผู้อำนวยการนภนต์…

“มาเถอะ ฟรีครับ

เห็นว่ามันดึกแล้ว เธอใคร่ครวญอยู่สองสามวินาที จึงได้เข้าไปในรถของนานต์

“ได้ยินหัวหน้านิเมษพูดว่าสมองของคุณยืดหยุ่นได้ดีมาก สอนอะไรไปก็เข้าใจได้หมดจริงไหม

ผลินตอบอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว “หัวหน้านิเมษยกย่องฉัน เกินไปค่ะ มันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดหรอก”

“ใช่เหรอ ครั้งแรกที่ผมเจอคุณ ก็คิดนะว่าคุณน่ะฉลาดมาก คุณจะบอกว่าตาของผมมีบางอย่างที่ผิดปกติเหรอครับ”

ผลินหนังศีรษะชา รู้สึกละอายใจ ไม่มีอะไรผิดปกติกับ สายตาของคุณ คนที่มีปัญหาสายตาคือฉันเอง

“บางทีฉันอาจจะปรับตัวได้ดีขึ้น”

ห็นภนต์ยิ้มอย่างมีความหมายและไม่พูดอะไรอีก

รถจอดอยู่ที่หน้าประตูบ้านของตีรณ นภนต์ทำตัวเป็น สุภาพบุรุษออกจากรถและเปิดประตูให้เธอก่อนจะมองไปที่ อาคารเก่า “คุณอาศัยอยู่ที่นี่เหรอ”

“อืม”

“จะไม่เชิญผมเข้าไปข้างในเหรอครับ”

“มันดึกแล้ว…
ทันทีที่คำพูดของผลินจบลง ป้าก็ออกมา เธอถืออ่างน้ำใน มือ ทันทีที่เห็นนภนต์ยืนอยู่ตรงหน้าผลิน ก็เดินไปถาม “ยัย ลิน ท่านนี้คือ?”

“หือ คุณไม่ได้ชื่อเวทิดาหรอกเหรอครับ”

“นี่ชื่อเล่นของฉันค่ะ”

หลังจากผลินอธิบายด้วยเสียงต่ำ ก็แนะนำ “เขาเป็นเจ้า นายของฉันคุณนภนต์ค่ะ”

แล้วเหลือบมองนานต์อย่างไม่เป็นธรรมชาติ “นี่ป้าของฉัน ค่ะ”

นภนต์ยื่นมือออกไปทันที “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้เจอคุณนะ

ครับคุณป้า”

ทีปินาได้ยินเขาเรียกว่าคุณป้าก็เกิดความภาคภูมิใจ วาง อ่างน้ำในมือลง แล้วเอามือเช็ดเสื้อครู่หนึ่งก็ยื่นออกไปจับ มือเขา

“สวัสดีค่ะ คุณอยากเข้าไปดื่มน้ำในบ้านสักแก้วไหมคะ”

“ได้ครับ จะไม่รบกวนพวกคุณใช่ไหมครับ

“ไม่หรอกไม่หรอก เชิญเข้ามาสิคะ”

ผลินถลึงตาใส่เขา พยายามที่จะห้ามไว้ แต่นภนต์ก็ได้ตามป้าเข้าไปข้างในแล้ว

เธอไม่รู้ว่าเจตนาของนมนต์คืออะไร จึงขึ้นไปบนห้องและ อาบนําเปลี่ยนเป็นชุดนอน จงใจหลบซ่อนตัวจากคนอื่น ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาป้าก็มาเคาะประตู “ยัยลิน ทำไม เธออาบนานานจัง เจ้านายของเธอกลับไปแล้วนะ”

เมื่อได้ยินว่านภนต์ไปแล้ว หัวใจของเธอก็ผ่อนคลายลง แต่งตัวและออกไปจากห้องน้ำ

“ยัยลิม เธอพูดความจริงกับป้ามา เจ้านายของเธอสนใจใน ตัวเธอใช่ไหม”

ที่ปินาเห็นเธอออกมา รีบวิ่งไปถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“ไม่หรอกค่ะ ฉันเพิ่งอยู่ในบริษัทไม่กี่วันเท่านั้น คุณคิดว่า ฉันมีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”

“แต่ป้าคิดว่าเขาสนใจในตัวเธอนะ อย่างที่เธอพูดว่าไม่กี่ วันที่เพิ่งเข้าบริษัท และเขาก็เป็นเจ้านาย ทําไมต้องมาส่ง พนักงานถึงบ้าน

“เรียนรู้จากเหลยเฟิงไงคะ”

“ชิ ป้าไม่ได้โง่นะ ป้าว่าผู้ชายคนนี้ดูน่าเชื่อถือมาก ดู แน่นอนพึ่งพาได้มากกว่าปยุต อย่าปล่อยโอกาสไป ลองเก็บ ไปคิดดูนะ”
ผลินลูบหน้าผากและถอนหายใจ พูดอย่างชัดเจน “คุณป้า คะ ฉันเพิ่งจะหลุดพ้นจากบาดแผล ฉันจะไม่พูดเรื่องความ รู้สึกกับใครอีก โอเคนะคะ”

แล้วเธอก็เดินตรงไปที่ห้องของเธอ และรีบปิดประตู

วันแล้ววันเล่าที่ผ่านไป ผลินเริ่มคุ้นเคยกับความเงียบสงบ นี้ เริ่มชินกับมันแล้วที่ในตอนกลางคืนไม่มีปยุต

เธอคิดว่าอดีตจะไม่มีวันเกี่ยวข้องกับเธออีก แต่ไม่คิดว่าใน วันนั้น ที่บ้านของลุงกลับมีแขกที่ไม่คาดคิด

คนๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือทาตฤซึ่งเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี ของผลินและตีรณ

ทีปินาเห็นทตฤมาหาก็ทั้งตกใจและสงสัย เธอรีบโทรหา สามีทันที ตีรณจึงรีบกลับจากท่าเรือ

“คุณทาตฤ ทำไมถึงมาที่บ้านผม

นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ตีรณถามอย่างค่อนข้างไม่ พอใจ

ทาตฤดื่มชา และตอบช้า ๆ “ผมไม่ได้มาหาคุณ ผมมาหา ผลินหลานสาวของคุณ ได้ยินว่าเธอหย่ากับปยุตแล้ว ฉัน อยากถามเธอ ว่าจะกลับไปที่บ้านของพวกเราไหม ถ้าเธอ ต้องการ ประตูบ้านของเราพร้อมเปิดให้เธอตลอดเวลา”’คุณ ทาตถุ ผมทราบซึ้งใจกับความกรุณาที่คุณมีให้หลานสาวของผม แต่น่าเสียดาย ที่เธอไม่ได้อยู่ที่บ้านของเรา”

“แล้วเธอไปอยู่ที่ไหน”

“ผมก็ไม่แน่ใจ พวกเราขาดการติดต่อกันนานแล้ว”

“จริงเหรอ”

“มันเป็นความจริง”

ทาตฤมองไปที่ประตู มีรองเท้าผู้หญิงอยู่คู่หนึ่ง เขามั่นใจ มากว่านั่นคือรองเท้าของหญิงสาว ไม่ใช่แบบที่ทีปินาใส่

“ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณจะรังเกียจไหมถ้าผมจะอยู่ที่บ้านของ คุณสักวันสองวัน กับความสัมพันธ์ของเราก่อนหน้านี้ ผมคิด ว่าคุณคงจะไม่ขัดข้องนะ”

ตีรณดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ยากที่จะพูด “สภาพบ้านของเราไม่ค่อยดีและมีห้องน้อย คุณน่าจะไปพัก ที่โรงแรมมากกว่า”

“ถ้าคุณไม่ตกลงผมว่าคุณต้องโกหก หลานของคุณต้อง อาศัยอยู่ที่นี่ ถ้าผมมาที่บ้านของคุณทุกวันแล้วจะปกปิดอีก ได้ยังไง”

เกิดความเงียบขนสั้น ๆ ตีรณรู้ว่าทาตฤไม่ใช่ตะเกียง ประหยัดน้ำมัน จึงพยักหน้าตกลง “ถ้าอยากจะพักอยู่ใน สถานที่ที่ซอมซ่อของผมก็ตามสบาย จะอยู่นานแค่ไหนก็ตามใจเลยครับ”

เมื่อทีมนาได้ยินสามีของเธอ จึงหันไปและวิ่งไปที่ห้อง ครัวเพื่อโทรหาผลิน โทรศัพท์ถูกเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว ผลิน กระซิบเสียงเบาว่า “คุณป้าคะ มีอะไรหรือเปล่า”

“ยัยลิน แย่แล้ว ทาตฤมาที่บ้านของเรา”

“ทาคฤ?”

ผลินปล่อยลมหายใจเย็น “ทำไมเขาถึงมาที่นี่คะ”

“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาสงสัยว่าเธอจะหนีมาอยู่กับเรา จึง ต้องการอยู่บ้านสักวันสองวัน และคุณลุงของเธอก็ไม่มีทาง เลือกจึงจําต้องตกลง เธอคิดยังไงกับเรื่องนี้”

งลินใจเย็นลงอย่างรวดเร็วหลังจากช็อกในตอนแรก เธอ พูดกับโทรศัพท์มือถือว่า “คุณป้าคะ ถ้าเขาอยากอยู่ก็ให้เขา อยู่ ช่วงนี้ฉันจะหลบอยู่ข้างนอก เขาไปเมื่อไหร่ฉันจะกลับ ไปค่ะ”

“แล้วถ้าเขามาอีกล่ะ ทำไมเธอไม่บอกเขาตรง ๆ ว่าเธอไม่ อยากไปที่บ้านของพวกเขา”

“ไม่ค่ะ ฉันรู้จักทาตฤดี ถ้าเขารอหลายวันแล้วไม่เจอฉัน คราวหน้าก็จะไม่มาอีก แต่ในทางกลับกันถ้าเขาแน่ใจว่าฉัน อยู่ที่นี่ หลังจากนั้นก็จะสร้างปัญหาให้ฉันทันที อีกสองสาม วันเขาต้องมาหาฉันอีก หรือแม้แต่นำเอาความคิดที่ไม่ดีใส่คุณและคุณลุง จนฉันจ้องยอมให้จับโดยไร้ทางสู้”

ทีปินารู้สึกว่ามันสมเหตุสมผล “งั้นก็ได้ เธอไม่ต้องกลับมา ถ้าเขาไปเมื่อไหร่ป้าจะบอกเธอ ป้าคิดว่าเขาอาจจะแค่พูด คงไม่อยู่บ้านเราจริง ๆ เดี๋ยวป้าจะโทรหาเธอทีหลังนะ

“ได้ค่ะ”

หลังจากวางสาย ผลินรู้สึกเศร้าสลดหดหู่ ไม่เคยคิดเลย ว่าทาตฤยังไม่หมดหวังกับเธอ แถมยังมาพบลุงของเธอที่นี่

ท้องฟ้าเริ่มที่จะมืดลง ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ผลินยังไม่ ได้ออกจากบริษัท เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน นั่งทำงานใน สำนักงานรอไปเรื่อย ๆ จนกว่าป้าจะโทรหาเธอ ๆ

สองทุ่มครึ่ง ในที่สุดป้าก็โทรมา แต่มันเป็นข่าวร้าย “ยัยลิน ทาตฤไม่กลับ จะพักอยู่ที่นี่จริง ๆ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ