ตอนที่ 177 การกระทําอันชั่วร้าย ที่ไม่อาจทนได้ (1)
ในห้องเต็มไปด้วยความเศร้าสลด ทันใดนั้นป ตก็รู้สึก แม้หายใจก็ไม่สามารถหายใจออก เขาล้มลงกับพื้น มีเสียง สะอื้นในลําคอ ในที่สุดเธอก็จากไป ทุกวันเขาใช้ชีวิตกับเธอ ด้วยความระมัดระวัง แต่เธอก็ยังทิ้งเขาไป ไม่หวนกลับมา ไม่ฟูมฟาย ทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดี
ชีวิตของเขาเหมือนถูกดึงกลับไปที่จุดเดิม คนเราจะต้อง มีจิตใจที่แข็งแกร่งสักเพียงใด ที่จะต้องเผชิญกับเรื่องราว เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครั้งนี้ เขาคิด เขาไม่ ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
ความเศร้าโศกยิ่งใหญ่เกินกว่าหัวใจที่เหี่ยวเฉาจะรับได้ ไม่มีคำใดสามารถบรรยายความรู้สึกเขาได้ ณ ตอนนี้ ทุก ครั้งที่เขารักใครด้วยหัวใจ ผลที่ตามมากลับเป็นการถูกทิ้ง ขว้างซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขารู้ว่าผลินเหนื่อย รู้ว่าเธอต้องทนแรง กดดันมากมาย การจากไปไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เขา ก็ไม่สามารถยอมรับมันได้ ทำไมเธอไม่รักษาสัญญาที่จะ เผชิญเรื่องนี้ไปด้วยกัน
หากเธอยังอยู่กับเขา เขายังพอจะมีความกล้าหาญที่จะ เผชิญหน้ากับชีวิต แต่วันนี้เธอจากไปแล้ว เขารู้สึกว่าตั้งแต่ นี้ไปไม่มีอะไรสลักสำคัญอีกต่อไปแล้ว หัวใจของเขากลับสู่ ความเย็นชาเช่นในอดีต หนำซ้ำยิ่งเงียบเหงาไปกว่าเดิม
เขานอนอยู่บนพื้นที่เย็นเยือก แต่ที่หนาวเหน็บกลับเป็น หัวใจ หัวใจที่เต้นต่อไปได้เพื่อผลิน เมื่อเธอจากไปแล้วก็หยุดเต้นลง
ท้องฟ้าสว่างขึ้นแต่หัวใจยังคงมืดมิด ยิ่งไปกว่านั้น ความมืดนี้ไม่มีวันสิ้นสุดลง…
สถานีรถไฟที่ว่างเปล่าและโดดเดี่ยว ที่ด้านข้างราง รถไฟนั้น มีเงาคนที่อ้างว้างยืนอยู่ อีกไม่นาน เธอก็จะไปจาก ที่แห่งนี้ ไปในอนาคตที่ไม่มีเขา
คนสองคนที่มีจิตใจปรารถนาต่อกัน ต้องพรากจากกัน เช่นนี้ ไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่เพราะไม่มีทางที่จะได้รักกันต่อไป ได้
เมื่อไม่มีความหวังที่จะสามารถเดินต่อไปได้ เมื่อไม่มี อะไรอีกที่จะทำให้ความรักครั้งนี้ดำเนินต่อไป
ตั้งแต่ตีหนึ่งจนถึงเจ็ดโมงเช้า เธอยืนอยู่ข้างทางรถไฟ เป็นเวลานานเจ็ดชั่วโมงจนรู้สึกขาชา แต่ความชาที่สุดกลับ อยู่ในหัวใจ เธอทิ้งสิ่งดีงามทั้งหมดเอาไว้ที่นี่ ต่อจากนี้จะไป ใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนดีละ มันช่างเป็นความสูญเสีย
หญิงชราแห่งบ้านทรัพยสานเปิดประตูห้องของลูกชาย เข้ามา ตกใจร้องขึ้น “ปยุต เป็นอะไรไปลูก ทำไมมานอนที่ พื้นอย่างนี้!”
ปยุตหลับตาและไม่ตอบ ถ้าเป็นไปได้เขาหวังว่าชีวิตนี้จะ ไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย ให้ตายไปอย่างเงียบๆเช่นนี้
“ผลิน แล้วผลินล่ะ”
หญิงชราเห็นผ้าห่มพับซ้อนกันอยู่บนเตียงอย่าง เรียบร้อยก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นในใจ
อ่า ปยุตได้ยินแม่ของเขาถามถึงผลิน สิ่งนี้ทำให้เขา ลืมตาขึ้น เขาพูดด้วยดวงตาเปิดกว้าง “เธอไปไหนน่ะหรือ แม่น่าจะรู้ดีกว่าทุกคนนะ
“แม่… แม่…
หญิงชราพูดไม่ออก ลุกขึ้นและรีบเดินลงบันไดไป เธอ ส่งเสียงตะโกนไปบอกผู้ดูแลบ้าน “ส่งคนไปตามหาคุณผู้ หญิง ถ้ารู้ว่าเธออยู่ที่ไหนแล้วรีบแจ้งฉันทันที”
เธอส่งคนออกไปหายสิบคน ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มี คนรายงานกลับมาว่าตอนนี้เธออยู่ที่สถานีรถไฟตะวันออก
หญิงชรารีบลุกไปอย่างรวดเร็ว ยังเหลือเวลาอีกสิบนาที ก่อนที่ผลินจะจากไป เธอซื้อตั๋วรถไฟไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว ยืนมองจ้องที่พื้นอยู่ ไม่มีน้ำตาแล้ว เมื่อคืนนี้ เธอได้หลั่ง น้ำตาให้กับชีวิตนี้ไปหมดแล้ว
แม้จะยังมีความเจ็บปวดภายในใจอยู่บ้าง
“ผลิน ผลิน….”
เสียงที่คุ้นเคยดังมากระทบหู เธอหมุนตัวไปอย่างรวดเร็ว เธอเห็นแม่สามีที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ ใน สายตาเธอมองไม่เห็นใครอื่นอีก
เมื่อเธอเห็นลูกสะใภ้ของเธอ เธอก็กอดเธอและร้องไห้ “ลูกเอ๋ย แม่ให้หนูหย่ากับปยุตแค่ชั่วคราว แม่ไม่ได้บังคับให้ หนูไป หนูจะไปที่ไหน”
ผลินเงียบ ในขณะนี้ เธอไม่ต้องการพูดอะไรแล้ว แม่สามี ต้องการให้เธอและปยุตหย่ากันนั่นเป็นเพียงแผนการเท่านั้น ใครจะรู้ เมื่อพูดคำพูดพวกนั้นออกมาแล้ว เธอได้พรากคู่รัก ออกจากกันแล้ว
“แผ่นดินกว้างใหญ่จะไปที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นค่ะ”
“เธอไปไม่ได้นะ ถ้าเธอไปลูกชายฉันเกลียดฉันจนวัน ตายแน่ๆ…”
เธอมองขึ้นอย่างเย็นชา “แม่หมายความว่า จะให้หนูอยู่ ที่นี่ คอยดูคนรักของตัวเองและผู้หญิงคนอื่นใช้ชีวิตอยู่ด้วย กันอย่างนั้นหรือคะ”
“ไม่ใช่ไม่ใช่ แม่จัดที่พักเอาไว้ให้หนูแล้ว มีสาวใช้คอย รับใช้ดูแล หนูสามารถใช้ปีนี้ทั้งปีดูแลสุขภาพร่างกายของ ตัวเองให้ดี อยู่บ้านพักในป่าเขาที่เขียวขจี ไม่ต้องกลัวฝุ่น ควัน”
อ่อ ผลินยิ้มอย่างแดกดัน “ในสายตาของแม่ หนูเป็นแค่ ตุ๊กตาที่ได้รับความเมตตาจากทุกคนอย่างนั้นหรือคะ พวกคุณอยากให้หนูหย่าหนูก็หย่าให้แล้ว อยากให้หนูอยู่ต่อหนู ก็ต้องอยู่ต่อ ชีวิตของหนูหนูไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเองอย่างนั้น หรือคะ”
“ผลิน แม่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เธอไม่มีพ่อแม่ แล้ว แม่ไม่อยากให้เธอต้องไปลำบากที่ไหน…”
“ไม่มีอะไรขมขื่นทรมานมากไปกว่าตอนนี้อีกแล้วค่ะ เพราะฉะนั้น ขอบคุณที่แม่ยังคงเห็นอกเห็นใจหนูอยู่บ้าง แต่ ว่าหนูไม่ต้องการมันค่ะ”
ผลินเหลือบมองเป็นครั้งสุดท้าย แบกกระเป๋าเตรียม พร้อมที่จะขึ้นรถไฟ หญิงชราพยายามที่จะดึงเธอไว้ พูด พลางร้องไห้ “ผลิน เธอต้องไปจริงๆหรอ
“ลูกชายคุณยังรั้งฉันไว้ไม่ได้ คุณคิดว่าคุณจะรั้งฉันไว้ ได้หรอคะ”
หญิงชราเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของเธอและหยิบเช็คออก จากกระเป๋าของเธอ “เอาล่ะ ถ้าเธอแน่วแน่ว่าจะไปแล้ว เอา นี่ไปด้วยนะ ไปอยู่ข้างนอกจะได้ไม่ลำบาก
“ไม่จำเป็นค่ะ”
ผลินยืนกรานที่จะไม่รับเช็คเอาไว้ เธอทิ้งปยุตมาเพราะ ว่าเธอเหนื่อยและทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่ได้หมายความว่า เธอไม่รักเขา การรับเงินจากแม่สามีจะทำให้ความรักของทั้ง สองแปดเปื้อน
“ต้องเอาไป!!”
หญิงชราใช้จังหวะที่ผลินกำลังจะก้าวขึ้นรถไฟ ยัดเช็ค ลงในกระเป๋าเสื้อของเธอ
รถไฟกำลังจะออกแล้ว เช็คใบนั้นก็ปลิวลอยออกไปนอก หน้าต่างด้วย ผลินยอมอดตายบนท้องถนนแต่จะไม่ยอมให้ ใครมาดูถูกศักดิ์ศรีของเธอเป็นอันขาด
หลังจากเช็คใบนั้นลอยหมุนไปสองสามรอบในสายลม ก็ตกลงที่เท้าของหญิงชรา หญิงชราก้มลงช้าๆและเก็บเช็ค ขึ้นมา เธอร้องไห้ออกมาดูรถไฟเคลื่อนออกไป ในหัวใจเธอ ลึกๆ คิดว่าเธอคิดผิดและทำผิดไปแล้วใช่หรือไม่…
วันนี้ทั้งวัน ปยุดไม่ยอมไปที่บริษัท นอนอยู่บนพื้นห้อง นอนอย่างนั้น เหมือนกับคนที่ตายทั้งเป็น หญิงชราเข้าไป ดูลูกชายอยู่สองสามครั้ง ในที่สุดเธอก็นั่งลงในห้องนั่งเล่น และร้องไห้
พ่อของป ตรู้สึกอึดอัดใจมาก เขาเดินมาหาภรรยาเพื่อ ปลอบโยน “เอาล่ะ หยุดร้องได้แล้วนะ”
“ธามัน ฉันคิดว่าครั้งนี้พวกเราอาจจะทำผิดไป ฉันเป็น ห่วงมาก ว่าปยุตจะรับไม่ไหวอีกแล้ว”
“ไม่หรอก ความเจ็บปวดก็แค่ชั่วคราว เวลาเป็นยารักษา ที่ดีที่สุด ก็เหมือนกับที่จันทรพูด รอให้มีเด็กออกมาก่อน เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้นเอง
“คราวนี้ผลินเกลียดพวกเราแล้วจริงๆ รั้งเธอไว้ยังไงก็ไม่ ยอมอยู่…
“ให้เธอไปก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องทนเสี้ยนหนามอย่าง จันทร เธอเครียดมาก ตอนนี้ไปแล้วได้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต น่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเธอนะ”
“เธอเป็นผู้หญิงที่ดี ลูกสะใภ้ดีๆแบบนี้ฉันเสียดายจริงๆ”
“วางใจเถอะ ถ้าหากพวกเขารักกันจริงๆ วันหนึ่งก็ สามารถกลับมารักกันใหม่ได้อีก แค่เพียงพวกเขารู้ความจริง รักแท้ก็ไม่สามารถแยกจากกันได้”
ถึงตอนเย็น ในที่สุดปยุตก็ลงมาข้างล่าง เมื่อสองผู้เฒ่า บ้านทรัพยสานเห็นลูกชายเดินลงมา พวกเขาก็ประหลาด ใจ และหลังจากพวกเขาได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูด พวกเขาก็ยิ่ง ประหลาดใจไปกว่าเดิม
“พรุ่งนี้พวกเราไปรับจันทรมาอยู่ด้วยกันเถอะ
คนชราทั้งคู่มองหน้ากัน ไม่อยากจะเชื่อหูในสิ่งที่ได้ยิน หญิงชรารีบรนถาม “เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ”
“ผมบอกว่า.. อยู่ด้วยกันเถอะ” ” ปยุตเดินเข้าหาคนชราทั้งคู่ “รับจันทรมา
“ทำไมจู่ๆแกถึง…
ธามันขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าการที่ลูกชายพูดประโยคนี้เป็น สิ่งที่ผิดปกติ
“เพราะนี่คือสิ่งที่ผลินต้องการ และก็เป็นสิ่งที่พวกคุณ ต้องการ ถ้าอย่างนั้นผมก็จะตามใจพวกคุณแล้วกัน”
พูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไป ในใจเขาคิดเพิ่มอีกสัก ประโยค หวังว่าสักวันพวกคุณจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจ ในวันนี้
เมื่อปยุตมาถึงบาร์เหล้า เขาก็โทรหาชนัย “ออกมาดื่ม กัน”
ชนัยรีบรุดมา เมื่อมาถึงก็ถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไม วันนี้ไม่เข้าบริษัท”
ปยตเริ่มเมาเล็กน้อยแล้วแต่ก็ยังเทไวน์ดีมไม่หยุด “ชนัย เอ้ย ตอนนี้ผมโสดเหมือนคุณแล้วนะ…
ชนัยใจเต้นตึกตัก รีบถาม “เกิดอะไรขึ้น
“ผลินทิ้งผมไปแล้ว ผมรู้สึกได้ว่า เธอจะไม่กลับมาแล้ว
ชนัยไม่ได้พูดอะไรอยู่ครึ่งนาที ดูเหมือนเขาจะเข้าใจทุก อย่างในทันที เขาพูดด้วยความทุกข์ใจ “เป็นเพราะจันทรใช ไหม”
อ่า ปยุตหัวเราะเย้ย “ผู้หญิงคนนั้น ผมทนไม่ไหวจริงๆทำชีวิตผมปั่นป่วนไปหมด สามปีก่อนทำลายชีวิตผมไปแล้ว ครั้งหนึ่ง สามปีให้หลังก็ยังกลับมาทำลายชีวิตผมอีกครั้ง เฮ้อ…. น่าหัวเราะจริงๆ
ชนัยตบไหล่ของเขา มีคำพูดมากมายอยากพูดออกมา แต่ติดอยู่ที่ริมฝีปากไม่สามารถพูดออกมาได้
เขารับรู้ได้ถึงความสิ้นหวังและความเจ็บปวดของปยุตใน ตอนนี้ เขาคอยติดตามปยุตมาเป็นสิบปีเห็นพัฒนาการของ ความสัมพันธ์ของพวกเขากับตาตัวเอง เขารับรู้ดีถึงความขม ขนของปยุตกว่าใครๆ
ปยุตดื่มแก้วแล้วแก้วเล่า ตอนนี้สำหรับเขาแล้ว ไม่มี อะไรทำให้เขารู้สึกดีได้เท่ากับการดื่ม
ถ้าหากดื่มจนตายไปเลยได้ยิ่งดี
“ดีขึ้นรึยัง เลิกดื่มเถอะ”
ชนัยดึงแก้วของเขาไว้ เขาทนไม่ได้ที่เห็นปยุตเมา เละเทะแบบนี้
“ผมอยู่กับธารีมาสองปี ผมเหมือนไอ้งั่งไม่รู้ว่าเธอมีชู้ ใน ที่สุดแม้แต่พี่ชายที่ผมรักก็ยังปิดบังผม หัวใจผมไม่ได้เศร้า แต่ผมก็ไม่ได้ชอบมัน ดังนั้นคุณต้องผ่านมันไปให้ได้ ความ รักเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เพื่อความ รักเสมอไป เราต้องมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง”
“พูดเหมือนกันเลย
“ว่าไงนะ”
“เมื่อวานก่อนเธอจะไป เธอก็พูดทํานองนี้ คนเราเกิดมา ครั้งเดียว ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง”
ปยุตจ้องไวน์สีแดงเลือดในมือของเขา เขาเขย่าและ เขย่า เขย่าจนตาเริ่มเบลอขึ้นเรื่อยๆ เขาสับสนและไม่รู้ว่าตัว เขาเองอยู่ที่ไหน
“ในความเป็นจริงภรรยาคุณก็ถูกบังคับให้ต้องจากไป จันทรหาเรื่องใหญ่โต ถ้าเป็นผู้หญิงคงจะทนรับไม่ได้ คุณ ทนไม่ได้ เธอ เดินจากไปไม่ยอมอยู่ข้างกายคุณ แต่ถ้า วันหนึ่งเธอเกิดทนไม่ไหวขึ้นมาแล้วเสียสติเป็นบ้าไป ถ้า เป็นอย่างนั้นคุณคงจะเจ็บปวด มากกว่านี้ การที่เธอจากไป อย่างนี้ อย่างน้อยเธอก็ได้มีหนทางได้ใช้ชีวิต ได้มีเวลาคิด ทบทวน ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไม่ควรจะมา เสียใจอยู่อย่างนี้”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ