ตอนที่ 176 ชีวิตที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่ (4)
ใบหน้าของผลินซีดขาว แม้จะถูกเคลือบด้วยสีแดงแต่ก็ ไม่สามารถซ่อนความซีดเผือดเอาไว้ได้
“ได้ยินมาว่าคุณต้องทานยาตลอด น่าเสียดายนะ ทาน ยาด้วยกันแต่บางคนอะกลับไม่ได้ผลสักที……”
จันทรใช้ภาษาเสียดสีใจ ของผลิน เลือดค่อยๆไหล ออกจากหัวใจของผลิน แต่เธอกลับตอบโต้ได้อย่างใจเย็น “คนเราต้องเผชิญหน้า คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ท่าทางคุณเหมือน กับอะไร เหมือนกันโสเภณีที่เพิ่งจะนอนกับผู้ชายเสร็จ แล้วก็ ภาคภูมิใจเหลือเกินที่ได้แสดงลวดลายความถนัดของตน!”
ราวกับเสียงฟ้าผ่า จันทรสาดไวน์แดงครึ่งแก้วที่อยู่ใน มือไปที่ใบหน้าผลินและยิ้มเยาะ “คุณบอกว่าควรมีความ ทะเยอทะยานอย่างนั้นไม่ใช่ ฉันไม่ได้แสดงลวดลายของ ฉันหรอก แต่ฉันแสดงให้เห็นว่าฉันมีความทะเยอทะยานต่าง หาก คุณควรได้รู้ไว้ ว่าความทะเยอทะยานที่แท้จริงมันเป็น อย่างไร”
ผลินโกรธ ที่ศักดิ์ศรีของตนเองถูกผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เหยียบย่า เธอรีบเดินตรงไปที่เบื้องหน้าของจันทร วางมือ ลงบนคอของเธอ แล้วส่งเสียงคำรามอย่างคนเสียสติ “ฉัน จะบีบคอแกให้ตาย!”
“บีบเลย ฉันจะบอกแกให้นะ ฉันอาจจะท้องเด็กผู้ชายอยู่ ก็ได้ ถ้าแกฆ่าฉันก็เท่ากับแกฆ่าทายาทของตระกูลทรัพยสาน พ่อแม่สามีของแกคงไม่ให้อภัยแกแน่ ปยุตก็ยิ่งไม่มีวัน ให้อภัยแก! เพราะว่าแกกำลังจะฆ่าลูกของเขา!
น้ำตาไหลออกจากสองตาของผลิน เธอค่อยๆคลายมือ ที่คอของจันทรออก เธอเดินอย่างร่างที่ไร้วิญญาณไปที่ หน้าประตู เธอต้องการที่จะยืนหยัดให้ถึงที่สุด แต่ว่าตอนนี้ เหมือนจะยืนหยัดอยู่ไม่ไหวแล้ว
เสียใจ เสียใจจนอยากจะตายไปเสีย
“หยุดก่อน!”
จันทรก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดเธอ “แค่นี้ก็ จะไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นเมื่อสักครู่ก็เท่ากับว่าฉันยอมให้คุณ รังแกฟรีๆน่ะสิ”
เจี๊ยะ –
จันทรตบไปที่ใบหน้าของผลินอย่างแรง ผลินค่อยๆเงย หน้าขึ้นช้าๆ มองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าอย่างเยือกเย็น ไม่มี การตอบโต้ใดๆ และเดินจากไปอย่างเงียบสงบ
ร่างกายของเธอว่างเปล่า แทบไม่มีแรง มีเพียงเรี่ยวแรง เฮือกสุดท้ายที่พอจะช่วยเธอพาตัวเองเดินออกจากประตูตึก สโมสร ถ้าหากเราใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายที่เหลือนี้ในการเอาคืน การถูกตบที่อัปยศเมื่อสักครู่นั้น เธอจะเอาพละกำลังที่ไหน เดินออกจากสถานที่แห่งนี้
ใจ เจ็บปวดเหลือเกิน ใจ เหนื่อยล้าเหลือเกิน เหนื่อยกว่า ทุกๆครั้งที่ผ่านมา
“อย่าหน้าด้านอยู่ข้างปยุตอีกต่อไป ถ้าเธอไม่อยากให้ ลูกที่กำลังจะเกิดมาของฉันเป็นลูกไม่มีพ่อ! ”
จันทรตะโกนเสียงดังไล่หลังมาตามเงาที่อ่อนแอของ เธอ
ผลินไม่รู้ตัวว่าตัวเองกลับบ้านมาได้อย่างไร ราวกับ ว่าเธอเดินมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ที่ออกมาจากสโมสร พระอาทิตย์ยังส่องอยู่ที่ศีรษะของเธอแต่ขณะที่กลับถึงบ้าน นั้น ท้องฟ้าก็ดำมืดเสียแล้ว
เธอขึ้นชั้นบนไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ปยุตยังไม่กลับมา เธอนั่งลงบนโซฟา น้ำตาไหลลงเหมือนลูกปัดที่หลุดออก จากสร้อย หยดลงทีละเม็ดทีละเม็ด
ตึงตึง..
เสียงแม่สามีดังมาจากด้านนอก “ผลิน อยู่รึเปล่าลูก
เธอรีบเช็ดคราบน้ำตาอย่างรวดเร็วและเดินไปเปิดประตู “แม่ มีอะไรรึเปล่าคะ…
หญิงชราดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างอยู่ในมือ ซ่อนอยู่ ทางด้านหลัง พยักหน้าพร้อมแววตาเป็นประกาย “อืม แม่มี เรื่องบางอย่างที่อยากจะปรึกษาเธอหน่อย
“เข้ามาสิคะ”
เธอปิดประตูและถามแม่สามี “มีเรื่องอะไรคะ”
หญิงชราอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง พูดอย่างรู้สึกผิด “เรื่องเกี่ยว กับจันทร
ผลินรู้สึกหัวแทบจะระเบิด คราวนี้ ได้ยินชื่อผู้หญิงคนนี้ ราวกับฆ่าเธอทั้งเป็น
“เด็กในท้องของจันทรเป็นเด็กผู้ชาย เธอก็รู้ ว่าเด็กคน นั้นสำคัญกับบ้านเรามาก ถึงแม้ว่า พวกเราจะไม่ชอบเธอ เลยแม้สักนิด ฉันรู้ว่าพูดกับเธออย่างนี้ก็อาจจะฟังดูเกิน ไปหน่อย แต่ว่าฉันอยากจะขอร้องเธอ ช่วยหย่ากับปยุต เป็นการชั่วคราวจะได้ไหม แค่เพียงหนึ่งปี หลังจากที่จันทร ให้กำเนิดเด็กคนนั้นแล้ว ฉันจะหาทางให้พวกเธอกลับมา แต่งงานกันใหม่…
ผลินเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ เธอไม่ อยากจะเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากแม่สามีที่เธอ เคารพรัก
“ผลิน แม่ขอโทษ นี่เป็นทางเลือกสุดท้าย แม่จะไม่ให้ เธอต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานเช่นนี้อีก แม่สัญญา จาก นี้อีกหนึ่งปีเธอต้องได้กลับมาอยู่ข้างกายปยุตอีกครั้ง และจะ ไม่มีอะไรมาพรากพวกเธอจากกันได้อีก!”
หญิงชรานำสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านหลังขึ้นมา “นี่คือหนังสือสัญญาหย่าร้าง แม่หวังว่าเธอจะสามารถโน้มน้าวให้ปยุต ยอมเซ็นต์ได้ แม่กับพ่อไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากให้พวก เธอหย่ากัน ช่วยแม่ด้วยนะ ถือว่าแม่ขอร้องเธอได้ไหม
แววตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงค่อยๆกลายเปลี่ยนไป เป็นความเย็นชา เธอไม่แยแสหญิงชราที่อยู่ตรงเบื้องหน้า อีกต่อไป ในที่สุดเธอก็ได้เห็นชัดถึงความเป็นจริงอันโหด ร้าย
“ในสายตาของพวกคุณ การมีทายาทสืบสกุลเป็นสิ่งที่ จําเป็นมากอย่างนั้นใช่ไหมคะ”
หญิงชราหลั่งน้ำตา “แม่รู้ว่าตอนนี้ในใจเธอทุกข์ทรมาน แต่แม่อยากให้เธอเข้าใจด้วยว่าพวกเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แม่กับพ่อก็ แก่แล้ว ไม่รู้จะจากโลกนี้ไปวันไหน ถ้าหากว่า ก่อนตายยังไม่ได้อุ้มหลานเลยสักครั้ง พอตายแล้วเราจะ มีหน้าไปพบกับบรรพบุรุษ ตระกูลทรัพยสานได้อย่างไร ธุรกิจของครอบครัวที่ใหญ่โตอย่างทุกวันนี้ คุณปู่ของปยุต ท่านได้ลำบากตรากตรำนานนับปีเพื่อ สร้างรากฐานเอาไว้ แต่กลับไม่มีผู้สืบทอดในภายหลัง….”
ผลินสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดทั้งน้ำตา “เอาล่ะค่ะ หนู จะลองคิดทบทวนดู
“รับปากแม่ตอนนี้เลยไม่ได้หรอ เพราะว่า….” หญิงชรา ร้องไห้จนฟังไม่ได้ความ “เมื่อบ่ายจันทรโทรศัพท์มา เธอ บอกว่าถ้าพรุ่งนี้เธอและปยุตยังไม่หย่าขาดจากกัน เธอจะไป ทําแท้ง…”
เหอะ ผลินหัวเราะเหยียดหยัน แต่เธอก็ยังไม่สามารถ หยุดน้ำตาที่ไหลเอ่อได้ ต้องการผลักเธอให้จนมุมอย่างนี้ หรือ พรุ่งนี้…. อืม…
เสียงร้องครวญ หญิงชราคุกเข่าลงต่อหน้าลูกสะใภ้ สะอึกสะอื้นร้องไห้ “ผลิน แม่ขอโทษ แม่ขอโทษจริงๆ ถ้า หากเธอยอมตอบตกลง แม่และพ่อจะยอมทำทุกสิ่งทุกอย่าง ให้เธอชั่วชีวิต”
แม่อย่าทำอย่างนี้เลย หนูจะคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังค่ะ”
ผลินก้มตัวลงช่วยพยุงแม่สามีเธอลุกขึ้นแต่หญิงชรา กลับพูดอย่างดื้อรั้น “แม่ไม่สามารถลุกขึ้นได้ถ้าหากว่าเธอ ไม่สัญญากับแม่ แม่มีชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปไม่ได้อีก แล้ว…”
หย่า…หนึ่งปี…
ผลินรู้ดีกว่าทุกคน ว่าการหย่าร้างจะเป็นเช่นไรต่อปยุต สายตาของปยุตที่มีต่อเธอเต็มไปด้วยหัวใจที่แตกสลาย ใน หูของเธอเต็มไปด้วยคำพูดยืนกรานขอร้องของปยุต ดวงตา ของเธอแทบจะหลั่งออกมาเป็นเลือด
“ผลิน ของร้องเธอล่ะ… แม่ขอร้องเธอ…
แม่สามียังคงร้องไห้และขอร้องเธอ เธอเป็นเหมือน ใบไม้ที่ใกล้จะร่วงโรย ถูกโยกให้สั่นสะเทือนจากซ้ายไปขวา หัว ถูกขุดขึ้นมาไว้ในที่ซึ่งว่างเปล่า “เอาล่ะ หนูตกลงค่ะ หนูให้สัญญากับพวกคุณ หนูไม่ต้องการอะไรแล้ว!”
ป้ง เธอล้มลงกับพื้น ร้องไห้ดังออกมาจากหัวใจอันฉีก ขาด เสียงร้องแห่งความโศกเศร้า แม้แต่ดวงจันทร์ที่อยู่นอก หน้าต่างก็ยังต้องหลั่งน้ำตา ในที่สุด หัวใจของเธอหมดหวัง อย่างสิ้นเชิงกับการแต่งงานครั้งนี้
เธอร้องไห้อยู่เป็นเวลานาน จึงตื่นขึ้นจากความเศร้า โศก หยิบปากกาขึ้นมาด้ามหนึ่ง เซ็นต์ชื่อของตัวเองลงบน หนังสือข้อตกลงการหย่า
“คุณและคุณพ่อเป็นคนเห็นแก่ตัวทั้งคู่ หวังว่าการตัดสิน ใจของพวกคุณจะถูกต้องนะคะ”
เธอมองไปที่แม่สามีอย่างเหนื่อยล้า “ออกไปเถอะค่ะ
หนูเหนื่อยแล้ว”
“ขอโทษลูกสะใภ้ ขอโทษ เธอวางใจเถอะ ในอีกหนึ่งปี ฉันจะคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเธอ…
“ไม่ต้องแล้วล่ะ หนูใช้ชีวิตอย่างนี้น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน ถ้าหนูไปแล้ว จะไม่มีวันกลับมาอีก”
แม่สามียังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เธอก็ดัน เธอให้ออกจากประตูห้องไปแล้วปิดประตูห้อง ผลินล้มตัวลง กับพื้นอีกครั้ง น้ำตาพรั่งพรูออกมา
ปยุตทำงานกว่าจะกลับถึงบ้านก็ตีหนึ่งแล้ว เขาพยายามเบาเสียงตอนเข้าไปในห้องกลัวจะทำให้ผลินตื่น แต่เขาก็ ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าผลินยังไม่หลับ และนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา เหมือนกับเป็นรูปปั้น
เขามีลางสังหรณ์ใจไม่ดีจึงรีบเปิดไฟ เมื่อเห็นกระเป๋า เดินทางอยู่ที่ปลายเท้าของผลินจึงรีบถามออกไป “ผลิน คุณ ทำอะไร”
“เราหย่ากันเถอะค่ะ”
ผลินมองไปที่เบื้องหน้าอย่างไร้ชีวิตชีวา ไม่สบตา ใบหน้าซีดเหมือนกระดาษขาว ปยุตตกใจจับไหล่ของผลิน เอาไว้และกล่าว “คุณพูดบ้าอะไรอีกแล้ว!”
“ครั้งนี้เอาจริงค่ะ”
เธอเหยียดมือ นำหนังสือข้อตกลงการหย่ายื่นให้เบื้อง หน้าของเขา “ฉันเซ็นต์ชื่อไว้แล้วค่ะ”
ปยุตตกตะลึงและค่อยๆหันมาให้ความสนใจกับหนังสือ ข้อตกลงการหย่า มือที่จับอยู่บนไหล่ของผลินสั่นขึ้นและ ค่อยๆปล่อยออก “ทำไม เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือว่าจะ เผชิญกับเรื่องนี้ ไปด้วยกัน”
“คนเราเกิดมาเพียงครั้งเดียว ควรจะต้องอยู่เพื่อตัวเอง ฉันไม่ต้องการทำอย่างนี้อีกต่อไป แบบที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ อย่างคับข้องใจ
เธอยืนขึ้น หยิบกระเป๋าสัมภาระที่ปลายเท้าและเดินออก จากประตูไป แต่กลับถูกปยุตกอดรัดเพื่อหยุดเธอไว้จากทาง ด้านหลัง “ไม่นะ ผลิน ฉันขอร้องล่ะ อย่าทิ้งผมไปนะ ผม ขอร้อง คุณให้ผมทำอะไรก็ได้แต่อย่าทิ้งผมไปนะ…..
ลูกผู้ชายอกสามศอก หล่อเหลา สูงใหญ่เจ็ดฟุต เมื่อ เห็นว่าคนรักของเขากำลังจะจากไป ทันใดก็ร้องไห้ออกมา เหมือนเด็กน้อย…
ผลินได้ยินเสียงร้องไห้เสียใจของปยุต หัวใจของเธอ ก็เหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เป็นความเจ็บปวดที่แสนจะ ทรมาน เหมือนคนมีชีวิตอยู่ แต่แล้วก็ถูกฉีกร่างขาดออกเป็น สองท่อน ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีก
เธอใช้ความแข็งแกร่งที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อย พยายาม พูดออกไป “การแต่งงานไม่ได้อาศัยแค่ความรักที่มีต่อกัน ฉันเหนื่อยมากแล้ว คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ”
เธอแกะมือของเขาและเดินจากไป ปยุตร้องคำราม “ถ้า คุณไปก็ไม่ต้องกลับมาอีก!!”
ผลินหยุดนิ่ง เธอหลับตาและหลั่งน้ำตาครั้งสุดท้าย แต่ ไม่ได้หันกลับไป เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและเดินจาก ไป…
เดินออกจากชีวิตเขา เดินออกจากโลกของเขา และเดิน ออกจากโชคชะตาอันมืดมนที่เทพธิดาอลิสสาปเธอเอาไว้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ