เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 4 ผู้ชายใจร้าย



บทที่ 4 ผู้ชายใจร้าย

งานแต่งงานของมาร์วินกับพิมพิชาจัดขึ้นที่บ้าน แม่ ของฉันช่วยงานทั้งวันจนไม่ได้พักแต่ก็ยังถูกคุณหญิง ต่อว่าไม่ต่างจากสุนัขรับใช้

ฉันเจ็บใจ แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

ฉันหลบอยู่ในห้องไม่อยากเห็นภาพงานแต่งของมาร์ วิน แต่คุณหญิงกลับตามพ่อบ้านมาเรียนกฉัน

ฉันเดินออกไป คุณหญิงศิรินดาเมื่อเห็นฉัน ก็ถลึงตา ใส่ “กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา ยังยืนนิ่งอยู่ทำไม ปืน บันไดขึ้นไปแขวนดอกไม้ข้างบนสิ”

ที่บ้านมีคนงานผู้ชายมากมาย แล้วก็มีคนสวนตั้งเยอะ แต่กลับสั่งให้ฉันซึ่งเป็นผู้หญิงปืนขึ้นไปบนนั้น

ฉันไม่อยากทำ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ สิ่งที่น่าปวดใจกว่า นั้นคือแม่ของฉันกลับพูดขึ้น “ญาดาลูกตัวเล็ก ปืนขึ้นไป แขวนดอกไม้น่าจะง่ายกว่า ลูกขึ้นไปเถอะ ถือว่าช่วยงาน แต่งพี่มาร์วิน”

เธอที่ไม่ได้กินข้าวเช้า ทำให้ตอนปีนขึ้นไปแขวน ดอกไม้นั้นรู้สึกเวียนหัว
ด้วยความไม่ระวังทำให้ฉันเหยียบผิดขั้น แล้วลัมลง มา ฉันร้องเสียงหลง

ตรงฟื้นเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ ถ้าตกลงมาดายแบบ นี้ ใช่ว่ามันจะไม่ดี ถือว่าใช้เลือดของฉันเป็นของขวัญงาน แต่งให้มาร์วินแล้วกัน

แต่ฉันกลับไม่ได้ล้มลงบนพื้น ฉันอยู่ในอ้อมกอดของ ผู้ชายคนหนึ่ง

เสียงร้องตะโกนของผู้ชายดังขึ้น

“มาร์วิน เป็นอะไรรึเปล่า ! คีรินร้องตะโกนถามขั้น ด้วยความตกใจ

ฉันพึ่งรู้ตัวว่าคนที่ช่วยฉันไว้คือมาร์วิน เขาคือคน เดียวที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยฉัน

คีรินดึงตัวฉันออกมาจากน้องชาย แล้วผลักฉันลัมลง

กับพื้น

คุณหญิงศิรินดาเมื่อเห็นหลานชายของตนเองบาด เจ็ด ก็รีบวิ่งมาแล้วตบหน้าฉัน “ตัวช่วย ! ”
ฉันจับหน้าของตนเองเอาไว้ กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล

ออกมา

ฉันถูกรังแกถึงขั้นนี้แล้ว แต่แม่กลับขอโทษคุณหญิง ไม่หยุด นี่คือความผิดของฉันหรอ? ฉันไม่ผิด ฉันไม่ได้ ขอร้องให้คุณชายของพวกเขาช่วยฉันเอาไว้สักหน่อย

คีรินแบกมาร์วินกลับไปที่ห้อง

พิมพิชาเองก็เดินตามไปที่ห้องด้วยความเป็นห่วง

ฉันเองก็เป็นห่วงมาร์วินเหมือนกัน หลังจากที่ทุกคน แยกย้าย ฉันก็อยากไปดูอาการเขาเหมือนกัน

แต่ยังเดินไปไม่ถึงห้องของมาร์วิน ฉันก็ถูกใครบาง คนกระชากแขน แล้วลากฉันไปอีกห้องหนึ่ง

ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือคีริน แต่สิ่งที่ทำให้ฉันแปลกใจ คือเขาไม่รังเกียจฉันหรือไง ถึงได้จับแขนของฉันเอาไว้

“ญาดา คุณไม่รู้หรือไงว่าตัวเองเป็นใคร ถ้ายังกล้า คิดอะไรกับมาร์วินอีก อย่าหาว่าผมไม่เตือน !
ฉันตกใจ นี่เขารู้ได้ยังไง

“ญาดา มนุษย์เราแบ่งเป็นหลายชนชั้น ถ้าคุณลอง ตักน้ำชะโงกดูเงาของตัวเอง ก็จะรู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรกับ เขา!”

คำพูดของคีรินนั้นหยาบคายมาก ตลอดสิบปีมานี้ถึง แม้ว่าเขาจะไม่เคยพูดอะไรกับฉัน แต่ฉันรู้ดีว่า ถ้าจะมีอะไร ที่ทำให้เขาพูดกับฉันได้ แน่นอนว่าต้องเป็นการดูถูกและ ไม่มีวันเป็นเรื่องที่ดี

เขาดีกับทุกคน ยกเว้นฉัน

ตอนที่ฉันห้าขวบ ฉันย้ายเข้ามาในบ้านหลังนี้ เขาหา ว่าแม่ของฉันเป็นผู้หญิงไม่ดี และด่าทอว่าฉันสกปรก

ตอนฉันอายุสิบสองปี ในวันเกิดอายุครบยี่สิบปีของ

เขา แม่ของฉันตั้งใจทำเค้กมาให้ แต่เขากลับโยนลงพื้น แล้วพูดว่า “พอเอาใจพ่อฉันได้แล้ว ก็อยากเอาใจฉันใช่ ไหม เธอมันก็แค่แม่บ้านของครอบตัว อย่าคิดหวังว่าจะได้ เป็นคุณนายบ้านหลังนี้ เข้าใจไหม?”

เขาดูถูกแม่ของฉันต่อหน้าคนมากมาย ฉันที่เป็นเด็กอายุแค่สิบสองปีแต่ไม่เคยกลัวอะไร จึงหยิบกรรไกรแล้ว พุ่งไปที่ตัวเขา เด็กตัวเล็กๆอย่างฉันในตอนนั้น ผลักเขา ล้มลง แล้วพยายามจะฆ่าเขาให้ตาย

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกผู้ใหญ่ห้ามเอาไว้ได้ทัน ฉันคงจะ กลายเป็นฆาตกรที่ฆ่าเขาไปแล้ว แต่ถึงแม้จะแทงไม่โดน คอของเขา ฉันก็แทงโดนหัวคิ้ว ทำให้จนถึงทุกวันนี้ตรง หัวคิ้วของเขายังมีรอยแผลเป็น เป็นแผลที่ลึกมาก

นั่นคือความผิดที่ฉันทำ และแน่นอนฉันต้องได้รับ ผลของการกระทำนั้น ฉันถูกจับไปคุมประพฤติในสถาน พินิจครึ่งเดือน แม่ของฉันต้องคุกเข่าขอร้องคุณลุงสุชาติ ทำให้เขาใจอ่อนแล้วปล่อยฉันออกมา

สิ่งที่ฉันทำในวันนั้น ทำให้เขาเกือบจะตาบอด จึงเป็น

เหตุผลที่เขาเกลียดฉัน

“พูดจบรึยังคะ?” ฉันถามเสียงเรียบ

อาจจะเพราะเสียงที่เย็นชาของฉัน ทำให้เขาไม่กล้า

พูดอะไรมาก

“ไสหัวออกไป” เขาขมวดคิ้วแล้วไล่ฉัน
“เดี๋ยวก่อน ! ”

แต่อยู่ๆก็สั่งให้ฉันหยุด

ฉันไม่ได้สนใจ แล้วเดินต่อไป

ด้วยความโมโหทำให้เขาพยายามจะกระชากฉันกลับ มา แต่แรงกระชากของเขาทำให้เสื้อของฉันขาด เผยให้ เห็นเสื้อในสีชมพูอ่อน

ฉันโมโหมาก ฉันอดทนกับเขามาไม่ใช่แค่วันสองวัน

แต่หลายปีแล้ว

ฉันง้างมือขึ้นอยากจะตบหน้าเขา ผู้ชายคนนี้คือคนที่

ฉันอยากจะตบแรงๆสักที

คีรินเรียนศิลปะป้องกันตัวตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาคว้ามือ ของฉันเอาไว้ แล้วผลักฉันล้มลงกับพื้น

ฉันเกลียดตัวเองที่สู้เขาไม่ได้อยากจะลุกขึ้นสู้กับคน

ตัวใหญ่ตรงหน้า

แต่เสื้อผ้าที่ขาดสั้น เผยให้เห็นเสื้อในที่ใส่อยู่

คีรินจ้องมาที่หน้าอกของฉัน
“ให้ตายสิ ไอ้โรคจิต ! ”

ฉันรีบเอามือขึ้นมาป้องหน้าอกตัวเอง

คีรินย่อตัวลงนั่ง แล้วกระชากแขนของฉันออก จาก นั้นก็กระชากเสื้อในของฉันแล้วจ้องมาที่หน้าอก

ยิ่งไปกว่านั้นคือ เขากลับใช้มือหนาของตนเองมาจับ

ที่หน้าอกของฉัน

ฉันสบถคำด่าออกมา “คุณคีรินปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไอ้ คนโรคจิต”

คีรินมองหน้าฉัน แล้วรีบถอยหลังหนี เหมือนพึ่ง

ได้สติ

ฉันใส่เสื้อของตนเองที่ขาดสั้น

ผู้ชายที่ฉันรักกำลังแต่งงาน แต่เจ้าสาวของเขาไม่ใช่

ฉัน แค่นี้ก็เสียใจมากพอแล้ว

นี่ฉันยังต้องถูกผู้ชายอย่างคีริณลวนลามอีก

ฉันอยู่บ้านหลังนี้ตั้งแต่อายห้าขวบ ตั้งแต่หัวขวบถึงสิบสองขวบ ฉันอยู่บ้านหลังนี้กับคีริน

เจ็ดปีที่ผ่านมา ฉันถูกเขารังแกสารพัด เขาเหมือนคน โรคจิต เหมือนคนบ้า วางยาลงในน้ำดื่มของฉัน ทำให้ฉัน แทบจะสำลักน้ำตาย แล้วยังเอางูพิษมาไว้บนเตียง จนฉัน เกือบจะถูกงูกัด

และนับตั้งแต่วันที่ฉันเอากรรไกรแทงเขาเกือบตาย ฉันก็ต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าวันหนึ่งเขาจะ มาแก้แค้น โชคดีที่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นเขาก็บินไปเรียน ต่อต่างประเทศ แต่ก่อนไปเขาก็ไม่ลืมจ้างพวกอันธพาลมา ทำร้ายฉัน โชคดีที่มาร์วินมาทันเวลา ไม่อย่างนั้นฉันคงถูก พวกอันธพาลข่มขืนแล้วแน่ๆ เขาทำร้ายฉันสารพัด จนฉัน เองก็สงสัยเหมือนกันว่าตนเองมีชีวิตรอดจนถึงทุกวันนี้ได้ ยังไง

ฉันลุกขึ้นยืน “คุณคีริน คุณบอกว่าฉันชั้นต่ำและ สกปรกไม่ใช่หรอ? แล้วคุณมาแตะต้องผู้หญิงสกปรกๆ อย่างฉันทำไม คุณมันต่ำตมยิ่งกว่าฉันอีก !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ