ตอนบ่ายสาม คีรินถามเธอว่าจะไปที่ไปดู บอลด้วยกันไหม

เขาถามเธอแบบนี้ แน่นอนว่าเธอต้องไปกับ เขา ถ้ามีแต่เวลาอยู่ด้วยกันกับเขามากขึ้น ก็ยิ่ง ทําให้เขาตกหลุมรักตัวเองมากขึ้น

คีรินขับรถพาเธอออกมา เขาไม่ได้เรียก คนขับและบอร์ดี้การ์ดตามไปเลย พวกเขาไป กันสองคน ขับรถจากลอนดอลไปแมนเชสเตอร์ ไม่ถึงสามชั่วโมง จากนั้นก็กินข้าวแถวๆสนาม ฟุตบอล จากนั้นก็ซื้อตั๋วเข้าไปดูบอล พอพวก เขาไปถึงก็เริ่มการแข่งขันแล้ว

พอเธอเห็นผู้ชายที่อยู่รอบๆก็มีแค่ฝรั่งตัว ใหญ่ เธอก็แอบกลัวเบาๆ เพราะว่าสีหน้าตอนดู บอลของพวกเขานั้นร้ายกาจมากๆ

เหมือนคีรินจะรู้ว่าเธอเริ่มกลัวและตื่นเต้น เลยหันมาถามเธอ “คุณเป็นอะไร?”

เธอเข้าไปใกล้เขาแล้วกระซิบข้างหู เขา “คณไม่รู้หรออะไรที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษ?”

คีรินถามอย่างสงสัย “อะไรหรอ?”

เธอเลยพูดขึ้น “พวกนักเลงดูบอล ดู ใบหน้าอันโหดเหี้ยมของแต่ละคนสิ ถ้าถึงเวลา ฝ่ายไหนชนะฝ่ายไหนแพ้ก็จะตีกันเอง คุณดูสิ พวกเขาใส่เสื้อที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เห็นอย่าง ชัดเจนเลยว่าพวกเขาแยกเป็นสองฝ่าย ถ้าสอง ฝ่ายตีกันขึ้นมา เราที่นั่งอยู่ตรงกลางก็ซวยละ

คีรินได้ยินคำตอบของเธอ เขาเลยเงยหน้า ขึ้นมามองไปซ้ายขวา “คุณก็รู้เรื่องฟุตบอลหน ยังดูออกมาว่ามีเสื้อฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ซิตี้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด”

พอพูดถึงเรื่องฟุตบอล เธอกับเขาก็ถือว่ามี ความชอบที่เหมือนกัน จะได้มีเรื่องที่คุยกับเขา

ญาดาเลยพูดขึ้น “แต่ก่อนพรีเมียร์ลีกเป็น นักฟุตบอลที่เก่งกาจที่สุดไม่ใช่หรอ? แต่ว่าไม่กี่ปีมานี่พรีเมียร์ลีกค่อยๆถดถอยลง กลับเป็นลา กาลีกดังกว่า อาจจะเป็นเพราะมีตัวเต็งอย่างคริ สเตียโน โรนัลโดกับลีโอเนล เมสซิ! ”

ถ้าคุยเกี่ยวกับเรื่องบอล เธอกับคีรินก็ คงจะมีเรื่องคุยเยอะ เพราะว่าเธอก็ชอบดูข่าว เกี่ยวกับฟุตบอลอยู่แล้ว แค่เธอฟังข่าวครั้งเดียว เธอก็สามารถจดจําเนื้อหาทั้งหมดได้ และยัง สามารถจดจําได้นานมากด้วย

คีรินรู้สึกมองเธอด้วยความแปลกใจ เขา คงจะนึกไม่ถึงว่าผู้หญิงอย่างเธอจะรู้เรื่อง เกี่ยวกับฟุตบอลขนาดนี้ เขานึกว่าเธอแค่ชอบ ฟุตบอล แต่ไม่รู้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ขนาดนี้

ตอนนี้การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เรา ต่างก็อยู่ในความสงบ และมองไปสนามฟุตบอล ที่เต็มไปด้วยนักฟุตบอลที่กำลังเดินเข้าสนาม

การแข่งขัน 45 นาทีแรก แมนเชสเตอร์ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีแต้มที่เสมอกัน ผู้ ชมทุกคนต่างก็มียังรู้สึกนิ่งเฉย เพราะยังไม่มีใครน่าใคร

แต่ 45 นาทีหลัง โดยที่เพิ่งริ่มไปแค่ห้านาที ทีแมนเชสเตอร์ซิตี้เตะเข้าประตูก่อน และไม่ถึง ห้านาทีต่อมา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็เตะประตู หนึ่งลูก พอผ่านไปอีกห้านาที แมนเชสเตอร์ซิตี้ ก็เตะเข้าไปอีกลูก และจากนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ตามมาอีกลูก จริงๆการแข่งขันของ พรีเมียร์ลีกก็มักจะเป็นแบบนี้ ผู้ชมทุกคนก็มัก จะเดาไม่เดาว่าผลสุดท้ายแล้วใครจะเป็นฝ่าย ชนะ เพราะว่าไม่สามารถแข่งแยกได้จริงๆว่า ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายที่แกร่งกว่า หรือฝ่ายไหนจะ ด้อยกว่า คะแนนมักจะสูสีกันแบบนี้

ดังนั้น มักจะมีคนบอกว่าดูบอลของพรีเมียร์ ลึกมักจะเป็นอะไรที่มันตื่นเต้นที่สุด เพราะเป็น สิ่งที่เดายากมากว่าสุดท้ายแล้วผลจะออกมา เป็นยังไง มันมักจะพลิกผันไปตามกาลเวลาที่ ผ่านไป

ดังนั้นเธอเลยคิดว่าเธอเองก็ไม่มีทางต้อง แพ้ให้คีรินเสมอไป และเธอก็ไม่ได้คิดว่าคีรินจะเป็นผู้ที่เก่งกาจกว่าเสมอไป และไม่เชื่อว่าเธอจะ ล้มเขาไม่ได้

ระหว่างเธอกับคีรินก็เหมือนพรีเมียร์ลีกที่ ยากที่จะคาดเดาว่าผลสุดท้ายมันเป็นอย่างไร ถ้าไม่ถึงตอนสุดท้าย ก็ไม่รู้ว่าใครจะตายด้วย น้ำมือของใคร

พอตอนเวลาที่เหลือเพียงแค่สามนาที สุดท้าย แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายนํา และ คิดว่าตัวเองต้องเป็นฝ่ายชนะ แต่ใครจะไป นึกถึง สุดท้ายแมนเชสเตอร์ซิตี้เตะเข้าประตูอีก ลูกตอนสามสิบวินาทีสุดท้าย ทั้งสนามฟุตบอล ต่างก็ส่งเสียงตะโกนโห่ร้องกันอย่างตื่นเต้น

สุดท้ายผู้ชนะที่แท้จริงก็คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และสิ่งที่นึกไม่ถึงก็คือทีมนี้สามารถเตะเข้า ตอนสามสิบวินาทีสุดท้าย แฟนๆของแมนเชส เตอร์ยูไนเต็ดรู้สึกไม่พอใจ และรู้สึกกรรมการ ได้โกงเวลาและทำให้เวลายืดยาวขึ้น ใน ประเทศอังกฤษ ท่าไมถึงต้องมีนักเลงดูบอล จริงๆสิ่งที่มันมากกว่าการดูแลก็คือมีคนเล่นพนันบอลเยอะเกินไป

จากนั้นก็จบการแข่งขัน เธอกับคีรินกำลัง จะออกจากสนามแข่งบอล เวลานี้จู่ๆก็มีเสียงปืน ดังลั่นขึ้น ในประเทศแถบยุโรป มักจะมีคนที่พก ปืนไปไหนมาไหน แต่พอพูดถึงว่ามีคนพกปืน มายังสนามฟุตบอล มันก็คงจะเรื่องที่เหมือนจะ เป็นไปไม่ได้

ในสนามแข่งขันฟุตบอล อย่าว่าแต่พกปืน เข้ามาเลย แม้แต่พกขวดน้ำเข้ามายังไม่ได้

พอเสียงปืนดังลั่นขึ้น ในสถานการณ์ตอน นี้ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เหมือนสถานการณ์ ตอนนี้จะไม่มีใครควบคุมได้อีก คีรินจึงกอดญา ดาไว้แน่นๆ และกำลังจะวิ่งออกมาข้างนอก ไม่มี ใครรู้ว่าจะมีเสียงปืนดังขึ้นอีกไหม แล้วใครจะ โดนกระสุนที่ยิงออกมาไหม

เธอตกใจจนตัวสั่นเทาภายในอ้อมกอดของ เขา สถานการณ์แบบนี้เธอยังไม่เคยได้พบเจ อจริงๆ แต่ว่าไหวพริบของคีริน ทำให้เธอรู้ว่าเขามักจะเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นเขาเลยดู มีสติและดูนิ่งเฉยแบบนี้